ถามให้เพื่อนค่ะ แต่มีเราเข้าไปเกี่ยวเต็มๆ
เพื่อนเราไป business trip ที่อเมริกาเมื่อ เมษา'12 ด้วยวีซ่าท่องเที่ยวที่ได้มาหลายปีมากแล้ว ทริปนี้เองทำให้เพื่อนเราได้พบรักกับหนุ่มอเมริกันที่นั้น จากนั้นเพื่อนเราและหนุ่มคนนี้ก็บินไปบินมาระหว่างไทย-อเมริกากันแทบทุก 2 เดือนในช่วงแรกๆ เวลาเพื่อนเราบินไปก็อยู่ประมาณ 3 อาทิตย์ แต่ช่วงหลังๆเพื่อนเราเริ่มอยู่นานขึ้น เป็นแบบ 2-3 เดือน ล่าสุดวีซ่าท่องเที่ยวอันเดิมหมดอายุเธอก็ไปต่อได้วีซ่าใหม่มา เธอกับแฟนตกลงที่จะร่วมชีวิตคู่กันและได้ตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา ดังนั้นเธอจึงมีการจัดงานเล็กๆแค่วงญาติเพื่อให้รับรู้ว่าเธอจะย้ายไปอยู่ที่อเมริกา การไปครั้งนั้นยังไม่ได้ตกลงจดทะเบียนสมรสกัน แค่ไปลองอยู่ว่าอยู่ด้วยกันได้ไหม หากอยู่ได้ก็จะจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฏหมาย เธอเดินทางไปอยู่อเมริกาด้วยวีซ่าท่องเที่ยวอันใหม่ที่เธอได้มา ทาง ตม แสตมป์ให้เธออยู่ได้ 6 เดือนตามปรกติ ในระยะเวลา 6 เดือนนี้เธอและแฟนก็ตกลงปลงใจกันว่าเราจะแต่งงานกันตามกฏหมาย ทั้งคู่ก็ได้ทำพิธีแต่งงานตามกฏหมายและยื่นเรื่องขอ green card ทันที ตอนนี้ให้ทนายยื่นเรื่องให้อยู่
ในเมื่อเธอและแฟนได้จดทะเบียนสมรสกันตามกฏหมายแล้ว เธออยากให้แม่ของเธอไปหาเธอที่โน้น เพื่อจัดงานแต่งเล็กๆในครอบครัว และอยากให้แม่ของเธอรับรู้ความเป็นอยู่ของเธอที่โน้นเพื่อที่จะไม่ต้องเป็นห่วง เธออาจจะไม่ได้กลับมาไทยบ่อยนัก และเธอยังเป็นลูกคนเดียวด้วย อยากให้แม่สบายใจ
เรากับเธอคุยกันถึงรายละเอียดว่าจะให้แม่ขอวีซ่าเยี่ยม/ท่องเที่ยว เรายกประเด็นที่ว่าเธอยังไม่ได้ green card แล้วเธอแต่งงานแบบใช้วีซ่าผิดประเภทอยู่ ถึงแม้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจว่าจะขอวีซ่าท่องเที่ยวเพื่อไปแต่งงานโดยตรงเหมือนเคสอื่นๆ เนื่องจากเธอเข้าออกประมาณ 7 ครั้งตั้งแต่ เมษา'12 ถึง พฤศจิ'13 ด้วยวีซ่าท่องเที่ยวก่อนที่จะตัดสินใจจดทะเบียนสมรสที่อเมริกาขณะถือวีซ่าท่องเที่ยวอยู่ ส่วนตัวเราแนะนำให้ใจเย็นๆ ในเมื่อเธอจ้างทนายเราก็หวังกันว่าเธอจะได้ green card ภายใน 90 วัน หลังจากได้แล้วก็ค่อยให้แม่ยื่นวีซ่าเยี่ยม/ท่องเที่ยว หรือแม้แต่จะขอ IR5 ให้แม่ในฐานะ Immediate Relative ก็ยังได้ แต่เธอไม่อยากรอนานและแอบหวังว่าแม่เธอจะได้วีซ่าเยี่ยม/ท่องเที่ยว (เพื่อนของแม่เธอได้มาไม่ยาก) แต่เราบอกว่ามันติดที่ในนั้นต้องมีชื่อเธอว่าเป็นลูกแถมอยู่ที่อเมริกแบบยังไม่ได้ green card เรากลัวว่าแม่จะถูกปฏิเสธวีซ่าด้วยเหตุนี้ (เราคิดเองนะ อาจผิดก็ได้ ถึงได้มาตั้งกระทู้ถามผู้รู้ที่นี่)
