จันทร์ 27 มกราคม พ.ศ.2557 มี
การโต้กันระหว่าง รศ.พรชัย เทพปัญญา อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง (พ.ศ.2541-2546) และผู้อำนวยการวิทยาลัยการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า (พ.ศ.2548-2550) กับ รศ.ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ อดีตนักวิชาการศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ และปัจจุบันประจำอยู่ที่มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ในรายการเจาะข่าวเด่นทางช่อง 3 ของไทย
ผมหดหู่ใจกับคำพูดของอดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ในคำพูดที่ท่านสื่อถึงความไม่เท่ากันของมนุษย์
ผมขอค้านอาจารย์พรชัยนะครับว่า มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะสูงต่ำดำขาว เป็นกรรมกร ชาวนา คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เจ้าของตึกแถว อภิพญามหาจอมเศรษฐี นายกรัฐมนตรี ฯลฯ จะต้องมีสิทธิเท่ากัน การที่มีการสื่อว่า เสียง 5% มีคุณภาพ ส่วนเสียงคนไทยอีก 95% ไม่มีคุณภาพ ผมขอกราบขอร้องอาจารย์ตรงนี้เลยครับ ว่ากรุณาเปลี่ยนความคิดให้ถูกต้อง การที่อาจารย์ระดับคณบดีคณะรัฐศาสตร์มีความคิดว่าคนไม่เท่ากัน จะทำประเทศที่ท่านเป็นอาจารย์อยู่ เป็นชาติรัฐที่ตลกที่สุดในสายตาของมนุษย์โลก
ผู้อ่านท่านโปรดไปพิสูจน์ด้วยตาและหูของท่านเอง ด้วยการเข้าไปดูรายการเจาะข่าวเด่นประจำวันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ.2557 ย้อนหลังเถิด แล้วท่านจะรู้ว่า
ทำไมชาติรัฐไทยจึงพัฒนาไปไกลกว่านี้ไม่ได้ และก็ต้องขอบคุณอาจารย์ปวินที่ออกมาชี้ทางสว่างให้สังคมไทย สมแล้วครับ ที่ท่านทำงานเผยแพร่ความรู้ทางรัฐศาสตร์ให้กับเยาวชนคนในมหาวิทยาลัยท็อปเท็นของเอเชีย และเป็นสถาบันคุณภาพติดอันดับโลก ผมเองก็โชคดีนะครับ ที่ได้เรียนวิชาด้านนี้ในเนเธอร์แลนด์ ประชาธิปไตยของผมจึงไม่เพี้ยน
ถ้าคนสอนวิชารัฐศาสตร์เพี้ยน ผู้คนส่วนหนึ่งก็จะกลายเป็นพวกฝักใฝ่ลัทธิฟาสซิสต์ ที่มีผู้นำสำคัญอย่างเบนิโต มุสโสลินีและอดอล์ฟฮิตเลอร์ ซึ่งทั้งสองคนประสบความสำเร็จในการสถาปนาระบบฟาสซิสต์ขึ้นในอิตาลีและเยอรมนี แต่เมื่อทั้งสองคนพยายามขยายบทบาทและอิทธิพลออกไปในดินแดนส่วนอื่นของยุโรป ก็ทำให้สถานการณ์บานปลายขยายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากนั้นมา ผู้คนก็แขยงแขงขนเกลียดกลัวลัทธิฟาสซิสต์ มีหลายครั้งที่มีคนพยายามฟื้นฟูลัทธินี้ในรูปของลัทธิฟาสซิสต์ใหม่หรือ neofascism แต่ก็โดนประชาคมโลกรวมหัวกันทำลายจนสิ้นซากไปทุกครั้ง
ไม่น่าเชื่อนะครับ ว่าลัทธิฟาสซิสต์ใหม่จะมาถือกำเนิดและเติบโตได้อย่างรวดเร็วในประเทศไทย ผู้อ่านท่านอยากจะทราบว่า ‘ใคร’ เป็นสมาชิกของขบวนการลัทธิฟาสซิสต์หรือไม่ ให้ดูที่ความคิดและการกระทำครับ ถ้าใช่ ท่านเหล่านั้นจะต่อต้านแนวคิดแบบเสรีนิยม ซึ่งเน้น liberty เสรีภาพ พวกนี้จะต่อต้าน equality ความเสมอภาค และไม่สนับสนุน individualism หรือความเป็นปัจเจกนิยม
ลัทธิฟาสซิสต์จะต่อต้านการเลือกตั้ง ไม่เชื่อในสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล แต่จะเน้นไปที่ collectivism หรือการรวมพลังกัน พวกที่มีจิตใจเป็นฟาสซิสต์จะอ้าง nationalism ความสำคัญของลัทธิชาตินิยม ผมดูคลิปการประท้วงของฝ่ายต่อต้านประชาธิปไตยในกรุงเทพฯ เสร็จแล้ว ก็เลยไปค้นภาพและเสียงเก่าของมุสโสลินี ดูแล้วผมก็ตกใจ ผู้นำลัทธิฟาสซิสต์ของไทยและมุสโสลินี มีหน้าตาและลักษณะการยกไม้ยกมือเหมือนกันทุกอย่าง โดยเฉพาะตอนที่มุสโสลินีใช้คำพูดปลุกให้คนมารวมกันว่า “To believe, to obey, to combat” ที่หมายถึง “เชื่อมั่น เชื่อฟัง และต่อสู้” เหมือนกันเหลือเกิน
ลัทธิฟาสซิสต์มุ่งไปที่ทำให้คนเชื่อมั่นกลุ่ม เชื่อฟังผู้นำ และต่อสู้เพื่อให้ได้มา รักษาไว้ และขยายอำนาจของกลุ่มตนเหนือกว่ากลุ่มอื่นใด ฟาสซิสต์เป็นลัทธิบูชาวีรบุรุษและบูชาผู้นำ ขบวนการฟาสซิสต์จะตั้งนามเรียกขานให้ผู้นำใหม่ ไม่ใช้ชื่อนามสกุลเดิมอย่างเช่น เบนิ-โต มุสโสลินี ก็ขอให้เรียกว่า ‘ดูเช’ ส่วนในเยอรมนี ก็ไม่ให้เรียกว่า อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ แต่ให้เรียกว่า ‘ฟือเรอร์’ เพื่อให้คำเรียกใหม่กลายเป็นศูนย์รวมของพลังมวลชน คล้ายกับ
ลัทธิคอมมิวนิสต์ ที่ชอบตั้งชื่อใหม่ให้ผู้นำ เช่น นายวลาดีมีร์ อิลยิช อูลยานอฟ พอถึงเวลาจะนำมวลชน ก็ขอให้มวลมหาประชาชนเรียกตัวเองว่าลุงเลนิน และให้เด็กๆ เรียกว่าตาเลนินลัทธิคอมมิวนิสต์เมื่อได้รับการสถาปนาในประเทศใดแล้ว ก็จะอยู่ได้นานประมาณประเทศละ 30-75 ปี แต่ลัทธิฟาสซิสต์ จะดำรงคงอยู่ได้ในเวลาอันสั้นกว่านั้นมาก
มาทายทักกันเล่นๆ นะครับ ว่าขบวนการลัทธิฟาสซิสต์ไทยที่ตั้งเมื่อ 19.30 น. ของวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2556 ณ เวทีการชุมนุมศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ จะต้านทวนกระแสประชาธิปไตย ซึ่งเป็นลัทธิการปกครองสำคัญของโลกปัจจุบัน ได้นานเท่าใด.
คุณนิติ นวรัตน์
ไทยรัฐออนไลน์
อ้างอิง
http://www.thairath.co.th/column/oversea/worldsky/399632
ฟาสซิสต์...(ไทยรัฐออนไลน์) ควันหลงจากเจาะข่าวเด่น!!
ผมหดหู่ใจกับคำพูดของอดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ในคำพูดที่ท่านสื่อถึงความไม่เท่ากันของมนุษย์ ผมขอค้านอาจารย์พรชัยนะครับว่า มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะสูงต่ำดำขาว เป็นกรรมกร ชาวนา คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เจ้าของตึกแถว อภิพญามหาจอมเศรษฐี นายกรัฐมนตรี ฯลฯ จะต้องมีสิทธิเท่ากัน การที่มีการสื่อว่า เสียง 5% มีคุณภาพ ส่วนเสียงคนไทยอีก 95% ไม่มีคุณภาพ ผมขอกราบขอร้องอาจารย์ตรงนี้เลยครับ ว่ากรุณาเปลี่ยนความคิดให้ถูกต้อง การที่อาจารย์ระดับคณบดีคณะรัฐศาสตร์มีความคิดว่าคนไม่เท่ากัน จะทำประเทศที่ท่านเป็นอาจารย์อยู่ เป็นชาติรัฐที่ตลกที่สุดในสายตาของมนุษย์โลก
ผู้อ่านท่านโปรดไปพิสูจน์ด้วยตาและหูของท่านเอง ด้วยการเข้าไปดูรายการเจาะข่าวเด่นประจำวันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ.2557 ย้อนหลังเถิด แล้วท่านจะรู้ว่า ทำไมชาติรัฐไทยจึงพัฒนาไปไกลกว่านี้ไม่ได้ และก็ต้องขอบคุณอาจารย์ปวินที่ออกมาชี้ทางสว่างให้สังคมไทย สมแล้วครับ ที่ท่านทำงานเผยแพร่ความรู้ทางรัฐศาสตร์ให้กับเยาวชนคนในมหาวิทยาลัยท็อปเท็นของเอเชีย และเป็นสถาบันคุณภาพติดอันดับโลก ผมเองก็โชคดีนะครับ ที่ได้เรียนวิชาด้านนี้ในเนเธอร์แลนด์ ประชาธิปไตยของผมจึงไม่เพี้ยน
