หลังจากทำบุญตักบาตเจ้าของกระทู้ว่างมาก เลยอยากโพตส์คลิป
เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แกาผู้รักการออกกำลังกายจ้า







เมื่อได้แรงบัลดาลใจแล้ว ป่ะ ปฎิบัติกัน






ชอบแบบไหนก็เลือกกันได้เลยจ้า เพื่อหุ่นที่สวยงาม
BMI (สูงเท่ากัน หนักเท่ากัน หุ่นดีต่างกันฟ้ากับเหว)
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก สาเหตุหลักก็คือการไม่เข้าใจว่าคนเราไม่ได้ต้องควรลดน้ำหนัก
แต่ควรลดไขมัน ลองดู 2 คนในภาพ น้ำหนักเท่ากันส่วนสูงก็เท่ากันหุ่นแต่หุ่นและสุขภาพไม่เหมือนกัน สิ่งที่แตกต่างของทั้งสองคนก็คือ ไขมัน
-นายล่ำหนัก 125 กิโลกรัม มีไขมัน 2 % = มีไขมันในร่างกาย 2 กิโลกรัม มีน้ำหนักของส่วนที่เหลือ(lean body mass) = 123 กิโลกรัม
สามารถเผาผลาญได้วันละ 4,000 แคลอรี่
-นายอ้วนนั้นหนัก 125 กิโลกรัมเช่นกัน มีไขมัน 40 % = มีไขมัน 50 กิโลกรัม มีน้ำหนักที่เหลือ 75 กิโลกรัม
เผาผลาญพลังงานได้วันละ แค่ 2,400 แคลลอรี่เป็นต้น
ดังนั้นถ้า 2 คนนี้กินเท่ากันวันละ 4,000 แคลอรี่ ก็ไม่ทำให้นายล่ำอ้วนขึ้นได้แม้แต่กรัมเดียว แต่ทำให้นายอ้วน อ้วนเอาอ้วนเอา
ฉะนั้นจริงๆแล้วนายอ้วนจึงเผาผลาญได้ใกล้เคียงกับคนอย่างนายล่ำที่น้ำหนักเพียง 75 กิโลกรัมเท่านั้น แต่ไขมันที่เพิ่มขึ้นมา 50 กิโลกรัมนั้น ให้นึกภาพนายล่ำหนัก 75 มีดินน้ำมันมาแปะรอบตัว 50 กิโลกรัม
ซึ่งยังมีรายละเอียด ก็ยังมีเรื่อง อายุ เพศ อื่นๆอีกมากมาย
หลายคนจึงประสบปัญหาน้ำหนักก็อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมแต่ทำไมรูปร่างมันถึงได้ใหญ่ ย้วย
ขนาดนี้ก็เพราะเนื่องจากไขมันนั้นมีขนาดใหญ่กว่ากล้ามเนื้อ
การลดน้ำหนักของคนที่ไม่รู้จึงไปโฟกัสที่ ตัวน้ำหนัก ลดได้ 5 กิโลกรัมก็รีบดีใจ หารู้ไม่ว่าน้ำหนัก
ที่ลดไปอาจจะเป็นน้ำในร่างกาย (พวกยาลดความอ้วน ซาวน่า คอร์สเสริมความงาม)
มวลกล้ามเนื้อ(พวกอดอาหาร ออกกำลังกายไม่ถูก กินยา) ซึ่งสุดท้ายก็ไม่พ้นอาการโทรมและน้ำหนักตัวเด้งกลับขึ้นมาสูงกว่าเดิม
การรักษารูปร่างที่ได้ผลจึงอยากแนะนำให้ลดไขมัน (ด้วยการกินอาหารให้ถูก ออกกำลังกายให้ดี )
ซึ่งคุณอาจจะน้ำหนักเท่าเดิม แต่รับรองว่ารูปร่างและสุขภาพของคุณจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
อย่าไปหลงดีใจกับน้ำหนักที่ลดลงอย่างผิดๆแล้วทำให้ร่างกายเราโทรม แถมเสียทั้งเงินและได้ไขมันเด้งกลับขึ้นมามากกว่าเดิมนะคร้าบ
Credit : Ez2fit
