หลังนโยบายรถคันแรกเป็นที่ถูกอกถูกใจของประชาชน ทำให้ยอดขายรถยนต์พุ่งสูงเป็นที่น่าพึ่งพอใจของเหล่าผู้ผลิตทั้งหลาย ต่อมารถยนต์มือสองก็ต้องเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว เพราะหลายคนผ่อนไหวบ้างไม่ไหวบ้างต่างก็ถูกยึด และก็กลายเป็นรถยนต์มือสองผลประโยชต์จึงตกไปอยุ่ที่เต็นท์ขายในวันที่ 3 มกราคม  อธิบดีกรมสรรพากรเผยถึง การจัดระเบียบรถยนต์มือสองใหม่แก่ผู้ประกอบการขายเพราะ ไม่ได้เสียกำไรจาก ภาษีมูลค่าเพิ่ม และ ภาษีเงินสุทธิจากกำไรที่ได้  โดยคาดหวังไว่ว่าหลังจัดระเบียบแล้วจะมี กำไรจากการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น ปีละ 30,000 ล้านบาืท
เต็นท์ รถยนต์มือสองโดนเก็บภาษีเพิ่มจากกรมสรรพากรคาดกำไรมหาศาล นาย สุทธิชัย สังขมณี อธิบดีกรมสรรพากร ให้ความคิดเห็นว่า อยากนำธุรกิจรถยนต์มือสองเข้ามาจัดระเบียบ ให้อยุ่ในระบบภาษีได้ถูกต้องโดนที่ผ่านมาเมื่อมีการซื้อขาย การโอนลอย ทำให้กรมสรรพากรไม่สามารถเก็บภาษีได้  เผย ปกติรถยนต์มือสองที่อยุ่ในระบบของเต็นรถยนต์มือสองนั้นมีอยุ่ในจำนวน 2 ล้านคัน แต่ในช่วง 5- 6 ปีที่ผ่านมานั้น มีรถยนต์มือสองที่เพิ่มขึ้น เป็น 3 ล้านคัน โดยอีกกว่าล้านคันนี้ถ้าสามารถเก็บภาษีได้คาดว่าจะนำเงินเข้ารัฐได้กว่า 30,000 ล้านบาท  โดยพื้นฐานการเก็บภาษีจะทำโดย การทำราคาประเมินรถยนต์มือสองเหมือนกับ การซื้อขายที่ดินในธุรกิจ โดยต้นแบบจะนำมาจากการเก็บภาษีรถยนต์มือสองแบบรัฐบาลประเทศอังกฤษ

จากสำนักข่าว http://www.boxzacar.com/auto/7580

คิดว่าไงกันคับ