สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเราค่ะ >< อยากมาแชร์ข้อมูลการท่องเที่ยวที่ผ่านมาของเราค่ะ เริ่มเลยนะคะ
แอบดองนานไปหน่อยนะคะ ไปตั้งแต่ ธันวาคม 2013 2 เดือนผ่านไปแลัว ^^"
ทุกๆปีตั้งแต่เรียนจบ เรากับเพื่อนๆตั้งแต่สมัยมัธยม รวมเราด้วยเป็น 4 คนตั้งเป้าหมายกันไว้ว่า ในแต่ละปีกลุ่มเราจะต้องไปเที่ยวด้วยกันอย่างน้อย 1 ครั้ง เพราะตอนนั้นเริ่มมีแยกย้ายกันไปทำงานไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพ เชียงใหม่ และลำปาง...
หัวหิน เกาะล้าน-พัทยา สุราษฯ-เกาะพงัน ราชบุรี-สวนผึ้ง ภูเก็ต คือสถานที่ท่องเที่ยวที่พวกเราได้ไปเที่ยวกันมาในแต่ละปีค่ะ(รู้กันหมดว่าจบมานานแล้ว ><) พอมาถึงปีนี้ราคาตั๋วเครื่องบินลดลงจากเมื่อก่อนมากหากมีโปรโมชั่น พวกเราเลยตัดสินใจไปฮ่องกงกันในช่วง 5-9 ธันวาคมเพราะก่อนหน้ามีเพื่อนติดต้องย้ายที่ทำงาน เลยต้องรอให้ลงตัวซักพัก
สำหรับฮ่องกง-มาเก๊า เราเคยไปในปีที่แล้วกับแฟนและน้องๆ ดังนั้นเราเลยหาข้อมูลและมีข้อมูลติดตัวไว้พอสมควรสำหรับนำเพื่อนๆเที่ยว ข้อมูลก็หาจาก Pantip เป็นหลักนี่แหละค่ะ ... ขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ เราเลยเห็นประโยชน์ของการแชร์ข้อมูล โดยเฉพาะช่วงมืดแปดด้าน พี่พันช่วยได้จริงๆค่ะ แต่สำหรับเรื่องเที่ยวข้อมูลในเว็บมีเยอะแล้ว เราจะขอแชร์ประสบการณ์หรือเหตุการณ์ที่กลุ่มเราได้เจอร่วมกันมาเป็นหลักแทนนะคะ
สรุปเดอะแก๊งค์เราได้ตั๋วโปรหางแดงจาก เชียงใหม่-มาเก๊า ไป 5 กลับ 9 ค่ะ (ปกติเพื่อนๆเราทำงานที่ลำปาง หรือเชียงใหม่กันอยู่แล้วเลยขึ้นที่นี่ค่ะ จองช่วงเดือนสิงหาคม แอบเจ็บที่หางแดงออกรูทเชียงใหม่-ฮ่องกงมาเดือนพฤศจิกายนเล็กน้อย ) จองที่พักช่วง ส.ค. แผนเป็นดังนี้ค่ะ เดินทางถึงมาเก๊า 4 โมงแล้วไปขึ้นเรือไปฮ่องกง พักที่ฮ่องกง 3 คืนที่ mei mei motel และในวันที่ 8 กลับมามาเก๊าพักที่ ole tai sam un และกลับเชียงใหม่วันที่ 9 ไฟล์ท 5 โมงครึ่ง
ปกติเรากับเพื่อนอีกคน จะชอบเตรียมข้อมูลกันไว้ค่ะ อีก 2 คนจะงานยุ่งเลยขออยู่ฝ่ายสนับสนุนเพื่อนเป็นลูกทัวร์ไปค่ะ ช่วงก่อนเดินทางเราก็เตรียมข้อมูลไว้หลายอย่างค่ะ เช่น แผนที่ mei mei ขึ้นรถไฟฟ้าแล้วเดินยังไง ไปทางไหน , mido cafe แผนที่ไปทางไหน สั่งอะไร , เรือฮ่องกงมาเก๊ามีรอบไหน ราคาเท่าไหร่ ท่าเรืออยู่ไหน เราปริ้นท์เตรียมไว้หมดค่ะ ... แต่เราดันลืมเอาแฟ้มนั้นไปเชียงใหม่ เฮ้อ
