หลังจากกะทู้ นาฬิกาช่วยโลก ที่ผมเขียนเมื่อเดือนก่อน
มีคนแนะนำให้เขียน TOMS ด้วย แต่ผมเห็นว่า มีคนเคยโพสแล้วหลายรอบ
แต่หลังจากไปสำรวจตลาดมา มีอะไรทำให้อยากเขียนครับ
ก่อนอื่น มาทำความรู้จัก TOMS กับ แนวคิดกันก่อนครับ
‘รองเท้าทุกคู่ที่คุณซื้อไป เราจะบริจาครองเท้าอีกคู่ให้กับเด็กที่ขาดแคลน’ สโลแกนเด็ดโดนใจแสดงจุดยืนของ TOMS แบรนด์รองเท้าเปลี่ยนโลก ซ่ึงเปลี่ยนตั้งแต่ ‘พื้น’ และ ‘ฐาน’ ของคุณภาพชีวิตเด็กๆ เลยทีเดียว
รองเท้า TOMS เกิดขึ้นในปี 2006 โดย เบลค (Blake Mycoskie) ชายหนุ่มที่ไม่คิดว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้ประกอบการที่มีพลังขับเคลื่อนสังคมได้ เมื่อครั้งที่เบลคเดินทางไปท่องเที่ยวที่อเมริกาใต้และไปเรียนโปโลที่อาร์เจนติน่า ที่นั่นเขาได้พบกับ 2 สิ่งซึ่งเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล นั่นคือรองเท้า Alpargata และเด็กๆ ที่ไม่มีรองเท้าใส่
เด็กๆ ยากจนที่ต้องวิ่งเล่นและไปโรงเรียนด้วยเท้าเปล่า ทำให้เบลคเกิดแรงบันดาลใจอย่างแรงกล้า ที่จะทำธุรกิจซึ่งสามารถแบ่งปันรองเท้าให้กับเด็กๆ ได้ เขาจึงพุ่งไปหาคนท้องถิ่นให้สอนเขาทำรองเท้า Alpargata รองเท้าผ้าใบท้องถิ่นของอาร์เจนติน่า ที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ช่วงปี 1830 ผลิตขึ้นในหมู่แรงงานที่ต้องการรองเท้าทนทาน ราคาถูก และเบาสบาย
เบลคเรียนรู้การทำรองเท้าผ้าใบที่ว่าจนช่ำชอง แล้วแบกกระสอบซึ่งเต็มไปด้วยรองเท้ากลับอเมริกา บุกตลาดด้วยรองเท้า Alpargata ที่มีดีไซน์ ภายใต้แบรนด์ TOMS พ่วงไปกับคำมั่นสัญญาว่า “รองเท้าทุกคู่ที่คุณซื้อไป เราจะบริจาครองเท้าอีกคู่ให้กับเด็กที่ขาดแคลน” กับโมเดล One for One โดยกลุ่มเป้าหมายเริ่มแรกของรองเท้า TOMS คือนักเรียนนักศึกษาที่เหมาะกับรองเท้าผ้าใบลุคลำลอง และยังเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เบลคมุ่งจะสร้างแรงบันดาลใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงสังคมให้อีกด้วย รองเท้า TOMS กับดีไซน์เก๋ๆ ได้รับการตอบรับที่ดีทันที โดยในปีแรก TOMS ขายรองเท้าได้ 10,000 คู่ 4 ปีต่อมาสามารถบริจาครองเท้าให้เด็กๆ ได้ 600,000 คู่ และ ณ วันนี้ TOMS บริจาครองเท้าไปแล้วกว่า 1,000,000 คู่ใน 25 ประเทศทั่วโลก TOMS ยังทำงานประสานกับ NGO และมูลนิธิต่างๆ ที่มีเครือข่ายในประเทศยากจนมากมาย ทำให้สามารถเข้าถึงเด็กๆ ที่ขาดแคลนจริงๆ อ้อ! แล้วที่เจ๋งมากก็คือ เด็กๆ ที่ได้รับรองเท้าไปแล้ว ไม่ใช่ว่าจะได้คู่เดียวแล้วจบนะ แต่ TOMS ยังมอบรองเท้าที่โตไปตามตัวของเด็กจนถึงวัยหนึ่งเลยล่ะ
