"หมึก" เป็นหมาสีดำ ตัวกลมๆ หน้ามู่ ตัวนิ่มไปทั้งตัว มีคนอุ้มมาให้ถึงหน้าบ้านเมื่อ 11 ปีก่อน เรายังจำสัมผัสแรกที่จับมันได้ดี พ่อตั้งชื่อให้ว่า "หมึก"
หมึกโตขึ้นกลายร่างเป็นหมาบึกบึน ขนเกรียน กล้ามเนื้อเป็นมัด เป็นหมาจ่าฝูงของบ้าน เนื่องจากกัดกับสมาชิกหมาตัวอื่นของบ้านชนะตลอด พ่อจึงต้อง
สร้างมาตรการล่ามโซ่หมาทุกตัว ไม่งั้นเจอหน้ากันไม่ได้ กัดกันจนเขี้ยวจมคอ หมึกนี่แหละเป็นคนกัด ทำเอาทั้งพ่อทั้งพี่ชายทั้งเราเดือดร้อน ต้องมาคอย
แยกวงหมากันทุกวัน
แต่หมึกเป็นหมาที่ฉลาดที่สุด เสียงเห่าของมันทำให้ครอบครัวเราสามารถรู้ได้ว่า มันเห่าคน เห่าหมาจรจัด เห่างู หรือเห่าเพราะเหงา อยากให้พ่อไปเล่นด้วย
เราอยู่ด้วยกันตั้งแต่อายุ 15 เห็นหน้ากันทุกวัน คลอเคลียกันทุกวัน บ้านเราตั้งอยู่นอกเมือง มีป่ายูคาฯ ล้อมรอบ หลายคืนที่เราต้องอยู่คนเดียวด้วยความกลัว เพราะพ่อและพี่ชายไปธุระ แต่เราก็อุ่นใจขึ้น เมื่อคิดว่ามีหมึกกับองครักษ์ตัวอื่นๆ อยู่ด้วยอีก 4 ตัว อาศัยฟังจากเสียงเห่า ไม่ต้องเปิดบ้านออกไปดู ก็รู้ว่าหมึกเห่าอะไร หมาจรจัดหรือคน
พออายุ 24 เราย้ายออกมามีครอบครัว มีลูกเล็กจึงไม่ค่อยได้กลับบ้าน พ่อสะดวกมาหาเรากับหลานในเมืองมากกว่า
ปีที่แล้ว พ่อเล่าให้ฟังว่าหมึกเริ่มมีก้อนปูดข้างอัณฑะ หมึกชอบใช้เขี้ยวแทะ ต้องใส่ดาวเทียมไม่ให้มันกัด แต่มันก็ยังดื้อสลัดดาวเทียมออก และกัดจนเริ่มเป็นแผล พ่อนั่งทำแผลให้และหายามาให้กิน ทา โดยไม่ได้คิดว่าจะเป็นอะไรมากมาย เดี๋ยวก็คงหาย
แต่เดือนตุลาคม พ่อต้องเข้ารพ. ด้วยโรคหัวใจโต 1 ครั้ง ออกมาไม่ทันไร ก็เข้าไปใหม่ด้วยโรคน้ำในหูไม่เท่ากันอีก นานเกือบ 2 เดือนที่พ่อเดินไปไหนเองไม่ได้ ต้องให้แฟนพ่อเป็นคนดูแลสามชิกหมาในบ้าน แฟนของพ่อแค่ให้อาหาร ให้น้ำ เล่นกับมันอย่างเดียว ไม่ได้สังเกตความผิดปกติต่างๆ ของหมึก
พอพ่อเดินได้อีกที ก็พบว่าหมึกมีก้อนเนื้อปูดขึ้นมาตรงอัณฑะ เป็นหนอง มีรูพรุนเหมือนเนื้อถูกเจาะ พ่อรีบพาไปรักษา ก็พบว่าหมึกเป็นมะเร็ง
หมอบอกว่าหมาอายุ 10 ปีขึ้นไปมีโอกาสเป็นได้ แม้หมาจะแข็งแรงแค่ไหน หมอแนะนำให้ตัดอัณฑะออก และฉีดยาต้านมะเร็งอาทิตย์ละเข็ม แต่อาจมีผลข้างเคียงจากการรักษา ทำให้ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่ายผิดปกติ ไตทำงานหนักจากยา พ่อบอกให้หมึกสู้ หมึกทรุดๆ ทรงๆ กินอาหารได้บ้างไม่ได้บ้าง บางวันซึม บางวันร่าเริง ฉีดยาไปประมาณ 10 เข็ม พ่อเริ่มสังเกตเห็นก้อนเนื้อปูดขึ้นใต้ท้อง โตขึ้นเรื่อยๆ
