แฮ่ๆ ไม่รู้ว่ามีคนตั้งไปหรือยังนะคะ
ไม่ปิดบังว่า “อินเลิฟ” แต่ไม่เคยโชว์หวานอวด “คนรัก” ผ่านสื่อบ่อยนัก แต่ด้วยเป็นเดือนแห่งความรัก สาวเก่งหัวนอก อย่าง “โบว์ AF5 สาวิตตี สุทธิชานนท์” พร้อมเปิดตัวควงแฟนหนุ่ม “พี่เกรท พรอนันต์ พุ่มแก้ว” นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยคู่รักจูงมือประกาศข่าวดี กับ “ทีมข่าวบันเทิง” มีแพลน “สละโสด” หลังจากใช้เวลาศึกษามาเกือบ 1 ปี ผ่าน “คนดังนั่งคุย”
ทั้งคู่เจอกันได้ยังไง
“โบว์” : เจอกันที่งานแต่งงานของรุ่นพี่โบว์แต่เป็นเพื่อนพี่เกรท เรียนสถาบันพระปกเกล้าด้วยกัน
“เกรท” : น้องเค้าเดินผ่านรู้สึกน้องเค้าสวยจัง เลยเดินเข้าไปขอถ่ายรูป (ยิ้ม)
“โบว์” : มารู้ทีหลังเค้าเคยเจอโบว์มาก่อนหน้านี้ โบว์ไปเดินกับเพื่อนที่ซีดีซี เค้ามาเล่าให้ฟัง ซึ่งโบว์ไม่ได้ไปที่นั่นมาหลายปีแล้วนะ เจอเมื่อไหร่ เล่าซิ เจอได้ยังไง
“เกรท” : วันนั้นผมไปทานกาแฟกับเพื่อน โบว์ เค้าเดินมากับผู้ชายท้วมๆ ตอนนั้นตะลึง รู้สึกปิ๊ง รักแรกพบเลย จริงๆผมชื่นชอบน้องตั้งแต่โบว์ยังอยู่บ้าน AF แล้ว
“โบว์” : ตอนเจอที่งานแต่งก็ไม่ได้คุยก็นึกว่าเค้ามาขอถ่ายรูปปกติ
“เกรท” : วันนั้นโบว์เด่นมากผู้ชายขอถ่ายรูปตลอดเวลา รู้สึกชื่นชมว่าน้องคนนี้เป็นขวัญใจหนุ่มๆ ตอนนั้นยังไม่ได้เดินหน้าจีบแค่ชื่นชม เลยขอมีรูปคู่หน่อยเป็นที่ระลึก (ยิ้ม)
“โบว์” : ทุกวันนี้เค้ายังไม่กล้าโชว์รูปคู่ ยังนั่งเถียงกันเองวันนั้นโบว์ใส่ชุดอะไรเค้าก็ปิดหน้าที่รูปให้ดูแต่ชุดไม่รู้อายอะไร
จุดเริ่มต้นที่ทำให้โบว์–เกรทคุยกัน
“โบว์” : ไปงานแต่งแล้วมีพี่ที่สนิทบอกว่ามีเพื่อนเค้าปลื้มโบว์มาก ในใจโบว์ไม่ชอบผู้ชายอย่ามารุก เข้ามาจีบเยอะๆ จะอคติเลย แต่พอพี่บอกผู้ชายคนนี้นะ พี่เกรทเค้าดูขี้อายมาก ตอนแรกนึกว่าจะวางตัวกร่างๆ ตอนที่นัดกินข้าวยังนึกเลยถ้ามาจีบยังไม่อยากไป แต่ถ้าเป็นกินข้าวกลุ่มใหญ่ๆ ล่ะได้ จริงๆโบว์ไม่ชอบการจงใจเพื่อจับคู่ เพื่อนในกลุ่มรู้ว่าโบว์เรื่องเยอะมากและไม่เปิดโอกาสให้ใครง่ายๆ แต่โบว์เชื่อเรื่องพรหมลิขิต อะไรจะเกิดก็เกิด อะไรเป็นของเราก็ต้องเป็นของเรา นั่นแหละก็ไปกินข้าวกัน