แล้วทำไมต้องเป็นรองเท้าล่ะ? เราๆ ท่านๆ ณ ที่นี้ จำความได้ก็มีรองเท้ามากมายในชีวิต อาจนึกภาพไม่ออกว่าของธรรมดาๆ อย่างรองเท้าจะเปลี่ยนโลกได้อย่างไร? รองเท้าเป็น ‘พื้น’ ที่จะรองรับสุขอนามัย และเป็น ‘ฐาน’ การเติบโต เด็กๆ มากมายในประเทศที่กำลังพัฒนาต้องเดินเท้าเปล่าไปโรงเรียน ไปไหนมาไหน เสี่ยงต่อเชื้อโรค และการบาดเจ็บ ถ้าเด็กๆ มีรองเท้าก็จะลดความเสี่ยงเหล่านี้ลง เด็กๆ ที่มีสุขภาพดีก็จะมีความสุข มีการศึกษา และโอกาสในวันพรุ่งนี้ที่ดีขึ้น โดยเริ่มต้นที่ 1 คู่ 2 ข้างนี่แหละ
ด้วยเหตุนี้ TOMS จึงสร้างการรับรู้ถึงความสำคัญของรองเท้าให้กระเพื่อมไปในวงกว้าง เบลคได้เดินสายเป็นวิทยากรในมหาวิทยาลัย ตั้งคลับในแคมปัส จัดขบวน ‘One Day without Shoes’ ชวนคนมาเดินเท้าเปล่า เพื่อสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเอง ขบวนเปลือยเท้านี้จัดมาแล้วเป็นพันๆ ครั้ง มีคนเข้าร่วมเดินเท้าเปล่าเป็นล้านคน และกิจกรรมที่ขาดไม่ได้ ก็คือการจัดทัวร์พาลูกค้านำรองเท้าไปให้เด็กๆ ถึงที่ ซึ่งยิ่งสร้างอิมแพคต่อผู้ซื้อว่า ยิ่งให้ยิ่งได้มากกว่ารองเท้า
แบรนด์ TOMS ณ วันนี้มีสินค้าหลากประเภท หลายดีไซน์เพื่อกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น และขยายการให้ไปสู่ ‘แว่นตา’ สินค้าที่ TOMS เลือกจะส่งต่อแบบ One for One ด้วยเป้าหมายเดิม แต่ยิ่งใหญ่ขึ้น เพราะไม่เพียงโฟกัสไปที่เด็ก แต่โครงการ ‘มอบการมองเห็น’ นั้น ส่งต่อแว่นตาหรือการรักษาดวงตาให้แก่ผู้ป่วยทางสายตาที่ยากจนโดยไม่จำกัดวัย เพราะความด้อยโอกาสกระจายตัวอยู่ทั่วโลก ความเคลื่อนไหวเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนเหล่านั้น แม้เป็นเพืยงกลุ่มย่อย แต่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมอันยิ่งใหญ่ได้
---------------------------------
ครับจากบทความด้านบนเราคงทราบกันแล้วว่า รองเท้า TOMS มีแนวคิดแบ่งปัน โดยนำเสนอสินค้าที่ รูปทรงสวยงาม ใส่สบายให้เราซื้อและ รายได้ส่วนนึง จะนำไปซื้อรองเท้า (ผลิต) ให้เด็กยากไร้ ตามจำนวนรองเท้าที่ขายได้
ซึ่ง คล้ายคลึงกับ กะทู้นาฬิกาที่ผมเคยเขียนไป
แต่ เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ผมไปสำรวจตลาด (ไปซื้อของนั่นแหละ) ที่โรงเกลือ ครับ
หลังจากที่ เดินก็พบว่า NEW BALANCE และ FLIPFLOP เริ่มล้น ขายไม่ออก
เลยมีการขายลดราคากันโครมๆ
ซึ่งแน่นอนครับ เป็นเกมสืการตลาด เพราะลดเฉพาะรุ่นเก่าๆ ที่ก๊อปมาขายกันนานแล้ว
ส่วนพวกรุ่นใหม่ๆ ราคายังไม่ลดเท่าไหร่ ราคายังประมาณ 350- 500 บาท
ผมในฐานะ เป็นแอดมินเพจ ต่อต้านของปลอมด้วย แต่ผมก็เข้าใจนะครับ
เมื่อสินค้ามันฮิตมาก และราคาสูง ของปลอมเป็นอีกทางเลือกนึง
