คะ พอดีเริ่มขี่จักรยานได้ไม่นาน เพิ่งออกขี่ถนนใหญ่ 3-4 วัน
แต่ปกติจะขี่เลาะตามฟุตบาทถ้าเป็นถนนใหญ่
เหตุเกิดตอน กำลังจะออกจากซอยไปถนนใหญ่ กะเลี้ยวสามแยกพ้นแล้วก็จะขึ้นฟุตบาททันที ซึ่งทางซ้ายมือเป็นทางผ่านตลอดได้ชลอความเร็วปล่อยให้จักรยานไหลไปตามโค้งช้าๆพยายามให้ชิดฟุตบาทที่สุด
พอพ้นสามแยกไปประมาน สองฟุตมีรถเมล์ วิ่งด้วยความเร็วสูงมาเฉี่ยวใกล้มาก จักรยานส่ายไปมา แฮนกระแทกรถเมล์ เสียหลัก ตัวจะล้มใส่รถเมล์ โชคดีที่นำมือไปยันรถเมล์ทำให้เสียหลักล้มอีกข้างที่เป็นฟุตบาท แต่ก็ขึ้นฟุตบาทไม่ได้เพราะมีเหล็กกั้นไม่ให้คนข้ามถนนกั้นอยู่ ทำให้ล้มลงห่างรถเมล์วิ่งไม่ถึง 10 ซม. จำได้มีเสียงโหวกเหวกเสียงกรีดเต็มไปหมด
แล้วรถเมล์ก็จอดอีกประมานสิบเมตร ถามว่าเป็นไรรึเปล่ามีมอเตอร์ไซ วิ่งมาดูอาการเราที่ล้มอยู่บนถนน โชคดีที่ไม่เป็นไรมากถลอกที่หัวเข่าเหลือดไหลนิดหน่อยดีที่ใส่กางเกงขายาว แต่มือไม่เป็นไรเลยช้ำนิดหน่อยทั้งๆที่ปัดรถเมล์(สงสัยมือด้านมาก)แต่ผลที่ได้คือ จักรยานล้อเบี้ยว แฮนขาด เบาะขาด
พอจบเหตุการณ์ช็อคมากขึ้นมาบนฟุตบาทแล้วน้ำตามันก็ไหล คิดถึงแต่พ่อแม่ ยังไม่ได้บอกรักพ่อแม่เยอะๆเลย ยังไม่ทำสิ่งอยากทำให้ท่านตั้งหลายอย่าง น้ำตาไหลเรื่อยๆประมานห้านาที หยิกแก้มตัวเองไม่แน่ใจว่าตายหรอยัง พอสงบสติอารมณ์ได้ก็คิดว่าทำอย่างไรต่อ ไม่อยากให้พ่อแม่รุ้
เลยตัดสินใจยกจักรยานข้ามสะพานลอยเข็นไปร้านจักรยานฝั่งตรงข้าม ประมาน 300 เมตร ระหว่างทางน้ำตาไหลตลอดโดยไม่ได้ตั้งใจ พอถึงก็ให้เค้าซ่อมเปลี่ยนเบาะเปลี่ยนแฮนแล้วขี่กลับบ้าน
พอถึงบ้านแม่ถามว่าขี่สนุกมั้ย พ่อมาถามว่าขี่ดีมั้ย เอ้าเปลี่ยนเบาะหรอ ก้ได้แต่ตอบว่าดี เบาะเก่ามันเจ็บก้น พ่อก้ถามเก็บเบาะเก่ามาด้วยรึเปล่าก้ได้แต่บอกว่าเปล่าเบาะเก่ามันไม่ดี
ตอนนี้ก็ยังไม่ได้บอกให้พ่อแม่รู้ ยังอยากขี่จักรยานแต่ตอนนี้ก็ยังกลัวอยู่ เมื่ออยู่คนเดียวก้ชอบคิดถาพว่าถ้าล้มไปอีกข้างจะเป็นอย่างไร หัวคงโดนล้อทับ หรือถ้าพิการพ่อแม่จะเสียใจขนาดไหน
เพื่อนๆคนไหนมีประสบการณ์คล้ายเหตุกาณ์นี้ผ่านไปได้อย่างไรคะ ตอนนี้รู้สึกจิตตกเพราะเล่าให้ใครฟังไม่ได้ไม่อยากให้เค้าเป็นห่วง
แล้วเพื่อนๆที่เคยเกิดเหตุการณ์แนวนี้ยังขี่จักรยานอยู่รึเปล่าค่ะ
ขอบคุณที่รับฟังคะ
