เรื่องสั้นเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการไปเรียนวิชาชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ณ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และได้รับแรงบันดาลใจจาก เพื่อนเลิฟ ของ จขกท
ลองอ่านกันเล่นๆนะคะ
ป.ล. ทุกตัวละครคือเรื่องสมมติ ไม่มีตัวตนจริง
.................................................................................................................................................
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ฉันมายืนหน้าตึกแห่งนี้... ตึกเพียรวิจิตร คณะวิศวกรรมศาสตร์
อาจจะเป็นเพราะอากาศเวลานี้ที่ร้อนจนน่าขนลุกทั้งๆที่เป็นฤดูหนาว หรือเพราะข้าวต้มเมื่อเช้าที่ใส่กระเทียมเจียวไหม้ บางทีอาจจะเป็นเพราะยาแก้ไข้ที่กินไปเมื่อคืน หรือ...อาจเพียงเพราะรอยยิ้มเล็กๆของเขาเมื่อวาน ...
---ฉันไม่รู้เลยจริงๆ ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ฉันกล้าลากสังขารพร้อมกับหัวใจเพื่อมาสารภาพรักกับผู้ชายคนหนึ่ง เป็นความกล้าที่ไม่เคยคิดว่าชาตินี้ ชาติหน้า หรือชาติต่อๆไป คนอย่างฉันจะทำ
เมื่อสองเดือนก่อน ในวันที่ดอกกัลปพฤกษ์ผลิบานครั้งแรกในรอบปี เป็นวันที่ฉันได้เจอ “พี่กริช” ผู้ชายที่มีรอยยิ้มหยุดโลกคนนั้น เป็นของขวัญล้ำค่าที่ฟ้าประทานมาให้ ฉันคิดว่า พี่กริชคือ รักแท้ ที่ฉันเฝ้าตามหามานาน
กว่าสองเดือนที่ฉันพร่ำเพ้อ แอบมองเวลาพี่เขาเดินผ่าน แม้แต่เวลาที่กินลูกชิ้น เสยผม เวลาที่พี่เค้าหัวเราะจนเห็นลิ้นไก่ฉันมักจะละสายตาไม่ได้ มีความสุขทุกครั้งที่เห็นเวลาพี่เขาจาม แอบฝันว่าได้เป็นคนพิเศษ แต่ทั้งหมดนี้มีเพียงฉันที่คิดไปเองคนเดียว แต่...วันนี้จะไม่เป็นอย่างวันนั้น
“แกแน่ใจหรา แอ๋ว ว่าแกจะไปสารภาพรักกับพี่กริชน่ะ สภาพหนังหน้าอย่างแกเนี่ยนะ ฮ่า ๆ ๆ” ตุ้ม เพื่อนสนิทในกลุ่มพูดให้กำลังใจฉันก่อนที่ฉันเดินเท้ามาที่นี่
“เฮ้ย ตุ้ม แกก็พูดเกินไป หน้าตาไอ้แอ๋วก็ใช่ว่าจะขี้เหร่นะเว้ย” วิว แย้งขึ้น ทำให้รอยยิ้มของฉันเริ่มบานเข่งกับใบหน้า แต่ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น รอยยิ้มบานเต็มที่นี้ก็เหี่ยวแฟบแบบลูกโป่งโดนปล่อยลม เพราะประโยคนี้...
“อย่าน้อยมันก็สวยพอไปผับตอนดับไฟละว้า ฮ่า ๆ ๆ ”
“.......................”
ตั้งแต่เกิดมาเท้าเท่าฝาเป็ปซี่จนตอนนี้โตเป็นสาวสะพรั่ง จะมีใครบ้างไหมที่เข้าใจหัวอกสาวน้อยร้อยกว่าโลอย่างฉัน จะมีใครรู้ว่าภายใต้ผิวพรรณดำสนิท วงหน้ามัวสลัวนี้ ซ่อนความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอยู่ลึกๆ
... คนอย่างฉันจะไม่มีใครมารักเลยเหรอ...
ขณะที่ฉันกำลังยืนประหม่าด้วยความไม่มั่นใจในชุดเดรสรัดรูปสีชมพูสะท้อนแสง ที่เพิ่งถอยสดๆร้อนๆจากตลาดมอเมื่อวาน สายตาหลายคู่ของเพศตรงข้ามเริ่มส่งมาที่ฉันอย่างเลี่ยงไม่ได้ หรืออาจเพราะวันนี้ฉันสวยเป็นพิเศษ? ฉันยิ้มสบายๆให้กับตัวเองพร้อมคิดในใจ “ขอโทษนะคะ เห็นแบบนี้ก็รักเดียวใจเดียวค่ะ”
“น้องครับน้อง ขอโทษนะครับ” เสียงที่คุ้นหูดังมาจากด้านหลังอย่างนุ่มนวล“คะ?” ขานรับพร้อมหันขวับทันที วินาทีนั้นร่างกายของฉันกลายสภาพเป็นลูกโป่งที่ถูกอัดด้วยแก๊สไฮโดรเจนชนิดพิเศษมากเกินพิกัด มากพอที่จะทำให้เซลล์ทุกเซลล์ระเบิด!!
