เหตุการณ์ความรุนแรงที่แยกหลักสี่ ช่วงบ่ายถึงเย็นวันที่ 1 ก.พ.2557 ถูกฝ่ายระบอบทักษิณนำมาโอดครวญและ
ปรักปรำว่า กปปส.ใช้อาวุธปืน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีชายนิรนามในชุดดำพร้อมอาวุธสงคราม เคลื่อนตัวอย่างมียุทธวิธี ใช้อาวุธแบบมืออาชีพ
ไม่กราดยิงแต่ยิงเป็นจังหวะ เปิดทางให้ประชาชนฝ่าย กปปส.หนีตายจากดงกระสุนที่ยิงมาจากฝ่ายพวกเสื้อแดง
1) หลังเกิดเหตุ ตำรวจของระบอบทักษิณ นำโดย พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. แถลงข่าวโยนบาปให้
กปปส.อย่างฉับไว ระบุว่าเป็นฝ่ายยิงปืนใส่ผู้ชุมนุมที่สนับสนุนการเลือกตั้งโดยฝ่ายเดียว หลังจากที่ก่อนหน้านั้น
ตำรวจได้พื้นที่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ตัดตอนโกตี๋ โดยปกป้องว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว
จากนั้น ปรากฏว่า พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีเหตุปะทะที่บริเวณแยกหลักสี่ มีการ
ยิงตอบโต้กัน บังเอิญกลุ่มผู้ใช้อาวุธที่อยู่ทางฝั่งด้านแยกหลักสี่หรือทางฝั่งของ กปปส. ทางตำรวจอาศัยภาพถ่ายที่
ได้จากสื่อมวลชนที่ประจำอยู่ตรงบริเวณแยกหลักสี่ใกล้ๆ กับเชิงสะพานกับบริเวณใต้สะพานใกล้ป้อมตำรวจที่ได้มีการ
บันทึกภาพไว้ ส่วนกลุ่มผู้ใช้อาวุธอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งในพื้นที่หลายคนได้ให้ข้อมูลว่าน่าจะเป็นกลุ่มของนายวุฒิพงศ์
กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดง จ.ปทุมธานี ที่รวมอยู่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์ และบริเวณ
หน้าวัดหลักสี่ บังเอิญบริเวณพื้นที่นั้นไม่ค่อยมีสื่อมวลชน หรือประชาชนคนใดได้มีการบันทึกภาพไว้แล้วนำมาเผยแพร่
จึงอาจต้องอาศัยองค์ประกอบอื่นๆ เช่น การสอบพยานบุคคลหรือร่องรอยอื่นๆ ด้วย
“ขอเรียนว่า เรื่องอาวุธปืนบางชนิดมีใช้กันอยู่หลายหน่วย ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นทหารเท่านั้น บางชนิด ทั้งปืนพก
ปืนคาร์บิน อาวุธสงคราม ที่เห็นในสื่อนั้น ต่างก็มีใช้กันทั้งทหาร ตำรวจ รวมทั้งประชาชนด้วย เว้นอาวุธสงคราม”
รองโฆษก ทบ. กล่าวว่า ทหารที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ยืนยันว่ามีการยิงจากหลายทิศทาง ดังนั้น ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจ
สอบให้ชัดเจนก่อนที่จะหาข้อสรุปนำเสนอเพื่อให้เกิดการยอมรับจากสังคมด้วยพยานหลักฐานข้อเท็จจริงที่สมบูรณ์ที่สุด
