เมื่อมีการรับสมัครงาน
สิ่งที่จะประกาศคือ ความสามารถที่ต้องการ
เมื่อมีการสมัครงาน
สิ่งที่จะต้องระบุไปในใบสมัครคือ ความสามารถที่เรามี
แต่อาจมีการตรวจสอบ ประวัติ ในบางครั้ง
จะมีก็แต่ ปปช ที่ระบุเรื่องซื่อสัตย์สุจริตย์เป็นหลัก
โดยไม่มีระบุทางด้านความสามารถที่ต้องการ ตามนี้
ผู้ที่มีสิทธิสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
คุณสมบัติ
(๑) เป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
(๒) มีความรู้ความสามารถและมีผลงานเป็นที่ยอมรับในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
(๓) มีสัญชาติไทย
(๔) มีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบห้าปีบริบูรณ์ และยังไม่ครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
(๕) รับหรือเคยรับราชการในระดับไม่ต่ำกว่าผู้อำนวยการกองหรือเทียบเท่า หรือเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และประสบการณ์หรือมีผลงานเป็นที่ยอมรับในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือเป็นผู้ซึ่งองค์การพัฒนาเอกชนหรือองค์กรวิชาชีพที่มีกฎหมายรับรองและปฏิบัติงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบปีโดยองค์การพัฒนาเอกชนหรือองค์กรวิชาชีพให้การรับรอง
ไม่มีลักษณะต้องห้าม
(๑) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
(๒) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
(๓) ติดยาเสพติดให้โทษ
(๔) เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
(๕) ต้องคำพิพากษาให้จำคุก แม้ว่าคดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุดหรือมีการรอการลงโทษหรือเคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท
(๖) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ
(๗) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
(๘) เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งไม่ว่าด้วยเหตุใด
การทำงานจากผลที่ได้จากการกำหนดแต่เรื่องไม่โกงเป็นหลัก ก็เห็นกันอยู่แล้ว
แม้แต่ รปภ. ยังไม่ข้อกำหนดเรื่องสื่อสัตย์สุจริตเลย
คุณสมบัติพนักงานรักษาความปลอดภัย
1. ชายไทยอายุตั้งแต่ 20 – 45 ปี
2. ความสูง 165 ซม. หรือมีความเหมาะสม
3. มีความรับผิดชอบปฏิบัติตามระเบียบวินัยของบริษัท ฯ
4. เคยผ่านงานที่เกี่ยวข้อง มีประสบการณ์ หรือผ่านการฝึกเป็นทหารมาก่อน
http://www.tactguard.com/index.php/policy/personelrecruitment
แล้วการเลือกคนที่จะเข้ามาบริหารประเทศ
เราตกอยู่ในวังวนของการ ทุจริต มาตลอด 80 ปีของประชาธิปไตยที่ล้มลุกคลุกคลานมาตลอด
แม้แต่ การอภิปราย ไม่ไว้วางใจ ก็มีแต่เรื่องทุจริต ประพฤติมิชอบ
มีสักกี่ครั้งที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ มุ่งเป้าในเรื่องความผิดพลาดในการบริหารงานมากกว่า
ประชาชนทั้งหลาย ต้องกำหนดบทบาทของ ผู้บริหารประเทศเสียใหม่
ผู้บริหารประเทศต้องถูกเลือกโดยประชาชน เพื่อมารับใช้ประเทศชาติและประชาชน
ไม่ใช่ก่อนเลือกประชาชนเป็นนาย หลังเลือกดันมาเป็นนายประชาชน
สส.ต้องเป็นตัวแทนประชาชนรับใช้ประชาชน
ไม่ใช่มีอภิสิทธิเหนือประชาชน และเสพติดอำนาจ จนทนไม่ได้ เมื่อตัวเองมีอำนาจเหนือประชาชนน้อยลง
ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงแล้ว
แต่ไม่ใช่ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
แต่ประชาชนต้องปฏิรูปตัวเอง เลือก สส.โดยพิจารณาที่ความสามารถ และ ต้องมาเป็นข้ารับใช้ประชาชน ไม่ใช่มานำประชาชน เพื่อให้ตัวเองได้อำนาจตามที่ต้องการ
คุณสมบัติของ ผู้สมัคร สส. ถูกกำหนด ในรัฐธรรมนูญปี 40 ให้มีวุฒิการศึกษาขั้นต่ำ ปริญญาตรี
แต่
หลังรัฐประหารปี 2549
รัฐธรรมนูญปี50 ถูกแอบตัด ข้อกำหนดนี้ไป เพื่ออะไร
และเราก็ได้เห็นแล้วว่า
ผู้สมัคร สส. จำนวนมาก มีการศึกษาที่ ป.4
แล้วผู้สมัครเหล่านี้หรือ จะเข้าไปทำหน้าที่ ร่างกฏหมาย พิจารณากฏหมาย บริหารประเทศ พิจารณางบประมาณ
แล้วเราจะยังยอมให้ มีใครมารวบอำนาจไป โดยที่เรายังไม่รู้ว่าเขาจะส่งใครมาให้เป็นนายเรา แล้วจะไปแก้อะไรเพื่อประโยชน์พวกพ้องตัวเองอีกหรือ