ดังนั้นเราเลยไปปริ๊นท์ที่เชียงใหม่ แค่ข้อมูลสำคัญๆที่อยู่ในเมลล์ นั่นคือ เมลล์คอนเฟิร์มที่พักทั้ง mei mei และ ole tai sam un สำหรับตั๋วเดินทางเพื่อนอีกคนเตรียมไปค่ะ นอกนั้นไปหาข้อมูลเอาข้างหน้า เพราะซื้อซิม csl จาก hongkongfanclub ไป 3 sim ค่ะ ไว้ต่อ internet แล้วหาข้อมูลเอา
เกริ่นมาซะยาว เริ่มการเดินทางกันเลยนะคะ
การเดินทาง เชียงใหม่ - มาเก๊า ผ่าน ตม. มาเก๊าได้ปกติ หลังจากนั้นเราก็ไปขึ้นเรือ Turbo jet กัน พอถึงฮ่องกงทุกคนเริ่มดี๊ด๊าเพราะทำเวลามาถึงได้เร็วกว่าที่คิดไว้ แต่เหตุมาเกิดที่ ตม. ฮ่องกงค่ะ
เราเข้าแถว ตม. เรียงกัน 4 คนเป็นแถวเดียวกัน อ้อ ลืมบอก กลุ่มเราเป็นผู้หญิง 4 คนค่ะ เพื่อนคนที่ 1 ไปก่อน คนถัดมาเป็นเรา ซึ่งเพื่อนคนนี้เคยเดินทางไปยุโรป จีน นิวซีแลนด์มาก่อน พอเพื่อนคุยกับ ตม. เราพอจะได้ยินบ้าง ว่าเค้าถามมากี่คน พอตอบ 4 with friends ซักพัก ตม. ก็เรียก ตม. ตรงเคาท์เตอร์ด้านหลังมาพาเพื่อนเราไป ... เราก็คิดได้ละว่าโดนตรวจ 4 คนแน่ แต่ไม่ได้กลัวนะคะ ทุกอย่างอธิบายได้อยู่แล้ว
แต่พอถึงคิวเรา คิดว่าเราจะผ่านไหมคะ ... ผ่านค่ะ - - มารู้ทีหลังว่า เค้าเห็นว่าเราเคยมาฮ่องกงแล้ว และเห็นประเทศอื่นๆเลยให้ผ่านค่ะ แต่ของเพื่อนคนแรกเค้าเปิดไปไม่ถึงค่ะ เราเลยไปรอที่จุด waiting ไม่ไกลจากจุดที่เพื่อนถูกกักตัวไว้ค่ะ และแน่นอนอีกสองสาวที่เป็นพาสปอร์ตเล่มใหม่โดนกักเช่นกันค่ะ
เราเลยสังเกตเห็นว่า มีคนไทยทั้งหมด 5 กลุ่ม ที่ถูกกักไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนหญิงล้วนแบบเรา กลุ่มที่มากับเพื่อนและคุณแม่ที่เป็นหญิงล้วนเช่นกัน คนที่มากับแฟน หรือน้องที่มากับเพื่อนแต่ถูกกักไว้คนเดียว ตม.เค้าก็แบ่งไปตรวจแต่ละกลุ่ม สำหรับกลุ่มเราเค้าไปเริ่มไปคุยกับเพื่อนๆว่ามากี่คน พอเพื่อนบอก 4 คนแล้วหันมาทางเรา เราเลยรีบยกมือแล้วเดินเข้าไปหาค่ะ บทสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ แปลแล้วจะประมาณนี้ค่ะ
ตม. : มากี่คืน
กลุ่มเรา : 3 คืนที่ฮ่องกง
