จากภาพที่ท่านได้เห็น ท่านคงทราบดีว่า รูปไหนเป็นพระแท้ รูปไหนเป็นอลัชชี คงอีกไม่นานแล้วล่ะ ประเทศไทยเราคงจะกลายเป็นเมืองศาสนาอื่น ที่ไม่ใช่พุทธอีกต่อไป เพราะตอนนี้ทุนนิยมกำลังแข็งแกร่ง อำนาจเงินยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่มีสิ่งใดต้านทานได้ แม้แต่ผู้ที่เป็นบรรพชิตยังต้องยอมแพ้แก่อำนาจเงิน

เห็นรูปของพระรูปนี้ ในหลายพฤติกรรม ผมสุดจะเอือมระอาจริงๆ ท่านเดินบนพรมแดง มีผ้าขาวรองรับ มีเฉวตฉัตรกางกั้นแดด ท่านทำเหมือนท่านเป็นศาสดาอย่างพระพุทธเจ้า (แม้แต่พระพุทธเจ้าเองยังไม่เคยปราถนาของแบบนี้ด้วยซ้ำ) แต่มองจากรูปแล้ว ท่านมีราชรถคันงาม ท่านสวมรองเท้า (หรือถุงเท้า ไม่แน่ใจ) ท่านมีจีวรห่มกาย ท่านมีคนคอยรับใช้อย่างดี ช่างเลิศหรูอะไรปานนั้น นี่หรือ "พระ" ผู้ที่ออกจากโลกเพื่อแสวงหาความสงบ ความหลุดพ้น

พระ กับ อลัชชี แยกกันไม่ยากเลย คนเลวถึงจะพยายามปกปิดความเลวแค่ไหน ก็ไม่มีทางปิดได้หมด สุดท้ายความจริงก็ปรากฏขึ้นมา เช่นเดียวกับพระที่มีกิเลสหนาเตอะ เมื่อกิเลสพวกพูนมากขึ้น ย่อมไม่สามารถห้ามตนเองได้ จึงต้องแสดงออกมาดังภาพนั่นด้านบน พระพวกนี้บวชเพื่อหาความสุขความสบาย หากินจากความเชื่อของคน พวกเขามีความปราถนากิเลสตั้งแต่เริ่ม ดังนั้นพวกเขาก็เป็นอลัชชีตั้งแต่เริ่มเหมือนกัน

อลัชชี คือ สิ่งแปลกปลอมในพุทธศาสนา เช่นเดียวกับสารเคมีจะเป็นสิ่งแปลกปลอมของอาหารที่ดี แต่อลัชชีจะไม่แปลกปลอมกับอลัชชีด้วยกัน เหมือนหนอนกับขี้ ซึ่งมันจะอยู่ด้วยกันได้ เมื่อสิ่งแปลกปลอมเข้ามา ย่อมทำให้สิ่งนั้นๆ เสื่อมเสียไปเป็นธรรมดา ท่านที่มีปัญญาทั้งหลาย เห็นภาพแบบนี้แล้วคงแยกแยะได้ว่า ไหน "พระ" ไหน "อลัชชี"

สิ่งที่ผมเอือมระอายิ่งกว่าคือ คนที่เชื่อและศรัทธาอลัชชีเหล่านี้ คนพวกนี้แยกไม่ออกจริง หรือ ไม่อยากจะแยก ไม่รู้หรือว่าเราควรเชื่อและศรัทธาใคร หรือ สิ่งไหน ที่จะเป็นประโยชน์กับเรา การเชื่อและศรัทธาคนที่เต็มไปด้วยกิเลส กราบไหว้คนเหล่านั้น เราจะได้อะไร ทั้งที่รู้ดีว่าการหลงอยู่ในกิเลส เป็นการนำพาความพินาศมาให้โดยแท้ เหมือนกับเรื่องศาสดาอุบาทว์ตามลิงค์ข้างล่างนี้

http://board.postjung.com/549898.html