หรือว่าต้องทำใจ พ่อบ่น ในเมื่อยาไม่สามารถทำให้ก้อนเนื้อยุบลงได้ พ่อจึงตัดสินใจหยุดฉีดให้ เพราะหลังฉีดหมึกจะซึมมากเนื่องจากฤทธิ์ยา พ่อไม่ล่ามโซ่หมึกอีกต่อไป อยากให้หมึกทำอะไรก็ได้ตามสะดวก แต่มันก็ยังมีแรงซ่าไปกัดกับหมาตัวอื่นของบ้าน แต่คราวนี้หมึกเป็นฝ่ายแพ้ พ่อยิ่งเครียด เพราะหมึกเริ่มมีแผลเป็นรูพรุนตรงช่วงบั้นท้าย น้ำเหลืองไหล
พ่อสรรหาทั้งยากิน ยาทา ยาไทยยาจีนที่ใครๆ บอกว่าได้ผล หามาหมด ของกินดีๆ สรรหามาให้ แต่แผลเริ่มใหญ่ขึ้นทุกวัน หมึกผอมซูบ ไม่ร่าเริง น้ำเหลืองไหลตลอดเวลาจนทำแผลไม่ไหว เราถามพ่อว่า การุณยฆาตได้มั้ย ไม่อยากให้หมึกทรมาน พ่อน้ำตาซึม บอกทำไม่ลง อยู่ด้วยกันมาเป็นสิบปี
จนสามวันก่อน หมึกเพ้อ ร้องครวญ และเริ่มนอนนิ่ง ไม่ลุกขึ้นมากินข้าวกินน้ำ พ่อหาผ้ามาคลุม ทำหลังคาชั่วคราวให้เพราะหมึกไปนอนอยู่ตรงต้นไม้ข้างที่จอดรถยนต์ ตรงนี้ไม่มีหมาอื่นมารบกวน และอากาศค่อนข้างเย็นสบายเพราะอยู่ใต้ต้นไม้ หมึกมันคงเลือกตรงนี้
พ่อตื่นขึ้นมาทุก 2 ชั่วโมง เพื่อมาหยอดข้าวหยอดน้ำ ดูมดแมลงไม่ให้มาตอม เราเป็นห่วงพ่อมากเพราะพอพ่อพักผ่อนไม่พอ อาการน้ำในหูไม่เท่ากันจะกำเริบ คราวที่แล้วแค่นอนไม่พอวันเดียวยังเวียนหัว แต่แปลกที่คราวนี้พ่อกลับเข้มแข็ง ไม่ยอมป่วย พ่อบอกว่าถ้าพ่อไม่ป่วย ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลเมื่อปลายปีที่แล้ว คงสังเกตอาการได้ตั้งแต่ตอนแรกๆ และพาไปรักษาได้ทัน ยิ่งตอนนี้พ่อยิ่งป่วยไม่ได้ พ่อต้องดูแลหมึก
ส่วนเราช่วยอะไรไม่ได้เลย ต้องดูแลกิจการที่บ้านและลูกเล็ก ได้แต่โทรไปหาพ่อบ่อยๆ พ่อเล่าอาการของหมึกด้วยเสียงสั่นๆ นานแล้วที่พ่อไม่ได้ร้องไห้ ตั้งแต่กล้วย หมาของพ่อ เมียของหมึก ตายเพราะถูกงูกัด
สามวันที่หมึกหายใจรวยริน แต่ไม่ยอมหมดลมหายใจ พ่อเตรียมขุดหลุมให้ คงไม่มีปาฎิหารย์ หมึกเริ่มตาลอย ไม่มีแรงแม้แต่จะกลืนน้ำ พ่อลูบหัวลูบหาง ถามหมึกว่ารออะไร ไปวิ่งเล่นบนสวรรค์กับกล้วยเถอะลูก
หมึกส่ายหางให้ น่าแปลกที่ส่ายหางได้ เพราะไม่รู้สึกตัวแล้ว หน้าท้องเริ่มนิ่ง หยุดหายใจ พ่อเรียกหมึกอีกที มันพยายามยกหัว ขึ้นมานิดเดียว แล้วก็นิ่งไป หมึกไปสบายแล้ว ตอนเที่ยงกว่าๆ พ่อมาบอกเราที่บ้านหลังจากฝังมันเสร็จ ตาแดงก่ำ
เมื่อกี๊นี้เราฝันถึงหมีก ฝันว่าเราวิ่งเล่นกับมัน ได้ลูบหัวลูบตัว ยังจำสัมผัสสากๆ ของขนเกรียนๆ ได้ พอตื่นมาก็นอนไม่หลับ เสียดายความฝัน เสียดายที่รีบตื่น
