เริ่มแรกตั้งใจแค่ว่าจะใช้จักรยานมาเพื่อปั่นไป-กลับที่ทำงาน เลยซื้อรถพับมาใช้เพื่อความสะดวก
แต่ปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นคือ ปั่นไปปั่นมา ชักหลงรักการปั่นจักรยานมากขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ
เลยทำท่าจะติดโรคระบาดที่เป็นในชาวจักรยานกับเค้าด้วย..."โรคงอก"
ผมตั้งใจแล้วว่าจะเก็บเงินตั้งแต่วันนี้ รวมกับรอโบนัสตอนต้นปีหน้า แล้วจะงอกหมอบงบประมาณไม่เกิน 150k (ไม่รวมอุปกรณ์เสริม)
ไม่ได้คิดว่าจะต้องมาอวดใคร แต่ผมเป็นคนนิสัยแบบซื้อของชิ้นใหญ่ๆก็อยากได้เกรดที่ค่อนข้างดีแบบซื้อทีเดียวจบยาวๆเลยครับ
แต่คิดอยู่ว่าถ้างอกแพงๆทีเดียวเลยเนี่ย เนื่องจากผมไม่เคยขี่หมอบมาก่อนเลย
เดี๋ยวเกิดงอกมาไม่ตรงกับความชอบของตัวเอง มันจะขี่ไม่สนุก
เพราะจากความเข้าใจของผม แค่หมอบอย่างเดียว ก็สามารถแบ่งประเภทได้หลายแบบอยู่เหมือนกัน
ตามคาแรคเตอร์ของยี่ห้อ เฟรม อะไหล่ เช่น หมอบแบบ all around - หมอบแอโร่, หมอบเน้นทางราบ - หมอบเน้นขึ้นเขา,
หมอบแนวกดแล้วพุ่ง - หมอบแนวที่คงความเร็วดีๆ, หมอบที่แข็งๆ กระด้างๆ (เฟรมอลู) - หมอบที่นุ่มๆซับแรงดีๆ (เฟรมคาร์บอน),
องศาธรรมดา - องศาแข่ง บลาๆๆๆ
ตรงนี้อยากขอความรู้หน่อยได้มั๊ยครับว่า แต่ละแบบแต่ละประเภท มีจุดเด่นและคาแรคเตอร์ยังไง
รายละเอียดมันเยอะมาก ผมเองก็ไม่รู้ว่าหมอบแบบไหนถึงจะเหมาะกับลักษณะการขี่ของผม
เลยเกิดความคิดว่า น่าจะลองหาหมอบเริ่มต้นมาลองปั่นดูไปพลางๆก่อนเพื่อค้นหาตัวเอง
เข้าใจว่าหมอบเริ่มต้นก็คงมีแต่เฟรมอลู ซึ่งซื้อมาคงไม่ได้แต่งอะไรเพิ่ม เพราะถึงเวลางอกคันใหม่ก็คงจะขายอยู่ดี
แต่อย่างน้อยๆ ก็น่าจะพอได้รับรู้ถึงคาแรคเตอร์ในลักษณะหนึ่งๆของหมอบคันแรกของผมแน่ๆ ว่าแบบนี้ใช่สำหรับผมหรือเปล่า
ลักษณะเส้นทางที่ผมจะใช้บ่อยๆ ก็จะเป็นเส้นรามอินทรา ลาดปลาเค้า เกษตรตัดใหม่ ช็อคโกแลตวิลล์
ตอนนี้ยังไม่มีกลุ่ม ปั่นคนเดียวตลอดครับ เพราะว่ารถพับปั่นไปออกทริปไหนคงไม่ทันหมอบคนอื่นเค้า
แต่ "คิดว่า" ตามความชอบของผม น่าจะชอบแบบที่ว่า กดแล้วพุ่งๆ เพิ่มความเร็วได้ง่าย
เรื่องยืนความเร็วยาวๆผมว่าน่าจะพอบริหารจัดการแรงตัวเองได้ (มั๊ง)
เข้าใจว่า หมอบที่พุ่งดีๆ (คือเฟรมแอโร่ใช่มั๊ยครับ) จะยืนความเร็วเหนื่อยกว่าแบบ all around (หรือเปล่าครับ)
นอกเรื่องมาซะนาน เอาเป็นว่าเข้าคำถามดีกว่า
จากจุดประสงค์ที่ว่า ซื้อมากะจะใช้ประมาณปีนึง แล้วขายต่อ ตัวเลือกไหนจะน่าสนใจที่สุดครับ รบกวนขอความเห็นหน่อยครับ
งบประมาณ...หมอบเริ่มต้นของตัวยี่ห้อตลาดที่เห็นบ่อยๆหน่อย น่าจะไม่เกิน 25,000- มั๊ง ใช่มั๊ยครับ?