มิฉะนั้น อาจส่งผลกระทบเกี่ยวกับการยอมรับ และความเชื่อมั่นในการบังคับใช้กฎหมาย
ล่าสุด ตำรวจต้องออกมายอมรับว่ามีการยิงเข้าใส่มวลชน กปปส.ด้วย
2) ก่อนเกิดการยิงปะทะกันที่หลักสี่ ฝ่าย กปปส.ได้ปักหลักอยู่ก่อน นำโดยหลวงปู่พุทธอิสระ มีมวลชนจำนวนไม่มาก
จากนั้นฝ่ายเสื้อแดงในคราบผู้สนับสนุนการเลือกตั้ง ซึ่งถูกโกตี๋ปลุกระดมมา ก็ยกพลมาพร้อมไม้ สิ่งเทียมอาวุธ ด้วย
ท่าทีพร้อมประจัญบานเต็มเหนี่ยว
ตำรวจช่างแสนดี ปล่อยให้พวกสาวกของโกตี๋ผ่านทางมาได้
มวลชน กปปส.จากลาดพร้าวทราบข่าว ตามมาสมทบที่หลักสี่ หวังเพิ่มจำนวนคนให้มากขึ้นเพื่อความปลอดภัย ปรากฏ
ว่ามาถึงก็ถูกยิงสกัดกลางขบวน
หลังจากนั้น เกิดเหตุชุลมุน มีทั้งเสียงระเบิด เสียงปืน ดังสนั่นหวั่นไหว กระสุนปลิวว่อน
ประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายกองกำลังเสื้อแดงก็มีคนชุดดำปะปนอยู่ด้วย และใกล้ๆ ตำรวจก็มีคนชุดดำปะปนอยู่ด้วย คนเหล่านี้
มีอาวุธปืนอยู่ในมือ มีหลักฐานภาพถ่าย และได้ใช้ปืนยิงออกมาในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย
มวลชนกปปส.อยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงจะถูกรุมฆ่า เหมือนที่วัดศรีเอี่ยม
เพียงแต่ว่าครั้งนี้ ปรากฏว่ามีชายชุดดำพร้อมอาวุธปืน เคลื่อนตัวแทรกเข้ามาตรงกลาง พร้อมยิงอย่างชำนาญ เปิดทาง
ให้ฝ่าย กปปส.หนีรอดจากดงกระสุน
3) ย้อนหลับไปก่อนหน้านี้... ฝ่าย กปปส.ถูกลอบยิง ลอบฆ่า โดยกองกำลังติดอาวุธชุดดำมาโดยตลอด
ตำรวจล้มเหลวในการปกป้องคุ้มครองชีวิตของประชาชนกลุ่ม กปปส. และยังไร้ความสามารถในการติดตามจับกุมตัว
ผู้ก่อเหตุ ทั้งๆ ที่ ปรากฏคลิปหลักฐานภาพถ่ายชัดเจนหลายกรณี แถมบางกรณี เช่น ที่หน้าสโมสรทหารบก ตำรวจ
ยังถูกจับได้ว่าเป็นชายชุดดำที่ยิงใส่ประชาชนเสียเอง
ผบ.ทบ.เคยออกมาเตือนว่า จะไม่ให้ประชาชนถูกทำร้ายอีก
ผบ.หน่วยซีลของกองทัพเรือเคยออกมายืนยันว่า จะยืนหยัดเคียงข้างประชาชน
4) พิเคราะห์ปฏิบัติการของชายนิรนามในชุดดำที่ยิงผ่านถุง ดังที่ปรากฏในสื่อ พบว่า
จงใจปกปิด อำพรางตัวตนและอาวุธที่ใช้ และดูจากการเคลื่อนไหวระหว่างปฏิบัติการแล้ว น่าจะมีความชำนาญด้าน
ยุทธวิธี ทำงานเป็นทีม มีคนเกาะติด ชี้เป้าหมาย และระวังหลัง
ภารกิจของปฏิบัติการ น่าจะมุ่งปกป้องและเปิดทางให้มวลชน กปปส.หนีตายออกจากดงกระสุนของอีกฝ่ายที่ระดมยิง
อยู่ก่อนหน้านั้น มากกว่าจะมุ่งเอาชีวิตของประชาชน มิฉะนั้น คงจะเกิดการสูญเสียจำนวนมากแน่นอน
5) กรณีที่แยกหลักสี่ 2557 แตกต่างจากกองกำลังติดอาวุธในปี 2553