ซึ่งคนที่งบน้อยแต่อยากได้ ก็อาจไม่กังวลว่า เป็นของปลอมหรือแท้
ขอให้ราคาโอเคกับงบประมาณ ในแง่ของผู้ซื้อ ผมเข้าใจดี
แต่ พอเดินไปเจอร้านนึง (แต่มีหลายร้าน) ขายรองเท้า TOMS
และมีมากมายหลายแบบให้เลือก ในราคา 300 -500 บาท
ผมก็รู้สึกเศร้าใจครับ
เพราะแม้กระทั้ง ป้าย ที่มีเนื้อหาว่า "ซื้อรองเท้า TOMS คุณจะได้ร่วมแบ่งปันรองเท้ากับเด็กยากไร้นั้น"
ก็ยังถูกก๊อปปี้ มาแปะในถุงที่ขายเสียด้วย
และเมื่อกลับมาบ้าน ผมลองเช็คข้อมูลพบว่า มีหลายร้านใน เนท ที่ขายรองเท้า TOMS ปลอม
บางร้านก็อ้างว่าแท้ แต่ปลอม บางร้านก็ตรงๆเลย ขาย TOMS ปลอมจ้า
ซึ่งการทำปลอมตัวสินค้าที่ทำมาเพื่อ "ให้คุณซื้อ แล้วผู้ขายแบ่งปันต่อไปให้ผู้ขาดแคลนนั้น"
ถือว่าเป็นการทำลายระบบ การแบ่งปันที่คิดขึ้นมาอย่างดีของ TOMS เลยครับ
เมื่อคุณซื้อ ของปลอม อาจเพราะไม่รู้ หรือ ไม่รู้ว่ามีการแบ่งปัน อาจซื้อตามเพื่อนเพราะเห็นเขาฮิตกันนั้น
เท่ากับ เพิ่มอุปทาน ของอุปสงค์ที่ TOMS ทำตลาดมา และถ้าของปลอมแพร่มากเท่าไหร่ โครงการก็จะค่อยๆ
กำไรและส่วนแบ่งปันฯ น้อยลง
อ่านมาถึงตรงนี้ ทุกคนคงรู้วิธีการช่วยระบบของ TOMS แล้วนะครับ
ถ้าคุณอยากช่วยเหลือเด็ก ยากไร้ ด้วยการซื้อ 1 คู่ที่คุณชอบ ให้เด็กยากไร้ ได้มีรองเท้า 1 คู่
คุณต้องซื้อของแท้เท่านั้น
ถ้าคุณไม่คิดอะไร ซื้อเพราะสวย ของปลอมก็ได้ ขอตามงบที่จำกัด หรือ จ่ายได้
อันนี้ตามใจชอบครับ
ก็ขอฝากไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ไม่ได้ห้าม หรือ ติคนซื้อของปลอมนะครับ เพราะ ผมอธิบายไว้แล้ว "อยู่ที่คุณ" เป็นคนตัดสินใจครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมเลยขออนุญาติลงวิธีดู รองเท้า TOMS แท้กับปลอม เพื่อเป็นวิทยาทานไปเลย
http://www.sayheyshop.com/article/%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2-toms-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B9%89-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%A1-%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%87
จากเพจ เซย์ไฮช๊อป เพื่อเป็นวิทยาทาน สำหรับคนที่ อยากซื้อรองเท้า และแบ่งปันให้ถึงเด็กยากไร้จริงๆครับ
ข้อแนะนำนะครับ
TOMS ของแท้ มีเกรดเดียว ไม่มีเกรดฮ่องกง เกรดเวียดนามอะไรที่อ้างกันในเนทครับ
เครดิต ข้อมูล TOMS
http://www.creativemove.com/design/toms-shoes/#ixzz2se8WbtKu
เครดิตเรื่องของปลอม ชมรมกูรูรวมตัวต่อต้านสินค้าปลอม
https://www.facebook.com/groups/136201133156249/
และ
http://www.sayheyshop.com
จ ญ น ห อ ด ม เรียบเรียง
TOMS รองเท้าเปลี่ยนโลก สำหรับเด็กยากไร้ กับ กลุ่มคนที่ไม่ยอมให้ TOMS เปลี่ยนโลก !!!