ตม. : ขอบุ๊คกิ้งที่พักด้วย ... เรายื่นให้
ตม. : ขอตั๋วกลับด้วย
กลุ่มเรา : เราจะกลับไปพักมาเก๊าในคืนที่ 4 ดังนั้นตั๋วเราจะออกจากมาเก๊านะคะ ... เรายื่นตั๋วให้
หลังจากนั้นเค้าก็ไปหาข้อมูลซักพักค่ะ
ตม. : พวกคุณมีเครดิตการ์ด กับเงินที่เตรียมจะใช้จ่ายที่นี่ไหม ขอดูหน่อย
กลุ่มเรา : ก็เอากระเป๋าเงินเปิดให้ดูพร้อมเครดิตการ์ดค่ะ ตอนนั้นแลกไปกันเฉลี่ยคนละประมาณ 7-8 พัน HKD ค่ะ เค้าก็ดูผ่านๆของแต่ละคนนะคะ
ตม. : พวกคุณทำอาชีพอะไรกัน
กลุ่มเรา : บัญชี หมอ สัตวแพทย์ และคุณครูค่ะ
ซักพัก ตม. ก็ปล่อยกลุ่มเรา และกลุ่มถัดๆไปค่ะ
จากเหตุการณ์นี้ เราสรุปให้เป็นข้อๆนะคะ
1. อย่าลืมพิมพ์เอกสารสำคัญ เพื่อเป็นหลักฐานการท่องเที่ยวของเราค่ะ ทั้งที่พักและตั๋วเดินทาง
2. เตรียมบทสนทนามาบ้าง เพื่อให้การพูดคุยสามารถโต้ตอบกันได้นะคะ
3. เวลาไปกันหลายๆคน ให้ดูแลกันด้วยนะคะ อย่างน้องผู้หญิงที่โดนกักตัวไว้คนเดียว เพราะเพื่อนๆผ่าน ตม. ก่อนหน้าและเอกสารก็อยู่กับเพื่อนหมด โดนตรวจนานเหมือนกันค่ะ อีกกลุ่มนึงเลยมาช่วยน้องแปลบ้าง เวลาสนทนาค่ะ หรือจะซีร็อกซ์เอกสารสำคัญไว้กับตัวเองก็เป็นอีกทางเลือกนะคะ
หลังจากนั้นเราก็เดินทางเข้าที่พัก และเที่ยวกันไว้ตามแพลนค่ะ ... อย่างที่บอกนะคะ ว่าจะไม่ได้อธิบายถึงข้อมูลเที่ยวซักเท่าไหร่ แต่จะสรุปจากประสบการณ์ส่วนตัวไว้ให้เล็กน้อยนะคะ
1. ค่าแท็กซี่จากท่าเรือเกาลูนมา mei mei ไม่เกินร้อยเหรียญ รวมค่ากระเป๋าใบละ 5 HKD แล้ว หากมาหลายคน taxi เป็นอีกหนึ่งทางเลือกค่ะ
2. ถ้าบอก sincere building taxi ไม่เข้าใจค่ะ ทางที่ดีพิมพ์แผนที่มา อย่างเราแคปหน้าจอไว้แล้วยื่นให้เค้าดูเค้าถึงจะเก็ท เหมือนเค้าบอกเราว่า ถ้าพูด sincere เค้าไม่รู้
3. ที่พักแถวนั้นสะดวกดีค่ะ ใกล้สถานที่ชอปปิ้งมาก คือลงมาแล้วเจอเลย และที่สำคัญปิดดึกประมาณ 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืน ดังนั้นหากใครมีแผนไปเที่ยวที่อื่น แล้วกลับมาช็อปแถวที่พักสะดวกมากค่ะ แต่หากได้ห้องติดหน้าต่าง อาจมีหนวกหูเสียงแตรรถบ้าง
4. กระเช้านองปิงเปิด 10 โมง ไปถึงซัก 9 โมงนิดๆค่ะ หากไม่ได้จองผ่าน internet และไปวันธรรมดาคิวจะไม่ยาวมากแถมเดินเช้าหน่อย อากาศดีค่ะ