“เกรท” : ช่วงนั้นเริ่มมีไลน์ก็ขอไลน์น้องโบว์ไว้ คุยไลน์หลายเดือนกว่าจะยอมให้เบอร์
มีถอดใจมั้ยเพราะผู้หญิงคนนี้ใจแข็งเหลือเกิน
“เกรท” : ไม่ๆ โบว์ วางตัวดี ก็ชื่นชมนะ บางทีผมก็จะบอกไปกินข้าวกันมั้ย โบว์จะอ้างรอพี่ทราย พี่คิ้มก่อน หลังจากนั้นคุยไปสักพักจนวันนึงโบว์ไปหาหมอสิว ซึ่งเป็นเพื่อนผมจะได้โทร.ไปคุย
“โบว์” : ไม่ๆ วันนั้นพี่เกรทขับรถอยู่บอกว่าเอาเบอร์มาเลยดีกว่า พิมพ์ไปพิมพ์มาเดี๋ยวอันตราย(ยิ้ม) หลังจากโทร.คุยกันมากขึ้นแต่ยังไปกินข้าวเป็นกลุ่ม จนหลังๆรู้สึกเค้าเป็นคนดี เราก็อยากศึกษาเค้าในระดับนึง เราเปิดใจ ทานข้าวสองคนเพื่อศึกษากัน บางทีไปเป็นกลุ่มคุยอะไรมากไม่ได้ เค้าเปิดประเด็นชวนทานข้าวสองคนก็เลยลองไปเพื่อศึกษาใจกันมากขึ้น
จำวันแรกที่ขอเป็นแฟนกันได้มั้ย
“เกรท” : จำได้ครับ ที่ร้านอาหารอินเดีย โบว์ ไปเข้าห้องน้ำ โต๊ะติดกระจกด้วย มีรถวิ่ง ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไง พอเค้ากลับมาที่โต๊ะเลยตัดสินใจพูด พรุ่งนี้พี่จะไปฮ่องกงแล้วนะ พี่ขอโบว์เป็นแฟนก่อนไปได้มั้ย (พูดไปก็ทำท่าเขิน) ตอนนั้นตื่นเต้นมากทำตัวไม่ถูกเลย ก็ปรึกษากับเพื่อนเลยครับจะพูดยังไง
“โบว์” : (หันมามองหน้า) จริงเหรอ? (ยิ้ม)
“เกรท” : อันนี้เป็นความลับ คุยกัน 3 สาย เพื่อนบอกขอไปเลยผู้ชายแมนๆ แต่เรารู้สึกน่าเกลียด เลยเนียนๆ
คบกันมานานแค่ไหน
“เกรท” : จะครบปีแล้วครับ แต่ถ้าก่อนหน้านี้ที่เราชื่นชม ก็ผ่านมา 6 ปี เดินผ่านตะลึง ไม่ได้โม้ โบว์ถือว่าเป็นผู้หญิงเพอร์เฟกต์ ทั้งหน้าตาสเปกผม เค้ามีหลายบุคลิก หลายคาแรกเตอร์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ที่สำคัญเป็นคนมีความคิด มีความสามารถและป๊าม้าก็น่ารักเลยทำให้โบว์เป็นคนอย่างนี้ ก็ไม่กลัวในความเก่งของเขานะ ชอบผู้หญิงเก่ง บางอย่างเราคุยกันรู้เรื่อง บางเรื่องเราปรึกษาเค้าได้ โบว์เค้ารู้รอบด้าน เวลาอยู่ด้วยกันเราสามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง ผมชอบเลยเหมือนเราได้แชร์ความคิด
โบว์ล่ะประทับใจพี่เกรทมุมไหนบ้าง
