ปีนี้ถือว่าเป็นโชคดีปีทองของ(อดีต)ดาวตลกรุ่นเก๋า “เทพ โพธิ์งาม” ที่นำภาพยนตร์ที่ตัวเองแสดงนั้นออกสู่โรงหนังถึงสองเรื่องซ้อน คือหนังไทยเรื่อง “สีเรียงเซียนโต๊ด” (4 Kings) และหนังระดับอินเตอร์เรื่อง “The Rocket บุญติดจรวด”
แต่จู่ๆ หนังทั้งสองเรื่องฉายไปได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ ก็เป็นอันหายวับจากโปรแกรม! ถ้าไม่มีหมายเหตุอันใด
ฉันเดินสังเกตรอบฉายจากโรงหนังเอสเอฟ เซ็นทรัลเวิลด์ ไปถึง เอ็มบีเค (แม้ว่าเส้นทางจะปิด แต่โรงหนังไม่ปิด) ก็กลับไม่พบหนังทั้งสองเรื่องฉายต่ออีก ทำเอาแฟนหนังที่ชื่นชอบป๋าเทพช็อคไปตามกัน ทั้งๆที่ไม่น่าถอนโปรแกรมกลางคัน ยิ่งฉายนานวันยิ่งมีคนขำมากขึ้น..เสียดายมาก
เพราะช่วงนี้หลายคนกำลังจับจ้องไปที่หนังไทยใหม่สดอย่าง “ไทม์ไลน์ จดหมาย ความทรงจำ” ที่เพิ่งออกมาเรียกกระแสเจมส์จิฯ ฟีเวอร์ ทำให้วันนี้จำนวนรอบของไทม์ไลน์ฯ มากมายเทียบเคียงหนังเทศฟอร์มยักษ์ไปแล้ว(เห็นท่าแล้วก็มีโอกาสอาจจะขึ้นทำเนียบหนังไทยแนวโรแมนติกที่ทำรายได้สูงสุดในประเทศก็เป็นได้)
สำหรับ “สีเรียงเซียนโต๊ด” หนังที่ว่าด้วยเรื่องของคน 4 คนกับการพนัน ที่ยากจะหาใครทำหนังเรื่องเลวๆ แต่ดูสนุกสนานมีชีวิตชีวาได้เท่ากับผกก.มือใหม่ชื่อ “แมน-ศุภกิจ ตังทัดสวัสดิ์” ในใจถ้าเข้าฉายก่อนหน้าไทม์ไลน์ฯสักหนึ่งเดือนก็มีโอกาสทำรายได้มาก แต่ดันมาฉายช่วงตรุษจีนถึงวาเลนไทน์ ระยะกระชั้นชิด คงเข้าใจว่าเป็นหนังคั่นโปรแกรม แล้วก็ถอดออกไปเรียบร้อยโรงเรียนเสี่ยเจียง
ส่วน “The Rocket” หนังอินดี้ที่ได้รางวัลมาก็แยะ เพราะฉายหลายประเทศ เมื่อมาถึงบ้านเรากลับพูดถึงกันน้อย รายได้นิดหน่อย (เนื่องจากหนังเรื่องนี้ฉายในโรงภาพยนตร์เครือเอสเอฟเพียงสัปดาห์เดียว) และเป็นอันต้องลาจากโรงอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่ขายชื่อป๋าเทพอยู่แล้ว การันตีได้ว่าสนุกอีกเช่นกัน เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของเด็กน้อยกับประเพณีบุญบั้งไฟ
อ๋อ..ยังมีหนังไทยรักๆ จำๆ อีกเรื่อง “กาลครั้งหนึ่ง..จนวันนี้” นำแสดงโดย เป้ อารักษ์ ที่ดูแผ่วๆ แม้จะขายชื่อสปอนเซอร์ด้วยก็ตาม ก็บอกได้ว่าลาโรงไปไม่เห็นหน้าด้วยเช่นกัน
แต่ก็ไม่เป็นไร ได้เงินเท่าไรก็เท่านั้น แต่สิ่งที่เราคงต้องรอก็คือกล่อง ว่าเรื่องเหล่านี้จะมีโอกาสเข้าชิงรางวัลหรือไม่ และป๋าเทพ จะมีผลงานอะไรดีๆ อีกภายในปีนี้ก็คงต้องติดตาม หวังว่าจะไม่พลาดแม้โอกาสเพียงสั้นๆ เหมือนอย่าง หมาแก่ อันตราย