5. ดิสนีย์แลนด์มีล็อคเกอร์ฝากของ ขนาดเล็ก 60 และขนาดใหญ่ 80 HKD ค่ะ เป็นราคาเหมาทั้งวัน อยู่แถวๆร้าน Bakery ถ้าใครแอบช็อปที่ city gate เอามาไว้ล็อคเกอร์นี้ได้ค่ะ
6. เครื่องสำอางค์ราคาแต่ละร้านแตกต่างกันไป บางอย่างร้านนี้ถูกกว่า บางอย่างแพงกว่า หากมีเวลาเดินสำรวจซักนิดแล้วเก็บทีละร้านค่ะ 555
7. รองเท้า new balance outlet หารุ่นใส่เที่ยวยากแถมไซส์ไม่ค่อยมี ที่ชอปมงก๊กก็ไม่ค่อยมีรุ่นที่อยากได้ เลยไปซื้อที่ habour city ค่ะ 574 590 HKD และ 996 690 HKD ค่ะ
8. ขนมที่ซื้อฝาก ส่วนใหญ่เราซื้อฝากสาวๆออฟฟิศที่ okashi land เป็นร้านขนมที่มีอยู่สถานีรถไฟฟ้าเท่าที่เห็นมีที่ มงก๊ก tungchung central แล้วก็ที่ห้างที่ท่าเรือเกาลูนก็มีค่ะ จะเป็นพวกโคลอนทาร์ตไข่ เพรซรสเป๋าฮื้อ รสหูฉลาม เป็นกล่องใหญ่ในกล่องมี 12 กล่องเล็ก
9. การต่อราคาที่มงก๊ก เป็นไปตามที่หาข้อมูลคือพยายามต่อราคา หรือเดินหนี อย่างเพื่อนเรา ต่อราคากระเป๋าจาก 220 HKD เหลือ 120 HKD แค่ยืนถามราคา ทำหน้าไม่อยากได้ ซักแปบเดินหนีอย่างช้าๆก็จะได้ตามราคาที่เราต่อแต่ถ้าต่อมากเกินครึ่งอาจไม่ได้ก็มีโอกาสค่ะ
แชร์ประสบการณ์กระเป๋าหาย @ Macau + ข้อมูลท่องเที่ยว Hongkong & Macau
แอบดองนานไปหน่อยนะคะ ไปตั้งแต่ ธันวาคม 2013 2 เดือนผ่านไปแลัว ^^"
ทุกๆปีตั้งแต่เรียนจบ เรากับเพื่อนๆตั้งแต่สมัยมัธยม รวมเราด้วยเป็น 4 คนตั้งเป้าหมายกันไว้ว่า ในแต่ละปีกลุ่มเราจะต้องไปเที่ยวด้วยกันอย่างน้อย 1 ครั้ง เพราะตอนนั้นเริ่มมีแยกย้ายกันไปทำงานไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพ เชียงใหม่ และลำปาง...
หัวหิน เกาะล้าน-พัทยา สุราษฯ-เกาะพงัน ราชบุรี-สวนผึ้ง ภูเก็ต คือสถานที่ท่องเที่ยวที่พวกเราได้ไปเที่ยวกันมาในแต่ละปีค่ะ(รู้กันหมดว่าจบมานานแล้ว ><) พอมาถึงปีนี้ราคาตั๋วเครื่องบินลดลงจากเมื่อก่อนมากหากมีโปรโมชั่น พวกเราเลยตัดสินใจไปฮ่องกงกันในช่วง 5-9 ธันวาคมเพราะก่อนหน้ามีเพื่อนติดต้องย้ายที่ทำงาน เลยต้องรอให้ลงตัวซักพัก