“โบว์” : ทุกอย่างเลย ต้องบอกก่อนว่าโบว์มีสเปกค่อนข้างสูงและเป็นคนเลือกเยอะมาก พอเจอพี่เค้าโบว์รู้สึกนะว่า พี่เค้าเป็นคนเดียวที่ทำให้เรารู้สึกว่าใกล้เคียงกับพ่อเรามาก เป็นคนดี ปกติโบว์เป็นคนใจร้อนแต่พี่เค้าจะเป็นคนใจเย็นจะมีวิธีพูดกับเรา เอาเหตุผลมาพูดแต่ไม่ทำให้เรารู้สึกงี่เง่า ความประทับใจ เป็นผู้ชายที่ดีมาก รักครอบครัว โบว์ไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ คือทุกอย่างที่โบว์ชอบผู้ชายเค้ามีหมดเลย ไม่เจ้าชู้ ไม่เที่ยวและรักเรา ดูแลดี รักครอบครัวเรา ดูแลครอบครัวเราได้ดีมาก เป็นคนเสมอต้นเสมอปลายมากๆ อย่างทุกวันนี้ยังรับส่ง เวลาโบว์ไปเวลาทำงานดึกๆ พี่เค้าก็จะมารับส่ง ซึ่งพี่เกรทรับราชการต้องตื่นเช้าแต่เราซ้อมละครเวทีดึกๆ ก็ไปรับ หรืออยากกินอะไรเค้าจะหาให้กิน และเราคุยกันได้ทุกเรื่อง การเมือง แฟชั่น ช็อปปิ้ง เค้ายินดีไปกับเรา ไม่มายด์เดินไปกับเราขอแค่ได้อยู่กับเรา เรื่องกีฬา ชอบเล่นเหมือนกัน มันจูนกันได้ทุกเรื่อง
ได้ยินมาว่าคู่เรากำลังมีข่าวดีปีนี้จริงหรือเปล่า
“เกรท” : ใช่ครับ มีฤกษ์หมั้นเดือน ต.ค. แต่ฤกษ์แต่งยังต้องรอน้ำสังข์พระราชทานก่อนครับ เวลาผมอยู่กับโบว์ มีความรู้สึกคนนี้แหละที่จะเข้ามาอยู่ในชีวิตเรา สามารถดูแลกันและกันได้ เป็นแม่ของลูกเราได้ พ่อแม่ผมชอบโบว์มาก บอกทุกวันว่าเอาคนนี้มาเป็นลูกสะใภ้ให้ได้ พ่อแม่โบว์ทำให้ผมรู้สึกดีเหมือนเราอยู่ครอบครัวเดียวกัน จริงๆ พ่อแม่ผมไม่ค่อยโอเพ่นกับผู้หญิงคนอื่นนะครับ แต่กับโบว์ ครั้งแรกที่พ่อแม่กินข้าวกับโบว์มีแต่เสียงชื่นชมตลอดเวลา
กลัวไหมพ่อแม่จะหลงว่าที่ลูกสะใภ้จนเราตกกระป๋อง
“เกรท” : ตอนนี้ผมก็รู้ตกกระป๋องไปเยอะ (ยิ้ม) ไม่เป็นไรครับ รักโบว์มากๆ ก็เหมือนรักผม ทุกคนในบ้าน พี่สาว หลานผมติดน้าโบว์หมดจนบางทีแอบหมั่นไส้ ล้อเล่นๆนะครับ
อยากรู้เหตุการณ์วันที่พี่เกรทเอ่ยปากขอแต่งงานเป็นยังไงบ้าง
“โบว์” : จริงๆ ไม่ได้มีการคุกเข่าขอแต่งงาน มันเป็นธรรมเนียมฝรั่งแต่เราเป็นคนไทยก็รู้สึกในใจวี้ดวิ้ว แต่ผู้หญิงย่อมมีความฝันอยากมีโมเมนต์แบบนั้น แต่สิ่งที่พี่เค้าทำ โบว์ว่ามันได้ใจเรามากกว่าการคุกเข่าขอแต่งงาน ซึ่งโบว์คบใครก็คบจริงจัง คิดเรื่องแต่งงาน จนวันคุณพ่อคุณแม่พี่เกรทเรียกไปคุยพร้อมหรือยัง พ่อแม่ก็แก่แล้วนะ รักกันดี เวลาเหมาะแล้ว ถ้าโบว์โอเค พ่อแม่จะขออนุญาตนัดทานข้าวกับพ่อแม่โบว์นะ