“พะ พะ พี่ กะ กะ กริช คะ คือ หนะ หนะ หนู ...” โรคใบ้และพากินสันชั่วคราวเข้ากดทับร่างกายของฉันจนทำให้เหงื่อส่วนหนึ่งซึมรักแร้จนเป็นวงกว้าง รักแท้ของฉันยืนอยู่ตรงหน้า...
“วันนี้น้องดูเด่นมาก พี่ชอบ..” คุณพระ! หูฉันไม่ได้เฝื่อนไปใช่ไหม พี่กริชบอกว่าชอบฉัน ฉันบีบมือตัวเองจนแดงสลับม่วงเพื่อพิสูจน์ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน แต่
“...ชอบชุดของน้องมาก สนใจงานขายตรงไหม พี่ขายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผ้าเจ็ดสี ตะกรุด น้ำมันพราย น้ำมนตร์เกรดเอ ยันตร์สมองไหลอ่านแม่นจำง่ายก่อนสอบดีนะน้อง แล้วนี่ยังมี ฯลฯ”
ก่อนที่พี่กริชจะร่ายสินค้าทางไสยศาสตร์เพื่อการศึกษาหมด ฉันก็พาร่างอันบอบบางของฉันรีบวิ่งออกมาพร้อมน้ำตา ภาพผู้ชายในฝันพังทลาย กลายเป็นเซลขายตรงซะงั้น พระเอกของฉัน "รักแท้" หมดกัน ชาตินี้ฉันคงไม่รักใครอีกแล้ว เจ็บจนเกินทน ความหวัง ความรัก ชีวิต โอ..สัจธรรม
พลั๊ก!! “เฮ้ย ! ขอโทษ น้องเป็นอะไรมากไหมครับ เจ็บตรงไหนบ้าง พี่ขอโทษ พี่รีบจริงๆ”
ฉันเงยหน้ามองคนที่อยู่ตรงหน้า ภาพที่เปื้อนน้ำตา ค่อยๆปรับชัดขึ้น จนเป็นคุณภาพระดับ HD หน้าใกล้กันจนลมหายใจก่ายเกี่ยวก้ำล้ำอาณาเขต ชิดจนเห็นแพขนตาครบทุกเส้น
...“.....”...หรือนี่คือ รักแท้ที่ฉันเฝ้ารอ ?
โดย ... ฤทัยศรี
>>>>>>>>> ป.ล. ขอให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นพบรักแท้ที่เฝ้ารอนะคะ
ส่วน จขกท ก็จะรอต่อไปเช่นกัน ฮ่าาาาา
^^เรื่องสั้นสั้น ~ รักแท้
ลองอ่านกันเล่นๆนะคะ
ป.ล. ทุกตัวละครคือเรื่องสมมติ ไม่มีตัวตนจริง
.................................................................................................................................................
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ฉันมายืนหน้าตึกแห่งนี้... ตึกเพียรวิจิตร คณะวิศวกรรมศาสตร์
อาจจะเป็นเพราะอากาศเวลานี้ที่ร้อนจนน่าขนลุกทั้งๆที่เป็นฤดูหนาว หรือเพราะข้าวต้มเมื่อเช้าที่ใส่กระเทียมเจียวไหม้ บางทีอาจจะเป็นเพราะยาแก้ไข้ที่กินไปเมื่อคืน หรือ...อาจเพียงเพราะรอยยิ้มเล็กๆของเขาเมื่อวาน ...
---ฉันไม่รู้เลยจริงๆ ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ฉันกล้าลากสังขารพร้อมกับหัวใจเพื่อมาสารภาพรักกับผู้ชายคนหนึ่ง เป็นความกล้าที่ไม่เคยคิดว่าชาตินี้ ชาติหน้า หรือชาติต่อๆไป คนอย่างฉันจะทำ
เมื่อสองเดือนก่อน ในวันที่ดอกกัลปพฤกษ์ผลิบานครั้งแรกในรอบปี เป็นวันที่ฉันได้เจอ “พี่กริช” ผู้ชายที่มีรอยยิ้มหยุดโลกคนนั้น เป็นของขวัญล้ำค่าที่ฟ้าประทานมาให้ ฉันคิดว่า พี่กริชคือ รักแท้ ที่ฉันเฝ้าตามหามานาน
กว่าสองเดือนที่ฉันพร่ำเพ้อ แอบมองเวลาพี่เขาเดินผ่าน แม้แต่เวลาที่กินลูกชิ้น เสยผม เวลาที่พี่เค้าหัวเราะจนเห็นลิ้นไก่ฉันมักจะละสายตาไม่ได้ มีความสุขทุกครั้งที่เห็นเวลาพี่เขาจาม แอบฝันว่าได้เป็นคนพิเศษ แต่ทั้งหมดนี้มีเพียงฉันที่คิดไปเองคนเดียว แต่...วันนี้จะไม่เป็นอย่างวันนั้น
“แกแน่ใจหรา แอ๋ว ว่าแกจะไปสารภาพรักกับพี่กริชน่ะ สภาพหนังหน้าอย่างแกเนี่ยนะ ฮ่า ๆ ๆ” ตุ้ม เพื่อนสนิทในกลุ่มพูดให้กำลังใจฉันก่อนที่ฉันเดินเท้ามาที่นี่
“เฮ้ย ตุ้ม แกก็พูดเกินไป หน้าตาไอ้แอ๋วก็ใช่ว่าจะขี้เหร่นะเว้ย” วิว แย้งขึ้น ทำให้รอยยิ้มของฉันเริ่มบานเข่งกับใบหน้า แต่ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น รอยยิ้มบานเต็มที่นี้ก็เหี่ยวแฟบแบบลูกโป่งโดนปล่อยลม เพราะประโยคนี้...
