เราซื้อที่นอนหลังนี้เมื่อปีที่แล้วค่ะ ประมาณต้นปี ก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกซื้อยี่ห้อนี้เราก็เดินเลือกอยู่นาน ดูหลายยี่ห้อ และก็เดินดูหลายที่มาก ที่นอนแต่ละรุ่นจะจัดทำมาเฉพาะ บางห้างอาจจะไม่มีขายบางรุ่น (อันนี้ที่เราเข้าใจนะคะ เพราะที่นอนบางรุ่นไม่วางขายในบางห้าง คล้ายๆกับว่าคนละกลุ่มลูกค้า) เราจะของเรียกยี่ห้อนี้สั้นๆ ว่า slum นะคะ
ส่วนตัวเราเป็นคนชอบนอนที่นอน แน่น ๆ คะ เดินเลือกที่นอนเป็นเดือนๆ กว่าจะได้ถูกใจ เพราะที่นอนส่วนใหญ่จะเน้นไปทางนุ่มๆ สุดท้ายเราก็ได้ ยี่ห้อ slum รุ่น relaxy เราซื้อที่นอนหลังนี้มาจากโรงงาน slum โดยตรง (เราไม่รู้ว่านี้มันคือข้อผิดพลาดของเราหรือเปล่าที่ซื้อที่นอนหลังนี้มาจากโรงงาน เพราะมันคือตัว test ) ราคาที่นอนที่เราซื้อต่างจากของใหม่ แค่ 1000 บาท ขอย้ำแค่ 1000 บาท หลายคนคงถามว่าทำไมถึงไม่ซื้อที่ห้าง คำตอบคือ ที่ห้างไม่สามารถส่งของเราได้เลย ต้องรอประมาณ 2 -3 อาทิตย์กว่า ซึ่งเราไม่สามารถรอได้ เพราะเราไม่มีที่นอนจะนอน (เพิ่งย้ายเข้าคอนโดใหม่) แต่ที่นี้ส่งได้เร็วกว่า นั้นคืออีกเหตุผลในการตัดสินซื้อ และก่อนที่เราจะซื้อ เราถามพนักงานขายเกี่ยวกับเรื่องของคุณภาพ ซึ่งทางพนักงานบอกว่า คุณภาพไม่ได้ต่างจากตัวที่ขายในห้าง และการรับประกันก็เหมือนกับตัวในห้างทุกอย่าง และนั้นก็ทำให้เราตัดสินใจซื้อ (ซึ่งเพิ่งมารู้ว่าตัดสินใจผิดก็วันนี้)
จากวันที่ซื้อจนถึงวันนี้ เป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี ที่นอนที่เรานอนก็เกิดการยุบตัว( ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เรานอนคนเดียว) เราขอเท้าความถึงที่นอนที่บ้าน ที่บ้านเราใช้ที่นอนยี่ห้อ Sealy 2 หลัง และ มี 2 หลังที่เป็นยี่ห้อ โนเนม ที่นอนทั้ง 4 หลังที่เราซื้อมา ไม่เคยมีปัญหาที่นอนยุบตัว แม้กระทั้งหลังที่มีราคา เพียงแค่ 3500 บาท
เบื้องต้นเราแก้ปัญหาโดยการกลับที่นอนมานอนอีกด้าน มันก็ดีขึ้นสักระยะนึง แล้วมันก็ยุบตัวอีก เอาล่ะว้า.... คราวนี้ยุบทั้งสองด้านจะทำยังไง ก็เลยต้องหาวิธีนอนใหม่ เช่น เขยิบไปนอนขอบๆเตียงทียังไม่มีการยุบ (นอนมันจนกระทั้งยุบตัวทั้งตรงกลางและทั้งขอบ) จนปัจจุบันนี้ ไม่เหลือที่ให้นอนแล้วค่ะ เพราะที่นอนมันนิ่มหมดทั้งหลังแล้วคะ