เรื่องที่เราว่าเกี่ยวกับเราเต็มๆคือ เรากับเพื่อนสนิทกันมากแบบเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่เราห่างๆกันไปปีกว่า พอมาคุยกันอีกทีเพื่อนจึงเอ๋ยปากขอให้เราพาแม่ไปหาเธอที่อเมริกา คือเราฝันว่าเธอขอให้เราพาแม่เธอไปอเมริกากับเราด้วย เราเลยส่งข้อความไปหาเธอถามทุกข์สุขและเล่าความฝันเราให้เธอฟัง เธอจึงเอ๋ยปากขอเหมือนในฝันเรา อันนี้ตัดเรื่องว่าแม่จะได้วีซ่าหรือเปล่าก่อนนะ
ส่วนตัวเราเองมีวีซ่าท่องเที่ยวแบบ 10 ปีที่ยังไม่ได้ใช้ เราเองก็มีเรื่องของเราเหมือนกัน คือเมื่อตุลา'13 เราชวนเพื่อนคนนึงไปขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกากับเรา เค้าบอกว่ายังอ่ะ ยังไม่มี plan จะไป เราบอกขอไว้ก่อนได้ ไปทีหลังก็ได้ เค้าไม่ยอมไปขอกับเรา เราเลยเปลี่ยนใจไปเที่ยวยุโรปแทน พอเรากลับมาจากยุโรปเท่านั้นแหละเพื่อนคนเดิมถามเราว่าเมื่อไหร่จะไปขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาล่ะ เราบอกจะไปเร็วๆนี้แหละจะได้จบๆไปแต่เพิ่งกลับมา เดี่ยวเว้นระยะซักนิด เพราะต้องขอใบลา/ใบรับรองการทำงานจากนาย เดี๋ยวเค้าตกใจว่าเพิ่งกลับมาไปขออีกแล้ว เค้าบอกว่างั้นเค้าไปขอก่อนนะ เราบอกได้ เค้าก็ไปขอแบบใส่ขื่อเราเป็นผู้ร่วมเดือนทาง เค้าส่งใบสมัครเสร็จก็ส่ง printed screen มาให้เราดูว่าข้อกรอกอะไรไปบ้างเพราะเราต้องกรอกเหมือนเค้าเนื่องจากเค้าระบุว่าเราไปกับเค้า เราอ่านๆไปก็ไม่มีอะไร เพราะเราอะไรก็ได้ ถามว่าเรามีกำหนดไปแน่นอนหรือยัง คือให้เราไปช่วงนั้นเราก็ไปได้ หรือจะไปช่วงอื่นเราก็ไปได้เช่นกัน จุดประสงค์เราคือเราอยากไว้วีซ่าไว้กับตัว พร้อมเมื่อไหร่บินได้เลย เราไปเที่ยวยุโรปมาทุกปีตอนนี้อยากลองไปอเมริกาบ้าง แต่พออ่านมาเรื่อยๆ เค้าเขียนชื่อคนที่เค้ารู้จักที่โน้นด้วย เราก็เอ้าเฮ้ยมีคนรู้จักด้วย แล้วใส่ชื่อไป คือถ้ามันไม่มีชื่อเราในนั้นเราก็จะไม่สนใจแต่มันดันมีชื่อเรา เค้าก็บอกแก้ไม่ได้แล้วส่งไปแล้ว เค้าบอกฟอร์มมันบังคับให้ใส่ไม่งั้นไปต่อไม่ได้ เราก็บอกว่าเราไม่รู้จักคนที่เธอใส่เลยแม้แต่นิดเดียว จริงๆต้องใส่ชื่อโรงแรมหรือเปล่า เค้าก็บอกว่าเราไม่ต้องใส่ก็ได้ เราบอกเราไม่ใส่อยู่แล้วเพราะเราไม่รู้จักเค้า เราก็ใส่ชื่อโรงแรมไป ข้อมูลอย่างอื่นเหมือนกันหมดยกเว้นตรงนี้ สรุปเราทั้งคู่ได้วีซ่ากันมาคนละ 10 ปี
เรื่องเด็ดว่านั้น คือเรานัดเจอเค้า แล้วเราก็ถามเค้าว่าตกลงคนนั้นคือใครเค้าก็ให้เราดูแหวน แล้วก็บอกว่าเค้าจะไปครั้งนี้คือไปแต่งงาน แต่จะบินกลับมา แล้วค่อยย้ายไปอยู่ที่โน้นตอนปลายๆปีนี้ เราก็อ๋อ อือ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร งงปนอึ้ง
