ผมเห็นดาบตำรวจสองคน ถูกใส่ร้ายข่มขืนผู้ต้องหาหญิง สู้กันสามศาลแพ้ติดคุก ในที่สุดฝ่ายหญิงบอกไม่ได้โดน วันนี้ตาสว่างเลย

ตาสว่างที่ว่า ระบบของเรา เหมือนเอาความเชื่อ เอาสื่งที่พูดต่อๆกันมา มานำหน้าเหตุผล
และหลักการข้อเท็จจริง จนมากเกินเหตุผล ที่ถูกต้องหรือเปล่า

ดาบตำรวจ สองคนนั้น ถูกตัดสินเด็ดขาด ให้ติดคุกเป็นสิบปี ตอนนี้ยังออกมาไม่ได้เลย ทั้งที่ผู้ต้อง
หาหญิงก็ถูกฟ้องติดคุกในเรือนจำไปแล้ว

จน DSI สงสารตำรวจสอคนนั่น ที่ไม่ได้รับความยุติธรรม ต้องหาทางให้กลับไปพิจารณาใหม่ ซึ่ง
ก็ไม่รู้เมื่อไร จะได้ถูกปล่อยตัว

แปลกไหม ว่า ผ่านมาได้ไง จนคดีถึงที่สุด โดยไม่มีระดับไหนเอะใจว่า ผู้ต้องหาทำผิดจริงหรือไม่
จนในที่สุด เจ้าตัวผู้ต้องหาหญิงสำนึกผิด ออกมาสารภาพว่าไปใส่ร้ายตำรวจสองคนนั่น จนถูก
ตัดสินติดคุกไปอีกคนโทษฐานหลอกให้การเท็จ  ก็แปลกนะ แทนที่จะตัดสินลงโทษตัวเอง ที่ทำหน้า
ที่ผิด ถูกหลอก กลับไปตัดสินคนอื่นผิดไปอีกคน แล้วพวกตัวเองไม่ถูกลงโทษบ้างหรือ

แล้วถ้าเป็นคดีที่ต้องถูกสั่งประหารชีวิตล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น กับ ดาบตำรวจสองคนนั่น กับสิ่งที่ตัวเอง
ได้ตัดสินลงไป

ผมเลยสงสัยว่า เป็นเพราะ เอาความรู้สึก มาใช้ มากกว่าเอาเหตุผล หรือเปล่า ! ระบบมันถึงได้ผิดเพี้ยนกัน
ขนาดนี้

เช่นเดียวกัน คนที่ทำผิด หนีหมายจับด้วยข้อหาร้ายแรง  จนในที่สุด ถูกรวบตัว ส่งฟ้อง
ซึ่งโดยปรกติ จะไม่ให้ประกัน เพราะผู้ต้องหามีพฤติกรรมจงใจหลบหนีคดีความ โทษ
มักจะไม่ค่อยได้ลดหย่อนด้วย แต่สิ่งที่เกิดวันนี้ ผมว่า มันจะทำให้ คนจะไม่ศรัทธาและ
ไม่ไว้วางใจอีกต่อไป ด้วยเหตุที ข้อเท็จจริง กับการกระทำ มันสวนทางกัน

ข่าวสาร ก็มีให้เห็น กรอกหู กรอกตา ว่าความจริงมันคืออะไร ไม่ว่า ในรถ ที่บ้าน ถ้าเปิดวิทยุ
ดูทีวี ก็เห็นว่า พบกกฎบมีใครบ้าง กำลังทำอะไร ถ่ายทำอย่างกับ รายการเรียลริตี้ออกอย่างนั้น
มีแต่คนหูหนวก ตาบอกที่จะไม่เห็นว่า พวกที่ถูกออกหมายจับกำลังมีพฤติการอย่างไร
แต่เหมือนกลับเพิกเฉยต่อการที่ต้องทำหน้าที่ให้เที่ยงตรง เหมือนมองไม่เห็นว่ากำลังมีอะไรเกิด
ขึ้นในสังคม แล้วเมื่อถูกต่อต้าน จะมาโทษใครก็ไม่ได้

การกระทำให้ระบบมันมีความเที่ยงธรรม นั่นคือหลักการ ผมว่าถ้าทำไปอย่างตรงไปตรงมาสังคม
เขารับได้ แต่ต้องมีเหตุผลหนักแน่นพอ ตอบคำถามสังคมให้ได้

ถ้าทำด้วยความเที่ยงตรงแล้วถูกอีกฝ่ายตราหน้าว่าเลือกข้าง ถ้าตอบสังคมได้ก็จบ แต่นี่เท่าที่ผมดู
อย่าว่าแต่สังคมเลย ตอบคำถามในใจตัวเองยังไม่ถูกเลยมั๊ง

ต่อไป ใครๆ ก็ต้องมีสิทธิ์ในการละเมิดได้เหมือนกันใช่ไหม แล้วบ้านเมือง มันจะอยู่กันอย่างไร ?
จะเอาแบบใครใหญ่ ใครมีอำนาจ ฟังคนนั้นใช่ไหม

แบบนี้ ก็แบบ ปากีสถานไง มีปืนพกติดตัวกัน   วันๆ ก็งัดออกมายิงขึ้นฟ้าประกาศศักดา จะได้ไม่มี
ใครกล้ายุ่ง ตำรวจยังไม่กล้าเลย แบบนั้น งานแต่งก็งัดปืนกลหนัก เบา ยิงฉลองกันสนุกสนาน เอาไหม

แทนที่จะจัดระเบียบสังคมให้เรียบร้อย อย่างน้อยไม่ซ้ำให้มันแย่กว่านี้ นี่กลับส่งท้ายเข้าให้อีก คิด
หรือว่า สิ่งที่ทำมันจะช่วยให้อีกฝั่ง ถึงที่หมาย ผมว่าไม่มีทาง !

พยายามจะทำตัวเป็นนักรัฐศาสตร์หรืออย่างไร อย่าเลย เรามีมากพอแล้ว เรามีนักรัฐศาตร์อย่างสุเทพ
ที่กำลังก่อกบฎ แค่นี้ก็ทำสังคมวุ่นวายพอแล้ว อย่าทำตัวเป็นนักปกครองเลย มันไม่ใช่หน้าที่พวกคุณ

จงทำหน้าที่ของคุณให้เที่ยงตรง บริสุทธิ์ ทำให้วงการนี้มันดูมีเกียรต์ มีศักศรีกับเขาบ้าง ไม่งั้น
จะไม่มีใครเกรงกลัวพวกคุณอีกต่อไป เพราะสิ่งที่คุณทำ มันไปทำลายความเชื่อถือพวกคุณเอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่