เอาหล่ะครับ วันนี้ผมมีเรื่องอยากจะมา Complain ซักหน่อยนะครับ
ซึ่งเมื่อคืนนี้ผมไปชมภาพยนตร์ที่เมเจอร์ซีนีเพล็ก
สาขา โลตัส บางกะปิครับ ผมดูหนังเรื่อง Wolf of WallStreet รอบ 22.20 น. ครับ
ก่อนอื่นผมต้องขอบอกเลยครับว่า ทางโลตัสมีนโยบายเก็บเงินค่าจอดรถ
มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งผมก็เห็นว่ามันไม่แปลกตรงไหน เพราะคงเป็น
นโยบายป้องกันผู้ที่ไม่ใช่ลูกค้าของ เทสโก้ โลตัสมาจอดรถ ทำให้ลูกค้า
ที่จะมาซื้อของจริง ๆ มีปัญหาเรื่องที่จอด ซึ่งด้านหน้าตรงจุดรับบัตร
จะติดป้ายไว้ชัดเจนว่า "จอดฟรี 3 ชั่วโมงแรก" ส่วนอัตราค่าจอดหลัง
จาก 3 ชั่วโมงแรกนั้นผมไม่ทราบครับ แล้วจะมีป้ายที่เล็กลงมากว่า
ป้ายที่ผมบอกมะกี๊อยู่มาก เขียนประมาณว่า "ลูกค้าเมเจอร์ซีนีเพล็ก
สามารถนำบัตรชมภาพยนตร์ประทับตรา มายื่นได้เพื่อเพื่มเวลาจอดรถฟรี
จาก 3 ชั่วโมงเป็น 6 ชั่วโมง" ซึ่งทุกครั้งผมจะไปประทับตราตลอดครับ
เลยไม่ค่อยซีเรียสเรื่องที่จอดรถ เพราะผมจะไปดูหนังที่เมเจอร์บางกะปิตลอดครับ
แล้วก็จะซื้อของในนี้ส่วนใหญ่ด้วย เพราะสะดวกไม่ต้องไปหลายที่
ผมมาถึงที่โลตัสราว ๆ 2 ทุ่มครับ ผมก็จอดรถไว้ที่ชั้น 2 (ด้านบน) แล้วก็
เดินไปที่โรงหนังตามปกติ ซึ่งผมนับเวลาแล้ว หากไม่เกินตี 2 (ครบ 6 ชั่วโมง) ก็คงไม่ต้องเสียค่าจอดอะไร หากเกินมาหน่อย 20 บาท - 40 บาท ไม่เป็นไรครับ สบายมากแลกกับการดูหนังเรื่องนึงที่อยากดู!
หนังเรื่องนี้ยาวมาก ผมออกจากโรงหนังตอนราว ๆ ตี 1.30 นาที
ผมจอดรถไว้ลานจอดรถชั้น 2 ผมก็เดินลงไปชั้นล่าง ห่างจากโรงหนังไกลพอสมควร
หากเดินจากโรงหนังราว ๆ 5 นาทีได้ครับ พอไปถึงผมก็พบว่าจุดที่ยื่นประทับตราเพื่อขอเพิ่มเวลาจอดรถเป็น 6 ชั่วโมงมันปิดไปละครับ ผมก็เลยขึ้นบันได
ด้านนอกห้างเพื่อขึ้นไปลานจอดรถ ซึ่งขอบอกว่า ตอนนี้มันมืดมาก ๆ ครับ
ผู้หญิงไม่ควรเดินมาคนเดียวครับ น่ากลัวมาก ๆ
ผมก็ขึ้นรถขับออกมาจากห้างตามปกติ พอมาถึงจุดคืนบัตร ผมก็ต่อเป็นคิวที่ 3
เพื่อนยื่นบัตรออกจากห้าง แต่รู้มั๊ยครับว่า แค่ 2 คันหน้าผม ผมรอไป 15 นาที!!