สรุปคำถามที่เราจะถามก็คือ
1. วีซ่าสำหรับแม่นี้ควรดำเนินการขอเลย หรือว่ารอให้เพื่อนได้ green card ก่อน
2. หากให้รอก่อน ในกรณีที่เพื่อนได้ green card แล้วควรขอ IR5 ให้แม่ดีไหม หรือขอวีซ่าท่องเที่ยวธรรมดานั่นแหละไม่น่ามีปัญหา ได้อยู่แล้ว
3. หากเป็นกรณีที่ขอได้เลย สอบถามถึงคำแนะนำและข้อควรระวังในการขอวีซ่าเยี่ยม/ท่องเที่ยวให้แม่ด้วย
4. ในกรณีของเราที่จะพาแม่ไปด้วยนั้น เมื่อแม่ได้วีซ่าแล้ว เราควรบอก ตม ยังไงเพราะเรา เข้าประเทศคนละเคสกันกับตอนสมัครวีซ่าเที่ยวที่เราได้ ถ้าเกิดแม่โชคดีไม่ต้องรอให้เพื่อนเราได้ green card ก่อนสามารถขอและได้รับอนุมัติวีซ่าท่องเที่ยว เราอาจได้ไปส่งแม่ระยะเวลาไม่ห่างกันมากกับช่วงเวลาที่เราระบุไปในใบสมัครวีซ่าของเรา
เราต้องการคำแนะนำและข้อควรระวังในกรณีวีซ่าแม่ และการตอบคำถามของ ตม ในการเข้าประเทศของเรา เนื่องจาก เมืองเปลี่ยน ช่วงวันเดินทางเปลี่ยน แต่เราอยู่ไม่เกิน 2 อาทิตย์แน่นอนเพราะต้องกลับมาทำงาน ไม่คิดจะย้ายไปอยู่ที่โน้นแม้แต่นิดเดียวด้วย ส่วนแม่ก็เช่นกัน
รอฟังคำแนะนำจากผู้รู้นะคะ ขอบคุณมากค่ะ
ขอคำแนะนำเกี่ยวกับการขอวีซ่าอเมริกา ให้แม่มาเยี่ยม - US Visa for Parents
เพื่อนเราไป business trip ที่อเมริกาเมื่อ เมษา'12 ด้วยวีซ่าท่องเที่ยวที่ได้มาหลายปีมากแล้ว ทริปนี้เองทำให้เพื่อนเราได้พบรักกับหนุ่มอเมริกันที่นั้น จากนั้นเพื่อนเราและหนุ่มคนนี้ก็บินไปบินมาระหว่างไทย-อเมริกากันแทบทุก 2 เดือนในช่วงแรกๆ เวลาเพื่อนเราบินไปก็อยู่ประมาณ 3 อาทิตย์ แต่ช่วงหลังๆเพื่อนเราเริ่มอยู่นานขึ้น เป็นแบบ 2-3 เดือน ล่าสุดวีซ่าท่องเที่ยวอันเดิมหมดอายุเธอก็ไปต่อได้วีซ่าใหม่มา เธอกับแฟนตกลงที่จะร่วมชีวิตคู่กันและได้ตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา ดังนั้นเธอจึงมีการจัดงานเล็กๆแค่วงญาติเพื่อให้รับรู้ว่าเธอจะย้ายไปอยู่ที่อเมริกา การไปครั้งนั้นยังไม่ได้ตกลงจดทะเบียนสมรสกัน แค่ไปลองอยู่ว่าอยู่ด้วยกันได้ไหม หากอยู่ได้ก็จะจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฏหมาย เธอเดินทางไปอยู่อเมริกาด้วยวีซ่าท่องเที่ยวอันใหม่ที่เธอได้มา ทาง ตม แสตมป์ให้เธออยู่ได้ 6 เดือนตามปรกติ ในระยะเวลา 6 เดือนนี้เธอและแฟนก็ตกลงปลงใจกันว่าเราจะแต่งงานกันตามกฏหมาย ทั้งคู่ก็ได้ทำพิธีแต่งงานตามกฏหมายและยื่นเรื่องขอ green card ทันที ตอนนี้ให้ทนายยื่นเรื่องให้อยู่