น่าจะต้องเป็นรถตลาด เพื่อความรวดเร็วในการขาย และราคาไม่ตกมาก
(อะไหล่เข้าใจว่าหมอบเริ่มต้นคงไม่ต่างกันมากหรือเปล่าครับ)
1. Trek 1.1 (หรือ 1.2 ไปเลยดีครับ)
ข้อดี - ราคาถูกที่สุดในรถตลาดขณะนี้ เป็นตัวเริ่มต้นที่คนจะเริ่มขี่หมอบมองเป็นตัวแรก
ดังนั้นน่าจะปล่อยต่อได้เร็วมาก และราคาน่าจะไม่ตกมาก (หรือเปล่า)
ข้อเสีย - ทุกอย่างธรรมดามาตรฐาน ไม่มีอะไรเด่นเป็นพิเศษ เมื่อเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่น
2. Merida Scultura 900 (หรือ 901 ไปเลยดีครับ)
ข้อดี - อะไหล่ดีกว่ายี่ห้อตลาดอื่นๆ เฟรมสวย (คล้ายๆ Specialized แต่เค้าก็ว่าดูดีๆองศาก็ไม่ได้เหมือนกัน) หลายคนบอกว่าพุ่งดี
ข้อเสีย - Merida (อาจจะ) ยังไม่มีชื่อในเรื่องหมอบมากเท่าไหร่ (หรือเปล่าครับ) อาจจะขายยากกว่าและราคาตกมากกว่าตัวอื่นๆ
3. Specialized Allez C2
ข้อดี - เค้าว่าเฟรมพุ่ง องศาแข่ง น่าจะเป็นยี่ห้อที่ตลาดต้องการอีกยี่ห้อหนึ่ง ประกาศขายไม่น่าต้องรอนาน
ข้อเสีย - อะไหล่ที่ได้มาด้อยที่สุดในทุกตัวที่ราคาพอกัน
4. Bianchi Nirone7
ข้อดี - ทุกอย่างกลางๆ ได้ยินว่าขี่สบายไม่เมื่อย เป็นยี่ห้อที่ตลาดก็น่าจะต้องการมากอีกยี่ห้อหนึ่ง ที่สำคัญ มีจัดทริปประจำ
น่าจะดีสำหรับคนที่ขี่คนเดียวแบบผมที่จะพัฒนาตัวเอง และหาเพื่อนใหม่ในทริป
ข้อเสีย - เข้าใจว่าราคาน่าจะแพงที่สุดในกลุ่มที่ยกมาข้างบน
ไม่แน่ใจว่าขายต่อจะราคาตกมากกว่า Trek และ Specialized มากหรือเปล่า
สำหรับตัวเลือกอื่นๆ เช่น Giant, Fuji บลาๆๆ ผมไม่ได้ศึกษาข้อมูลมากเท่าไหร่เลยครับ
ถ้าใครมีอะไรแนะนำเพิ่มเติมถึงจุดเด่นความน่าสนใจ รบกวนช่วยให้ความเห็นด้วยนะครับ
ขอบคุณมากครับ
คิดว่าจะซื้อหมอบเริ่มต้นมาปั่นซักพักแล้วขาย ตัวเลือกไหนที่น่าจะขายต่อได้ง่าย เร็ว และราคาตกน้อยที่สุดครับ
แต่ปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นคือ ปั่นไปปั่นมา ชักหลงรักการปั่นจักรยานมากขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ
เลยทำท่าจะติดโรคระบาดที่เป็นในชาวจักรยานกับเค้าด้วย..."โรคงอก"
ผมตั้งใจแล้วว่าจะเก็บเงินตั้งแต่วันนี้ รวมกับรอโบนัสตอนต้นปีหน้า แล้วจะงอกหมอบงบประมาณไม่เกิน 150k (ไม่รวมอุปกรณ์เสริม)