เสื้อแดงเมื่อปี 2553 ประกาศชัดเจนตั้งแต่ต้นว่าได้เตรียมกองกำลังติดอาวุธ เป็นหนึ่งในแก้วสามประการ และในการชุมนุม
ของเสื้อแดงก็ปรากฏว่ามีการก่อการร้ายคู่ขนานไปด้วย โดยมีสถานที่ราชการและผู้ชุมนุมฝ่ายตรงข้ามเสื้อแดงตกเป็นเหยื่อ
ของการก่อเหตุร้ายของกองกำลังติดอาวุธ
แถมบนเวทีเสื้อแดงปี 2553 ยังได้มีคนระดับแกนนำที่มีบทบาทสำคัญขึ้นไปเล่าเรื่องกองกำลังติดอาวุธของฝ่ายตนด้วย
ความภาคภูมิใจ เปิดเผย ยอมรับ
แตกต่างจากกรณีที่หลักสี่ ณ พ.ศ.นี้ ฝ่าย กปปส.ประกาศชัดเจนว่าชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และการเคลื่อนไหว
ที่ผ่านมาก็ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ว่าไม่เคยใช้อาวุธหรือก่อเหตุร้ายแรงกับใคร มีแต่เดินรับเงินบริจาค รับการสนับสนุน
ชุมนุมตามสถานที่ราชการก็ไม่เคยยิง ไม่เคยเผา
ยิ่งกว่านั้น กปปส.ยังตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ ถูกลอบยิง ลอบฆ่า ด้วยอาวุธสงครามอย่างต่อเนื่องเสียอีก
เมื่อเกิดเหตุที่หลักสี่ แกนนำ กปปส.ยังงุนงง ไม่ทราบว่าชายนิรนามชุดดำที่มาปกป้องชีวิตมวลชนของ กปปส.นั้นมา
จากไหน แถมเรียกร้องให้ตำรวจทำหน้าที่คลี่คลายความจริง
6) คุณพิสุทธิ์ จันทรจำนง หรือ สจ.ตั้ม ผู้ที่ปักหลักอยู่ที่ลาดพร้าวมาโดยตลอด ให้ข้อมูลบนเฟซบุ๊คว่า
“หลายคนสอบถามมามากมายเหลือเกินเรื่องชายสวมไอ้โม่ง 2 คน ที่ใช้อาวุธปืนทราโว ปรากฏตัวบุกเข้ามาช่วยคนของ
เราทั้งเด็กและผู้หญิงหลายร้อยคนที่กำลังหมอบคลานต่ำไปตามถนนที่แยกหลักสี่หลังจากถูกเสื้อแดงยิงถล่ม
ผมต้องขอยืนยันอย่างนี้ครับ ในฐานะที่รู้จักทีมการ์ดที่ลาดพร้าวเป็นอย่างดี ผมไม่เคยเห็นบุคคล 2 คนนี้ รวมทั้งเสื้อผ้า
ที่เขาสวมใส่ก็ไม่ชินตา อย่าลืมนะครับว่าผมอยู่ที่นี่มานานและการ์ดส่วนมากแทบจะรู้จักกันหมดแล้ว แต่ 2 คนนี้ผมยืนยัน
ว่าไม่ใช่คนของลาดพร้าว
และที่สำคัญในคลิปวีดีโอ จังหวะที่ทั้ง 2 ยิงและถอยหลัง พาคนของเราหลบไปตามแนวแบริเออร์คอนกรีตนั้น ดูแป๊บ
เดียวก็รู้ครับว่าเป็นการปฏิบัติการทางยุทธิวิธีที่ฝึกฝนมา ซึ่งคุณอาจเห็นได้ในภาพยนตร์ฝรั่งหลายเรื่องที่เกี่ยวกับหน่วย
สวาท หรือหน่อยปฏิบัติการพิเศษ การเคลื่อนไหวจะมีคน 1 คนเป็นผู้ช่วยคอยแตะหลังให้เดินหน้าถอยหลังหรือซ้ายขวา
คอยชี้ทิศทางของศัตรู ที่สำคัญอาวุธในกระสอบนั้นที่แท้จริงแล้วไม่ใช่ลักษณะปิดบังอาวุธครับ แต่เพื่อเก็บปลอกกระสุน
ผมไม่กล้าทายว่าเขาเป็นใคร เป็นปริศนา
ผมรู้แค่ว่า ... เสื้อแดงยิงถล่มเราก่อน และมีคนคอยช่วยป้องกันเด็กๆและผู้หญิงของเราครับ...”