เพื่อนเคยประสบอุบัติเหตุเกือบตายหรือป่าวค่ะ
แต่ปกติจะขี่เลาะตามฟุตบาทถ้าเป็นถนนใหญ่
เหตุเกิดตอน กำลังจะออกจากซอยไปถนนใหญ่ กะเลี้ยวสามแยกพ้นแล้วก็จะขึ้นฟุตบาททันที ซึ่งทางซ้ายมือเป็นทางผ่านตลอดได้ชลอความเร็วปล่อยให้จักรยานไหลไปตามโค้งช้าๆพยายามให้ชิดฟุตบาทที่สุด
พอพ้นสามแยกไปประมาน สองฟุตมีรถเมล์ วิ่งด้วยความเร็วสูงมาเฉี่ยวใกล้มาก จักรยานส่ายไปมา แฮนกระแทกรถเมล์ เสียหลัก ตัวจะล้มใส่รถเมล์ โชคดีที่นำมือไปยันรถเมล์ทำให้เสียหลักล้มอีกข้างที่เป็นฟุตบาท แต่ก็ขึ้นฟุตบาทไม่ได้เพราะมีเหล็กกั้นไม่ให้คนข้ามถนนกั้นอยู่ ทำให้ล้มลงห่างรถเมล์วิ่งไม่ถึง 10 ซม. จำได้มีเสียงโหวกเหวกเสียงกรีดเต็มไปหมด
แล้วรถเมล์ก็จอดอีกประมานสิบเมตร ถามว่าเป็นไรรึเปล่ามีมอเตอร์ไซ วิ่งมาดูอาการเราที่ล้มอยู่บนถนน โชคดีที่ไม่เป็นไรมากถลอกที่หัวเข่าเหลือดไหลนิดหน่อยดีที่ใส่กางเกงขายาว แต่มือไม่เป็นไรเลยช้ำนิดหน่อยทั้งๆที่ปัดรถเมล์(สงสัยมือด้านมาก)แต่ผลที่ได้คือ จักรยานล้อเบี้ยว แฮนขาด เบาะขาด
พอจบเหตุการณ์ช็อคมากขึ้นมาบนฟุตบาทแล้วน้ำตามันก็ไหล คิดถึงแต่พ่อแม่ ยังไม่ได้บอกรักพ่อแม่เยอะๆเลย ยังไม่ทำสิ่งอยากทำให้ท่านตั้งหลายอย่าง น้ำตาไหลเรื่อยๆประมานห้านาที หยิกแก้มตัวเองไม่แน่ใจว่าตายหรอยัง พอสงบสติอารมณ์ได้ก็คิดว่าทำอย่างไรต่อ ไม่อยากให้พ่อแม่รุ้
เลยตัดสินใจยกจักรยานข้ามสะพานลอยเข็นไปร้านจักรยานฝั่งตรงข้าม ประมาน 300 เมตร ระหว่างทางน้ำตาไหลตลอดโดยไม่ได้ตั้งใจ พอถึงก็ให้เค้าซ่อมเปลี่ยนเบาะเปลี่ยนแฮนแล้วขี่กลับบ้าน
พอถึงบ้านแม่ถามว่าขี่สนุกมั้ย พ่อมาถามว่าขี่ดีมั้ย เอ้าเปลี่ยนเบาะหรอ ก้ได้แต่ตอบว่าดี เบาะเก่ามันเจ็บก้น พ่อก้ถามเก็บเบาะเก่ามาด้วยรึเปล่าก้ได้แต่บอกว่าเปล่าเบาะเก่ามันไม่ดี
ตอนนี้ก็ยังไม่ได้บอกให้พ่อแม่รู้ ยังอยากขี่จักรยานแต่ตอนนี้ก็ยังกลัวอยู่ เมื่ออยู่คนเดียวก้ชอบคิดถาพว่าถ้าล้มไปอีกข้างจะเป็นอย่างไร หัวคงโดนล้อทับ หรือถ้าพิการพ่อแม่จะเสียใจขนาดไหน
เพื่อนๆคนไหนมีประสบการณ์คล้ายเหตุกาณ์นี้ผ่านไปได้อย่างไรคะ ตอนนี้รู้สึกจิตตกเพราะเล่าให้ใครฟังไม่ได้ไม่อยากให้เค้าเป็นห่วง
แล้วเพื่อนๆที่เคยเกิดเหตุการณ์แนวนี้ยังขี่จักรยานอยู่รึเปล่าค่ะ
ขอบคุณที่รับฟังคะ