ผมสงสัยมากว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็ถึงคิวผมครับ ผมยื่นบัตรจอดรถไปพร้อมตั๋วหนัง
แล้วนี่คือเหตุการณ์สนทนาที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับพนักงานรับบัตรจอดรถคืน
ผม : (ยื่นบัตรให้ตามปกติ)
พนง. : (นำบัตรไปสแกน)ต้องจ่ายอีก 100 บาทครับ
ผม : ห๊าาา จ่ายยังไงครับ ผมดูหนังนี่ไงครับ ดูตั๋วสิครับ!
พนง. : ต้องจ่ายครับ เพราะไม่ได้ประทับตราขอเวลาเพิ่มมา
ผม : อ้าวน้อง ก็มันปิดแล้วอะครับ จะให้ไปประทับตราที่ไหน
พนง. : ต้องประทับก่อนเที่ยงคืน (หน้าตาเริ่มไม่ค่อยดี)
ผม : อ้าว แล้วไหนป้ายบอกเวลาปิดจุดประทับตราครับ
พนง : ติดไว้ตามโรงหนัง (พูดห้วน ๆ หน้าตาไม่พอใจ)
ผม : อย่าตลกครับ ผมมาดูหนังที่นี่ตลอด ผมเดินรอดูหนังตั้งแต่ 2 ทุ่ม ผมดูหนังเกือบ 4 ทุ่มครึ่ง ผมไม่เห็นมีบอกซักป้ายทีแต่ตรงจุดฉีกหางตั๋วหนัง ใบเท่า A 4 ใบนึงบอกว่าประทับตราที่ชั้นล่างลานจอดรถแค่นั้น เวลาอะไรไม่เห็นมีแจ้ง แล้วคุณจะมาบอกว่าติดตามโรงหนังไม่ได้หรอกครับ
พนง : ไงก็ต้องจ่าย 100 บาทครับ
ผม : โอ้โห! ผมรู้แล้วทำไม 2 คันก่อนผมถึงช้า แล้วผมเชื่อว่าหลังผมอีก 10 กว่าคัน น่าจะโดนกันอีกหลายแน่นอน
พนง : ไม่ทราบครับ
ผม : เดี๋ยวนี้นโยบายโลตัสนี่ชักจะไม่น่าเข้ามาใช้บริการแล้วสิ
พนง : แล้วแต่ลูกค้าครับ
ผม : น้องช่วยดูที่บัตรสิครับ ว่าพี่ดูหนังกี่โมง หางบัตรวันนี้ด้วย (ผมพยายามพูดดี ๆ เพราะตอนนี้อารมณ์ผมก็เต็มที่ละ)
พนง : ต้องจ่ายเพิ่ม 100 บาทครับ
ผม : (ยื่นเงินให้) แล้วน้องจะเข้าใจ กับอาการที่น้องทำกับพี่เมื่อครู่นี้
แล้วผมก็ขับรถออกมาครับ สิ่งที่ผมอยากจะบอกทาง เทสโก้ โลตัสมีดังนี้ครับ
1. หากคุณจะเก็บเงินค่าที่จอดรถ ผมไม่ว่าครับ ผมมาใช้บริการบ่อย ผมยินดี แต่ในกรณีแบบนี้ คุณจะสั่งให้พนักงานของคุณเก็บหลักฐานบัตรเอาไว้ไม่ได้เหรอครับ หรือต้องไปประทับตราอย่างเดียวเลย แล้วจุดประทับตรามีที่เดียว
ลานจอดรถคุณกว้างมากนะครับ กว้างมาก ๆ แล้วถ้าผู้หญิงมาคนเดียวที่จอดเต็ม เค้าต้องจอดไกล ๆ เสร็จธุระดึก ๆ ต้องเดินไปประทับตรานี่ ที่มืด ๆ แบบนี้ ที่ลานจอดรถด้านล่าง แล้วเดินไปที่รถที่จอดอยู่ไกล ๆ เหรอครับ? ผมเริ่มเข้าใจละครับว่า เหตุการณ์น้องยิ้ม โออิชิ มันเกิดจากแบบนี้นี่เอง
2. เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ ครับ ที่ทางโลตัสได้ทำจุดจอดรถพิเศษใกล้ประตูทางเข้าห้าง ซึ่งเป็นที่จอดสำหรับสุภาพสตรีที่มาคนเดียว เพื่อลดความเสี่ยง
จากการเกิดเหตุอาชญากรรมระหว่างเดินกลับไปที่รถหากรถจอดอยู่ไกล
แต่ผมจะบอกให้นะครับ จุดจอดรถที่คุณทำขึ้น มันไม่มีประโยชน์ครับ
ผมเห็นหลายต่อหลายครั้ง ผู้ชายขับรถกระบะแต่งโหด ๆ มา มาถึงมันขี้เกียจเดินมันก็จอดครับ ในจุดจอดรถพิเศษนี่ แล้วพนักงานรักษาความปลอดภัยของคุณไปไหนหมดครับ ไม่ให้มายืนเฝ้าเพื่อให้มันเป็นจุดจอดรถพิเศษ ตามจุดประสงค์ของทางห้างหล่ะครับ?