“อย่าน้อยมันก็สวยพอไปผับตอนดับไฟละว้า ฮ่า ๆ ๆ ”
“.......................”
ตั้งแต่เกิดมาเท้าเท่าฝาเป็ปซี่จนตอนนี้โตเป็นสาวสะพรั่ง จะมีใครบ้างไหมที่เข้าใจหัวอกสาวน้อยร้อยกว่าโลอย่างฉัน จะมีใครรู้ว่าภายใต้ผิวพรรณดำสนิท วงหน้ามัวสลัวนี้ ซ่อนความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอยู่ลึกๆ
... คนอย่างฉันจะไม่มีใครมารักเลยเหรอ...
ขณะที่ฉันกำลังยืนประหม่าด้วยความไม่มั่นใจในชุดเดรสรัดรูปสีชมพูสะท้อนแสง ที่เพิ่งถอยสดๆร้อนๆจากตลาดมอเมื่อวาน สายตาหลายคู่ของเพศตรงข้ามเริ่มส่งมาที่ฉันอย่างเลี่ยงไม่ได้ หรืออาจเพราะวันนี้ฉันสวยเป็นพิเศษ? ฉันยิ้มสบายๆให้กับตัวเองพร้อมคิดในใจ “ขอโทษนะคะ เห็นแบบนี้ก็รักเดียวใจเดียวค่ะ”
“น้องครับน้อง ขอโทษนะครับ” เสียงที่คุ้นหูดังมาจากด้านหลังอย่างนุ่มนวล“คะ?” ขานรับพร้อมหันขวับทันที วินาทีนั้นร่างกายของฉันกลายสภาพเป็นลูกโป่งที่ถูกอัดด้วยแก๊สไฮโดรเจนชนิดพิเศษมากเกินพิกัด มากพอที่จะทำให้เซลล์ทุกเซลล์ระเบิด!!
“พะ พะ พี่ กะ กะ กริช คะ คือ หนะ หนะ หนู ...” โรคใบ้และพากินสันชั่วคราวเข้ากดทับร่างกายของฉันจนทำให้เหงื่อส่วนหนึ่งซึมรักแร้จนเป็นวงกว้าง รักแท้ของฉันยืนอยู่ตรงหน้า...
“วันนี้น้องดูเด่นมาก พี่ชอบ..” คุณพระ! หูฉันไม่ได้เฝื่อนไปใช่ไหม พี่กริชบอกว่าชอบฉัน ฉันบีบมือตัวเองจนแดงสลับม่วงเพื่อพิสูจน์ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน แต่
“...ชอบชุดของน้องมาก สนใจงานขายตรงไหม พี่ขายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผ้าเจ็ดสี ตะกรุด น้ำมันพราย น้ำมนตร์เกรดเอ ยันตร์สมองไหลอ่านแม่นจำง่ายก่อนสอบดีนะน้อง แล้วนี่ยังมี ฯลฯ”
ก่อนที่พี่กริชจะร่ายสินค้าทางไสยศาสตร์เพื่อการศึกษาหมด ฉันก็พาร่างอันบอบบางของฉันรีบวิ่งออกมาพร้อมน้ำตา ภาพผู้ชายในฝันพังทลาย กลายเป็นเซลขายตรงซะงั้น พระเอกของฉัน "รักแท้" หมดกัน ชาตินี้ฉันคงไม่รักใครอีกแล้ว เจ็บจนเกินทน ความหวัง ความรัก ชีวิต โอ..สัจธรรม
พลั๊ก!! “เฮ้ย ! ขอโทษ น้องเป็นอะไรมากไหมครับ เจ็บตรงไหนบ้าง พี่ขอโทษ พี่รีบจริงๆ”
ฉันเงยหน้ามองคนที่อยู่ตรงหน้า ภาพที่เปื้อนน้ำตา ค่อยๆปรับชัดขึ้น จนเป็นคุณภาพระดับ HD หน้าใกล้กันจนลมหายใจก่ายเกี่ยวก้ำล้ำอาณาเขต ชิดจนเห็นแพขนตาครบทุกเส้น
...“.....”...หรือนี่คือ รักแท้ที่ฉันเฝ้ารอ ?
โดย ... ฤทัยศรี
>>>>>>>>> ป.ล. ขอให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นพบรักแท้ที่เฝ้ารอนะคะ
ส่วน จขกท ก็จะรอต่อไปเช่นกัน ฮ่าาาาา