“เกรท” : หลังจากนั้นผมไปหาพ่อแม่โบว์ไปกราบเท้า เอาพวงมาลัยมากราบเท้าพ่อแม่โบว์และซื้อดอกไม้มาให้โบว์ช่อนึง กราบเท้าพ่อแม่ขออนุญาตดูแลโบว์ ถึงแม้ไม่เท่าคุณพ่อคุณแม่แต่จะดูแลให้ดีที่สุด
“โบว์” : วันนั้นโบว์น้ำตาคลอ เป็นโมเมนต์ที่ประทับใจมาก เรื่องขอแต่งงานโบว์ว่าอาจจะไม่โรแมนติกแต่จริงๆ โรแมนติกมากเพราะเราเป็นคนไทยทำอะไรแบบคนไทย ประเพณีไทยขอกับพ่อแม่เราโบว์ว่าเป็นสิ่งที่น่ารักมาก แทนที่จะขอเราแต่ขอกับพ่อแม่เราก่อน
เตรียมงานแต่งไปถึงไหนแล้ว
“โบว์” : เริ่มดูแบบเสื้อผ้าในอินเตอร์เน็ตบ้าง มีติดต่อออร์กาไนเซอร์บ้าง แหวนหมั้นก็ดูๆ กันบ้าง เรื่องลูกก็มีคุยๆ กันบ้างคุณพ่อบอกว่าก็อยากเป็นปู่แล้วนะ ต้องดูว่า ณ ตอนนั้นเป็นยังไงเพราะอายุก็มากขึ้น พี่เกรทอายุ 32 โบว์อายุ 28-29 ปีนี้แล้ว ก็สมควรแก่เวลา การมีลูกเป็นสิ่งที่โบว์อยากมีลูกอยู่แล้ว ความใฝ่ฝันอย่างหนึ่งในชีวิตคือการฝันอยากเป็นแม่คน แต่คิดว่าหลังแต่งคงวางแผนเที่ยวกันสองคนก่อน ทำงานแป๊บนึงแล้วค่อยมีลูก คงไม่ใช่ปุ๊บปั๊บมีเลย
อยากรู้จริงๆ เพื่อนๆ พอรู้โบว์ตัดสินใจจะแต่งงานมีอากัปกิริยากันยังไง
“โบว์” : เพื่อนๆ ก็ตกใจค่ะ ทุกคนจะงงแต่ทุกคนก็ยินดี ลูกโป่งดีใจแทนเพราะทุกคนรู้ว่าโบว์เป็นคนเลือกมาก อยากเจอคนที่สามารถชนะใจพี่โบว์ได้ อยากรู้ทำยังไงทำให้เขายังมีความหวังว่า ผู้ชายดีๆ ยังมีอยู่จริง จุดนึงเคยคิดว่า ถ้าไม่เจอผู้ชายดีๆ ไม่แต่งคือไม่แต่ง เดี๋ยวไปทำกิ๊ฟต์ ท้องเอง แต่พอเจอมันใช่ จากไม่เชื่อผู้ชายดีๆ จะมีอีกเหรอ
“เกรท” : ผมรู้สึกโชคดีเพราะเราทำเต็มที่ พ่อแม่ผม พ่อแม่น้อง อย่างน้อยดูแลไม่เท่าป๊าแต่จะทำให้ดีที่สุด เรื่องชมรมกลัวเมียยังไม่แต่งก็เข้าชมรมนั้นแล้ว เพื่อนๆ ผมแต่งไปอยู่ชมรมนี้หมด ทุกคนรู้หมดผมเกรงใจโบว์ เค้าเป็นคนดี น่ารักและเราก็ต้องให้เกียรติเค้า (โบว์รีบบอกเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ จะไปทำอะไรได้) ถือว่าเป็นการให้เกียรติกันมากกว่าครับ
เอ้า….า “ชมรมเกียมัว” กางแขนรับสมาชิกใหม่ได้เร้ยย์ คิกคิก!!
