เมื่อ 3 ปีก่อน ผมกับแฟน (เก่า) ซื้อบ้านร่วมกัน
โดยตอนซื้อแฟนดันไม่ผ่านโปร ทำให้กลายเป็นผมเป็นผู้กู้คนเดียว
แต่ก็ช่วยกันจ่ายโปะกันมาตลอด 3 ปี
แต่สุดท้ายเราตกลงกันว่าจะเลิกกัน โดยตกลงกันว่า เธอจะเป็นคนเอาบ้านไป
ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า เนื่องจากบ้านเป็นชื่อผมคนเดียว การจะเปลี่ยนเจ้าของ เข้าใจว่าคงมีค่าใช้จ่ายต่างๆ มากมาย
สุดท้าย เพื่อที่แฟนเก่าผมจะได้บ้านไป เลยตกลงกันว่า
1. เธอจะคืนเงินเฉพาะที่เข้าเงินต้นให้กับผม (เป็นจำนวนที่ตกลงกันแล้วลงตัว ถือว่าเป็นน้ำใจให้กัน)
2. ค่าโอนบ้านกรณีซื้อขายจะจ่ายคนละครึ่ง
เท่าที่หาข้อมูลและที่แฟนเก่าไปคุยกับแบงค์นึงมาน่าจะมีค่าใช้จ่ายดังนี้:
ผม (ผู้ขาย):
1.ค่าโอน
2.ภาษีเงินได้
3.ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% (น่าจะได้รับการยกเว้น เพราะผมมีชื่อในทะเบียนบ้านเกิน 2 ปี แน่นอน ยืนยันกับทางสรรพากรแล้วเมื่อเช้า)
(อย่างไรก็ดีนายแบงค์ท่านที่ดูแล บอกว่าต้องเสียตรงนี้เพราะซื้อไม่ถึง 5 ปี ซึ่งคิดว่าเค้าคงเข้าใจอะไรผิดกันตอนสื่อสาร)
แฟนเก่า (ผู้ซื้อ):
1. ค่าโอน
2. ค่าจดจำนอง
ปัญหาคือ ค่าต่างๆ พวกนี้ รวมๆ ก็ราคาสูงมากเอาการ (ตีออกมาก็คนละเกือบแสน)
ตอนนี้ก็เลยหาทางแก้ปัญหากันอยู่ครับ
จากเรื่องของผมด้านบนขออนุญาตสรุปคำถามเพื่อปรึกษามาเป็นข้อๆดังนี้นะครับ
1. ภาษีธุรกิจเฉพาะ น่าจะได้รับการยกเว้นใช่มั้ย เพราะบ้านผมก็อยู่จริง ชื่อยังอยู่ในทะเบียนบ้านบัตรประชาชนมา 3 ปีแล้ว
2. จากที่คุยมาจากราคาประเมินคาดว่า 90% ของราคาประเมินน่าจะเพียงพอให้เหลือเงินมาคืนผม แต่ค่าโอนค่าอะไรต่างๆ ก็ + มาค่อนข้างเยอะ เกรงว่าจะหามาเป็นเงินทำธุรกรรมนี้ไม่เพียงพอ + กับไม่ค่อยแน่ใจว่ปกติเราสามารถใช้เงินยอดที่กู้บ้าน ในการจ่ายค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้มั้ยครับ หรือต้องมีเงิน Advance อย่างเดียวเท่านั้น พอมีคำแนะนำอื่นๆ มั้ยครับ
3. ถ้าเป็นกรณีนี้มีทางเลือกอื่นๆ มั้ยครับ เพราะจริงๆ เราไม่ได้ซื้อขายอะไรกันเพื่อเอากำไรอยู่แล้ว เช่น
- รีไฟแนนซ์กู้ร่วมกันใหม่ (ครบ 3 ปีพอดี) แล้วดำเนินการ ถอนชื่อผมออกภายหลัง
- ผมถามธนาคารไวๆ ไปตอนคุยเรื่อง Retention เค้าบอกพอทำได้แต่ก็มีค่าใช้จ่าย เรื่องโอนผู้กู้หลักอยู่ดี เพราะแฟนเก่าไม่ได้กู้ด้วยแต่แรก
แต่ยังไงก็ไม่แน่ใจว่าแบบไหนจะเซฟได้มากกว่ากัน หรือมันพอจะเป็นไปได้มั้ย หรือท่านใดมีข้อแนะนำยังไงขอคำปรึกษาหน่อยครับผม
ขอบคุณมากครับ
