[CR] The Wolf of Wall Street - เหมือนดูหนังเอ็กซ์ ผสมเรื่องเล่า...ไม่ได้โม้ (ชอบกล)

1) ช่วงแซวหนัง ไม่แคร์สปอย
- ในเรื่องบอกว่ามีเซ็กซ์อย่างน้อย 2 หนต่อวัน ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น
ร่างกายกระปรี้ประเปร่า ทำงานได้ตามเป้ามากขึ้น (จะจริงหรือไม่จริง ใครอยากพิสูจน์ก็เชิญตามสบาย 555)
ดังนั้น เรื่องนี้ จึงมีฉากเซ็กซ์กันทั้งเรื่อง ทั้งโชว์จิมมี่ จิมมี่ และจิมมี่กันตลอดเรื่อง
(ส่วนบางคนไม่ชอบกล้วยหอม ไม่ต้องห่วง ไม่มีแม้แต่ฉากเดียว) จนผมว่าเรื่องนี้
มันคือหนังเรทเอ็กซ์ ที่มีเส้นเรื่องซะมากกว่า

(จากภาพ สังเกตได้ว่า เฮียลีโอ แบบตาพริ้มน่าดูเชียว 555)

- พวกฉากเสพยาอี ยาไอซ์ และสารพัดยาต่างๆ มีบ่อยเกินเป็นว่าเล่น
จนผมเองคิดว่า ถ้าหากมียาพวกนี้ขายตามเซเว่น คงรีบออกไปซื้อมาใช้แล้ว
เพราะในหนัง บอกแต่ประโยชน์ ส่วนโทษก็แค่ อย่าใช้ให้มากเกิน ก็เท่านั้น
แถมฉากพวกนี้ เยอะจนคิดว่า จะสูดใช้เป็นแล้วซะด้วยซ้ำ
ดังนั้น ใครจะดูเรื่องนี้ แนะนำว่าต้องใช้วิจารณญาณในการดูให้มากๆๆๆจริงๆ

- ดูๆไป คิดว่าแบบเป็นเรื่องของคนขี้โม้นะ คือว่าปัจจุบันเจ้าของเรื่อง
ทำอาชีพเป็นนักให้กำลังใจ motivate นักขาย ก็เลยค่อนข้างเขียนแต่เรื่องความสำเร็จ
ที่ดูๆไป จะเกินจริงหรือเปล่าไม่รู้ แต่เอาเป็นว่า น่าจะส่งเสริมกับอาชีพปัจจุบันของเจ้าของเรื่องพอดูเชียว

ต่อไปสปอยเกินพอดีไปนิดหน่อย ใครไม่แคร์...เิชิญคลิกอ่านได้เลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
***********************************************************

2) ช่วงสรรสาระ (คือหาสาระจากหนัง มาพูดคุยกันนะครับ)

เคยอ่านหนังสือพ่อรวยสอนลูก เขาก็บอกว่า ใครคิดจะทำธุรกิจ ต้องมีที่ปรึกษาที่ดีๆ
และดีมากพอที่จะจัดการกับหลายๆปัญหาที่จะเจอะเจอในอนาคต
พอดูเรื่องนี้จบแล้ว จริงเลยครับ และย้ำหลายทีมากๆ

ไม่ว่าจะการไว้ใจ นักบริหารการเงินที่เป็นคนแปลกหน้า แต่พูดจาชวนฝันให้หลงเชื่อ
(เหมือนพวกโทรมาบอกให้โอนตังค์ แต่เกือบถูกกฎหมายมากกว่ายังไงไม่รู้)
ถ้าเทียบกับปัจจุบัน ก็เหมือนกับเวลาเราไปซื้อกองทุนรวมต่างๆ ภาพลักษณ์ก็ดูดี
แต่คอนเซ็ปต์เขา ไม่รู้จะเป็นแบบในหนังหรือเปล่า คือ ย้ายเงินในกระเป๋าลูกค้า เข้ากระเป๋าเรา
และที่สำคัญ ต้องอย่าให้เงินกลับเข้ากระเป๋าลูกค้าอีก

หรือแม้แต่ตัวพระเอกเอง ก็ถือว่าโชคดี ที่ได้ครูที่ดีมากๆ ในการสอนการเรียนรู้ธุรกิจ
(แม้ว่าจะสอนเรื่องแปลกๆไปหน่อยก็เถอะ) ถ้าเราฉลาดและโชคดีมากพอที่จะเจอครูที่ดี
ก็จะทำให้ชีวิตเรารุ่งเรืองได้อย่างมากๆเลย

แต่ในขณะเดียวกัน หลังจากประสบความสำเร็จ จากคนที่เคยเชื่อที่ปรึกษา ก็เริ่มประมาณทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว
เริ่มที่จะไม่เชื่อแล้ว อย่างตอนทนายแนะนำเรื่องว่าอย่าไปคุยกับ fbi เลย เปลืองตัวเปล่าๆ
แต่พระเอกก็ประมาณคิดว่าตัวเองเก๋าพอ คุมสถานการณ์ได้ พอเอาเข้าจริง เกือบติดคุกไปซะแล้ว  
และยังมีอีกหลายฉากในเรื่องที่พระเอก พลาดกับเรื่องเดิมๆแบบนี้ คือ ไม่เชื่อที่ปรึกษานะ....