ลาโรง “หนังป๋าเทพ” เพราะมีไทม์ไลน์
แต่จู่ๆ หนังทั้งสองเรื่องฉายไปได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ ก็เป็นอันหายวับจากโปรแกรม! ถ้าไม่มีหมายเหตุอันใด
ฉันเดินสังเกตรอบฉายจากโรงหนังเอสเอฟ เซ็นทรัลเวิลด์ ไปถึง เอ็มบีเค (แม้ว่าเส้นทางจะปิด แต่โรงหนังไม่ปิด) ก็กลับไม่พบหนังทั้งสองเรื่องฉายต่ออีก ทำเอาแฟนหนังที่ชื่นชอบป๋าเทพช็อคไปตามกัน ทั้งๆที่ไม่น่าถอนโปรแกรมกลางคัน ยิ่งฉายนานวันยิ่งมีคนขำมากขึ้น..เสียดายมาก
เพราะช่วงนี้หลายคนกำลังจับจ้องไปที่หนังไทยใหม่สดอย่าง “ไทม์ไลน์ จดหมาย ความทรงจำ” ที่เพิ่งออกมาเรียกกระแสเจมส์จิฯ ฟีเวอร์ ทำให้วันนี้จำนวนรอบของไทม์ไลน์ฯ มากมายเทียบเคียงหนังเทศฟอร์มยักษ์ไปแล้ว(เห็นท่าแล้วก็มีโอกาสอาจจะขึ้นทำเนียบหนังไทยแนวโรแมนติกที่ทำรายได้สูงสุดในประเทศก็เป็นได้)
สำหรับ “สีเรียงเซียนโต๊ด” หนังที่ว่าด้วยเรื่องของคน 4 คนกับการพนัน ที่ยากจะหาใครทำหนังเรื่องเลวๆ แต่ดูสนุกสนานมีชีวิตชีวาได้เท่ากับผกก.มือใหม่ชื่อ “แมน-ศุภกิจ ตังทัดสวัสดิ์” ในใจถ้าเข้าฉายก่อนหน้าไทม์ไลน์ฯสักหนึ่งเดือนก็มีโอกาสทำรายได้มาก แต่ดันมาฉายช่วงตรุษจีนถึงวาเลนไทน์ ระยะกระชั้นชิด คงเข้าใจว่าเป็นหนังคั่นโปรแกรม แล้วก็ถอดออกไปเรียบร้อยโรงเรียนเสี่ยเจียง
ส่วน “The Rocket” หนังอินดี้ที่ได้รางวัลมาก็แยะ เพราะฉายหลายประเทศ เมื่อมาถึงบ้านเรากลับพูดถึงกันน้อย รายได้นิดหน่อย (เนื่องจากหนังเรื่องนี้ฉายในโรงภาพยนตร์เครือเอสเอฟเพียงสัปดาห์เดียว) และเป็นอันต้องลาจากโรงอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่ขายชื่อป๋าเทพอยู่แล้ว การันตีได้ว่าสนุกอีกเช่นกัน เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของเด็กน้อยกับประเพณีบุญบั้งไฟ
อ๋อ..ยังมีหนังไทยรักๆ จำๆ อีกเรื่อง “กาลครั้งหนึ่ง..จนวันนี้” นำแสดงโดย เป้ อารักษ์ ที่ดูแผ่วๆ แม้จะขายชื่อสปอนเซอร์ด้วยก็ตาม ก็บอกได้ว่าลาโรงไปไม่เห็นหน้าด้วยเช่นกัน
แต่ก็ไม่เป็นไร ได้เงินเท่าไรก็เท่านั้น แต่สิ่งที่เราคงต้องรอก็คือกล่อง ว่าเรื่องเหล่านี้จะมีโอกาสเข้าชิงรางวัลหรือไม่ และป๋าเทพ จะมีผลงานอะไรดีๆ อีกภายในปีนี้ก็คงต้องติดตาม หวังว่าจะไม่พลาดแม้โอกาสเพียงสั้นๆ เหมือนอย่าง หมาแก่ อันตราย