3. หากคุณมีการประสานงานเรื่องค่าบริการที่จอดรถกับทาง เมเจอร์ ซีนีเพล็ก ผมว่าคุณควรให้พนักงานของเมเจอร์ประชาสัมพันธ์เรื่องเวลาในการประทับตราขอเวลาที่จอดรถเพิ่มด้วยนะครับ คุณจะมาอ้างว่าติดป้ายแล้วมันไม่ใช่อะครับ โรงหนังเค้าต้องติดป้ายโฆษณาหนังบ้างอะไรบ้างมากมายไปหมด คุณจะมาบอกว่าติดตามโรงหนังแล้วมันฟังดูไร้สาระหน่ะครับ แล้วลานจอดรถจอดได้หลายร้อยคัน คุณมีจุดประทับตราขอเวลาเพิ่มจุดเดียว
ย้ำว่าลาน จอดรถ 2 ชั้นแต่มีจุดประทับตราแค่จุดเดียว แล้วไม่ได้อยู่ใกล้ทางเข้าห้างด้วยครับ อยู่ไกลพอสมควร จะประสานงานควรลงทุนหน่อยครับ
4. พนักงานนี่ไม่ทราบว่าจ้างเค้ามาทำงานหรือบังคับให้เค้ามาทำงานฟรีเหรอครับ ผมเข้าใจนะครับว่าเหนื่อยงาน แต่หน้าตานี่ช่วยอบรมหน่อยนะครับ ผมมาใช้บริการ ผมต้องการบริการ ไม่ใช่หน้าตา อารมณ์ และสันดาน สาดมาใส่ผม ผมพยายามพูดดี ๆ กับพนักงานคนนั้นแล้ว แต่ผมว่าเค้าคงเหนื่อย เลยส่อกิริยาแย่ ๆ ออกมา
5. ทางห้างน่าจะทราบว่าโรงหนังรอบสุดท้ายมันดึก แล้วพนักงานรักษาความปลอดภัยไปไหนหมดครับ ตอนก่อนผมขึ้นรถ ลานจอดรถจอดได้เป็นหลายร้อยคัน กวาดสายตาไปรถจอดอีกเกือบ 20 คัน แต่ไฟไม่เปิดซักดวง เปิดตรงประตูทางเข้าห้างดวงเดียว ที่สำคัญ รปภ. หลับกันหมดแล้วเหรอครับ
6. หากทางห้างไม่ปรับปรุง เหตุการณ์จี้ชิงทรัพย์มีอีกแน่นอนครับ เพราะผมวิเคราะห์ความเสี่ยงหลายอย่างแล้ว ผมขอบอกเลยว่า ไม่สมควรให้ผู้หญิงมาคนเดียว!!