หลังจากเราพบว่าที่นอนเรายุบ เราก็โทรไปเคลมกับทาง slum ในวันที่ 20 มกราคม 2557 จนถึงปัจจุบัน ทาง slum ก็ยังไม่ได้จัดการอะไรให้เราเลย มีแค่โทรมาสอบถามอาการ( เราอยากจะบอกว่าอย่าถามอาการที่นอนเลยค่ะ ถามอาการปวดหลังเราดีกว่า) เราจะเล่าขั้นตอนในการเคลมที่นอนให้ฟังนะคะ
ครั้งแรกโทรไปที่ Slum ( เบอร์หาได้จากทางเว็ปค่ะ ) โทรไปมีจะเจ้าหน้าที่รับ เจ้าหน้าที่จะส่งฟอร์มมาให้กรอกค่ะ พอกรอกเสร็จก็ส่งเอกสารไปให้พนักงาน โดยจะเป็นทางแฟกซ์ หรือไม่ก็ทางเมลล์ เราเลือกที่จะส่งทางแฟกซ์ค่ะ หลังจากที่เราส่งเสร็จ วันรุ่งขึ้นเราก็โทรสอบถามว่าได้รับเรื่องเรามั๊ย สรุปว่า พนักงานตอบว่า ไม่มี เราก้เลยบอกว่าเดี๋ยวเราส่งใหม่ (ตอนนั้นเราคิดแล้วว่า งานจะเข้าไหมเนี่ยะ ขนาดส่งแฟกซ์ ยังไม่ได้รับ มันประเมินความใส่ใจลูกค้าได้เลย) เราเลยส่งอีกรอบแล้วโทรถามเดี๋ยวนั้นเลยว่าได้รับหรือเปล่า สรุปว่าได้รับ แล้วเราก็สอบถามว่าทางบริษัทจะพิจารณาเรื่องของเราเมื่อไหร่ พนักงานตอบว่าประมาณ 3 อาทิตย์ (เราถึงขั้นตกใจ เคลมที่นอนใช้เวลาตั้ง 3อาทิตย์ แล้วหลังตรูจะไหวมั๊ย ปวดร้าวแทนหลัง ) ประมาณ 2 อาทิตย์ มีเจ้าหน้าที่โทรมาสอบถามอาการของที่นอน เราก็เล่าไปให้ฟังว่ามันเกิดอะไรยังไง แล้วเค้าก็บอกว่าเค้ารับเรื่องไว้แล้วจะรีบดำเนินการให้ โดยการเปลี่ยนที่นอนหลังใหม่ให้เราเลย (เราก็ดีใจที่จะได้ที่นอนหลังใหม่ แต่นึกอีกที แล้วมันจะยุบตัวเหมือนเดิมหรือเปล่า) จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ทุกอย่าง เงียบบบบบ........ ตอนนี้ เราซื้อที่นอนปิคนิคมาปูพื้นนอนก่อนค่ะ เพราะไม่สามารถนอนที่นอน slum ได้อีกแล้วค่ะ ปวดหลังเหลือเกิน
เรื่องที่จะเล่าก็มีเท่านี้ค่ะ
ปล. ตอนที่เรามีปัญหา มีคนในนี้พยายามช่วยเราตามเรื่องให้ค่ะ ชื่อนามแฝง ekaluk ขอบคุณนะคะ
ปล.ถ้าใครที่ใช้ยี่ห้อนี้อยู่แล้วยินดีกับคุณภาพ เราก็ยินดีด้วยค่ะ อันนี้เรามาเล่าประสบการณืส่วนตัวให้ฟังค่ะ
คคสต เราว่าการบริการของบริษัทนี้ยังต้องปรับปรุงค่ะ ส่วนเรื่องที่นอนเราให้คุณภาพต่ำกว่าราคาค่ะ เราซื้อที่นอนหลังนี้มาเกือบ 2 หมื่น ราคานี้ไม่ได้เรียกว่าแพงแต่ก็ไม่ได้ถูก เมื่อเทียบกับยี่ห้ออีกหลายๆยี่ห้อ ที่นอนยี่ห้อ slum จะเป็นหลังแรกและหลังสุดท้ายสำหรับเราค่ะ (ที่บ้านเราเคยบอกให้เราซื้อยี่ห้ออื่นตั้งแต่แรกแล้ว แต่เราไม่เชื่อเอง กรรมของเรา)