ไม่ได้คิดว่าจะต้องมาอวดใคร แต่ผมเป็นคนนิสัยแบบซื้อของชิ้นใหญ่ๆก็อยากได้เกรดที่ค่อนข้างดีแบบซื้อทีเดียวจบยาวๆเลยครับ
แต่คิดอยู่ว่าถ้างอกแพงๆทีเดียวเลยเนี่ย เนื่องจากผมไม่เคยขี่หมอบมาก่อนเลย
เดี๋ยวเกิดงอกมาไม่ตรงกับความชอบของตัวเอง มันจะขี่ไม่สนุก
เพราะจากความเข้าใจของผม แค่หมอบอย่างเดียว ก็สามารถแบ่งประเภทได้หลายแบบอยู่เหมือนกัน
ตามคาแรคเตอร์ของยี่ห้อ เฟรม อะไหล่ เช่น หมอบแบบ all around - หมอบแอโร่, หมอบเน้นทางราบ - หมอบเน้นขึ้นเขา,
หมอบแนวกดแล้วพุ่ง - หมอบแนวที่คงความเร็วดีๆ, หมอบที่แข็งๆ กระด้างๆ (เฟรมอลู) - หมอบที่นุ่มๆซับแรงดีๆ (เฟรมคาร์บอน),
องศาธรรมดา - องศาแข่ง บลาๆๆๆ
ตรงนี้อยากขอความรู้หน่อยได้มั๊ยครับว่า แต่ละแบบแต่ละประเภท มีจุดเด่นและคาแรคเตอร์ยังไง
รายละเอียดมันเยอะมาก ผมเองก็ไม่รู้ว่าหมอบแบบไหนถึงจะเหมาะกับลักษณะการขี่ของผม
เลยเกิดความคิดว่า น่าจะลองหาหมอบเริ่มต้นมาลองปั่นดูไปพลางๆก่อนเพื่อค้นหาตัวเอง
เข้าใจว่าหมอบเริ่มต้นก็คงมีแต่เฟรมอลู ซึ่งซื้อมาคงไม่ได้แต่งอะไรเพิ่ม เพราะถึงเวลางอกคันใหม่ก็คงจะขายอยู่ดี
แต่อย่างน้อยๆ ก็น่าจะพอได้รับรู้ถึงคาแรคเตอร์ในลักษณะหนึ่งๆของหมอบคันแรกของผมแน่ๆ ว่าแบบนี้ใช่สำหรับผมหรือเปล่า
ลักษณะเส้นทางที่ผมจะใช้บ่อยๆ ก็จะเป็นเส้นรามอินทรา ลาดปลาเค้า เกษตรตัดใหม่ ช็อคโกแลตวิลล์
ตอนนี้ยังไม่มีกลุ่ม ปั่นคนเดียวตลอดครับ เพราะว่ารถพับปั่นไปออกทริปไหนคงไม่ทันหมอบคนอื่นเค้า
แต่ "คิดว่า" ตามความชอบของผม น่าจะชอบแบบที่ว่า กดแล้วพุ่งๆ เพิ่มความเร็วได้ง่าย
เรื่องยืนความเร็วยาวๆผมว่าน่าจะพอบริหารจัดการแรงตัวเองได้ (มั๊ง)
เข้าใจว่า หมอบที่พุ่งดีๆ (คือเฟรมแอโร่ใช่มั๊ยครับ) จะยืนความเร็วเหนื่อยกว่าแบบ all around (หรือเปล่าครับ)
นอกเรื่องมาซะนาน เอาเป็นว่าเข้าคำถามดีกว่า
จากจุดประสงค์ที่ว่า ซื้อมากะจะใช้ประมาณปีนึง แล้วขายต่อ ตัวเลือกไหนจะน่าสนใจที่สุดครับ รบกวนขอความเห็นหน่อยครับ
งบประมาณ...หมอบเริ่มต้นของตัวยี่ห้อตลาดที่เห็นบ่อยๆหน่อย น่าจะไม่เกิน 25,000- มั๊ง ใช่มั๊ยครับ?