เมื่อองครักษ์พิทักษ์บ้านจากไปด้วยโรคมะเร็ง
หมึกโตขึ้นกลายร่างเป็นหมาบึกบึน ขนเกรียน กล้ามเนื้อเป็นมัด เป็นหมาจ่าฝูงของบ้าน เนื่องจากกัดกับสมาชิกหมาตัวอื่นของบ้านชนะตลอด พ่อจึงต้อง
สร้างมาตรการล่ามโซ่หมาทุกตัว ไม่งั้นเจอหน้ากันไม่ได้ กัดกันจนเขี้ยวจมคอ หมึกนี่แหละเป็นคนกัด ทำเอาทั้งพ่อทั้งพี่ชายทั้งเราเดือดร้อน ต้องมาคอย
แยกวงหมากันทุกวัน
แต่หมึกเป็นหมาที่ฉลาดที่สุด เสียงเห่าของมันทำให้ครอบครัวเราสามารถรู้ได้ว่า มันเห่าคน เห่าหมาจรจัด เห่างู หรือเห่าเพราะเหงา อยากให้พ่อไปเล่นด้วย
เราอยู่ด้วยกันตั้งแต่อายุ 15 เห็นหน้ากันทุกวัน คลอเคลียกันทุกวัน บ้านเราตั้งอยู่นอกเมือง มีป่ายูคาฯ ล้อมรอบ หลายคืนที่เราต้องอยู่คนเดียวด้วยความกลัว เพราะพ่อและพี่ชายไปธุระ แต่เราก็อุ่นใจขึ้น เมื่อคิดว่ามีหมึกกับองครักษ์ตัวอื่นๆ อยู่ด้วยอีก 4 ตัว อาศัยฟังจากเสียงเห่า ไม่ต้องเปิดบ้านออกไปดู ก็รู้ว่าหมึกเห่าอะไร หมาจรจัดหรือคน
พออายุ 24 เราย้ายออกมามีครอบครัว มีลูกเล็กจึงไม่ค่อยได้กลับบ้าน พ่อสะดวกมาหาเรากับหลานในเมืองมากกว่า
ปีที่แล้ว พ่อเล่าให้ฟังว่าหมึกเริ่มมีก้อนปูดข้างอัณฑะ หมึกชอบใช้เขี้ยวแทะ ต้องใส่ดาวเทียมไม่ให้มันกัด แต่มันก็ยังดื้อสลัดดาวเทียมออก และกัดจนเริ่มเป็นแผล พ่อนั่งทำแผลให้และหายามาให้กิน ทา โดยไม่ได้คิดว่าจะเป็นอะไรมากมาย เดี๋ยวก็คงหาย
แต่เดือนตุลาคม พ่อต้องเข้ารพ. ด้วยโรคหัวใจโต 1 ครั้ง ออกมาไม่ทันไร ก็เข้าไปใหม่ด้วยโรคน้ำในหูไม่เท่ากันอีก นานเกือบ 2 เดือนที่พ่อเดินไปไหนเองไม่ได้ ต้องให้แฟนพ่อเป็นคนดูแลสามชิกหมาในบ้าน แฟนของพ่อแค่ให้อาหาร ให้น้ำ เล่นกับมันอย่างเดียว ไม่ได้สังเกตความผิดปกติต่างๆ ของหมึก
พอพ่อเดินได้อีกที ก็พบว่าหมึกมีก้อนเนื้อปูดขึ้นมาตรงอัณฑะ เป็นหนอง มีรูพรุนเหมือนเนื้อถูกเจาะ พ่อรีบพาไปรักษา ก็พบว่าหมึกเป็นมะเร็ง
หมอบอกว่าหมาอายุ 10 ปีขึ้นไปมีโอกาสเป็นได้ แม้หมาจะแข็งแรงแค่ไหน หมอแนะนำให้ตัดอัณฑะออก และฉีดยาต้านมะเร็งอาทิตย์ละเข็ม แต่อาจมีผลข้างเคียงจากการรักษา ทำให้ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่ายผิดปกติ ไตทำงานหนักจากยา พ่อบอกให้หมึกสู้ หมึกทรุดๆ ทรงๆ กินอาหารได้บ้างไม่ได้บ้าง บางวันซึม บางวันร่าเริง ฉีดยาไปประมาณ 10 เข็ม พ่อเริ่มสังเกตเห็นก้อนเนื้อปูดขึ้นใต้ท้อง โตขึ้นเรื่อยๆ
