ขนาดตลาดไม่บูม ไม่อัพเทรนด์ หรือ Downเทรนด์ ชัดๆ ยังมีลูกค้าเปิดใหม่ของผมหลายท่าน กระโดดเข้าไปใน DW
โดยเฉพาะกลุ่มเงินลงทุนน้อยๆ ไม่เกินแสน มักชอบ ติด DW ซื้อเองทาง internet เยอะมาก แล้วไม่ยอม Cut loss
วันนี้ผมจะมาเตือนมือใหม่หลายๆ ท่านที่คิดจะฝักใฝ่หาตังค์จาก DW ไม่ว่าจะ Day Trade, รอซื้อราคาปิดไปตั้งขายข้ามวัน
หรือ เปิด Spread Call Put พร้อมกัน ได้เข้าใจข้อดีและข้อเสียของมันมากขึ้น ผมเป็นมาร์ฯคนนึงที่เคยเป็นเม่าฝักใฝ่ DW
ระยะสั้นๆ ใครก็ได้ตังค์กับมัน ระยะยาวเจ๊งหมดแหละครับ ถ้าหุ้นอ้างอิงไม่มีtrend หรือ เป็น Side way

ข้อดีของ DW
1. มี Effective gearing หรือ อัตราทด ที่สามารถทำกำไรให้เราในอัตราที่ทวีคูณกว่าการถือตัวแม่หรือตัวอ้างอิง
2. มีให้เล่นทั้งสองหน้า สามารถแทงขึ้นด้วยการซื้อ Call แทงลงด้วยการซื้อ Put
3. มีความรู้สึกสุขทางจิต เงินหนา พาวเวอร์เยอะ เนื่องจากสามารถซื้อทีละได้เป็นแสนเป็นล้านหุ้น ทั้งๆที่ถ้าซื้อตัวแม่จะได้เพียงไม่กี่ร้อย
4. ทำให้ได้ติดตามราคาหุ้นตัวแม่(ตัวอ้างอิง) และตลาดฯได้อย่างไม่กระพริบตา เพราะ DW ส่วนใหญ่อ้างอิงตามหุ้นใหญ่ SET50 SET100

ข้อเสียของ DW
1. มี Effective gearing หรือ อัตราทด ที่สามารถทำให้เราขาดทุนในอัตราที่ทวีคูณกว่าการถือตัวแม่หรือตัวอ้างอิง
2. หุ้นมีจำนวนจำกัด เงินไม่กี่สิบล้านก็สามารถเหมาหมดได้ หลังจากนั้นสามารถเอาไปคุม Bid Offer ที่สูงกว่าราคาที่ Broker รับซื้อคืนได้ มีข้อเสียดังนี้
    2.1 สามารถนำไปหลอกขายให้รายย่อยอื่นในราคา Offer สูงกว่าปกติที่ Broker รับซื้อประมาณ 2-5 ช่องได้
3. ราคา ATO/ATC Broker ไม่สามารถควบคุมให้ขยับ random ตามราคาตัวแม่(ตัวอ้างอิง)ได้ ทำให้เกิดข้อเสียดังนี้
    3.1 หากมีคนเทขาย ATC ในปริมาณมาก DW จะถูกกดราคาต่ำกว่าที่ควรจะปิดตามราคาตัวอ้างอิง
    3.2 ตอนเช้าของวันถัดไป DW จึงไม่เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ควรจะเป็นเนื่องจาก ราคาผิดเพี้ยนมาตั้งแต่ราคาปิดเมื่อวาน
4. ไม่สามารถซื้อสะสมและขายทีเดียวได้หมด เพราะ Bid Offer แต่ละช่องมีไม่มาก เวลาขายต้องคอยลุ้นว่า Broker จะเติม Bid ให้ไหม??
5. มีข้อจำกัดด้านอายุคงเหลือ ทำให้ผู้ถือไม่สามารถแข่งกับเวลาได้ เกิดผลดังนี้
    5.1 เมื่อตัวแม่(ตัวอ้างอิง) ไม่ขึ้นไม่ลง หรือ ขึ้นๆลงๆ ไร้ทิศทางที่แน่ชัด
         ตัวลูกจะขึ้นๆลงๆ แต่เป็นไปในในทิศทางลงเรื่อยๆ เนื่องจาก มูลค่าลดลงตามอายุคงเหลือ
ตัวอย่าง