น่าจะต้องเป็นรถตลาด เพื่อความรวดเร็วในการขาย และราคาไม่ตกมาก
(อะไหล่เข้าใจว่าหมอบเริ่มต้นคงไม่ต่างกันมากหรือเปล่าครับ)
1. Trek 1.1 (หรือ 1.2 ไปเลยดีครับ)
ข้อดี - ราคาถูกที่สุดในรถตลาดขณะนี้ เป็นตัวเริ่มต้นที่คนจะเริ่มขี่หมอบมองเป็นตัวแรก
ดังนั้นน่าจะปล่อยต่อได้เร็วมาก และราคาน่าจะไม่ตกมาก (หรือเปล่า)
ข้อเสีย - ทุกอย่างธรรมดามาตรฐาน ไม่มีอะไรเด่นเป็นพิเศษ เมื่อเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่น
2. Merida Scultura 900 (หรือ 901 ไปเลยดีครับ)
ข้อดี - อะไหล่ดีกว่ายี่ห้อตลาดอื่นๆ เฟรมสวย (คล้ายๆ Specialized แต่เค้าก็ว่าดูดีๆองศาก็ไม่ได้เหมือนกัน) หลายคนบอกว่าพุ่งดี
ข้อเสีย - Merida (อาจจะ) ยังไม่มีชื่อในเรื่องหมอบมากเท่าไหร่ (หรือเปล่าครับ) อาจจะขายยากกว่าและราคาตกมากกว่าตัวอื่นๆ
3. Specialized Allez C2
ข้อดี - เค้าว่าเฟรมพุ่ง องศาแข่ง น่าจะเป็นยี่ห้อที่ตลาดต้องการอีกยี่ห้อหนึ่ง ประกาศขายไม่น่าต้องรอนาน
ข้อเสีย - อะไหล่ที่ได้มาด้อยที่สุดในทุกตัวที่ราคาพอกัน
4. Bianchi Nirone7
ข้อดี - ทุกอย่างกลางๆ ได้ยินว่าขี่สบายไม่เมื่อย เป็นยี่ห้อที่ตลาดก็น่าจะต้องการมากอีกยี่ห้อหนึ่ง ที่สำคัญ มีจัดทริปประจำ
น่าจะดีสำหรับคนที่ขี่คนเดียวแบบผมที่จะพัฒนาตัวเอง และหาเพื่อนใหม่ในทริป
ข้อเสีย - เข้าใจว่าราคาน่าจะแพงที่สุดในกลุ่มที่ยกมาข้างบน
ไม่แน่ใจว่าขายต่อจะราคาตกมากกว่า Trek และ Specialized มากหรือเปล่า
สำหรับตัวเลือกอื่นๆ เช่น Giant, Fuji บลาๆๆ ผมไม่ได้ศึกษาข้อมูลมากเท่าไหร่เลยครับ
ถ้าใครมีอะไรแนะนำเพิ่มเติมถึงจุดเด่นความน่าสนใจ รบกวนช่วยให้ความเห็นด้วยนะครับ
ขอบคุณมากครับ