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
ยินดีด้วยค่าาาาา
“โบว์ AF5″ ควง “พี่เกรท” จ่อวิวาห์ปลายปี เซอร์ไพรส์! ฝ่ายชายกราบเท้าพ่อแม่เพื่อสู่ขอ
ไม่ปิดบังว่า “อินเลิฟ” แต่ไม่เคยโชว์หวานอวด “คนรัก” ผ่านสื่อบ่อยนัก แต่ด้วยเป็นเดือนแห่งความรัก สาวเก่งหัวนอก อย่าง “โบว์ AF5 สาวิตตี สุทธิชานนท์” พร้อมเปิดตัวควงแฟนหนุ่ม “พี่เกรท พรอนันต์ พุ่มแก้ว” นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยคู่รักจูงมือประกาศข่าวดี กับ “ทีมข่าวบันเทิง” มีแพลน “สละโสด” หลังจากใช้เวลาศึกษามาเกือบ 1 ปี ผ่าน “คนดังนั่งคุย”
ทั้งคู่เจอกันได้ยังไง
“โบว์” : เจอกันที่งานแต่งงานของรุ่นพี่โบว์แต่เป็นเพื่อนพี่เกรท เรียนสถาบันพระปกเกล้าด้วยกัน
“เกรท” : น้องเค้าเดินผ่านรู้สึกน้องเค้าสวยจัง เลยเดินเข้าไปขอถ่ายรูป (ยิ้ม)
“โบว์” : มารู้ทีหลังเค้าเคยเจอโบว์มาก่อนหน้านี้ โบว์ไปเดินกับเพื่อนที่ซีดีซี เค้ามาเล่าให้ฟัง ซึ่งโบว์ไม่ได้ไปที่นั่นมาหลายปีแล้วนะ เจอเมื่อไหร่ เล่าซิ เจอได้ยังไง
“เกรท” : วันนั้นผมไปทานกาแฟกับเพื่อน โบว์ เค้าเดินมากับผู้ชายท้วมๆ ตอนนั้นตะลึง รู้สึกปิ๊ง รักแรกพบเลย จริงๆผมชื่นชอบน้องตั้งแต่โบว์ยังอยู่บ้าน AF แล้ว
“โบว์” : ตอนเจอที่งานแต่งก็ไม่ได้คุยก็นึกว่าเค้ามาขอถ่ายรูปปกติ
“เกรท” : วันนั้นโบว์เด่นมากผู้ชายขอถ่ายรูปตลอดเวลา รู้สึกชื่นชมว่าน้องคนนี้เป็นขวัญใจหนุ่มๆ ตอนนั้นยังไม่ได้เดินหน้าจีบแค่ชื่นชม เลยขอมีรูปคู่หน่อยเป็นที่ระลึก (ยิ้ม)
“โบว์” : ทุกวันนี้เค้ายังไม่กล้าโชว์รูปคู่ ยังนั่งเถียงกันเองวันนั้นโบว์ใส่ชุดอะไรเค้าก็ปิดหน้าที่รูปให้ดูแต่ชุดไม่รู้อายอะไร
จุดเริ่มต้นที่ทำให้โบว์–เกรทคุยกัน
“โบว์” : ไปงานแต่งแล้วมีพี่ที่สนิทบอกว่ามีเพื่อนเค้าปลื้มโบว์มาก ในใจโบว์ไม่ชอบผู้ชายอย่ามารุก เข้ามาจีบเยอะๆ จะอคติเลย แต่พอพี่บอกผู้ชายคนนี้นะ พี่เกรทเค้าดูขี้อายมาก ตอนแรกนึกว่าจะวางตัวกร่างๆ ตอนที่นัดกินข้าวยังนึกเลยถ้ามาจีบยังไม่อยากไป แต่ถ้าเป็นกินข้าวกลุ่มใหญ่ๆ ล่ะได้ จริงๆโบว์ไม่ชอบการจงใจเพื่อจับคู่ เพื่อนในกลุ่มรู้ว่าโบว์เรื่องเยอะมากและไม่เปิดโอกาสให้ใครง่ายๆ แต่โบว์เชื่อเรื่องพรหมลิขิต อะไรจะเกิดก็เกิด อะไรเป็นของเราก็ต้องเป็นของเรา นั่นแหละก็ไปกินข้าวกัน