มีคนแนะนำให้เขียน TOMS ด้วย แต่ผมเห็นว่า มีคนเคยโพสแล้วหลายรอบ
แต่หลังจากไปสำรวจตลาดมา มีอะไรทำให้อยากเขียนครับ
ก่อนอื่น มาทำความรู้จัก TOMS กับ แนวคิดกันก่อนครับ
‘รองเท้าทุกคู่ที่คุณซื้อไป เราจะบริจาครองเท้าอีกคู่ให้กับเด็กที่ขาดแคลน’ สโลแกนเด็ดโดนใจแสดงจุดยืนของ TOMS แบรนด์รองเท้าเปลี่ยนโลก ซ่ึงเปลี่ยนตั้งแต่ ‘พื้น’ และ ‘ฐาน’ ของคุณภาพชีวิตเด็กๆ เลยทีเดียว
รองเท้า TOMS เกิดขึ้นในปี 2006 โดย เบลค (Blake Mycoskie) ชายหนุ่มที่ไม่คิดว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้ประกอบการที่มีพลังขับเคลื่อนสังคมได้ เมื่อครั้งที่เบลคเดินทางไปท่องเที่ยวที่อเมริกาใต้และไปเรียนโปโลที่อาร์เจนติน่า ที่นั่นเขาได้พบกับ 2 สิ่งซึ่งเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล นั่นคือรองเท้า Alpargata และเด็กๆ ที่ไม่มีรองเท้าใส่
เด็กๆ ยากจนที่ต้องวิ่งเล่นและไปโรงเรียนด้วยเท้าเปล่า ทำให้เบลคเกิดแรงบันดาลใจอย่างแรงกล้า ที่จะทำธุรกิจซึ่งสามารถแบ่งปันรองเท้าให้กับเด็กๆ ได้ เขาจึงพุ่งไปหาคนท้องถิ่นให้สอนเขาทำรองเท้า Alpargata รองเท้าผ้าใบท้องถิ่นของอาร์เจนติน่า ที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ช่วงปี 1830 ผลิตขึ้นในหมู่แรงงานที่ต้องการรองเท้าทนทาน ราคาถูก และเบาสบาย
เบลคเรียนรู้การทำรองเท้าผ้าใบที่ว่าจนช่ำชอง แล้วแบกกระสอบซึ่งเต็มไปด้วยรองเท้ากลับอเมริกา บุกตลาดด้วยรองเท้า Alpargata ที่มีดีไซน์ ภายใต้แบรนด์ TOMS พ่วงไปกับคำมั่นสัญญาว่า “รองเท้าทุกคู่ที่คุณซื้อไป เราจะบริจาครองเท้าอีกคู่ให้กับเด็กที่ขาดแคลน” กับโมเดล One for One โดยกลุ่มเป้าหมายเริ่มแรกของรองเท้า TOMS คือนักเรียนนักศึกษาที่เหมาะกับรองเท้าผ้าใบลุคลำลอง และยังเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เบลคมุ่งจะสร้างแรงบันดาลใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงสังคมให้อีกด้วย รองเท้า TOMS กับดีไซน์เก๋ๆ ได้รับการตอบรับที่ดีทันที โดยในปีแรก TOMS ขายรองเท้าได้ 10,000 คู่ 4 ปีต่อมาสามารถบริจาครองเท้าให้เด็กๆ ได้ 600,000 คู่ และ ณ วันนี้ TOMS บริจาครองเท้าไปแล้วกว่า 1,000,000 คู่ใน 25 ประเทศทั่วโลก TOMS ยังทำงานประสานกับ NGO และมูลนิธิต่างๆ ที่มีเครือข่ายในประเทศยากจนมากมาย ทำให้สามารถเข้าถึงเด็กๆ ที่ขาดแคลนจริงๆ อ้อ! แล้วที่เจ๋งมากก็คือ เด็กๆ ที่ได้รับรองเท้าไปแล้ว ไม่ใช่ว่าจะได้คู่เดียวแล้วจบนะ แต่ TOMS ยังมอบรองเท้าที่โตไปตามตัวของเด็กจนถึงวัยหนึ่งเลยล่ะ