หาแรงบันดาลใจอย่าให้ใครมาดูถูกเรา ว่าเราทำไม่ได้
คลิปสร้างแรงบันดาลใจ
เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แกาผู้รักการออกกำลังกายจ้า
เมื่อได้แรงบัลดาลใจแล้ว ป่ะ ปฎิบัติกัน
ชอบแบบไหนก็เลือกกันได้เลยจ้า เพื่อหุ่นที่สวยงาม
BMI (สูงเท่ากัน หนักเท่ากัน หุ่นดีต่างกันฟ้ากับเหว)
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก สาเหตุหลักก็คือการไม่เข้าใจว่าคนเราไม่ได้ต้องควรลดน้ำหนัก
แต่ควรลดไขมัน ลองดู 2 คนในภาพ น้ำหนักเท่ากันส่วนสูงก็เท่ากันหุ่นแต่หุ่นและสุขภาพไม่เหมือนกัน สิ่งที่แตกต่างของทั้งสองคนก็คือ ไขมัน
-นายล่ำหนัก 125 กิโลกรัม มีไขมัน 2 % = มีไขมันในร่างกาย 2 กิโลกรัม มีน้ำหนักของส่วนที่เหลือ(lean body mass) = 123 กิโลกรัม
สามารถเผาผลาญได้วันละ 4,000 แคลอรี่
-นายอ้วนนั้นหนัก 125 กิโลกรัมเช่นกัน มีไขมัน 40 % = มีไขมัน 50 กิโลกรัม มีน้ำหนักที่เหลือ 75 กิโลกรัม
เผาผลาญพลังงานได้วันละ แค่ 2,400 แคลลอรี่เป็นต้น
ดังนั้นถ้า 2 คนนี้กินเท่ากันวันละ 4,000 แคลอรี่ ก็ไม่ทำให้นายล่ำอ้วนขึ้นได้แม้แต่กรัมเดียว แต่ทำให้นายอ้วน อ้วนเอาอ้วนเอา
ฉะนั้นจริงๆแล้วนายอ้วนจึงเผาผลาญได้ใกล้เคียงกับคนอย่างนายล่ำที่น้ำหนักเพียง 75 กิโลกรัมเท่านั้น แต่ไขมันที่เพิ่มขึ้นมา 50 กิโลกรัมนั้น ให้นึกภาพนายล่ำหนัก 75 มีดินน้ำมันมาแปะรอบตัว 50 กิโลกรัม
ซึ่งยังมีรายละเอียด ก็ยังมีเรื่อง อายุ เพศ อื่นๆอีกมากมาย
หลายคนจึงประสบปัญหาน้ำหนักก็อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมแต่ทำไมรูปร่างมันถึงได้ใหญ่ ย้วย
ขนาดนี้ก็เพราะเนื่องจากไขมันนั้นมีขนาดใหญ่กว่ากล้ามเนื้อ
การลดน้ำหนักของคนที่ไม่รู้จึงไปโฟกัสที่ ตัวน้ำหนัก ลดได้ 5 กิโลกรัมก็รีบดีใจ หารู้ไม่ว่าน้ำหนัก
ที่ลดไปอาจจะเป็นน้ำในร่างกาย (พวกยาลดความอ้วน ซาวน่า คอร์สเสริมความงาม)
มวลกล้ามเนื้อ(พวกอดอาหาร ออกกำลังกายไม่ถูก กินยา) ซึ่งสุดท้ายก็ไม่พ้นอาการโทรมและน้ำหนักตัวเด้งกลับขึ้นมาสูงกว่าเดิม
การรักษารูปร่างที่ได้ผลจึงอยากแนะนำให้ลดไขมัน (ด้วยการกินอาหารให้ถูก ออกกำลังกายให้ดี )
ซึ่งคุณอาจจะน้ำหนักเท่าเดิม แต่รับรองว่ารูปร่างและสุขภาพของคุณจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
อย่าไปหลงดีใจกับน้ำหนักที่ลดลงอย่างผิดๆแล้วทำให้ร่างกายเราโทรม แถมเสียทั้งเงินและได้ไขมันเด้งกลับขึ้นมามากกว่าเดิมนะคร้าบ
Credit : Ez2fit
หาแรงบันดาลใจอย่าให้ใครมาดูถูกเรา ว่าเราทำไม่ได้