“เกรท” : ช่วงนั้นเริ่มมีไลน์ก็ขอไลน์น้องโบว์ไว้ คุยไลน์หลายเดือนกว่าจะยอมให้เบอร์
มีถอดใจมั้ยเพราะผู้หญิงคนนี้ใจแข็งเหลือเกิน
“เกรท” : ไม่ๆ โบว์ วางตัวดี ก็ชื่นชมนะ บางทีผมก็จะบอกไปกินข้าวกันมั้ย โบว์จะอ้างรอพี่ทราย พี่คิ้มก่อน หลังจากนั้นคุยไปสักพักจนวันนึงโบว์ไปหาหมอสิว ซึ่งเป็นเพื่อนผมจะได้โทร.ไปคุย
“โบว์” : ไม่ๆ วันนั้นพี่เกรทขับรถอยู่บอกว่าเอาเบอร์มาเลยดีกว่า พิมพ์ไปพิมพ์มาเดี๋ยวอันตราย(ยิ้ม) หลังจากโทร.คุยกันมากขึ้นแต่ยังไปกินข้าวเป็นกลุ่ม จนหลังๆรู้สึกเค้าเป็นคนดี เราก็อยากศึกษาเค้าในระดับนึง เราเปิดใจ ทานข้าวสองคนเพื่อศึกษากัน บางทีไปเป็นกลุ่มคุยอะไรมากไม่ได้ เค้าเปิดประเด็นชวนทานข้าวสองคนก็เลยลองไปเพื่อศึกษาใจกันมากขึ้น
จำวันแรกที่ขอเป็นแฟนกันได้มั้ย
“เกรท” : จำได้ครับ ที่ร้านอาหารอินเดีย โบว์ ไปเข้าห้องน้ำ โต๊ะติดกระจกด้วย มีรถวิ่ง ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไง พอเค้ากลับมาที่โต๊ะเลยตัดสินใจพูด พรุ่งนี้พี่จะไปฮ่องกงแล้วนะ พี่ขอโบว์เป็นแฟนก่อนไปได้มั้ย (พูดไปก็ทำท่าเขิน) ตอนนั้นตื่นเต้นมากทำตัวไม่ถูกเลย ก็ปรึกษากับเพื่อนเลยครับจะพูดยังไง
“โบว์” : (หันมามองหน้า) จริงเหรอ? (ยิ้ม)
“เกรท” : อันนี้เป็นความลับ คุยกัน 3 สาย เพื่อนบอกขอไปเลยผู้ชายแมนๆ แต่เรารู้สึกน่าเกลียด เลยเนียนๆ
คบกันมานานแค่ไหน
“เกรท” : จะครบปีแล้วครับ แต่ถ้าก่อนหน้านี้ที่เราชื่นชม ก็ผ่านมา 6 ปี เดินผ่านตะลึง ไม่ได้โม้ โบว์ถือว่าเป็นผู้หญิงเพอร์เฟกต์ ทั้งหน้าตาสเปกผม เค้ามีหลายบุคลิก หลายคาแรกเตอร์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ที่สำคัญเป็นคนมีความคิด มีความสามารถและป๊าม้าก็น่ารักเลยทำให้โบว์เป็นคนอย่างนี้ ก็ไม่กลัวในความเก่งของเขานะ ชอบผู้หญิงเก่ง บางอย่างเราคุยกันรู้เรื่อง บางเรื่องเราปรึกษาเค้าได้ โบว์เค้ารู้รอบด้าน เวลาอยู่ด้วยกันเราสามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง ผมชอบเลยเหมือนเราได้แชร์ความคิด
โบว์ล่ะประทับใจพี่เกรทมุมไหนบ้าง
