สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ตอบในฐานะ คนเคยนอกใจ และสุดท้ายทิ้งแฟนตัวเองที่ คบมา 8 ปี ( ฟังดูเลว ไงไม่รู้ 555+)
อันดับแรก ขอบอกก่อนเลยว่า ผู้หญิงเมื่อนอกใจแล้ว ยิ่งที่ถ้านอกใจคนที่คบกัน มานานแสนนาน แบบนี้
บอกเลย ว่ายากที่จะเอากลับมา เพราะ ปกติแล้วผู้หญิงจะไม่เปลี่ยนใจ ถ้าไม่รู้สึกหมดรักคนเดิมนะคะ
แต่ เมื่อ ความรักมันหมดแล้ว ต่อให้เราคบกันมานานแค่ไหน เราก็รู้สึกเลยว่า เวลา มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
*** กว่าผู้หญิงจะหมดรัก มัน ค่อนข้างนานนะคะ คุณมองย้อนกลับไป ว่าตลอดเวลาที่คบกัน
คุณและเธอ ทะเลาะกันบ่อยไหม๊ เธอเคยบ่นเรื่องราว หรือ มีอะไร ที่คุณและ เธอ ต้องขัดใจกันบ่อยๆ
พูดง่ายๆ คือ ก่อนที่เธอจะมีคนอื่น เธอ และ คุณมีปัญหากันมาก่อนหน้านี้หรือเปล่า ***
** ถ้ามองแล้ว ที่ผ่านมา มันเป็นแบบนั้น คุณ ก็ ตัดใจเถอะค่ะ **
อันดับแรก ขอบอกก่อนเลยว่า ผู้หญิงเมื่อนอกใจแล้ว ยิ่งที่ถ้านอกใจคนที่คบกัน มานานแสนนาน แบบนี้
บอกเลย ว่ายากที่จะเอากลับมา เพราะ ปกติแล้วผู้หญิงจะไม่เปลี่ยนใจ ถ้าไม่รู้สึกหมดรักคนเดิมนะคะ
แต่ เมื่อ ความรักมันหมดแล้ว ต่อให้เราคบกันมานานแค่ไหน เราก็รู้สึกเลยว่า เวลา มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
*** กว่าผู้หญิงจะหมดรัก มัน ค่อนข้างนานนะคะ คุณมองย้อนกลับไป ว่าตลอดเวลาที่คบกัน
คุณและเธอ ทะเลาะกันบ่อยไหม๊ เธอเคยบ่นเรื่องราว หรือ มีอะไร ที่คุณและ เธอ ต้องขัดใจกันบ่อยๆ
พูดง่ายๆ คือ ก่อนที่เธอจะมีคนอื่น เธอ และ คุณมีปัญหากันมาก่อนหน้านี้หรือเปล่า ***
** ถ้ามองแล้ว ที่ผ่านมา มันเป็นแบบนั้น คุณ ก็ ตัดใจเถอะค่ะ **
ความคิดเห็นที่ 17
ปล่อยเธอไปครับ ของผมคบมาได้ 7 ปี ห่างกันในช่วงหนึ่ง
เพราะมีลูกค้ามาตามจีบเธอ เราก็คุยกับเธอแล้ว แต่เธอก็ยังไม่เลิกคุย
ผู้ชายคนนั้นก็หน้าด้านมากรู้ว่าเค้ามีคู่ครองอยู่แล้ว ก็ยังโทรมาหาเธอส่งข้อความ
มาหาเธอทุกวันบ่อย ๆ ส่วนเธอก็ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกผม
ตั้งแต่ผมเปิดร้านมาไม่เคยมีลูกค้าคนไหนทำแบบนี้ และผมก็เตือนแฟนผมอยู่บ่อยครั้ง
ผมทำธุรกิจเกี่ยวกับบริขารพระธุดงค์ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งแน่นอนคนที่เข้ามาที่ร้านหรือคนที่พบเจอ
ก็จะเป็นคนเข้าทางธรรมใฝ่ธรรมมะ และร้านเราก็มีไฟล์แคทตาล๊อค ที่จะส่งให้ลูกค้า ซึงในนั้นมีรูปแฟนผม
ถือกรดอยู่ด้วย ซึ่งลูกค้าคนนี้คงจะถูกใจหน้าตา + การพูดจา