เราไม่ได้มีเจตนาที่จะมา discredit ยี่ห้อใดๆ ทั้งสิ้นนะคะ มาจากประสบการณ์ล้วนๆ
แชร์ประสบการณ์การซื้อและเคลมที่นอนยี่ห้อ Slumberland ให้ฟังค่ะ
ส่วนตัวเราเป็นคนชอบนอนที่นอน แน่น ๆ คะ เดินเลือกที่นอนเป็นเดือนๆ กว่าจะได้ถูกใจ เพราะที่นอนส่วนใหญ่จะเน้นไปทางนุ่มๆ สุดท้ายเราก็ได้ ยี่ห้อ slum รุ่น relaxy เราซื้อที่นอนหลังนี้มาจากโรงงาน slum โดยตรง (เราไม่รู้ว่านี้มันคือข้อผิดพลาดของเราหรือเปล่าที่ซื้อที่นอนหลังนี้มาจากโรงงาน เพราะมันคือตัว test ) ราคาที่นอนที่เราซื้อต่างจากของใหม่ แค่ 1000 บาท ขอย้ำแค่ 1000 บาท หลายคนคงถามว่าทำไมถึงไม่ซื้อที่ห้าง คำตอบคือ ที่ห้างไม่สามารถส่งของเราได้เลย ต้องรอประมาณ 2 -3 อาทิตย์กว่า ซึ่งเราไม่สามารถรอได้ เพราะเราไม่มีที่นอนจะนอน (เพิ่งย้ายเข้าคอนโดใหม่) แต่ที่นี้ส่งได้เร็วกว่า นั้นคืออีกเหตุผลในการตัดสินซื้อ และก่อนที่เราจะซื้อ เราถามพนักงานขายเกี่ยวกับเรื่องของคุณภาพ ซึ่งทางพนักงานบอกว่า คุณภาพไม่ได้ต่างจากตัวที่ขายในห้าง และการรับประกันก็เหมือนกับตัวในห้างทุกอย่าง และนั้นก็ทำให้เราตัดสินใจซื้อ (ซึ่งเพิ่งมารู้ว่าตัดสินใจผิดก็วันนี้)
จากวันที่ซื้อจนถึงวันนี้ เป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี ที่นอนที่เรานอนก็เกิดการยุบตัว( ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เรานอนคนเดียว) เราขอเท้าความถึงที่นอนที่บ้าน ที่บ้านเราใช้ที่นอนยี่ห้อ Sealy 2 หลัง และ มี 2 หลังที่เป็นยี่ห้อ โนเนม ที่นอนทั้ง 4 หลังที่เราซื้อมา ไม่เคยมีปัญหาที่นอนยุบตัว แม้กระทั้งหลังที่มีราคา เพียงแค่ 3500 บาท
เบื้องต้นเราแก้ปัญหาโดยการกลับที่นอนมานอนอีกด้าน มันก็ดีขึ้นสักระยะนึง แล้วมันก็ยุบตัวอีก เอาล่ะว้า.... คราวนี้ยุบทั้งสองด้านจะทำยังไง ก็เลยต้องหาวิธีนอนใหม่ เช่น เขยิบไปนอนขอบๆเตียงทียังไม่มีการยุบ (นอนมันจนกระทั้งยุบตัวทั้งตรงกลางและทั้งขอบ) จนปัจจุบันนี้ ไม่เหลือที่ให้นอนแล้วค่ะ เพราะที่นอนมันนิ่มหมดทั้งหลังแล้วคะ
หลังจากเราพบว่าที่นอนเรายุบ เราก็โทรไปเคลมกับทาง slum ในวันที่ 20 มกราคม 2557 จนถึงปัจจุบัน ทาง slum ก็ยังไม่ได้จัดการอะไรให้เราเลย มีแค่โทรมาสอบถามอาการ( เราอยากจะบอกว่าอย่าถามอาการที่นอนเลยค่ะ ถามอาการปวดหลังเราดีกว่า) เราจะเล่าขั้นตอนในการเคลมที่นอนให้ฟังนะคะ