ในขณะเดียวกัน ถ้าได้ที่ปรึกษาที่ไม่ดี ก็พาชีวีแทบจะวิบัติได้เลยนะ
เอาง่ายๆ บริษัทที่ลีโอเปิดนั่นแหละ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน
หรือแม้แต่ที่ปรึกษาที่เป็นคนรู้จัก ก็ไว้ใจเกินให้ดูแลเงิน โดยไม่สืบประวัติให้ดีซะก่อน
สุดท้าย ก็พาไปสู่บทสรุปของเรื่องที่มีแต่หายนะรออยู่
(ทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองเลยแท้ๆ เจ้าของเรื่องเขาเล่ามาอย่างนั้นนะ)

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จะติดต่อกับคนที่มีอำนาจเหนือกว่า เช่น ตำรวจ เจ้าหน้าที่ต่างๆ เจ้าหน้าที่ธนาคาร
แม้แต่สรรพากร (อันนี้ผมเจอเอง 555 เผลอพูดผิดไปนิดเดียว เกือบเป็นเรื่องเลยแน่ะ)  
ต้องอย่าประมาท อย่าคิดว่าเรามืออาชีพพอที่จะควบคุมสถานการณ์ได้
จงเชื่อมั่นมืออาชีพที่ไว้ใจได้ (ย้ำที่ไว้ใจและเป็นมืออาชีพจริงๆด้วยนะ)

***************************************************
3) ทั่วๆไปเกี่ยวกับหนัง
- งานสร้าง พวกฉากอวดรวยต่างๆ เหมือนดูมิวสิกวิดีโอเพลงแร็ปโย่ของฝรั่งซะมากกว่า
ก็ทั้งอลังการหน่อยๆ สาวๆล้อมกาย ส่ายสะบัดอะไรประมาณนั้น  
มีฉากที่ไม่ continue หลายฉากเชียว ทำให้ดูสะดุดๆเรื่อยๆ
ส่วนฉากล่องเรือในพายุ อืม..มันน่าจะสร้างได้ตื่นเต้นกว่านี้นะ ยังไม่เท่าไหร่

- การแสดง ที่โดดเด่นสุดคงลีโอมั้ง เคยดูเจ้าของเรื่องให้สัมภาษณ์กับสื่อฝรั่ง
อืม..แบบลีโอ แสดงได้ให้บรรยากาศเหมือนตัวจริงเลย ทั้งการยิ้มแบบปากแหลมๆหน่อยๆ
อื่นๆเล็กๆน้อยๆ ถือว่าเล่นได้ดีทีเดียว ที่เกือบจะไม่ผ่านก็คงเป็นฉากที่ต้องให้กำลังใจพนักงานบริษัท
หรือฉาก motivate ต่างๆนั่นแหละ ถ้าใครเคยดูคลิปของนักพูด motivate ของฝรั่ง
จะรู้สึกได้ว่า มันยังขาดพลังอะไรไปอีกบางอย่างนะ

ส่วนคนอื่นๆ ก็ ok ถือว่าสอบผ่าน แต่ไม่โดดเด่นอะไรนัก

- หนังเล่าเรื่องเหมือนดูหนังสองเรื่อง เรื่องแรกก็แบบพระเอกพล่ามอะไรคนเดียวเรื่อยๆ
(เหมือนดู malcome in the middle ถ้าใครจำซีรีส์เรื่องนี้ได้) แต่ก็เพลินดีนะ ใช้ได้
(ข้างล่างเป็นรูป malcome นะ ถ้าจำไม่ได้ลองคลิกดูแล้วกัน)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อีกส่วน ก็คือ จำลองฉากประทับใจของเจ้าของเรื่อง (เป็นห้วงๆ)
ก็เข้าใจนะ ว่าพยายามสร้างให้เหมือนจริงที่สุด เท่าที่เจ้าของเรื่องพยายามโม้เอาไว้
แต่บางอัน มันไม่มีก็ได้นะ หรือมีก็ได้แต่กระชับกว่านี้หน่อยได้ไหม

สุดท้าย เมื่อรวมหนังทั้งสองส่วนเข้าไป มันก็เลยฟุ้งๆและยืดยาวร่วม 3 ชั่วโมง
เรียกว่าเหมือนกินอาหารบุฟเฟ่ต์ เลี่ยนกันไปข้างเลยทีเดียว

- ส่วนเรื่องความสนุกเหรอ จะว่าตลก มันก็ฝืดนะ
ก็ดูเพลินๆกับฉากเอ็กซ์เสียเกินพอดีคงสนุกตรงนี้หละมั้ง
************************************************************
4) สรุป
ถ้าใครจะพลาดไม่ดูในโรง ก็ไม่เท่าไหร่นะ ดูเป็นหนังแผ่นคงไม่เสียอรรถรสนัก
ถ้าใครอยากดูเพราะว่าเป็นหนังเอ็กซ์ ผมว่าก็คงตอบโจทย์ได้ จิมมี่เพียบ ไม่มีกล้วยหอมแม้แต่ฉากเดียว
ฉากโขลกน้ำพริกเยอะแยะไปหมด สารพัดท่าต่างๆอีกต่างหาก

ถ้าจะดูเพื่อเอาสาระ อืม..ก็พอได้ แต่ต้องใช้วิจารณญาณมากหน่อยเวลาดู
แต่ถ้าตัดเรื่องฉากเซ็กซ์และมั่วยาออกไป ก็ถือว่าเป็นหนังที่สร้างได้เหมาะกับนักฝันเชียว
ประเภทฝันว่าจะรวยทางลัดนะ จะได้สำเหนียกตัวเองว่า
เบื้องหลัง เขาดูถูกลูกค้ากันขนาดไหน และจะเป็นเหยื่อได้อย่างไร

***************************************
ว่างๆเชิญแวะไป add friend พูดคุยกันได้นะครับที่ fb ของผม
https://www.facebook.com/choord.k
ชื่อสินค้า:   The Wolf of Wall Street : คนจะรวยช่วยไม่ได้
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่