แต่ลูกค้าผู้ชายคนนี้อยู่กรุงเทพฯ บอกว่าตนเองจะบวชพระ มาหาซื้อของและปรึกษาเรื่องบริขารกับแฟนของผม
แต่นิสัยมันไม่ใช่ จนผมกับแฟนมีเรื่องทะเลาะ กันเรื่อยมา เพราะเธอไม่เคยให้เกียรติผมและยังคุยกับผู้ชายคนนั้นอยู่
จนถึงกับขนาดซื้อโทรศัพท์และซื้อซิมใหม่เพื่อติดต่อกับผู้ชายคนนี้โดยเฉพาะ ผมไม่เคยคิดว่าเธอจะกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้
เธอคนที่ผมรู้จักกลับเปลี่ยนนิสัยไปได้เพียงเพราะรู้จักกับคนคนนี้ เรียกง่าย ๆ ว่าขาวเป็นดำ โกหกผมสารพัดสารเพ จับได้บ้าง
จับไม่ได้บ้าง แต่ผมก็ยังพอเชื่อใจกันอยู่ จนสุดท้ายแล้วเธอก็บอกว่าเธอจะเลิกติดต่อกับคนนี้นับครั้งไม่ถ้วน และเราก็ให้โอกาส แต่เธอทำไม่ได้และเราก็แยกกันซักพัก ผมกลับบ้านต่างจังหวัด และสิ่งที่ผมไม่คาดคิด
และช่วงที่ห่างกันเธอก็ไปหาวันที่ผมกลับบ้าน เธอก็ยังมาส่งที่บ้าน และผมมารู้ความจริงทีหลังว่า ขากลับเธอไปหาผู้ชายคนนี้
ที่ดินแดง แล้วผู้ชายคนนี้พาเธอไปที่บ้าน แล้วเขากับเธอก็มีอะไรกัน
เธอพาผู้ชายคนนั้นไปที่บ้านไปหาแม่ของเธอ และซ่อนผู้ชายคนนั้นไว้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งเป็นอาทิตย์ ๆ
แม่เธอยังไม่ทราบเคย ส่วนผมก็โง่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอยูที่บ้าน แต่เธอก็ยังโทรหาผมบ้างนาน ๆ ที
แต่ผมกลับรอคอยเพื่อให้เธอได้คิดอะไรได้บ้าง และหวังว่าเธอคงจะคิดได้ว่าอะไรเป็นอะไร
แต่เหตุการณ์มันไม่เป็นอย่างที่หวัง เธอไปหาผู้ชายคนนั้นมีอะไรกัน
แต่ผมก็ยังไม่ทราบ จนวันหนึ่งผมกลับไปที่ร้าน มีผู้ชายคนหนึ่งโทรศัพท์
มาที่เบอร์ร้าน ผมรับสายเขาถามว่าผมเป็นใคร และผมก็ได้รับรู้เรื่องราวของเขากับเธอ
ผมพยายามคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง เพราะเชื่อใจเธอมาก และนับถือครูบาอาจารย์เดียวกัน
ซึ่งมีข้อห้ามแน่นอนเรื่องศีลข้อ 3 กับข้อ 5 และตั้งแต่คบกันมาก็ชวนกันเข้าทางธรรมมาตลอด
จนสุดท้ายแล้วผมได้คุยกับผู้ชายคนนั้นหลายวัน ซึ่งเขาก็มีรายละเอียดที่เขาไม่ควรจะทราบเยอะพอสมควร
จึงเริ่มเชื่อผู้ชายคนนั้นขึ้นเรื่อย ๆ ผมก็ปรึกษากับแม่เค้าเป็นครู ว่าเรื่องเป็นอย่างนี้
แม่ของเธอก็ไม่เชื่อหาว่าผู้ชายคนนั้นสร้างเรื่องโกหก ผมก็ถามเธอ เธอก็ยืนยันปฎิเสธผมมาตลอด
จากนั้นผู้ชายคนนั้นก็ส่งรูปเธอนอนเปลือยท่อนบนเอาผ้าปิดไว้มาให้ผมดูวันนั้นผมจึงได้เชื่อ
และบอกกับแม่เขาว่าเรื่องที่ผู้ชายคนนั้นพูดเป็นความจริง