7. หากไม่ปรับปรุง ผมคงไม่ใช้บริการที่นี่แล้วหล่ะครับ เพราะการประชาสัมพันธ์และการประสานงานแบบนี้ คันหลัง อีก 20 คันที่ขับตาม ๆ มา คันละ 100 บาทก็นิ่ม ๆ หล่ะครับ 2000 บาทครับ
8. แล้วจุดประทับตรานี่ผมข้องใจมาก ๆ ครับ สรุปแล้ว หากผมจะขอเวลาจอดฟรีเพิ่ม ผมก็ต้องตะแบงเดินลงไปไกล ๆ
เพื่อไปขอเวลาจอดฟรีเพิ่มขนาดนั้นเลยเหรอครับ แล้วมีแค่จุดเดียว แล้วไกลจากโรงหนังมาก
ผมมาใช่บริการ การบริการ การให้ความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า มันเป็นสิ่งที่
ทางห้างสมควรจะทำไม่ใช่เหรอครับ ทำไมผมถึงรู้สึกวันนี้เป็นครั้งแรกว่า "ผมต้องไปกราบขอเวลาจอดเพิ่มหรือไปง้อทางห้าง"
ขนาดนั้นเลยเหรอครับ ถึงมีแค่จุดเดียว แล้วคุณปิดก่อนหนังรอบสุดท้ายจบ อีกทั้งถ้าปิดไปแล้ว ลูกค้าที่ไม่รู้เรื่อง
ว่าคุณจะปิดประทับตราเที่ยงคืนก็จะต้องเสียค่าโง่ เพิ่ม งั้นเหรอครับ?
สุดท้ายนี้ผมรู้สึกผิดหวังจริง ๆ กับการให้บริการของพนักงานวันนี้
รวมถึงองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างที่ผมเจอในวันนี้ด้วย ผมเป็นคนนึง
ที่ดูหนังที่เมเจอร์ บางกะปิตลอดเวลา แต่วันนี้ผมบอกได้เลยว่า
ผมพร้อมจะขับรถไปไกลอีกหน่อยเพื่อไปดูที่อื่นดีกว่าครับ
ขอบคุณครับ
ปัญหาหลังจากการดูหนังรอบดึก ที่เมเจอร์ ซีนีเพล็ก สาขาโลตัสบางกะปิ (ผู้หญิงควรอ่านไว้ก็ดีนะครับ)
ซึ่งเมื่อคืนนี้ผมไปชมภาพยนตร์ที่เมเจอร์ซีนีเพล็ก
สาขา โลตัส บางกะปิครับ ผมดูหนังเรื่อง Wolf of WallStreet รอบ 22.20 น. ครับ
ก่อนอื่นผมต้องขอบอกเลยครับว่า ทางโลตัสมีนโยบายเก็บเงินค่าจอดรถ
มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งผมก็เห็นว่ามันไม่แปลกตรงไหน เพราะคงเป็น
นโยบายป้องกันผู้ที่ไม่ใช่ลูกค้าของ เทสโก้ โลตัสมาจอดรถ ทำให้ลูกค้า
ที่จะมาซื้อของจริง ๆ มีปัญหาเรื่องที่จอด ซึ่งด้านหน้าตรงจุดรับบัตร
จะติดป้ายไว้ชัดเจนว่า "จอดฟรี 3 ชั่วโมงแรก" ส่วนอัตราค่าจอดหลัง
จาก 3 ชั่วโมงแรกนั้นผมไม่ทราบครับ แล้วจะมีป้ายที่เล็กลงมากว่า
ป้ายที่ผมบอกมะกี๊อยู่มาก เขียนประมาณว่า "ลูกค้าเมเจอร์ซีนีเพล็ก
สามารถนำบัตรชมภาพยนตร์ประทับตรา มายื่นได้เพื่อเพื่มเวลาจอดรถฟรี
จาก 3 ชั่วโมงเป็น 6 ชั่วโมง" ซึ่งทุกครั้งผมจะไปประทับตราตลอดครับ
เลยไม่ค่อยซีเรียสเรื่องที่จอดรถ เพราะผมจะไปดูหนังที่เมเจอร์บางกะปิตลอดครับ
แล้วก็จะซื้อของในนี้ส่วนใหญ่ด้วย เพราะสะดวกไม่ต้องไปหลายที่
ผมมาถึงที่โลตัสราว ๆ 2 ทุ่มครับ ผมก็จอดรถไว้ที่ชั้น 2 (ด้านบน) แล้วก็
เดินไปที่โรงหนังตามปกติ ซึ่งผมนับเวลาแล้ว หากไม่เกินตี 2 (ครบ 6 ชั่วโมง) ก็คงไม่ต้องเสียค่าจอดอะไร หากเกินมาหน่อย 20 บาท - 40 บาท ไม่เป็นไรครับ สบายมากแลกกับการดูหนังเรื่องนึงที่อยากดู!