ในเมื่อเธอและแฟนได้จดทะเบียนสมรสกันตามกฏหมายแล้ว เธออยากให้แม่ของเธอไปหาเธอที่โน้น เพื่อจัดงานแต่งเล็กๆในครอบครัว และอยากให้แม่ของเธอรับรู้ความเป็นอยู่ของเธอที่โน้นเพื่อที่จะไม่ต้องเป็นห่วง เธออาจจะไม่ได้กลับมาไทยบ่อยนัก และเธอยังเป็นลูกคนเดียวด้วย อยากให้แม่สบายใจ
เรากับเธอคุยกันถึงรายละเอียดว่าจะให้แม่ขอวีซ่าเยี่ยม/ท่องเที่ยว เรายกประเด็นที่ว่าเธอยังไม่ได้ green card แล้วเธอแต่งงานแบบใช้วีซ่าผิดประเภทอยู่ ถึงแม้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจว่าจะขอวีซ่าท่องเที่ยวเพื่อไปแต่งงานโดยตรงเหมือนเคสอื่นๆ เนื่องจากเธอเข้าออกประมาณ 7 ครั้งตั้งแต่ เมษา'12 ถึง พฤศจิ'13 ด้วยวีซ่าท่องเที่ยวก่อนที่จะตัดสินใจจดทะเบียนสมรสที่อเมริกาขณะถือวีซ่าท่องเที่ยวอยู่ ส่วนตัวเราแนะนำให้ใจเย็นๆ ในเมื่อเธอจ้างทนายเราก็หวังกันว่าเธอจะได้ green card ภายใน 90 วัน หลังจากได้แล้วก็ค่อยให้แม่ยื่นวีซ่าเยี่ยม/ท่องเที่ยว หรือแม้แต่จะขอ IR5 ให้แม่ในฐานะ Immediate Relative ก็ยังได้ แต่เธอไม่อยากรอนานและแอบหวังว่าแม่เธอจะได้วีซ่าเยี่ยม/ท่องเที่ยว (เพื่อนของแม่เธอได้มาไม่ยาก) แต่เราบอกว่ามันติดที่ในนั้นต้องมีชื่อเธอว่าเป็นลูกแถมอยู่ที่อเมริกแบบยังไม่ได้ green card เรากลัวว่าแม่จะถูกปฏิเสธวีซ่าด้วยเหตุนี้ (เราคิดเองนะ อาจผิดก็ได้ ถึงได้มาตั้งกระทู้ถามผู้รู้ที่นี่)
เรื่องที่เราว่าเกี่ยวกับเราเต็มๆคือ เรากับเพื่อนสนิทกันมากแบบเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่เราห่างๆกันไปปีกว่า พอมาคุยกันอีกทีเพื่อนจึงเอ๋ยปากขอให้เราพาแม่ไปหาเธอที่อเมริกา คือเราฝันว่าเธอขอให้เราพาแม่เธอไปอเมริกากับเราด้วย เราเลยส่งข้อความไปหาเธอถามทุกข์สุขและเล่าความฝันเราให้เธอฟัง เธอจึงเอ๋ยปากขอเหมือนในฝันเรา อันนี้ตัดเรื่องว่าแม่จะได้วีซ่าหรือเปล่าก่อนนะ
ส่วนตัวเราเองมีวีซ่าท่องเที่ยวแบบ 10 ปีที่ยังไม่ได้ใช้ เราเองก็มีเรื่องของเราเหมือนกัน คือเมื่อตุลา'13 เราชวนเพื่อนคนนึงไปขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกากับเรา เค้าบอกว่ายังอ่ะ ยังไม่มี plan จะไป เราบอกขอไว้ก่อนได้ ไปทีหลังก็ได้ เค้าไม่ยอมไปขอกับเรา เราเลยเปลี่ยนใจไปเที่ยวยุโรปแทน พอเรากลับมาจากยุโรปเท่านั้นแหละเพื่อนคนเดิมถามเราว่าเมื่อไหร่จะไปขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาล่ะ เราบอกจะไปเร็วๆนี้แหละจะได้จบๆไปแต่เพิ่งกลับมา เดี่ยวเว้นระยะซักนิด เพราะต้องขอใบลา/ใบรับรองการทำงานจากนาย เดี๋ยวเค้าตกใจว่าเพิ่งกลับมาไปขออีกแล้ว เค้าบอกว่างั้นเค้าไปขอก่อนนะ เราบอกได้ เค้าก็ไปขอแบบใส่ขื่อเราเป็นผู้ร่วมเดือนทาง เค้าส่งใบสมัครเสร็จก็ส่ง printed screen มาให้เราดูว่าข้อกรอกอะไรไปบ้างเพราะเราต้องกรอกเหมือนเค้าเนื่องจากเค้าระบุว่าเราไปกับเค้า เราอ่านๆไปก็ไม่มีอะไร เพราะเราอะไรก็ได้ ถามว่าเรามีกำหนดไปแน่นอนหรือยัง คือให้เราไปช่วงนั้นเราก็ไปได้ หรือจะไปช่วงอื่นเราก็ไปได้เช่นกัน จุดประสงค์เราคือเราอยากไว้วีซ่าไว้กับตัว พร้อมเมื่อไหร่บินได้เลย เราไปเที่ยวยุโรปมาทุกปีตอนนี้อยากลองไปอเมริกาบ้าง แต่พออ่านมาเรื่อยๆ เค้าเขียนชื่อคนที่เค้ารู้จักที่โน้นด้วย เราก็เอ้าเฮ้ยมีคนรู้จักด้วย แล้วใส่ชื่อไป คือถ้ามันไม่มีชื่อเราในนั้นเราก็จะไม่สนใจแต่มันดันมีชื่อเรา เค้าก็บอกแก้ไม่ได้แล้วส่งไปแล้ว เค้าบอกฟอร์มมันบังคับให้ใส่ไม่งั้นไปต่อไม่ได้ เราก็บอกว่าเราไม่รู้จักคนที่เธอใส่เลยแม้แต่นิดเดียว จริงๆต้องใส่ชื่อโรงแรมหรือเปล่า เค้าก็บอกว่าเราไม่ต้องใส่ก็ได้ เราบอกเราไม่ใส่อยู่แล้วเพราะเราไม่รู้จักเค้า เราก็ใส่ชื่อโรงแรมไป ข้อมูลอย่างอื่นเหมือนกันหมดยกเว้นตรงนี้ สรุปเราทั้งคู่ได้วีซ่ากันมาคนละ 10 ปี
เรื่องเด็ดว่านั้น คือเรานัดเจอเค้า แล้วเราก็ถามเค้าว่าตกลงคนนั้นคือใครเค้าก็ให้เราดูแหวน แล้วก็บอกว่าเค้าจะไปครั้งนี้คือไปแต่งงาน แต่จะบินกลับมา แล้วค่อยย้ายไปอยู่ที่โน้นตอนปลายๆปีนี้ เราก็อ๋อ อือ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร งงปนอึ้ง
สรุปคำถามที่เราจะถามก็คือ
1. วีซ่าสำหรับแม่นี้ควรดำเนินการขอเลย หรือว่ารอให้เพื่อนได้ green card ก่อน
2. หากให้รอก่อน ในกรณีที่เพื่อนได้ green card แล้วควรขอ IR5 ให้แม่ดีไหม หรือขอวีซ่าท่องเที่ยวธรรมดานั่นแหละไม่น่ามีปัญหา ได้อยู่แล้ว
3. หากเป็นกรณีที่ขอได้เลย สอบถามถึงคำแนะนำและข้อควรระวังในการขอวีซ่าเยี่ยม/ท่องเที่ยวให้แม่ด้วย
4. ในกรณีของเราที่จะพาแม่ไปด้วยนั้น เมื่อแม่ได้วีซ่าแล้ว เราควรบอก ตม ยังไงเพราะเรา เข้าประเทศคนละเคสกันกับตอนสมัครวีซ่าเที่ยวที่เราได้ ถ้าเกิดแม่โชคดีไม่ต้องรอให้เพื่อนเราได้ green card ก่อนสามารถขอและได้รับอนุมัติวีซ่าท่องเที่ยว เราอาจได้ไปส่งแม่ระยะเวลาไม่ห่างกันมากกับช่วงเวลาที่เราระบุไปในใบสมัครวีซ่าของเรา
เราต้องการคำแนะนำและข้อควรระวังในกรณีวีซ่าแม่ และการตอบคำถามของ ตม ในการเข้าประเทศของเรา เนื่องจาก เมืองเปลี่ยน ช่วงวันเดินทางเปลี่ยน แต่เราอยู่ไม่เกิน 2 อาทิตย์แน่นอนเพราะต้องกลับมาทำงาน ไม่คิดจะย้ายไปอยู่ที่โน้นแม้แต่นิดเดียวด้วย ส่วนแม่ก็เช่นกัน
รอฟังคำแนะนำจากผู้รู้นะคะ ขอบคุณมากค่ะ