จากนั้นก็มีเรื่องมีราวกันแม่ของเธอไม่เห็นด้วยที่เธอมีพฤติกรรมแบบนี้ พ่อของเธอไม่ชอบผู้ชายคนนั้น
และพ่อของเธอตอนเป็นวัยรุ่นก็ค่อนข้างเป็นผู้ชายเที่ยวพอสมควร จึงรู้พฤติกรรมของผู้ชายคนนี้ดี
ซึ่งผู้ชายคนนี้แก่กว่าเธอเกือบสิบปี และแฟนผมเป็นคนเชื่อคนง่ายซะด้วยและเจอแต่คนดีในสังคม
มาตลอด ก็ไม่น่าแปลกที่จะถูกหลอกได้ง่าย ๆ
เหตุการณ์ก็บานปลายขึ้นเรื่อย ๆ เธอบอกจะกลับตัวกลับใจ หลายครั้งต่อหลายครั้ง และสุดท้ายความหลงก็ทำให้เธอตาบอด
เพราะแม้แต่ตอนผมอยู่กับเธอ เธอก็คุยโทรศัพท์กับผู้ชายคนนั้นเกือบทั้งวัน
ผมจึงแยกออกมาพร้อมทั้งทิ้งกิจการที่สร้างมาด้วยความลำบากไว้ที่จังหวัดนั้น เหตุการณ์จากนั้นผมไปบวชอยู่ที่วัดป่าแห่งหนึ่ง
ผ่านมาได้ไม่กี่เดือน เธอก็โทรมาหาผม ผมไม่รับสายอยู่หลายอาทิตย์ จนสุดท้ายก็รับสายเธอ(เพราะตอนนั้นเราคิดว่าโปรดสัตย์นั่นเองและเราจะมีทิฎฐิมานะอะไรที่จะไม่รับสายเธอ) เธอโทรมาร้องห่อร้องไห้ ปัญหาโน่นนี่นั่น
สารพัดจะพูด อยากมาหาผม จะตามหาผมให้เจอ แต่ผมปฏิเสธตลอด และเธอก็โทรหาผมบ่อยครั้ง จนผมคิดว่ามันวุ่นวายมาก
ผมสึกออกมา และเธอขอโอกาสผมอีกหลายครั้ง บอกคิดได้แล้ว กลับตัวกลับใจแล้ว แต่สุดท้ายเธอก็ทำไม่ได้
หายไปอีกหลายเดือน โทรมาอีกแล้วแนวเดิมอยากกลับมาผมให้โอกาส และเธอก็ทำไม่ได้อีก
และหายไปอีกนานทีเดียวโทรมาว่าเลิกกับคนนั้นแล้วอยากกลับมา และผมก็ให้โอกาสอีก สุดท้ายเธอทำไม่ได้อีกเลิกติดต่อกับคนนั้นไม่ได้อีก สรุปแล้วคำพูดเธอเชื่อไม่ได้ และผมได้ยื่นข้อเสนอเดียวให้กับเธอทุกครั้ง ซึ่งก็คือเลิกยุ่งเลิกคุยเลิกติดต่อกับผู้ชายคนนั้นได้เมื่อไรค่อยกลับมา ซึ่งผมก็ตามทันเธอตลอดว่าเธอซ้อนสองตลอดมา
สรุปแล้วผมให้โอกาสเธอกลับตัวกลับใจ มากกว่า 10 ครั้ง ในรอบ 1 ปีกว่า และสุดท้ายเธอก็ทำในเรื่องที่ผมขอร้องเพียงเรื่องเดียวไม่ได้ ซึ่งสุดท้ายเธอก็ตามตัวผู้ชายคนนั้นกลับมาอยู่กับเธอที่บ้านเหมือนเดิม
สรุปแล้วก็คือเธอไม่ใช่คนเดิมที่ผมรู้จักตั้งแต่วันที่ได้คุยกับผู้ชายคนนั้นแล้ว และผมก็ไม่ยอมกลับไปหาเธอแน่ ๆ เพราะเห็นนิสัยเธอแล้วไม่ไหวจริง ๆ เธอเปลี่ยนไปมาก และผมเองก็ทำใจไดตั้งแต่ครั้งแรก ๆ แล้ว อีกหลายครั้งต่อมาเลยทำใจได้ไม่ยากเท่าไร
เพราเรารู้ตัวว่าถ้ากลับไป มันคงจะเจ็บช้ำมากกว่าเดิม เพราะดูแล้วผู้ชายคงไม่ยอมปล่อยเธอ และเธอก็เป็นคนโลเลมาก ๆ
