แล้วโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลลีกของประเทศไทยฉบับอย่างเป็นทางการก็โผล่ออกมาเสนอหน้าต่อสาธารณชนเป็นที่เรียบร้อยจนได้ ต้องบอกว่า

          น่าผิดหวัง

          แน่นอนการออกมาโม้อวดอ้างว่า มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อความเป็นมาตรฐานสากล อุตส่าห์อ้างว่า ทำตามระบบของ “ลา ลีกา” อย่างที่ “อ๋อ วังโอ่ง” เคยเขียนเอาไว้เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนแต่ที่สุด มันก็เป็น

          ไทยแลนด์โอนลี่เหมือนเคย

          แม้เกมกลางสัปดาห์จะมี 6 ครั้ง แบ่งเป็นเลกละ 3 หน แต่การเข้าคู่ เข้าสัปดาห์ไม่ได้ตรงกัน ทำให้ยังเกิดความเหลื่อมล้ำของการได้เล่นเป็นเจ้าบ้านเกมกลางสัปดาห์มาน้อยกว่ากันเหมือนที่เคยเป็นมา

          สำคัญไม่น้อยกว่านั้น ระบบเหย้า-เยือน ยังคงไม่เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติที่อุตสาห์ทำเสียดี จับสลากเข้าเลขที่สร้างเป็นตุ๊กตา

          “อ๋อ วังโอ่ง” ดูแบบผ่านๆ นะครับ ขอย้ำว่าดูแบบผ่านๆ เพราะต้องเขียนต้นฉบับนี้ส่ง “บก.บับเบิ้ล” ดูแค่โปรแกรมฟาดแข้งของ “กว่างโซ้ง” เชียงราย ยูไนเต็ด พวกเขาเสียเปรียบหลายทีม เพราะมีโปรแกรมแข่งขันนอกบ้านติดๆ กัน 2 สัปดาห์ถึง 2 หน  นั่นหมายความว่าอะไรครับ ความโชคดีไปตกทีมอื่นที่จะได้เป็นเจ้าบ้าน 2 สัปดาห์ติด ๆ กัน 2 หนเช่นกัน ซึ่งในที่นี่เท่าที่ “อ๋อ วังโอ่ง” เห็นนั่นคือ “พลังเอ็ม” โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี

          แค่เริ่มต้นก็ดูไม่เข้าท่าเสียแล้ว สำหรับประธานไทยพรีเมียร์ลีก คนใหม่

          ท่านเข้าใจระบบการบริหารจัดการโปรแกรมลีกหรือเปล่า แค่งานง่ายๆ ที่ควรจะสอบผ่านแต่ก็มาสอบตกอย่างไม่น่าให้อภัย

          ชักน่าเป็นห่วง

          ยิ่งมาเจอข่าวที่ออกมาใหญ่โต เรื่องความสนใจนำ “เฟอร์กี้” เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มาเปิดคอร์สพิเศษให้กับผู้บริหาร และผู้ฝึกสอนฟุตบอลไทย ในเดือนมีนาคม ที่จะถึงนี้ด้วยมูลค่า 15 ล้านบาท ต่อการบรรยายพิเศษ 1 ชั่วโมง

          ข่าวนี้ “มร.โอเค” องอาจ ก่อสินค้า ประธานไทยลีกคนใหม่ ยืนยันว่าสนใจ และจะนำเงินที่ได้จากการคิดค่าปรับสโมสรต่างๆ มาเป็นค่าใช้จ่าย  “อ๋อ วังโอ่ง” ได้แต่ต้องข้อสงสัยเงินค่าปรับที่ผ่านมามันสูงถึงขนาดนั้นเชียวหรือ?

          ต้องถามต่อว่า “คุ้มค่า” และเหมาะสมกับเวลาหรือเปล่า?