สำหรับฮ่องกง-มาเก๊า เราเคยไปในปีที่แล้วกับแฟนและน้องๆ ดังนั้นเราเลยหาข้อมูลและมีข้อมูลติดตัวไว้พอสมควรสำหรับนำเพื่อนๆเที่ยว ข้อมูลก็หาจาก Pantip เป็นหลักนี่แหละค่ะ ... ขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ เราเลยเห็นประโยชน์ของการแชร์ข้อมูล โดยเฉพาะช่วงมืดแปดด้าน พี่พันช่วยได้จริงๆค่ะ แต่สำหรับเรื่องเที่ยวข้อมูลในเว็บมีเยอะแล้ว เราจะขอแชร์ประสบการณ์หรือเหตุการณ์ที่กลุ่มเราได้เจอร่วมกันมาเป็นหลักแทนนะคะ
สรุปเดอะแก๊งค์เราได้ตั๋วโปรหางแดงจาก เชียงใหม่-มาเก๊า ไป 5 กลับ 9 ค่ะ (ปกติเพื่อนๆเราทำงานที่ลำปาง หรือเชียงใหม่กันอยู่แล้วเลยขึ้นที่นี่ค่ะ จองช่วงเดือนสิงหาคม แอบเจ็บที่หางแดงออกรูทเชียงใหม่-ฮ่องกงมาเดือนพฤศจิกายนเล็กน้อย ) จองที่พักช่วง ส.ค. แผนเป็นดังนี้ค่ะ เดินทางถึงมาเก๊า 4 โมงแล้วไปขึ้นเรือไปฮ่องกง พักที่ฮ่องกง 3 คืนที่ mei mei motel และในวันที่ 8 กลับมามาเก๊าพักที่ ole tai sam un และกลับเชียงใหม่วันที่ 9 ไฟล์ท 5 โมงครึ่ง
ปกติเรากับเพื่อนอีกคน จะชอบเตรียมข้อมูลกันไว้ค่ะ อีก 2 คนจะงานยุ่งเลยขออยู่ฝ่ายสนับสนุนเพื่อนเป็นลูกทัวร์ไปค่ะ ช่วงก่อนเดินทางเราก็เตรียมข้อมูลไว้หลายอย่างค่ะ เช่น แผนที่ mei mei ขึ้นรถไฟฟ้าแล้วเดินยังไง ไปทางไหน , mido cafe แผนที่ไปทางไหน สั่งอะไร , เรือฮ่องกงมาเก๊ามีรอบไหน ราคาเท่าไหร่ ท่าเรืออยู่ไหน เราปริ้นท์เตรียมไว้หมดค่ะ ... แต่เราดันลืมเอาแฟ้มนั้นไปเชียงใหม่ เฮ้อ
ดังนั้นเราเลยไปปริ๊นท์ที่เชียงใหม่ แค่ข้อมูลสำคัญๆที่อยู่ในเมลล์ นั่นคือ เมลล์คอนเฟิร์มที่พักทั้ง mei mei และ ole tai sam un สำหรับตั๋วเดินทางเพื่อนอีกคนเตรียมไปค่ะ นอกนั้นไปหาข้อมูลเอาข้างหน้า เพราะซื้อซิม csl จาก hongkongfanclub ไป 3 sim ค่ะ ไว้ต่อ internet แล้วหาข้อมูลเอา
เกริ่นมาซะยาว เริ่มการเดินทางกันเลยนะคะ
การเดินทาง เชียงใหม่ - มาเก๊า ผ่าน ตม. มาเก๊าได้ปกติ หลังจากนั้นเราก็ไปขึ้นเรือ Turbo jet กัน พอถึงฮ่องกงทุกคนเริ่มดี๊ด๊าเพราะทำเวลามาถึงได้เร็วกว่าที่คิดไว้ แต่เหตุมาเกิดที่ ตม. ฮ่องกงค่ะ
เราเข้าแถว ตม. เรียงกัน 4 คนเป็นแถวเดียวกัน อ้อ ลืมบอก กลุ่มเราเป็นผู้หญิง 4 คนค่ะ เพื่อนคนที่ 1 ไปก่อน คนถัดมาเป็นเรา ซึ่งเพื่อนคนนี้เคยเดินทางไปยุโรป จีน นิวซีแลนด์มาก่อน พอเพื่อนคุยกับ ตม. เราพอจะได้ยินบ้าง ว่าเค้าถามมากี่คน พอตอบ 4 with friends ซักพัก ตม. ก็เรียก ตม. ตรงเคาท์เตอร์ด้านหลังมาพาเพื่อนเราไป ... เราก็คิดได้ละว่าโดนตรวจ 4 คนแน่ แต่ไม่ได้กลัวนะคะ ทุกอย่างอธิบายได้อยู่แล้ว