และผมเองก็ยอมจากออกมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้ก็ปล่อยให้พวกเค้ามีความสุขบนกิจการที่เราก่อตั้งมาด้วยความเหนื่อยยาก และผมก็เบื่อกับคำว่าคิดได้ เข้าใจ รู้แล้ว สำนึกแล้ว ขอโอกาส ขอโทษ ที่มีเพียงแค่ลมปากเท่านั้น สิ่งใดที่เขาทำเขาเองก็ย่อมได้รับอย่างแน่นอน และผมก็เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม ใครทำใครได้ ปล่อยตามเวรตามกรรม เราก็เริ่มสร้างอนาคตใหม่ของเรา
รายละเอียดปลีกย่อยมันเยอะ เอาพอสังเขปแค่นี้ละกันนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ สู้ ๆ
เพราะมีลูกค้ามาตามจีบเธอ เราก็คุยกับเธอแล้ว แต่เธอก็ยังไม่เลิกคุย
ผู้ชายคนนั้นก็หน้าด้านมากรู้ว่าเค้ามีคู่ครองอยู่แล้ว ก็ยังโทรมาหาเธอส่งข้อความ
มาหาเธอทุกวันบ่อย ๆ ส่วนเธอก็ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกผม
ตั้งแต่ผมเปิดร้านมาไม่เคยมีลูกค้าคนไหนทำแบบนี้ และผมก็เตือนแฟนผมอยู่บ่อยครั้ง
ผมทำธุรกิจเกี่ยวกับบริขารพระธุดงค์ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งแน่นอนคนที่เข้ามาที่ร้านหรือคนที่พบเจอ
ก็จะเป็นคนเข้าทางธรรมใฝ่ธรรมมะ และร้านเราก็มีไฟล์แคทตาล๊อค ที่จะส่งให้ลูกค้า ซึงในนั้นมีรูปแฟนผม
ถือกรดอยู่ด้วย ซึ่งลูกค้าคนนี้คงจะถูกใจหน้าตา + การพูดจา
แต่ลูกค้าผู้ชายคนนี้อยู่กรุงเทพฯ บอกว่าตนเองจะบวชพระ มาหาซื้อของและปรึกษาเรื่องบริขารกับแฟนของผม
แต่นิสัยมันไม่ใช่ จนผมกับแฟนมีเรื่องทะเลาะ กันเรื่อยมา เพราะเธอไม่เคยให้เกียรติผมและยังคุยกับผู้ชายคนนั้นอยู่
จนถึงกับขนาดซื้อโทรศัพท์และซื้อซิมใหม่เพื่อติดต่อกับผู้ชายคนนี้โดยเฉพาะ ผมไม่เคยคิดว่าเธอจะกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้
เธอคนที่ผมรู้จักกลับเปลี่ยนนิสัยไปได้เพียงเพราะรู้จักกับคนคนนี้ เรียกง่าย ๆ ว่าขาวเป็นดำ โกหกผมสารพัดสารเพ จับได้บ้าง
จับไม่ได้บ้าง แต่ผมก็ยังพอเชื่อใจกันอยู่ จนสุดท้ายแล้วเธอก็บอกว่าเธอจะเลิกติดต่อกับคนนี้นับครั้งไม่ถ้วน และเราก็ให้โอกาส แต่เธอทำไม่ได้และเราก็แยกกันซักพัก ผมกลับบ้านต่างจังหวัด และสิ่งที่ผมไม่คาดคิด
และช่วงที่ห่างกันเธอก็ไปหาวันที่ผมกลับบ้าน เธอก็ยังมาส่งที่บ้าน และผมมารู้ความจริงทีหลังว่า ขากลับเธอไปหาผู้ชายคนนี้
ที่ดินแดง แล้วผู้ชายคนนี้พาเธอไปที่บ้าน แล้วเขากับเธอก็มีอะไรกัน
เธอพาผู้ชายคนนั้นไปที่บ้านไปหาแม่ของเธอ และซ่อนผู้ชายคนนั้นไว้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งเป็นอาทิตย์ ๆ
แม่เธอยังไม่ทราบเคย ส่วนผมก็โง่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอยูที่บ้าน แต่เธอก็ยังโทรหาผมบ้างนาน ๆ ที