ถ้าคนสอนวิชารัฐศาสตร์เพี้ยน ผู้คนส่วนหนึ่งก็จะกลายเป็นพวกฝักใฝ่ลัทธิฟาสซิสต์ ที่มีผู้นำสำคัญอย่างเบนิโต มุสโสลินีและอดอล์ฟฮิตเลอร์ ซึ่งทั้งสองคนประสบความสำเร็จในการสถาปนาระบบฟาสซิสต์ขึ้นในอิตาลีและเยอรมนี แต่เมื่อทั้งสองคนพยายามขยายบทบาทและอิทธิพลออกไปในดินแดนส่วนอื่นของยุโรป ก็ทำให้สถานการณ์บานปลายขยายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากนั้นมา ผู้คนก็แขยงแขงขนเกลียดกลัวลัทธิฟาสซิสต์ มีหลายครั้งที่มีคนพยายามฟื้นฟูลัทธินี้ในรูปของลัทธิฟาสซิสต์ใหม่หรือ neofascism แต่ก็โดนประชาคมโลกรวมหัวกันทำลายจนสิ้นซากไปทุกครั้ง
ไม่น่าเชื่อนะครับ ว่าลัทธิฟาสซิสต์ใหม่จะมาถือกำเนิดและเติบโตได้อย่างรวดเร็วในประเทศไทย ผู้อ่านท่านอยากจะทราบว่า ‘ใคร’ เป็นสมาชิกของขบวนการลัทธิฟาสซิสต์หรือไม่ ให้ดูที่ความคิดและการกระทำครับ ถ้าใช่ ท่านเหล่านั้นจะต่อต้านแนวคิดแบบเสรีนิยม ซึ่งเน้น liberty เสรีภาพ พวกนี้จะต่อต้าน equality ความเสมอภาค และไม่สนับสนุน individualism หรือความเป็นปัจเจกนิยม
ลัทธิฟาสซิสต์จะต่อต้านการเลือกตั้ง ไม่เชื่อในสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล แต่จะเน้นไปที่ collectivism หรือการรวมพลังกัน พวกที่มีจิตใจเป็นฟาสซิสต์จะอ้าง nationalism ความสำคัญของลัทธิชาตินิยม ผมดูคลิปการประท้วงของฝ่ายต่อต้านประชาธิปไตยในกรุงเทพฯ เสร็จแล้ว ก็เลยไปค้นภาพและเสียงเก่าของมุสโสลินี ดูแล้วผมก็ตกใจ ผู้นำลัทธิฟาสซิสต์ของไทยและมุสโสลินี มีหน้าตาและลักษณะการยกไม้ยกมือเหมือนกันทุกอย่าง โดยเฉพาะตอนที่มุสโสลินีใช้คำพูดปลุกให้คนมารวมกันว่า “To believe, to obey, to combat” ที่หมายถึง “เชื่อมั่น เชื่อฟัง และต่อสู้” เหมือนกันเหลือเกิน
ลัทธิฟาสซิสต์มุ่งไปที่ทำให้คนเชื่อมั่นกลุ่ม เชื่อฟังผู้นำ และต่อสู้เพื่อให้ได้มา รักษาไว้ และขยายอำนาจของกลุ่มตนเหนือกว่ากลุ่มอื่นใด ฟาสซิสต์เป็นลัทธิบูชาวีรบุรุษและบูชาผู้นำ ขบวนการฟาสซิสต์จะตั้งนามเรียกขานให้ผู้นำใหม่ ไม่ใช้ชื่อนามสกุลเดิมอย่างเช่น เบนิ-โต มุสโสลินี ก็ขอให้เรียกว่า ‘ดูเช’ ส่วนในเยอรมนี ก็ไม่ให้เรียกว่า อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ แต่ให้เรียกว่า ‘ฟือเรอร์’ เพื่อให้คำเรียกใหม่กลายเป็นศูนย์รวมของพลังมวลชน คล้ายกับ
ลัทธิคอมมิวนิสต์ ที่ชอบตั้งชื่อใหม่ให้ผู้นำ เช่น นายวลาดีมีร์ อิลยิช อูลยานอฟ พอถึงเวลาจะนำมวลชน ก็ขอให้มวลมหาประชาชนเรียกตัวเองว่าลุงเลนิน และให้เด็กๆ เรียกว่าตาเลนินลัทธิคอมมิวนิสต์เมื่อได้รับการสถาปนาในประเทศใดแล้ว ก็จะอยู่ได้นานประมาณประเทศละ 30-75 ปี แต่ลัทธิฟาสซิสต์ จะดำรงคงอยู่ได้ในเวลาอันสั้นกว่านั้นมาก
มาทายทักกันเล่นๆ นะครับ ว่าขบวนการลัทธิฟาสซิสต์ไทยที่ตั้งเมื่อ 19.30 น. ของวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2556 ณ เวทีการชุมนุมศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ จะต้านทวนกระแสประชาธิปไตย ซึ่งเป็นลัทธิการปกครองสำคัญของโลกปัจจุบัน ได้นานเท่าใด.
คุณนิติ นวรัตน์
ไทยรัฐออนไลน์
อ้างอิง http://www.thairath.co.th/column/oversea/worldsky/399632