สารส้ม
http://www.naewna.com/politic/columnist/10863
ถูกถล่มมาหลายวัน วันนี้ขอพุดบ้าง ใครกันแน่ยิงก่อน
สงบ สันติ อหิงสา พร้อมอาวุธ 7 ชนิด โกหก กันทุกสื่อ ไม่ว่า ไทย เทศ
กล่าวหา ใส่ความ กปปส. กันทั้งนั้น
เหตุปะทะที่หลักสี่ ต่างจากกองโจรของเสื้อแดงปี 53 แนวหน้าออนไลน์ ..... "เราคือผู้ถูกกระทำ .... โปรดทราบ"
เหตุการณ์ความรุนแรงที่แยกหลักสี่ ช่วงบ่ายถึงเย็นวันที่ 1 ก.พ.2557 ถูกฝ่ายระบอบทักษิณนำมาโอดครวญและ
ปรักปรำว่า กปปส.ใช้อาวุธปืน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีชายนิรนามในชุดดำพร้อมอาวุธสงคราม เคลื่อนตัวอย่างมียุทธวิธี ใช้อาวุธแบบมืออาชีพ
ไม่กราดยิงแต่ยิงเป็นจังหวะ เปิดทางให้ประชาชนฝ่าย กปปส.หนีตายจากดงกระสุนที่ยิงมาจากฝ่ายพวกเสื้อแดง
1) หลังเกิดเหตุ ตำรวจของระบอบทักษิณ นำโดย พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. แถลงข่าวโยนบาปให้
กปปส.อย่างฉับไว ระบุว่าเป็นฝ่ายยิงปืนใส่ผู้ชุมนุมที่สนับสนุนการเลือกตั้งโดยฝ่ายเดียว หลังจากที่ก่อนหน้านั้น
ตำรวจได้พื้นที่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ตัดตอนโกตี๋ โดยปกป้องว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว
จากนั้น ปรากฏว่า พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีเหตุปะทะที่บริเวณแยกหลักสี่ มีการ
ยิงตอบโต้กัน บังเอิญกลุ่มผู้ใช้อาวุธที่อยู่ทางฝั่งด้านแยกหลักสี่หรือทางฝั่งของ กปปส. ทางตำรวจอาศัยภาพถ่ายที่
ได้จากสื่อมวลชนที่ประจำอยู่ตรงบริเวณแยกหลักสี่ใกล้ๆ กับเชิงสะพานกับบริเวณใต้สะพานใกล้ป้อมตำรวจที่ได้มีการ
บันทึกภาพไว้ ส่วนกลุ่มผู้ใช้อาวุธอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งในพื้นที่หลายคนได้ให้ข้อมูลว่าน่าจะเป็นกลุ่มของนายวุฒิพงศ์
กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดง จ.ปทุมธานี ที่รวมอยู่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์ และบริเวณ
หน้าวัดหลักสี่ บังเอิญบริเวณพื้นที่นั้นไม่ค่อยมีสื่อมวลชน หรือประชาชนคนใดได้มีการบันทึกภาพไว้แล้วนำมาเผยแพร่
จึงอาจต้องอาศัยองค์ประกอบอื่นๆ เช่น การสอบพยานบุคคลหรือร่องรอยอื่นๆ ด้วย
“ขอเรียนว่า เรื่องอาวุธปืนบางชนิดมีใช้กันอยู่หลายหน่วย ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นทหารเท่านั้น บางชนิด ทั้งปืนพก
ปืนคาร์บิน อาวุธสงคราม ที่เห็นในสื่อนั้น ต่างก็มีใช้กันทั้งทหาร ตำรวจ รวมทั้งประชาชนด้วย เว้นอาวุธสงคราม”
รองโฆษก ทบ. กล่าวว่า ทหารที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ยืนยันว่ามีการยิงจากหลายทิศทาง ดังนั้น ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจ
สอบให้ชัดเจนก่อนที่จะหาข้อสรุปนำเสนอเพื่อให้เกิดการยอมรับจากสังคมด้วยพยานหลักฐานข้อเท็จจริงที่สมบูรณ์ที่สุด
มิฉะนั้น อาจส่งผลกระทบเกี่ยวกับการยอมรับ และความเชื่อมั่นในการบังคับใช้กฎหมาย
ล่าสุด ตำรวจต้องออกมายอมรับว่ามีการยิงเข้าใส่มวลชน กปปส.ด้วย
2) ก่อนเกิดการยิงปะทะกันที่หลักสี่ ฝ่าย กปปส.ได้ปักหลักอยู่ก่อน นำโดยหลวงปู่พุทธอิสระ มีมวลชนจำนวนไม่มาก
จากนั้นฝ่ายเสื้อแดงในคราบผู้สนับสนุนการเลือกตั้ง ซึ่งถูกโกตี๋ปลุกระดมมา ก็ยกพลมาพร้อมไม้ สิ่งเทียมอาวุธ ด้วย
ท่าทีพร้อมประจัญบานเต็มเหนี่ยว
ตำรวจช่างแสนดี ปล่อยให้พวกสาวกของโกตี๋ผ่านทางมาได้
มวลชน กปปส.จากลาดพร้าวทราบข่าว ตามมาสมทบที่หลักสี่ หวังเพิ่มจำนวนคนให้มากขึ้นเพื่อความปลอดภัย ปรากฏ
ว่ามาถึงก็ถูกยิงสกัดกลางขบวน
หลังจากนั้น เกิดเหตุชุลมุน มีทั้งเสียงระเบิด เสียงปืน ดังสนั่นหวั่นไหว กระสุนปลิวว่อน
ประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายกองกำลังเสื้อแดงก็มีคนชุดดำปะปนอยู่ด้วย และใกล้ๆ ตำรวจก็มีคนชุดดำปะปนอยู่ด้วย คนเหล่านี้
มีอาวุธปืนอยู่ในมือ มีหลักฐานภาพถ่าย และได้ใช้ปืนยิงออกมาในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย
มวลชนกปปส.อยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงจะถูกรุมฆ่า เหมือนที่วัดศรีเอี่ยม
เพียงแต่ว่าครั้งนี้ ปรากฏว่ามีชายชุดดำพร้อมอาวุธปืน เคลื่อนตัวแทรกเข้ามาตรงกลาง พร้อมยิงอย่างชำนาญ เปิดทาง
ให้ฝ่าย กปปส.หนีรอดจากดงกระสุน
3) ย้อนหลับไปก่อนหน้านี้... ฝ่าย กปปส.ถูกลอบยิง ลอบฆ่า โดยกองกำลังติดอาวุธชุดดำมาโดยตลอด
ตำรวจล้มเหลวในการปกป้องคุ้มครองชีวิตของประชาชนกลุ่ม กปปส. และยังไร้ความสามารถในการติดตามจับกุมตัว
ผู้ก่อเหตุ ทั้งๆ ที่ ปรากฏคลิปหลักฐานภาพถ่ายชัดเจนหลายกรณี แถมบางกรณี เช่น ที่หน้าสโมสรทหารบก ตำรวจ
ยังถูกจับได้ว่าเป็นชายชุดดำที่ยิงใส่ประชาชนเสียเอง
ผบ.ทบ.เคยออกมาเตือนว่า จะไม่ให้ประชาชนถูกทำร้ายอีก
ผบ.หน่วยซีลของกองทัพเรือเคยออกมายืนยันว่า จะยืนหยัดเคียงข้างประชาชน
4) พิเคราะห์ปฏิบัติการของชายนิรนามในชุดดำที่ยิงผ่านถุง ดังที่ปรากฏในสื่อ พบว่า
จงใจปกปิด อำพรางตัวตนและอาวุธที่ใช้ และดูจากการเคลื่อนไหวระหว่างปฏิบัติการแล้ว น่าจะมีความชำนาญด้าน
ยุทธวิธี ทำงานเป็นทีม มีคนเกาะติด ชี้เป้าหมาย และระวังหลัง
ภารกิจของปฏิบัติการ น่าจะมุ่งปกป้องและเปิดทางให้มวลชน กปปส.หนีตายออกจากดงกระสุนของอีกฝ่ายที่ระดมยิง
อยู่ก่อนหน้านั้น มากกว่าจะมุ่งเอาชีวิตของประชาชน มิฉะนั้น คงจะเกิดการสูญเสียจำนวนมากแน่นอน
5) กรณีที่แยกหลักสี่ 2557 แตกต่างจากกองกำลังติดอาวุธในปี 2553
เสื้อแดงเมื่อปี 2553 ประกาศชัดเจนตั้งแต่ต้นว่าได้เตรียมกองกำลังติดอาวุธ เป็นหนึ่งในแก้วสามประการ และในการชุมนุม