แต่ผมกลับรอคอยเพื่อให้เธอได้คิดอะไรได้บ้าง และหวังว่าเธอคงจะคิดได้ว่าอะไรเป็นอะไร
แต่เหตุการณ์มันไม่เป็นอย่างที่หวัง เธอไปหาผู้ชายคนนั้นมีอะไรกัน
แต่ผมก็ยังไม่ทราบ จนวันหนึ่งผมกลับไปที่ร้าน มีผู้ชายคนหนึ่งโทรศัพท์
มาที่เบอร์ร้าน ผมรับสายเขาถามว่าผมเป็นใคร และผมก็ได้รับรู้เรื่องราวของเขากับเธอ
ผมพยายามคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง เพราะเชื่อใจเธอมาก และนับถือครูบาอาจารย์เดียวกัน
ซึ่งมีข้อห้ามแน่นอนเรื่องศีลข้อ 3 กับข้อ 5 และตั้งแต่คบกันมาก็ชวนกันเข้าทางธรรมมาตลอด
จนสุดท้ายแล้วผมได้คุยกับผู้ชายคนนั้นหลายวัน ซึ่งเขาก็มีรายละเอียดที่เขาไม่ควรจะทราบเยอะพอสมควร
จึงเริ่มเชื่อผู้ชายคนนั้นขึ้นเรื่อย ๆ ผมก็ปรึกษากับแม่เค้าเป็นครู ว่าเรื่องเป็นอย่างนี้
แม่ของเธอก็ไม่เชื่อหาว่าผู้ชายคนนั้นสร้างเรื่องโกหก ผมก็ถามเธอ เธอก็ยืนยันปฎิเสธผมมาตลอด
จากนั้นผู้ชายคนนั้นก็ส่งรูปเธอนอนเปลือยท่อนบนเอาผ้าปิดไว้มาให้ผมดูวันนั้นผมจึงได้เชื่อ
และบอกกับแม่เขาว่าเรื่องที่ผู้ชายคนนั้นพูดเป็นความจริง
จากนั้นก็มีเรื่องมีราวกันแม่ของเธอไม่เห็นด้วยที่เธอมีพฤติกรรมแบบนี้ พ่อของเธอไม่ชอบผู้ชายคนนั้น
และพ่อของเธอตอนเป็นวัยรุ่นก็ค่อนข้างเป็นผู้ชายเที่ยวพอสมควร จึงรู้พฤติกรรมของผู้ชายคนนี้ดี
ซึ่งผู้ชายคนนี้แก่กว่าเธอเกือบสิบปี และแฟนผมเป็นคนเชื่อคนง่ายซะด้วยและเจอแต่คนดีในสังคม
มาตลอด ก็ไม่น่าแปลกที่จะถูกหลอกได้ง่าย ๆ
เหตุการณ์ก็บานปลายขึ้นเรื่อย ๆ เธอบอกจะกลับตัวกลับใจ หลายครั้งต่อหลายครั้ง และสุดท้ายความหลงก็ทำให้เธอตาบอด
เพราะแม้แต่ตอนผมอยู่กับเธอ เธอก็คุยโทรศัพท์กับผู้ชายคนนั้นเกือบทั้งวัน
ผมจึงแยกออกมาพร้อมทั้งทิ้งกิจการที่สร้างมาด้วยความลำบากไว้ที่จังหวัดนั้น เหตุการณ์จากนั้นผมไปบวชอยู่ที่วัดป่าแห่งหนึ่ง
ผ่านมาได้ไม่กี่เดือน เธอก็โทรมาหาผม ผมไม่รับสายอยู่หลายอาทิตย์ จนสุดท้ายก็รับสายเธอ(เพราะตอนนั้นเราคิดว่าโปรดสัตย์นั่นเองและเราจะมีทิฎฐิมานะอะไรที่จะไม่รับสายเธอ) เธอโทรมาร้องห่อร้องไห้ ปัญหาโน่นนี่นั่น
สารพัดจะพูด อยากมาหาผม จะตามหาผมให้เจอ แต่ผมปฏิเสธตลอด และเธอก็โทรหาผมบ่อยครั้ง จนผมคิดว่ามันวุ่นวายมาก
ผมสึกออกมา และเธอขอโอกาสผมอีกหลายครั้ง บอกคิดได้แล้ว กลับตัวกลับใจแล้ว แต่สุดท้ายเธอก็ทำไม่ได้
หายไปอีกหลายเดือน โทรมาอีกแล้วแนวเดิมอยากกลับมาผมให้โอกาส และเธอก็ทำไม่ได้อีก