หนังเรื่องนี้ยาวมาก ผมออกจากโรงหนังตอนราว ๆ ตี 1.30 นาที
ผมจอดรถไว้ลานจอดรถชั้น 2 ผมก็เดินลงไปชั้นล่าง ห่างจากโรงหนังไกลพอสมควร
หากเดินจากโรงหนังราว ๆ 5 นาทีได้ครับ พอไปถึงผมก็พบว่าจุดที่ยื่นประทับตราเพื่อขอเพิ่มเวลาจอดรถเป็น 6 ชั่วโมงมันปิดไปละครับ ผมก็เลยขึ้นบันได
ด้านนอกห้างเพื่อขึ้นไปลานจอดรถ ซึ่งขอบอกว่า ตอนนี้มันมืดมาก ๆ ครับ
ผู้หญิงไม่ควรเดินมาคนเดียวครับ น่ากลัวมาก ๆ
ผมก็ขึ้นรถขับออกมาจากห้างตามปกติ พอมาถึงจุดคืนบัตร ผมก็ต่อเป็นคิวที่ 3
เพื่อนยื่นบัตรออกจากห้าง แต่รู้มั๊ยครับว่า แค่ 2 คันหน้าผม ผมรอไป 15 นาที!!
ผมสงสัยมากว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็ถึงคิวผมครับ ผมยื่นบัตรจอดรถไปพร้อมตั๋วหนัง
แล้วนี่คือเหตุการณ์สนทนาที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับพนักงานรับบัตรจอดรถคืน
ผม : (ยื่นบัตรให้ตามปกติ)
พนง. : (นำบัตรไปสแกน)ต้องจ่ายอีก 100 บาทครับ
ผม : ห๊าาา จ่ายยังไงครับ ผมดูหนังนี่ไงครับ ดูตั๋วสิครับ!
พนง. : ต้องจ่ายครับ เพราะไม่ได้ประทับตราขอเวลาเพิ่มมา
ผม : อ้าวน้อง ก็มันปิดแล้วอะครับ จะให้ไปประทับตราที่ไหน
พนง. : ต้องประทับก่อนเที่ยงคืน (หน้าตาเริ่มไม่ค่อยดี)
ผม : อ้าว แล้วไหนป้ายบอกเวลาปิดจุดประทับตราครับ
พนง : ติดไว้ตามโรงหนัง (พูดห้วน ๆ หน้าตาไม่พอใจ)
ผม : อย่าตลกครับ ผมมาดูหนังที่นี่ตลอด ผมเดินรอดูหนังตั้งแต่ 2 ทุ่ม ผมดูหนังเกือบ 4 ทุ่มครึ่ง ผมไม่เห็นมีบอกซักป้ายทีแต่ตรงจุดฉีกหางตั๋วหนัง ใบเท่า A 4 ใบนึงบอกว่าประทับตราที่ชั้นล่างลานจอดรถแค่นั้น เวลาอะไรไม่เห็นมีแจ้ง แล้วคุณจะมาบอกว่าติดตามโรงหนังไม่ได้หรอกครับ
พนง : ไงก็ต้องจ่าย 100 บาทครับ