“โบว์” : ทุกอย่างเลย ต้องบอกก่อนว่าโบว์มีสเปกค่อนข้างสูงและเป็นคนเลือกเยอะมาก พอเจอพี่เค้าโบว์รู้สึกนะว่า พี่เค้าเป็นคนเดียวที่ทำให้เรารู้สึกว่าใกล้เคียงกับพ่อเรามาก เป็นคนดี ปกติโบว์เป็นคนใจร้อนแต่พี่เค้าจะเป็นคนใจเย็นจะมีวิธีพูดกับเรา เอาเหตุผลมาพูดแต่ไม่ทำให้เรารู้สึกงี่เง่า ความประทับใจ เป็นผู้ชายที่ดีมาก รักครอบครัว โบว์ไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ คือทุกอย่างที่โบว์ชอบผู้ชายเค้ามีหมดเลย ไม่เจ้าชู้ ไม่เที่ยวและรักเรา ดูแลดี รักครอบครัวเรา ดูแลครอบครัวเราได้ดีมาก เป็นคนเสมอต้นเสมอปลายมากๆ อย่างทุกวันนี้ยังรับส่ง เวลาโบว์ไปเวลาทำงานดึกๆ พี่เค้าก็จะมารับส่ง ซึ่งพี่เกรทรับราชการต้องตื่นเช้าแต่เราซ้อมละครเวทีดึกๆ ก็ไปรับ หรืออยากกินอะไรเค้าจะหาให้กิน และเราคุยกันได้ทุกเรื่อง การเมือง แฟชั่น ช็อปปิ้ง เค้ายินดีไปกับเรา ไม่มายด์เดินไปกับเราขอแค่ได้อยู่กับเรา เรื่องกีฬา ชอบเล่นเหมือนกัน มันจูนกันได้ทุกเรื่อง
ได้ยินมาว่าคู่เรากำลังมีข่าวดีปีนี้จริงหรือเปล่า
“เกรท” : ใช่ครับ มีฤกษ์หมั้นเดือน ต.ค. แต่ฤกษ์แต่งยังต้องรอน้ำสังข์พระราชทานก่อนครับ เวลาผมอยู่กับโบว์ มีความรู้สึกคนนี้แหละที่จะเข้ามาอยู่ในชีวิตเรา สามารถดูแลกันและกันได้ เป็นแม่ของลูกเราได้ พ่อแม่ผมชอบโบว์มาก บอกทุกวันว่าเอาคนนี้มาเป็นลูกสะใภ้ให้ได้ พ่อแม่โบว์ทำให้ผมรู้สึกดีเหมือนเราอยู่ครอบครัวเดียวกัน จริงๆ พ่อแม่ผมไม่ค่อยโอเพ่นกับผู้หญิงคนอื่นนะครับ แต่กับโบว์ ครั้งแรกที่พ่อแม่กินข้าวกับโบว์มีแต่เสียงชื่นชมตลอดเวลา
กลัวไหมพ่อแม่จะหลงว่าที่ลูกสะใภ้จนเราตกกระป๋อง
“เกรท” : ตอนนี้ผมก็รู้ตกกระป๋องไปเยอะ (ยิ้ม) ไม่เป็นไรครับ รักโบว์มากๆ ก็เหมือนรักผม ทุกคนในบ้าน พี่สาว หลานผมติดน้าโบว์หมดจนบางทีแอบหมั่นไส้ ล้อเล่นๆนะครับ
อยากรู้เหตุการณ์วันที่พี่เกรทเอ่ยปากขอแต่งงานเป็นยังไงบ้าง
“โบว์” : จริงๆ ไม่ได้มีการคุกเข่าขอแต่งงาน มันเป็นธรรมเนียมฝรั่งแต่เราเป็นคนไทยก็รู้สึกในใจวี้ดวิ้ว แต่ผู้หญิงย่อมมีความฝันอยากมีโมเมนต์แบบนั้น แต่สิ่งที่พี่เค้าทำ โบว์ว่ามันได้ใจเรามากกว่าการคุกเข่าขอแต่งงาน ซึ่งโบว์คบใครก็คบจริงจัง คิดเรื่องแต่งงาน จนวันคุณพ่อคุณแม่พี่เกรทเรียกไปคุยพร้อมหรือยัง พ่อแม่ก็แก่แล้วนะ รักกันดี เวลาเหมาะแล้ว ถ้าโบว์โอเค พ่อแม่จะขออนุญาตนัดทานข้าวกับพ่อแม่โบว์นะ