และหายไปอีกนานทีเดียวโทรมาว่าเลิกกับคนนั้นแล้วอยากกลับมา และผมก็ให้โอกาสอีก สุดท้ายเธอทำไม่ได้อีกเลิกติดต่อกับคนนั้นไม่ได้อีก สรุปแล้วคำพูดเธอเชื่อไม่ได้ และผมได้ยื่นข้อเสนอเดียวให้กับเธอทุกครั้ง ซึ่งก็คือเลิกยุ่งเลิกคุยเลิกติดต่อกับผู้ชายคนนั้นได้เมื่อไรค่อยกลับมา ซึ่งผมก็ตามทันเธอตลอดว่าเธอซ้อนสองตลอดมา
สรุปแล้วผมให้โอกาสเธอกลับตัวกลับใจ มากกว่า 10 ครั้ง ในรอบ 1 ปีกว่า และสุดท้ายเธอก็ทำในเรื่องที่ผมขอร้องเพียงเรื่องเดียวไม่ได้ ซึ่งสุดท้ายเธอก็ตามตัวผู้ชายคนนั้นกลับมาอยู่กับเธอที่บ้านเหมือนเดิม
สรุปแล้วก็คือเธอไม่ใช่คนเดิมที่ผมรู้จักตั้งแต่วันที่ได้คุยกับผู้ชายคนนั้นแล้ว และผมก็ไม่ยอมกลับไปหาเธอแน่ ๆ เพราะเห็นนิสัยเธอแล้วไม่ไหวจริง ๆ เธอเปลี่ยนไปมาก และผมเองก็ทำใจไดตั้งแต่ครั้งแรก ๆ แล้ว อีกหลายครั้งต่อมาเลยทำใจได้ไม่ยากเท่าไร
เพราเรารู้ตัวว่าถ้ากลับไป มันคงจะเจ็บช้ำมากกว่าเดิม เพราะดูแล้วผู้ชายคงไม่ยอมปล่อยเธอ และเธอก็เป็นคนโลเลมาก ๆ
และผมเองก็ยอมจากออกมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้ก็ปล่อยให้พวกเค้ามีความสุขบนกิจการที่เราก่อตั้งมาด้วยความเหนื่อยยาก และผมก็เบื่อกับคำว่าคิดได้ เข้าใจ รู้แล้ว สำนึกแล้ว ขอโอกาส ขอโทษ ที่มีเพียงแค่ลมปากเท่านั้น สิ่งใดที่เขาทำเขาเองก็ย่อมได้รับอย่างแน่นอน และผมก็เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม ใครทำใครได้ ปล่อยตามเวรตามกรรม เราก็เริ่มสร้างอนาคตใหม่ของเรา
รายละเอียดปลีกย่อยมันเยอะ เอาพอสังเขปแค่นี้ละกันนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ สู้ ๆ
แสดงความคิดเห็น
(ดราม่า) ผู้หญิงครับ ใครเคยนอกใจแฟน ผู้ชายครับ ใครเคยเป็นมือที่สามบ้างครับ
ตอนนี้ก็ผ่านมาหลายปีแล้วที่ตั้งกระทู้นี้นะครับ
ขอตอบตรงนี้ว่า หลังจากตั้งกระทู้ได้ไม่นาน ผมก็ตัดสินใจเลิกยื้อครับ
การไม่คุยกับเธอ มันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ
ตัดสินใจบอกที่บ้าน และยุติเรื่องที่คิดจะแต่งงานทันทีครับ
ตอนนี้ผมไม่เหลือความรักหรือความรู้สึกใดๆให้เธออีกแล้วครับ
ผมยังคงนึกถึงเธอ ก็แค่นึกถึง แต่ไม่เสียใจแล้วครับ
ทุกวันนี้มีความสุขดี ร่างกายแข็งแรง และมีความสามารถเพิ่มขึ้นในหลายๆเรื่องด้วย
เหตุการครั้งนั้นมันทำให้ผมรู้ว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีค่าอะไรเลยครับ ผมแค่คิดไปเองว่าเธอมีค่า ^^
ขอบคุณทุกคนนะครับ ผมขอลบเนื้อหาในกระทู้ครับ