ผม : โอ้โห! ผมรู้แล้วทำไม 2 คันก่อนผมถึงช้า แล้วผมเชื่อว่าหลังผมอีก 10 กว่าคัน น่าจะโดนกันอีกหลายแน่นอน
พนง : ไม่ทราบครับ
ผม : เดี๋ยวนี้นโยบายโลตัสนี่ชักจะไม่น่าเข้ามาใช้บริการแล้วสิ
พนง : แล้วแต่ลูกค้าครับ
ผม : น้องช่วยดูที่บัตรสิครับ ว่าพี่ดูหนังกี่โมง หางบัตรวันนี้ด้วย (ผมพยายามพูดดี ๆ เพราะตอนนี้อารมณ์ผมก็เต็มที่ละ)
พนง : ต้องจ่ายเพิ่ม 100 บาทครับ
ผม : (ยื่นเงินให้) แล้วน้องจะเข้าใจ กับอาการที่น้องทำกับพี่เมื่อครู่นี้
แล้วผมก็ขับรถออกมาครับ สิ่งที่ผมอยากจะบอกทาง เทสโก้ โลตัสมีดังนี้ครับ
1. หากคุณจะเก็บเงินค่าที่จอดรถ ผมไม่ว่าครับ ผมมาใช้บริการบ่อย ผมยินดี แต่ในกรณีแบบนี้ คุณจะสั่งให้พนักงานของคุณเก็บหลักฐานบัตรเอาไว้ไม่ได้เหรอครับ หรือต้องไปประทับตราอย่างเดียวเลย แล้วจุดประทับตรามีที่เดียว
ลานจอดรถคุณกว้างมากนะครับ กว้างมาก ๆ แล้วถ้าผู้หญิงมาคนเดียวที่จอดเต็ม เค้าต้องจอดไกล ๆ เสร็จธุระดึก ๆ ต้องเดินไปประทับตรานี่ ที่มืด ๆ แบบนี้ ที่ลานจอดรถด้านล่าง แล้วเดินไปที่รถที่จอดอยู่ไกล ๆ เหรอครับ? ผมเริ่มเข้าใจละครับว่า เหตุการณ์น้องยิ้ม โออิชิ มันเกิดจากแบบนี้นี่เอง
2. เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ ครับ ที่ทางโลตัสได้ทำจุดจอดรถพิเศษใกล้ประตูทางเข้าห้าง ซึ่งเป็นที่จอดสำหรับสุภาพสตรีที่มาคนเดียว เพื่อลดความเสี่ยง
จากการเกิดเหตุอาชญากรรมระหว่างเดินกลับไปที่รถหากรถจอดอยู่ไกล
แต่ผมจะบอกให้นะครับ จุดจอดรถที่คุณทำขึ้น มันไม่มีประโยชน์ครับ
ผมเห็นหลายต่อหลายครั้ง ผู้ชายขับรถกระบะแต่งโหด ๆ มา มาถึงมันขี้เกียจเดินมันก็จอดครับ ในจุดจอดรถพิเศษนี่ แล้วพนักงานรักษาความปลอดภัยของคุณไปไหนหมดครับ ไม่ให้มายืนเฝ้าเพื่อให้มันเป็นจุดจอดรถพิเศษ ตามจุดประสงค์ของทางห้างหล่ะครับ?