    5.2 เมื่อใกล้วันหมดอายุ(ประมาณ 1-2 สัปดาห์สุดท้าย) ราคา DW จะเข้าใกล้ 0.01 ซึ่งสภาพคล่องจะต่ำมาก
         Broker จะไม่ค่อยขยับราคา DW ให้ เพราะบางทีไม่ตรงกับอัตรา Gearing ที่กำหนด ทำให้เมื่อหุ้นตัวแม่(ตัวอ้างอิง) ขยับขึ้น เช่น
         สมมติว่า Effective Gearing อยู่ที่ 3 เท่า หุ้นตัวแม่ขยับขึ้น 1.5% หรือ 4 ช่อง แต่ตัว DW ไม่ขยับขึ้นเลย ทั้งที่ควรขยับบวก 4.5%
         ยังราคาอยู่ที่ 0.03 เนื่องจาก ว่า การขยับขึ้นจาก 0.03 ไป 0.04 นั้น คิดเป็น upside ถึง 34% ซึ่งเกินกว่า 4.5% ไปมากโข
         ราคา DW จะขยับขึ้นได้ หุ้นตัวแม่(หุ้นอ้างอิง) ต้องบวกถึง 11.4% ซึ่งเป็นไปได้ยากมากในหุ้นใหญ่ SET50 SET100 ที่มี DW
6. ชำระราคาด้วย Cash settlement หรือ ไม่มีการใช้สิทธิ์เปลี่ยนเป็นหุ้นแม่ใดๆจริงเลย
    หาก Out of Money จะไม่คืนเงินให้แม้แต่บาทเดียว ถึงแม้ว่าราคาในวันซื้อขายวันสุดท้ายจะมากกว่า 0.01 ก็ตาม
    แล้วหลังจากนั้นก็จะโอนหุ้นออกไปอัตโนมัติ โดยไม่ถงไม่ถามสุขภาพซักคำ เงินจะหายไปเลย หายไปแบบหายไปไม่มีวันกลับเลย

เมื่อรู้ข้างต้นดังนั้นแล้วไซร้ ก็ขอให้ระมัดระวัง High risk High Return ก็จริง แต่แข่งกับเวลานั้น มันทรมานมากนะครับ

การเล่น DW ก็ให้บทเรียนได้หลายๆอย่าง แต่จะไม่คุ้มกับค่าเรียนเท่าไหร่ครับ
1. ได้ฝักใฝ่ในการดูกราฟ โดยใช้กราฟตัวแม่เป็นหลัก แต่ข้อเสีย คือ ถ้าตัวแม่สั่งให้ Cut โดย Loss ไป 2%
    ตัว DW อาจจะ Loss ไป 10% ก็เป็นได้นะครับ วินงวินัยอะไรคุณจะไปหมดเลย เพราะมันเสียหายเยอะมาก จนคุณงง
2. ได้ฝึกอ่าน Bid Offer เพราะคุณต้องจ้องจอ จ้องรอมันตก จริงจัง
    เพราะ หุ้นราคาต่ำกว่า 1 บาทนั้น ทุกๆ 1 ช่อง(1 spread) คิดเป็น 1% หรือ มากกว่านั้น
    แต่ที่คุณได้จ้องนั้น มันจะเอาไปใช้ไม่ได้เลยในหุ้นสามัญหรือ Warrant ที่ถูกปั่น เพราะ Com มันทำตามโปรแกรม
    ไม่มีจิตวิทยาให้คุณศึกษาการวาง Bid offer ล่อของรายใหญ่อะไร อยู่ใน DW เลย
3. คุณไม่มีโอกาสได้ถือหุ้นรับปันผลอะไรกับเค้า เพราะ DW มันไม่มีให้ คุณต้องเก็งกำไรล้วนๆ

ข้อแนะนำสุดท้าย
*** หากอยากเล่น DW แนะนำว่าเอาตัวรอดในหุ้นตัวแม่ให้ได้ก่อน หลังจากนั้นก็เอาตัวรอดใน TFEX ***

มนุษย์ไม่มีทางเอาชนะเวลาได้ครับ ราคาหุ้นที่มีหมดอายุก็เช่นกันไม่สามารถเอาชนะเวลาได้

ปล. ยกเว้นหลักสูตรพ่อมดทางการเงินที่รวมตัวปั่น option ที่ไม่มีสภาพคล่องใกล้หมดอายุให้มีราคาขึ้นมาได้ แต่นั่นคือ การส่งต่อการปั่นราคาครับ