แล้วทำไมต้องเป็นรองเท้าล่ะ? เราๆ ท่านๆ ณ ที่นี้ จำความได้ก็มีรองเท้ามากมายในชีวิต อาจนึกภาพไม่ออกว่าของธรรมดาๆ อย่างรองเท้าจะเปลี่ยนโลกได้อย่างไร? รองเท้าเป็น ‘พื้น’ ที่จะรองรับสุขอนามัย และเป็น ‘ฐาน’ การเติบโต เด็กๆ มากมายในประเทศที่กำลังพัฒนาต้องเดินเท้าเปล่าไปโรงเรียน ไปไหนมาไหน เสี่ยงต่อเชื้อโรค และการบาดเจ็บ ถ้าเด็กๆ มีรองเท้าก็จะลดความเสี่ยงเหล่านี้ลง เด็กๆ ที่มีสุขภาพดีก็จะมีความสุข มีการศึกษา และโอกาสในวันพรุ่งนี้ที่ดีขึ้น โดยเริ่มต้นที่ 1 คู่ 2 ข้างนี่แหละ
ด้วยเหตุนี้ TOMS จึงสร้างการรับรู้ถึงความสำคัญของรองเท้าให้กระเพื่อมไปในวงกว้าง เบลคได้เดินสายเป็นวิทยากรในมหาวิทยาลัย ตั้งคลับในแคมปัส จัดขบวน ‘One Day without Shoes’ ชวนคนมาเดินเท้าเปล่า เพื่อสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเอง ขบวนเปลือยเท้านี้จัดมาแล้วเป็นพันๆ ครั้ง มีคนเข้าร่วมเดินเท้าเปล่าเป็นล้านคน และกิจกรรมที่ขาดไม่ได้ ก็คือการจัดทัวร์พาลูกค้านำรองเท้าไปให้เด็กๆ ถึงที่ ซึ่งยิ่งสร้างอิมแพคต่อผู้ซื้อว่า ยิ่งให้ยิ่งได้มากกว่ารองเท้า
แบรนด์ TOMS ณ วันนี้มีสินค้าหลากประเภท หลายดีไซน์เพื่อกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น และขยายการให้ไปสู่ ‘แว่นตา’ สินค้าที่ TOMS เลือกจะส่งต่อแบบ One for One ด้วยเป้าหมายเดิม แต่ยิ่งใหญ่ขึ้น เพราะไม่เพียงโฟกัสไปที่เด็ก แต่โครงการ ‘มอบการมองเห็น’ นั้น ส่งต่อแว่นตาหรือการรักษาดวงตาให้แก่ผู้ป่วยทางสายตาที่ยากจนโดยไม่จำกัดวัย เพราะความด้อยโอกาสกระจายตัวอยู่ทั่วโลก ความเคลื่อนไหวเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนเหล่านั้น แม้เป็นเพืยงกลุ่มย่อย แต่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมอันยิ่งใหญ่ได้
---------------------------------
ครับจากบทความด้านบนเราคงทราบกันแล้วว่า รองเท้า TOMS มีแนวคิดแบ่งปัน โดยนำเสนอสินค้าที่ รูปทรงสวยงาม ใส่สบายให้เราซื้อและ รายได้ส่วนนึง จะนำไปซื้อรองเท้า (ผลิต) ให้เด็กยากไร้ ตามจำนวนรองเท้าที่ขายได้
ซึ่ง คล้ายคลึงกับ กะทู้นาฬิกาที่ผมเคยเขียนไป
แต่ เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ผมไปสำรวจตลาด (ไปซื้อของนั่นแหละ) ที่โรงเกลือ ครับ
หลังจากที่ เดินก็พบว่า NEW BALANCE และ FLIPFLOP เริ่มล้น ขายไม่ออก
เลยมีการขายลดราคากันโครมๆ
ซึ่งแน่นอนครับ เป็นเกมสืการตลาด เพราะลดเฉพาะรุ่นเก่าๆ ที่ก๊อปมาขายกันนานแล้ว
ส่วนพวกรุ่นใหม่ๆ ราคายังไม่ลดเท่าไหร่ ราคายังประมาณ 350- 500 บาท
ผมในฐานะ เป็นแอดมินเพจ ต่อต้านของปลอมด้วย แต่ผมก็เข้าใจนะครับ
เมื่อสินค้ามันฮิตมาก และราคาสูง ของปลอมเป็นอีกทางเลือกนึง