แต่พอถึงคิวเรา คิดว่าเราจะผ่านไหมคะ ... ผ่านค่ะ - - มารู้ทีหลังว่า เค้าเห็นว่าเราเคยมาฮ่องกงแล้ว และเห็นประเทศอื่นๆเลยให้ผ่านค่ะ แต่ของเพื่อนคนแรกเค้าเปิดไปไม่ถึงค่ะ เราเลยไปรอที่จุด waiting ไม่ไกลจากจุดที่เพื่อนถูกกักตัวไว้ค่ะ และแน่นอนอีกสองสาวที่เป็นพาสปอร์ตเล่มใหม่โดนกักเช่นกันค่ะ
เราเลยสังเกตเห็นว่า มีคนไทยทั้งหมด 5 กลุ่ม ที่ถูกกักไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนหญิงล้วนแบบเรา กลุ่มที่มากับเพื่อนและคุณแม่ที่เป็นหญิงล้วนเช่นกัน คนที่มากับแฟน หรือน้องที่มากับเพื่อนแต่ถูกกักไว้คนเดียว ตม.เค้าก็แบ่งไปตรวจแต่ละกลุ่ม สำหรับกลุ่มเราเค้าไปเริ่มไปคุยกับเพื่อนๆว่ามากี่คน พอเพื่อนบอก 4 คนแล้วหันมาทางเรา เราเลยรีบยกมือแล้วเดินเข้าไปหาค่ะ บทสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ แปลแล้วจะประมาณนี้ค่ะ
ตม. : มากี่คืน
กลุ่มเรา : 3 คืนที่ฮ่องกง
ตม. : ขอบุ๊คกิ้งที่พักด้วย ... เรายื่นให้
ตม. : ขอตั๋วกลับด้วย
กลุ่มเรา : เราจะกลับไปพักมาเก๊าในคืนที่ 4 ดังนั้นตั๋วเราจะออกจากมาเก๊านะคะ ... เรายื่นตั๋วให้
หลังจากนั้นเค้าก็ไปหาข้อมูลซักพักค่ะ
ตม. : พวกคุณมีเครดิตการ์ด กับเงินที่เตรียมจะใช้จ่ายที่นี่ไหม ขอดูหน่อย
กลุ่มเรา : ก็เอากระเป๋าเงินเปิดให้ดูพร้อมเครดิตการ์ดค่ะ ตอนนั้นแลกไปกันเฉลี่ยคนละประมาณ 7-8 พัน HKD ค่ะ เค้าก็ดูผ่านๆของแต่ละคนนะคะ
ตม. : พวกคุณทำอาชีพอะไรกัน
กลุ่มเรา : บัญชี หมอ สัตวแพทย์ และคุณครูค่ะ
ซักพัก ตม. ก็ปล่อยกลุ่มเรา และกลุ่มถัดๆไปค่ะ
จากเหตุการณ์นี้ เราสรุปให้เป็นข้อๆนะคะ
1. อย่าลืมพิมพ์เอกสารสำคัญ เพื่อเป็นหลักฐานการท่องเที่ยวของเราค่ะ ทั้งที่พักและตั๋วเดินทาง
2. เตรียมบทสนทนามาบ้าง เพื่อให้การพูดคุยสามารถโต้ตอบกันได้นะคะ
3. เวลาไปกันหลายๆคน ให้ดูแลกันด้วยนะคะ อย่างน้องผู้หญิงที่โดนกักตัวไว้คนเดียว เพราะเพื่อนๆผ่าน ตม. ก่อนหน้าและเอกสารก็อยู่กับเพื่อนหมด โดนตรวจนานเหมือนกันค่ะ อีกกลุ่มนึงเลยมาช่วยน้องแปลบ้าง เวลาสนทนาค่ะ หรือจะซีร็อกซ์เอกสารสำคัญไว้กับตัวเองก็เป็นอีกทางเลือกนะคะ