          แน่นอน “อ๋อ วังโอ่ง” ไม่เถียงเรื่องการเรียนรู้ การเปิดโลกให้กับคนฟุตบอลไทย แต่ด้วยเม็ดเงินขนาดนั้น และระยะเวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมง มันไม่อาจพลิกแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือ

          สำคัญกว่านั้นห้วงเวลาของการเข้าฟังท่านเซอร์โม้หนนี้ ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เพราะลีกเปิดการแข่งขันแล้ว มันใช่หรือที่จะมาสอนการบริหารงานสโมสรในห้วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ อย่าลืมนะครับลีกสูงสุดของไทยปีนี้ตกชั้นกี่ทีม?

          งานใหญ่ งานหลักที่ควรทำกับไม่รู้จักเรียงลำดับให้ถูกต้อง

          “เฟอร์กี้” มาเมืองไทยหนนี้ แค่มาประชาสัมพันธ์หนังสือชีวประวัติของเจ้าตัว ที่มีผู้ถือลิขสิทธิ์แปลเป็นภาษาไทยเพื่อออกจำหน่าย ดังนั้นอย่าไปหลงเหลี่ยม ตำน้ำพริกให้คนอื่นกินสิ

          เงิน 15 ล้านบาท ถามว่าเยอะมั้ยสำหรับฟุตบอลไทยกับเฟอร์กี้ “อ๋อ วังโอ่ง” ตอบได้ครับว่าโคตรเยอะเลย

          ฟุตบอลไทยวันนี้ สโมสรก้าวไกล เขาพัฒนาล้ำหน้าสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่มีฝ่ายบริหารดักดานไปมากโข

          งานของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยมีหลายอย่างต้องทำ และควรทำ ไม่ว่าจะเป็นการออก “คลับ ไลเซนซิ่ง ฉบับประเทศไทย” เพื่อเป็นแนวทางพัฒนาสโมสรฟุตบอลไทยให้เข้ากรอบของ “เอเอฟซี” ไม่ใช่เอะอะมั่วกันระงม “บารมีบังยี” ขออภัย “ส์” ครับ

          ไม่มีหรอกครับบารมีใครจะให้โควต้าสโมสรเอเชียเพิ่ม หากไม่ใช่การพัฒนาของสโมสร หรือความทุ่มเทของแฟนบอลผู้มีศรัทธากับสโมสร

          หากเป็นบารมี “บังยี” ลองให้แกเยื้องกายเข้าสนาม แล้วให้โฆษกประกาศต้อนรับดูสิครับ..มีคำตอบแน่นอนว่าใช่หรือไม่

          วันนี้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย สมควรอย่างยิ่งต้องบูรณาการตัวเองใหม่หมด คิดใหม่ ทำให้เป็น ไม่ใช่ขาดการพัฒนา โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของสมาคม ที่หลายคนทำงานหนักเหลือเกิน แต่กลับไม่มีผู้ใหญ่เหลียวแล หรือจะให้ความมั่นคงในชีวิตแกพวกเขา

          15 ล้านบาทเอาไปจ้างเฟอร์กี้มาพ่นน้ำลายไม่กี่นาที (เพราะมัวเสียเวลาแปล) เอาเงินก้อนนี้มาสร้างลีกเยาวชน ทำลีกหญิง ลีกฟุตซอลทั้งชายและหญิง หรือ จัดอบรมสัมมนาเพื่อเพิ่มศักยภาพบุคลากรลูกหนังไทย ทั้งจัดอบรมโค้ชฟุตบอล ผู้ตัดสิน งานบริหาร..คุ้มค่าเห็นตัวเห็นตนกว่าเยอะ

          เพราะผู้บริหารที่ไร้วิสัยทัศน์ ขาดการวางแผน มัวแต่โหนกระแส ทำงานเอาตัวรอด และอยากเป็นแค่คนในข่าว

          วันนี้บอลไทยจึงไม่ไปไหน

                                "อ๋อ วังโอ่ง"
http://www.ballthaifc.com/view.php?id=5183