ครั้งแรกโทรไปที่ Slum ( เบอร์หาได้จากทางเว็ปค่ะ ) โทรไปมีจะเจ้าหน้าที่รับ เจ้าหน้าที่จะส่งฟอร์มมาให้กรอกค่ะ พอกรอกเสร็จก็ส่งเอกสารไปให้พนักงาน โดยจะเป็นทางแฟกซ์ หรือไม่ก็ทางเมลล์ เราเลือกที่จะส่งทางแฟกซ์ค่ะ หลังจากที่เราส่งเสร็จ วันรุ่งขึ้นเราก็โทรสอบถามว่าได้รับเรื่องเรามั๊ย สรุปว่า พนักงานตอบว่า ไม่มี เราก้เลยบอกว่าเดี๋ยวเราส่งใหม่ (ตอนนั้นเราคิดแล้วว่า งานจะเข้าไหมเนี่ยะ ขนาดส่งแฟกซ์ ยังไม่ได้รับ มันประเมินความใส่ใจลูกค้าได้เลย) เราเลยส่งอีกรอบแล้วโทรถามเดี๋ยวนั้นเลยว่าได้รับหรือเปล่า สรุปว่าได้รับ แล้วเราก็สอบถามว่าทางบริษัทจะพิจารณาเรื่องของเราเมื่อไหร่ พนักงานตอบว่าประมาณ 3 อาทิตย์ (เราถึงขั้นตกใจ เคลมที่นอนใช้เวลาตั้ง 3อาทิตย์ แล้วหลังตรูจะไหวมั๊ย ปวดร้าวแทนหลัง ) ประมาณ 2 อาทิตย์ มีเจ้าหน้าที่โทรมาสอบถามอาการของที่นอน เราก็เล่าไปให้ฟังว่ามันเกิดอะไรยังไง แล้วเค้าก็บอกว่าเค้ารับเรื่องไว้แล้วจะรีบดำเนินการให้ โดยการเปลี่ยนที่นอนหลังใหม่ให้เราเลย (เราก็ดีใจที่จะได้ที่นอนหลังใหม่ แต่นึกอีกที แล้วมันจะยุบตัวเหมือนเดิมหรือเปล่า) จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ทุกอย่าง เงียบบบบบ........ ตอนนี้ เราซื้อที่นอนปิคนิคมาปูพื้นนอนก่อนค่ะ เพราะไม่สามารถนอนที่นอน slum ได้อีกแล้วค่ะ ปวดหลังเหลือเกิน
เรื่องที่จะเล่าก็มีเท่านี้ค่ะ
ปล. ตอนที่เรามีปัญหา มีคนในนี้พยายามช่วยเราตามเรื่องให้ค่ะ ชื่อนามแฝง ekaluk ขอบคุณนะคะ
ปล.ถ้าใครที่ใช้ยี่ห้อนี้อยู่แล้วยินดีกับคุณภาพ เราก็ยินดีด้วยค่ะ อันนี้เรามาเล่าประสบการณืส่วนตัวให้ฟังค่ะ
คคสต เราว่าการบริการของบริษัทนี้ยังต้องปรับปรุงค่ะ ส่วนเรื่องที่นอนเราให้คุณภาพต่ำกว่าราคาค่ะ เราซื้อที่นอนหลังนี้มาเกือบ 2 หมื่น ราคานี้ไม่ได้เรียกว่าแพงแต่ก็ไม่ได้ถูก เมื่อเทียบกับยี่ห้ออีกหลายๆยี่ห้อ ที่นอนยี่ห้อ slum จะเป็นหลังแรกและหลังสุดท้ายสำหรับเราค่ะ (ที่บ้านเราเคยบอกให้เราซื้อยี่ห้ออื่นตั้งแต่แรกแล้ว แต่เราไม่เชื่อเอง กรรมของเรา)
เราไม่ได้มีเจตนาที่จะมา discredit ยี่ห้อใดๆ ทั้งสิ้นนะคะ มาจากประสบการณ์ล้วนๆ