ของเสื้อแดงก็ปรากฏว่ามีการก่อการร้ายคู่ขนานไปด้วย โดยมีสถานที่ราชการและผู้ชุมนุมฝ่ายตรงข้ามเสื้อแดงตกเป็นเหยื่อ
ของการก่อเหตุร้ายของกองกำลังติดอาวุธ
แถมบนเวทีเสื้อแดงปี 2553 ยังได้มีคนระดับแกนนำที่มีบทบาทสำคัญขึ้นไปเล่าเรื่องกองกำลังติดอาวุธของฝ่ายตนด้วย
ความภาคภูมิใจ เปิดเผย ยอมรับ
แตกต่างจากกรณีที่หลักสี่ ณ พ.ศ.นี้ ฝ่าย กปปส.ประกาศชัดเจนว่าชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และการเคลื่อนไหว
ที่ผ่านมาก็ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ว่าไม่เคยใช้อาวุธหรือก่อเหตุร้ายแรงกับใคร มีแต่เดินรับเงินบริจาค รับการสนับสนุน
ชุมนุมตามสถานที่ราชการก็ไม่เคยยิง ไม่เคยเผา
ยิ่งกว่านั้น กปปส.ยังตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ ถูกลอบยิง ลอบฆ่า ด้วยอาวุธสงครามอย่างต่อเนื่องเสียอีก
เมื่อเกิดเหตุที่หลักสี่ แกนนำ กปปส.ยังงุนงง ไม่ทราบว่าชายนิรนามชุดดำที่มาปกป้องชีวิตมวลชนของ กปปส.นั้นมา
จากไหน แถมเรียกร้องให้ตำรวจทำหน้าที่คลี่คลายความจริง
6) คุณพิสุทธิ์ จันทรจำนง หรือ สจ.ตั้ม ผู้ที่ปักหลักอยู่ที่ลาดพร้าวมาโดยตลอด ให้ข้อมูลบนเฟซบุ๊คว่า
“หลายคนสอบถามมามากมายเหลือเกินเรื่องชายสวมไอ้โม่ง 2 คน ที่ใช้อาวุธปืนทราโว ปรากฏตัวบุกเข้ามาช่วยคนของ
เราทั้งเด็กและผู้หญิงหลายร้อยคนที่กำลังหมอบคลานต่ำไปตามถนนที่แยกหลักสี่หลังจากถูกเสื้อแดงยิงถล่ม
ผมต้องขอยืนยันอย่างนี้ครับ ในฐานะที่รู้จักทีมการ์ดที่ลาดพร้าวเป็นอย่างดี ผมไม่เคยเห็นบุคคล 2 คนนี้ รวมทั้งเสื้อผ้า
ที่เขาสวมใส่ก็ไม่ชินตา อย่าลืมนะครับว่าผมอยู่ที่นี่มานานและการ์ดส่วนมากแทบจะรู้จักกันหมดแล้ว แต่ 2 คนนี้ผมยืนยัน
ว่าไม่ใช่คนของลาดพร้าว
และที่สำคัญในคลิปวีดีโอ จังหวะที่ทั้ง 2 ยิงและถอยหลัง พาคนของเราหลบไปตามแนวแบริเออร์คอนกรีตนั้น ดูแป๊บ
เดียวก็รู้ครับว่าเป็นการปฏิบัติการทางยุทธิวิธีที่ฝึกฝนมา ซึ่งคุณอาจเห็นได้ในภาพยนตร์ฝรั่งหลายเรื่องที่เกี่ยวกับหน่วย
สวาท หรือหน่อยปฏิบัติการพิเศษ การเคลื่อนไหวจะมีคน 1 คนเป็นผู้ช่วยคอยแตะหลังให้เดินหน้าถอยหลังหรือซ้ายขวา
คอยชี้ทิศทางของศัตรู ที่สำคัญอาวุธในกระสอบนั้นที่แท้จริงแล้วไม่ใช่ลักษณะปิดบังอาวุธครับ แต่เพื่อเก็บปลอกกระสุน
ผมไม่กล้าทายว่าเขาเป็นใคร เป็นปริศนา
ผมรู้แค่ว่า ... เสื้อแดงยิงถล่มเราก่อน และมีคนคอยช่วยป้องกันเด็กๆและผู้หญิงของเราครับ...”
สารส้ม
http://www.naewna.com/politic/columnist/10863
ถูกถล่มมาหลายวัน วันนี้ขอพุดบ้าง ใครกันแน่ยิงก่อน
สงบ สันติ อหิงสา พร้อมอาวุธ 7 ชนิด โกหก กันทุกสื่อ ไม่ว่า ไทย เทศ
กล่าวหา ใส่ความ กปปส. กันทั้งนั้น