ท่านปยุต มีความเหมือนพระศาสดาอยู่ประการหนึ่ง คือต้องตกเป็นเป้าโจมตีของฝ่ายอลัชชี หรือฝ่ายอธรรมอยู่เนืองๆ

แม้พระศาสดาเมื่อครั้งที่ออกเผยแผ่พระสัจจธรรมคำสอน
โดนปาขี้ใส่ก็มี โดนดักกลิ้งหินใหญ่ใส่ก็มี(หมายปลงพระชนม์)
ท่านปยุตก็เจอ เพียงแต่เจอในรูปแบบอื่น แต่อย่างไรก็ดี....
คนที่กระทำการเยี่ยงนั้น เรียกได้ว่า เป็นพวกมารพระศาสนา ของแท้
สังเกตนะครับ คำสอนของท่านปยุต ล้วนนำมาจากพระไตรปิฎก ซึ่งนั่นก็คือพุทธธรมคำสอนของพระศาสดาทั้งสิ้น
ไม่มีอะไรที่ท่านคิดใหม่เอง บัญญัติขึ้นมาใหม่เอง หรือสอนแบบเพี้ยนๆ ไม่ตรงกับพุทธธรรมคำสอนของพระพุทธองต์เลย
การปฏิบัติตน หรือวัตรปฏิบัติของท่าน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสัมมาปฏิปาทาทั้งสิ้น เช่นกัน
การที่พระอย่างท่าน ต้องมาผจญมารพระศาสนา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลย
เพราะแม้แต่พระพุทธเจ้าท่านยังโดนมาแล้ว
นับประสาอะไรกับท่านปยุต ทำไมจะโดนบ้างไม่ได้

"มารไม่มา(ผจญ) บารมีไม่เกิด"
** ผมขอแถมให้อีกนิดนะ "บารมีมากมาย ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีมาร(มาผจญ)"

// พระพุทธเจ้าท่านผจญมารมาก่อนเรานะครับ ฝากให้คิด //

คห.1
ผมเฝ้าสังเกตคุณอยู่
จากที่ดูพฤติกรรม ไม่ค่อยชอบมาพากล
เหมือนรู้ครึ่งๆกลางๆ บวกมิจฉาทิฏฐิ บวกโมหะ
หนักมากนะนี่
คนลักษณะนี้ แม้เแต่พระพุทธเจ้าท่านยังเพิกเฉยด้วย
แต่เป็นไปไม่ได้ ที่คนเช่นนี้จะรู้ตัว
เพราะมีทั้งมิจฉาทิฏฐิ บวกโมหะ ปิดบังดวงตาไว้

(โดยท่าน คห.1-1)....
เพราะพระไตรปิฏก อ่านไม่ง่าย จึงต้องมีอรรถาธิบายประกอบมาแต่โบราณ
เท่าที่เคยอ่านงานของท่าน ป.อ. ปยุตโต ส่วนมากก็เห็นเป็นการหักล้างการบิดเบือน ไม่ก็เสมือนการเทศน์เผยแผ่ธรรม
หากเห็นว่าท่านมีการสอนใดที่ไม่ตรงหรือเข้ากันได้กับพระไตรปิฎก โปรดนำมาแสดงเป็นวิทยาทาน เผื่อเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาพุทธศาสนาสืบไปด้วยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่