รับสมัครงานเลือกจากความสามารถ เลือกคนมาบริหารประเทศเลือกจากโกงน้อยสุด ถูกต้องแล้วหรือ
สิ่งที่จะประกาศคือ ความสามารถที่ต้องการ
เมื่อมีการสมัครงาน
สิ่งที่จะต้องระบุไปในใบสมัครคือ ความสามารถที่เรามี
แต่อาจมีการตรวจสอบ ประวัติ ในบางครั้ง
จะมีก็แต่ ปปช ที่ระบุเรื่องซื่อสัตย์สุจริตย์เป็นหลัก
โดยไม่มีระบุทางด้านความสามารถที่ต้องการ ตามนี้
ผู้ที่มีสิทธิสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
คุณสมบัติ
(๑) เป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
(๒) มีความรู้ความสามารถและมีผลงานเป็นที่ยอมรับในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
(๓) มีสัญชาติไทย
(๔) มีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบห้าปีบริบูรณ์ และยังไม่ครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
(๕) รับหรือเคยรับราชการในระดับไม่ต่ำกว่าผู้อำนวยการกองหรือเทียบเท่า หรือเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และประสบการณ์หรือมีผลงานเป็นที่ยอมรับในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือเป็นผู้ซึ่งองค์การพัฒนาเอกชนหรือองค์กรวิชาชีพที่มีกฎหมายรับรองและปฏิบัติงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบปีโดยองค์การพัฒนาเอกชนหรือองค์กรวิชาชีพให้การรับรอง
ไม่มีลักษณะต้องห้าม
(๑) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
(๒) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
(๓) ติดยาเสพติดให้โทษ
(๔) เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
(๕) ต้องคำพิพากษาให้จำคุก แม้ว่าคดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุดหรือมีการรอการลงโทษหรือเคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท
(๖) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ
(๗) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
(๘) เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งไม่ว่าด้วยเหตุใด
การทำงานจากผลที่ได้จากการกำหนดแต่เรื่องไม่โกงเป็นหลัก ก็เห็นกันอยู่แล้ว
แม้แต่ รปภ. ยังไม่ข้อกำหนดเรื่องสื่อสัตย์สุจริตเลย
คุณสมบัติพนักงานรักษาความปลอดภัย
1. ชายไทยอายุตั้งแต่ 20 – 45 ปี
2. ความสูง 165 ซม. หรือมีความเหมาะสม
3. มีความรับผิดชอบปฏิบัติตามระเบียบวินัยของบริษัท ฯ
4. เคยผ่านงานที่เกี่ยวข้อง มีประสบการณ์ หรือผ่านการฝึกเป็นทหารมาก่อน
http://www.tactguard.com/index.php/policy/personelrecruitment
แล้วการเลือกคนที่จะเข้ามาบริหารประเทศ
เราตกอยู่ในวังวนของการ ทุจริต มาตลอด 80 ปีของประชาธิปไตยที่ล้มลุกคลุกคลานมาตลอด
แม้แต่ การอภิปราย ไม่ไว้วางใจ ก็มีแต่เรื่องทุจริต ประพฤติมิชอบ
มีสักกี่ครั้งที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ มุ่งเป้าในเรื่องความผิดพลาดในการบริหารงานมากกว่า
ประชาชนทั้งหลาย ต้องกำหนดบทบาทของ ผู้บริหารประเทศเสียใหม่
ผู้บริหารประเทศต้องถูกเลือกโดยประชาชน เพื่อมารับใช้ประเทศชาติและประชาชน
ไม่ใช่ก่อนเลือกประชาชนเป็นนาย หลังเลือกดันมาเป็นนายประชาชน
สส.ต้องเป็นตัวแทนประชาชนรับใช้ประชาชน
ไม่ใช่มีอภิสิทธิเหนือประชาชน และเสพติดอำนาจ จนทนไม่ได้ เมื่อตัวเองมีอำนาจเหนือประชาชนน้อยลง
ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงแล้ว
แต่ไม่ใช่ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
แต่ประชาชนต้องปฏิรูปตัวเอง เลือก สส.โดยพิจารณาที่ความสามารถ และ ต้องมาเป็นข้ารับใช้ประชาชน ไม่ใช่มานำประชาชน เพื่อให้ตัวเองได้อำนาจตามที่ต้องการ
คุณสมบัติของ ผู้สมัคร สส. ถูกกำหนด ในรัฐธรรมนูญปี 40 ให้มีวุฒิการศึกษาขั้นต่ำ ปริญญาตรี
แต่
หลังรัฐประหารปี 2549
รัฐธรรมนูญปี50 ถูกแอบตัด ข้อกำหนดนี้ไป เพื่ออะไร
และเราก็ได้เห็นแล้วว่า
ผู้สมัคร สส. จำนวนมาก มีการศึกษาที่ ป.4
แล้วผู้สมัครเหล่านี้หรือ จะเข้าไปทำหน้าที่ ร่างกฏหมาย พิจารณากฏหมาย บริหารประเทศ พิจารณางบประมาณ
แล้วเราจะยังยอมให้ มีใครมารวบอำนาจไป โดยที่เรายังไม่รู้ว่าเขาจะส่งใครมาให้เป็นนายเรา แล้วจะไปแก้อะไรเพื่อประโยชน์พวกพ้องตัวเองอีกหรือ