3. หากคุณมีการประสานงานเรื่องค่าบริการที่จอดรถกับทาง เมเจอร์ ซีนีเพล็ก ผมว่าคุณควรให้พนักงานของเมเจอร์ประชาสัมพันธ์เรื่องเวลาในการประทับตราขอเวลาที่จอดรถเพิ่มด้วยนะครับ คุณจะมาอ้างว่าติดป้ายแล้วมันไม่ใช่อะครับ โรงหนังเค้าต้องติดป้ายโฆษณาหนังบ้างอะไรบ้างมากมายไปหมด คุณจะมาบอกว่าติดตามโรงหนังแล้วมันฟังดูไร้สาระหน่ะครับ แล้วลานจอดรถจอดได้หลายร้อยคัน คุณมีจุดประทับตราขอเวลาเพิ่มจุดเดียว
ย้ำว่าลาน จอดรถ 2 ชั้นแต่มีจุดประทับตราแค่จุดเดียว แล้วไม่ได้อยู่ใกล้ทางเข้าห้างด้วยครับ อยู่ไกลพอสมควร จะประสานงานควรลงทุนหน่อยครับ
4. พนักงานนี่ไม่ทราบว่าจ้างเค้ามาทำงานหรือบังคับให้เค้ามาทำงานฟรีเหรอครับ ผมเข้าใจนะครับว่าเหนื่อยงาน แต่หน้าตานี่ช่วยอบรมหน่อยนะครับ ผมมาใช้บริการ ผมต้องการบริการ ไม่ใช่หน้าตา อารมณ์ และสันดาน สาดมาใส่ผม ผมพยายามพูดดี ๆ กับพนักงานคนนั้นแล้ว แต่ผมว่าเค้าคงเหนื่อย เลยส่อกิริยาแย่ ๆ ออกมา
5. ทางห้างน่าจะทราบว่าโรงหนังรอบสุดท้ายมันดึก แล้วพนักงานรักษาความปลอดภัยไปไหนหมดครับ ตอนก่อนผมขึ้นรถ ลานจอดรถจอดได้เป็นหลายร้อยคัน กวาดสายตาไปรถจอดอีกเกือบ 20 คัน แต่ไฟไม่เปิดซักดวง เปิดตรงประตูทางเข้าห้างดวงเดียว ที่สำคัญ รปภ. หลับกันหมดแล้วเหรอครับ
6. หากทางห้างไม่ปรับปรุง เหตุการณ์จี้ชิงทรัพย์มีอีกแน่นอนครับ เพราะผมวิเคราะห์ความเสี่ยงหลายอย่างแล้ว ผมขอบอกเลยว่า ไม่สมควรให้ผู้หญิงมาคนเดียว!!
7. หากไม่ปรับปรุง ผมคงไม่ใช้บริการที่นี่แล้วหล่ะครับ เพราะการประชาสัมพันธ์และการประสานงานแบบนี้ คันหลัง อีก 20 คันที่ขับตาม ๆ มา คันละ 100 บาทก็นิ่ม ๆ หล่ะครับ 2000 บาทครับ
8. แล้วจุดประทับตรานี่ผมข้องใจมาก ๆ ครับ สรุปแล้ว หากผมจะขอเวลาจอดฟรีเพิ่ม ผมก็ต้องตะแบงเดินลงไปไกล ๆ
เพื่อไปขอเวลาจอดฟรีเพิ่มขนาดนั้นเลยเหรอครับ แล้วมีแค่จุดเดียว แล้วไกลจากโรงหนังมาก
ผมมาใช่บริการ การบริการ การให้ความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า มันเป็นสิ่งที่
ทางห้างสมควรจะทำไม่ใช่เหรอครับ ทำไมผมถึงรู้สึกวันนี้เป็นครั้งแรกว่า "ผมต้องไปกราบขอเวลาจอดเพิ่มหรือไปง้อทางห้าง"
ขนาดนั้นเลยเหรอครับ ถึงมีแค่จุดเดียว แล้วคุณปิดก่อนหนังรอบสุดท้ายจบ อีกทั้งถ้าปิดไปแล้ว ลูกค้าที่ไม่รู้เรื่อง
ว่าคุณจะปิดประทับตราเที่ยงคืนก็จะต้องเสียค่าโง่ เพิ่ม งั้นเหรอครับ?
สุดท้ายนี้ผมรู้สึกผิดหวังจริง ๆ กับการให้บริการของพนักงานวันนี้
รวมถึงองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างที่ผมเจอในวันนี้ด้วย ผมเป็นคนนึง
ที่ดูหนังที่เมเจอร์ บางกะปิตลอดเวลา แต่วันนี้ผมบอกได้เลยว่า
ผมพร้อมจะขับรถไปไกลอีกหน่อยเพื่อไปดูที่อื่นดีกว่าครับ
ขอบคุณครับ