หรือว่าต้องทำใจ พ่อบ่น ในเมื่อยาไม่สามารถทำให้ก้อนเนื้อยุบลงได้ พ่อจึงตัดสินใจหยุดฉีดให้ เพราะหลังฉีดหมึกจะซึมมากเนื่องจากฤทธิ์ยา พ่อไม่ล่ามโซ่หมึกอีกต่อไป อยากให้หมึกทำอะไรก็ได้ตามสะดวก แต่มันก็ยังมีแรงซ่าไปกัดกับหมาตัวอื่นของบ้าน แต่คราวนี้หมึกเป็นฝ่ายแพ้ พ่อยิ่งเครียด เพราะหมึกเริ่มมีแผลเป็นรูพรุนตรงช่วงบั้นท้าย น้ำเหลืองไหล
พ่อสรรหาทั้งยากิน ยาทา ยาไทยยาจีนที่ใครๆ บอกว่าได้ผล หามาหมด ของกินดีๆ สรรหามาให้ แต่แผลเริ่มใหญ่ขึ้นทุกวัน หมึกผอมซูบ ไม่ร่าเริง น้ำเหลืองไหลตลอดเวลาจนทำแผลไม่ไหว เราถามพ่อว่า การุณยฆาตได้มั้ย ไม่อยากให้หมึกทรมาน พ่อน้ำตาซึม บอกทำไม่ลง อยู่ด้วยกันมาเป็นสิบปี
จนสามวันก่อน หมึกเพ้อ ร้องครวญ และเริ่มนอนนิ่ง ไม่ลุกขึ้นมากินข้าวกินน้ำ พ่อหาผ้ามาคลุม ทำหลังคาชั่วคราวให้เพราะหมึกไปนอนอยู่ตรงต้นไม้ข้างที่จอดรถยนต์ ตรงนี้ไม่มีหมาอื่นมารบกวน และอากาศค่อนข้างเย็นสบายเพราะอยู่ใต้ต้นไม้ หมึกมันคงเลือกตรงนี้
พ่อตื่นขึ้นมาทุก 2 ชั่วโมง เพื่อมาหยอดข้าวหยอดน้ำ ดูมดแมลงไม่ให้มาตอม เราเป็นห่วงพ่อมากเพราะพอพ่อพักผ่อนไม่พอ อาการน้ำในหูไม่เท่ากันจะกำเริบ คราวที่แล้วแค่นอนไม่พอวันเดียวยังเวียนหัว แต่แปลกที่คราวนี้พ่อกลับเข้มแข็ง ไม่ยอมป่วย พ่อบอกว่าถ้าพ่อไม่ป่วย ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลเมื่อปลายปีที่แล้ว คงสังเกตอาการได้ตั้งแต่ตอนแรกๆ และพาไปรักษาได้ทัน ยิ่งตอนนี้พ่อยิ่งป่วยไม่ได้ พ่อต้องดูแลหมึก
ส่วนเราช่วยอะไรไม่ได้เลย ต้องดูแลกิจการที่บ้านและลูกเล็ก ได้แต่โทรไปหาพ่อบ่อยๆ พ่อเล่าอาการของหมึกด้วยเสียงสั่นๆ นานแล้วที่พ่อไม่ได้ร้องไห้ ตั้งแต่กล้วย หมาของพ่อ เมียของหมึก ตายเพราะถูกงูกัด
สามวันที่หมึกหายใจรวยริน แต่ไม่ยอมหมดลมหายใจ พ่อเตรียมขุดหลุมให้ คงไม่มีปาฎิหารย์ หมึกเริ่มตาลอย ไม่มีแรงแม้แต่จะกลืนน้ำ พ่อลูบหัวลูบหาง ถามหมึกว่ารออะไร ไปวิ่งเล่นบนสวรรค์กับกล้วยเถอะลูก
หมึกส่ายหางให้ น่าแปลกที่ส่ายหางได้ เพราะไม่รู้สึกตัวแล้ว หน้าท้องเริ่มนิ่ง หยุดหายใจ พ่อเรียกหมึกอีกที มันพยายามยกหัว ขึ้นมานิดเดียว แล้วก็นิ่งไป หมึกไปสบายแล้ว ตอนเที่ยงกว่าๆ พ่อมาบอกเราที่บ้านหลังจากฝังมันเสร็จ ตาแดงก่ำ
เมื่อกี๊นี้เราฝันถึงหมีก ฝันว่าเราวิ่งเล่นกับมัน ได้ลูบหัวลูบตัว ยังจำสัมผัสสากๆ ของขนเกรียนๆ ได้ พอตื่นมาก็นอนไม่หลับ เสียดายความฝัน เสียดายที่รีบตื่น