กู้บ้านคนเดียว แต่ผ่อนร่วมกับแฟน เลิกกัน แล้วแฟนจะเอาบ้านต่อ แบบไหนเสียเงินทั้งสองฝ่ายน้อยสุดครับ
โดยตอนซื้อแฟนดันไม่ผ่านโปร ทำให้กลายเป็นผมเป็นผู้กู้คนเดียว
แต่ก็ช่วยกันจ่ายโปะกันมาตลอด 3 ปี
แต่สุดท้ายเราตกลงกันว่าจะเลิกกัน โดยตกลงกันว่า เธอจะเป็นคนเอาบ้านไป
ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า เนื่องจากบ้านเป็นชื่อผมคนเดียว การจะเปลี่ยนเจ้าของ เข้าใจว่าคงมีค่าใช้จ่ายต่างๆ มากมาย
สุดท้าย เพื่อที่แฟนเก่าผมจะได้บ้านไป เลยตกลงกันว่า
1. เธอจะคืนเงินเฉพาะที่เข้าเงินต้นให้กับผม (เป็นจำนวนที่ตกลงกันแล้วลงตัว ถือว่าเป็นน้ำใจให้กัน)
2. ค่าโอนบ้านกรณีซื้อขายจะจ่ายคนละครึ่ง
เท่าที่หาข้อมูลและที่แฟนเก่าไปคุยกับแบงค์นึงมาน่าจะมีค่าใช้จ่ายดังนี้:
ผม (ผู้ขาย):
1.ค่าโอน
2.ภาษีเงินได้
3.ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% (น่าจะได้รับการยกเว้น เพราะผมมีชื่อในทะเบียนบ้านเกิน 2 ปี แน่นอน ยืนยันกับทางสรรพากรแล้วเมื่อเช้า)
(อย่างไรก็ดีนายแบงค์ท่านที่ดูแล บอกว่าต้องเสียตรงนี้เพราะซื้อไม่ถึง 5 ปี ซึ่งคิดว่าเค้าคงเข้าใจอะไรผิดกันตอนสื่อสาร)
แฟนเก่า (ผู้ซื้อ):
1. ค่าโอน
2. ค่าจดจำนอง
ปัญหาคือ ค่าต่างๆ พวกนี้ รวมๆ ก็ราคาสูงมากเอาการ (ตีออกมาก็คนละเกือบแสน)
ตอนนี้ก็เลยหาทางแก้ปัญหากันอยู่ครับ
จากเรื่องของผมด้านบนขออนุญาตสรุปคำถามเพื่อปรึกษามาเป็นข้อๆดังนี้นะครับ
1. ภาษีธุรกิจเฉพาะ น่าจะได้รับการยกเว้นใช่มั้ย เพราะบ้านผมก็อยู่จริง ชื่อยังอยู่ในทะเบียนบ้านบัตรประชาชนมา 3 ปีแล้ว
2. จากที่คุยมาจากราคาประเมินคาดว่า 90% ของราคาประเมินน่าจะเพียงพอให้เหลือเงินมาคืนผม แต่ค่าโอนค่าอะไรต่างๆ ก็ + มาค่อนข้างเยอะ เกรงว่าจะหามาเป็นเงินทำธุรกรรมนี้ไม่เพียงพอ + กับไม่ค่อยแน่ใจว่ปกติเราสามารถใช้เงินยอดที่กู้บ้าน ในการจ่ายค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้มั้ยครับ หรือต้องมีเงิน Advance อย่างเดียวเท่านั้น พอมีคำแนะนำอื่นๆ มั้ยครับ
3. ถ้าเป็นกรณีนี้มีทางเลือกอื่นๆ มั้ยครับ เพราะจริงๆ เราไม่ได้ซื้อขายอะไรกันเพื่อเอากำไรอยู่แล้ว เช่น
- รีไฟแนนซ์กู้ร่วมกันใหม่ (ครบ 3 ปีพอดี) แล้วดำเนินการ ถอนชื่อผมออกภายหลัง
- ผมถามธนาคารไวๆ ไปตอนคุยเรื่อง Retention เค้าบอกพอทำได้แต่ก็มีค่าใช้จ่าย เรื่องโอนผู้กู้หลักอยู่ดี เพราะแฟนเก่าไม่ได้กู้ด้วยแต่แรก
แต่ยังไงก็ไม่แน่ใจว่าแบบไหนจะเซฟได้มากกว่ากัน หรือมันพอจะเป็นไปได้มั้ย หรือท่านใดมีข้อแนะนำยังไงขอคำปรึกษาหน่อยครับผม
ขอบคุณมากครับ