ซึ่งคนที่งบน้อยแต่อยากได้ ก็อาจไม่กังวลว่า เป็นของปลอมหรือแท้
ขอให้ราคาโอเคกับงบประมาณ ในแง่ของผู้ซื้อ ผมเข้าใจดี
แต่ พอเดินไปเจอร้านนึง (แต่มีหลายร้าน) ขายรองเท้า TOMS
และมีมากมายหลายแบบให้เลือก ในราคา 300 -500 บาท
ผมก็รู้สึกเศร้าใจครับ
เพราะแม้กระทั้ง ป้าย ที่มีเนื้อหาว่า "ซื้อรองเท้า TOMS คุณจะได้ร่วมแบ่งปันรองเท้ากับเด็กยากไร้นั้น"
ก็ยังถูกก๊อปปี้ มาแปะในถุงที่ขายเสียด้วย
และเมื่อกลับมาบ้าน ผมลองเช็คข้อมูลพบว่า มีหลายร้านใน เนท ที่ขายรองเท้า TOMS ปลอม
บางร้านก็อ้างว่าแท้ แต่ปลอม บางร้านก็ตรงๆเลย ขาย TOMS ปลอมจ้า
ซึ่งการทำปลอมตัวสินค้าที่ทำมาเพื่อ "ให้คุณซื้อ แล้วผู้ขายแบ่งปันต่อไปให้ผู้ขาดแคลนนั้น"
ถือว่าเป็นการทำลายระบบ การแบ่งปันที่คิดขึ้นมาอย่างดีของ TOMS เลยครับ
เมื่อคุณซื้อ ของปลอม อาจเพราะไม่รู้ หรือ ไม่รู้ว่ามีการแบ่งปัน อาจซื้อตามเพื่อนเพราะเห็นเขาฮิตกันนั้น
เท่ากับ เพิ่มอุปทาน ของอุปสงค์ที่ TOMS ทำตลาดมา และถ้าของปลอมแพร่มากเท่าไหร่ โครงการก็จะค่อยๆ
กำไรและส่วนแบ่งปันฯ น้อยลง
อ่านมาถึงตรงนี้ ทุกคนคงรู้วิธีการช่วยระบบของ TOMS แล้วนะครับ
ถ้าคุณอยากช่วยเหลือเด็ก ยากไร้ ด้วยการซื้อ 1 คู่ที่คุณชอบ ให้เด็กยากไร้ ได้มีรองเท้า 1 คู่
คุณต้องซื้อของแท้เท่านั้น
ถ้าคุณไม่คิดอะไร ซื้อเพราะสวย ของปลอมก็ได้ ขอตามงบที่จำกัด หรือ จ่ายได้
อันนี้ตามใจชอบครับ
ก็ขอฝากไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ไม่ได้ห้าม หรือ ติคนซื้อของปลอมนะครับ เพราะ ผมอธิบายไว้แล้ว "อยู่ที่คุณ" เป็นคนตัดสินใจครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมเลยขออนุญาติลงวิธีดู รองเท้า TOMS แท้กับปลอม เพื่อเป็นวิทยาทานไปเลย
http://www.sayheyshop.com/article/%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2-toms-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B9%89-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%A1-%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%87
จากเพจ เซย์ไฮช๊อป เพื่อเป็นวิทยาทาน สำหรับคนที่ อยากซื้อรองเท้า และแบ่งปันให้ถึงเด็กยากไร้จริงๆครับ
ข้อแนะนำนะครับ TOMS ของแท้ มีเกรดเดียว ไม่มีเกรดฮ่องกง เกรดเวียดนามอะไรที่อ้างกันในเนทครับ
เครดิต ข้อมูล TOMS http://www.creativemove.com/design/toms-shoes/#ixzz2se8WbtKu
เครดิตเรื่องของปลอม ชมรมกูรูรวมตัวต่อต้านสินค้าปลอม https://www.facebook.com/groups/136201133156249/
และ http://www.sayheyshop.com
จ ญ น ห อ ด ม เรียบเรียง