หลังจากนั้นเราก็เดินทางเข้าที่พัก และเที่ยวกันไว้ตามแพลนค่ะ ... อย่างที่บอกนะคะ ว่าจะไม่ได้อธิบายถึงข้อมูลเที่ยวซักเท่าไหร่ แต่จะสรุปจากประสบการณ์ส่วนตัวไว้ให้เล็กน้อยนะคะ
1. ค่าแท็กซี่จากท่าเรือเกาลูนมา mei mei ไม่เกินร้อยเหรียญ รวมค่ากระเป๋าใบละ 5 HKD แล้ว หากมาหลายคน taxi เป็นอีกหนึ่งทางเลือกค่ะ
2. ถ้าบอก sincere building taxi ไม่เข้าใจค่ะ ทางที่ดีพิมพ์แผนที่มา อย่างเราแคปหน้าจอไว้แล้วยื่นให้เค้าดูเค้าถึงจะเก็ท เหมือนเค้าบอกเราว่า ถ้าพูด sincere เค้าไม่รู้
3. ที่พักแถวนั้นสะดวกดีค่ะ ใกล้สถานที่ชอปปิ้งมาก คือลงมาแล้วเจอเลย และที่สำคัญปิดดึกประมาณ 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืน ดังนั้นหากใครมีแผนไปเที่ยวที่อื่น แล้วกลับมาช็อปแถวที่พักสะดวกมากค่ะ แต่หากได้ห้องติดหน้าต่าง อาจมีหนวกหูเสียงแตรรถบ้าง
4. กระเช้านองปิงเปิด 10 โมง ไปถึงซัก 9 โมงนิดๆค่ะ หากไม่ได้จองผ่าน internet และไปวันธรรมดาคิวจะไม่ยาวมากแถมเดินเช้าหน่อย อากาศดีค่ะ
5. ดิสนีย์แลนด์มีล็อคเกอร์ฝากของ ขนาดเล็ก 60 และขนาดใหญ่ 80 HKD ค่ะ เป็นราคาเหมาทั้งวัน อยู่แถวๆร้าน Bakery ถ้าใครแอบช็อปที่ city gate เอามาไว้ล็อคเกอร์นี้ได้ค่ะ
6. เครื่องสำอางค์ราคาแต่ละร้านแตกต่างกันไป บางอย่างร้านนี้ถูกกว่า บางอย่างแพงกว่า หากมีเวลาเดินสำรวจซักนิดแล้วเก็บทีละร้านค่ะ 555
7. รองเท้า new balance outlet หารุ่นใส่เที่ยวยากแถมไซส์ไม่ค่อยมี ที่ชอปมงก๊กก็ไม่ค่อยมีรุ่นที่อยากได้ เลยไปซื้อที่ habour city ค่ะ 574 590 HKD และ 996 690 HKD ค่ะ
8. ขนมที่ซื้อฝาก ส่วนใหญ่เราซื้อฝากสาวๆออฟฟิศที่ okashi land เป็นร้านขนมที่มีอยู่สถานีรถไฟฟ้าเท่าที่เห็นมีที่ มงก๊ก tungchung central แล้วก็ที่ห้างที่ท่าเรือเกาลูนก็มีค่ะ จะเป็นพวกโคลอนทาร์ตไข่ เพรซรสเป๋าฮื้อ รสหูฉลาม เป็นกล่องใหญ่ในกล่องมี 12 กล่องเล็ก
9. การต่อราคาที่มงก๊ก เป็นไปตามที่หาข้อมูลคือพยายามต่อราคา หรือเดินหนี อย่างเพื่อนเรา ต่อราคากระเป๋าจาก 220 HKD เหลือ 120 HKD แค่ยืนถามราคา ทำหน้าไม่อยากได้ ซักแปบเดินหนีอย่างช้าๆก็จะได้ตามราคาที่เราต่อแต่ถ้าต่อมากเกินครึ่งอาจไม่ได้ก็มีโอกาสค่ะ