“เกรท” : หลังจากนั้นผมไปหาพ่อแม่โบว์ไปกราบเท้า เอาพวงมาลัยมากราบเท้าพ่อแม่โบว์และซื้อดอกไม้มาให้โบว์ช่อนึง กราบเท้าพ่อแม่ขออนุญาตดูแลโบว์ ถึงแม้ไม่เท่าคุณพ่อคุณแม่แต่จะดูแลให้ดีที่สุด
“โบว์” : วันนั้นโบว์น้ำตาคลอ เป็นโมเมนต์ที่ประทับใจมาก เรื่องขอแต่งงานโบว์ว่าอาจจะไม่โรแมนติกแต่จริงๆ โรแมนติกมากเพราะเราเป็นคนไทยทำอะไรแบบคนไทย ประเพณีไทยขอกับพ่อแม่เราโบว์ว่าเป็นสิ่งที่น่ารักมาก แทนที่จะขอเราแต่ขอกับพ่อแม่เราก่อน
เตรียมงานแต่งไปถึงไหนแล้ว
“โบว์” : เริ่มดูแบบเสื้อผ้าในอินเตอร์เน็ตบ้าง มีติดต่อออร์กาไนเซอร์บ้าง แหวนหมั้นก็ดูๆ กันบ้าง เรื่องลูกก็มีคุยๆ กันบ้างคุณพ่อบอกว่าก็อยากเป็นปู่แล้วนะ ต้องดูว่า ณ ตอนนั้นเป็นยังไงเพราะอายุก็มากขึ้น พี่เกรทอายุ 32 โบว์อายุ 28-29 ปีนี้แล้ว ก็สมควรแก่เวลา การมีลูกเป็นสิ่งที่โบว์อยากมีลูกอยู่แล้ว ความใฝ่ฝันอย่างหนึ่งในชีวิตคือการฝันอยากเป็นแม่คน แต่คิดว่าหลังแต่งคงวางแผนเที่ยวกันสองคนก่อน ทำงานแป๊บนึงแล้วค่อยมีลูก คงไม่ใช่ปุ๊บปั๊บมีเลย
อยากรู้จริงๆ เพื่อนๆ พอรู้โบว์ตัดสินใจจะแต่งงานมีอากัปกิริยากันยังไง
“โบว์” : เพื่อนๆ ก็ตกใจค่ะ ทุกคนจะงงแต่ทุกคนก็ยินดี ลูกโป่งดีใจแทนเพราะทุกคนรู้ว่าโบว์เป็นคนเลือกมาก อยากเจอคนที่สามารถชนะใจพี่โบว์ได้ อยากรู้ทำยังไงทำให้เขายังมีความหวังว่า ผู้ชายดีๆ ยังมีอยู่จริง จุดนึงเคยคิดว่า ถ้าไม่เจอผู้ชายดีๆ ไม่แต่งคือไม่แต่ง เดี๋ยวไปทำกิ๊ฟต์ ท้องเอง แต่พอเจอมันใช่ จากไม่เชื่อผู้ชายดีๆ จะมีอีกเหรอ
“เกรท” : ผมรู้สึกโชคดีเพราะเราทำเต็มที่ พ่อแม่ผม พ่อแม่น้อง อย่างน้อยดูแลไม่เท่าป๊าแต่จะทำให้ดีที่สุด เรื่องชมรมกลัวเมียยังไม่แต่งก็เข้าชมรมนั้นแล้ว เพื่อนๆ ผมแต่งไปอยู่ชมรมนี้หมด ทุกคนรู้หมดผมเกรงใจโบว์ เค้าเป็นคนดี น่ารักและเราก็ต้องให้เกียรติเค้า (โบว์รีบบอกเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ จะไปทำอะไรได้) ถือว่าเป็นการให้เกียรติกันมากกว่าครับ
เอ้า….า “ชมรมเกียมัว” กางแขนรับสมาชิกใหม่ได้เร้ยย์ คิกคิก!!
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
ยินดีด้วยค่าาาาา