เคยไหมคะ ที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้ากลายไม่ออก
ดิฉันได้รู้จักทำงาน(ธุรกิจส่วนตัวนะคะ) และเกิดปัญหาที่ต้องการความช่วยเหลือ ก็ไม่รู้เพราะอะไรก็มีคนยืนมือมาช่วยเหลือจริงๆตามแรงปรานารถนั้นๆ เค้าได้เข้ามาช่วยเหลือ ดูแลเทคแคร์ ร้าวกับเราเป็นหนี้บุญคุณเค้าแต่ชาติปางก่อน 5555
ทั้งๆที่เราไปขอความช่วยเหลือ ทั้งๆที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่เคยเจอหน้ากันด้วยซ้ำ (มีคนแนะนำมาเราก็ไปติดต่อเค้า)
แต่เค้าก็ดิ่งตัวมาช่วยงานเราทันที (ช่วยฟรีๆ) เค้าคงสงสารเราที่ทำแก้ปัญหางานของเราไม่ได้สักที
จากนั้นเค้าก็ค่อยมาช่วยงานเราบ่อยๆ ให้เราไปทำงานที่ทำงานกะเค้าก็ได้ เพราะจะได้ช่วยดูงานให้
แนะนำให้รู้จักกับพี่ๆเพื่อนๆที่ทำงาน พาไปเจอเพื่อนๆของเค้า(เพื่อนสมัยมหาลัย )
ชวนไปทานข้าว ชวนไปโน้นมานี้ ชวนไปเที่ยวตจวแบบไปเช้าเย็นกลับไปเที่ยวๆกันไรงี้
และชอบถามเรื่องส่วนตัว เป็นห่วงเป็นใย ทุกเรื่องราวที่เข้ามาในชิวิตของดิฉัน
ชอบมาอยู่ใกล้ๆตลอดเวลา เวลาเดินก็เดินแทบจะเบียดเราจะตัวแบน 5555
ประมาณว่าคุยไลน์กันทุกวันอย่างต่ำๆก็เที่ยงคืน ตี 1 ทำแบบนี้มาตลอดประมาณ 3 เดือนได้แล้วคะ
มองในมุมกลับกัน ดิฉันไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวเค้าสักนิด เพราะไม่กล้าถาม ส่วนเค้าก็ไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟัง
จริงๆฉันก็อยากรู้นะสถานะตอนนี้มันคืออะไร??? แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรหรอกนะ
จนมาวันนี้ เค้าก็มาเปิดใจคุยกับดิฉัน
เค้า : ก็ถามตรงๆว่าดิฉันรู้สึกยังไงกับเค้า
ฉัน : ก็ตอบไปว่า อืม…ก็รู้สึกดีดีนะ
เค้า : ก็บอกว่า เค้าก็มีความรู้สึกดีดีกับดิฉันเช่นกัน
ฉัน : ก็ถามติดตลกประมาณว่า แหมๆๆๆ โปรไฟล์ดีขนาดนี้ จะยังโสดอีกหรอ 5555 มาทำเป็นพูดเล่นๆแบบนี้
เค้า : อืมมมม จริงๆเรามีแฟนแล้ว
ฉัน : รู้สึกเงิบบบ คะ จุกจนต้องวางช้อนที่กำลังจะตักเข้าปาก 5555
เค้า : แต่ตอนนี้เราก็ห่างๆกะแฟนหนะ ก็ไม่รู้จะอดทนไปได้อีกนานแค่ไหน เหมือนรอเวลาเลิกกัน นี้ก็ไม่ได้คุยกันมาหลายเดือนแล้ว
ก็ได้แต่ทำหน้าที่แฟน ก็พยายามทำให้ดีที่สุด ก็ไม่รู้ว่าเค้าจะทนเราไปได้นานแค่ไหน หรือ เราที่จะเป็นคนทนไม่ได้เอง
ฉัน : อืมมมม (ในใจรู้สึกอ่อ ที่ผ่านมาเราคงคิดไปเองสินะ และรู้สึกเหมือนโดนหลอกไงไม่รู้ 5555) ก็ได้แต่ยิ้มๆให้เค้า
ฉัน : ถามต่อแหมๆไม่เห็นเคยเล่าเรื่องแฟนให้เราฟังบ้างเลยนะ แอบอุ๊บไว้คนเดียว 5555
เค้า : จริงๆเค้านะเป็นคนตรงไปตรงมานะ เวลาใครถามก็ไม่เคยปิดว่ามีแฟนแล้ว แต่แพรวไม่เคยถาม
ฉัน: ได้แต่ยิ้ม (คิดในใจว่า มันก็จริงๆเพราะเราไม่เคยถามเค้าเลย )
เราก็ตอบไปตามตรงว่า เราไม่ค่อยระราบระล่วงเรื่องส่วนตัวใครนะ นอกจากเค้าจะเล่าให้เราฟังเอง
เค้า : ก็ได้แต่มองหน้าเราแล้วขำ แล้วเค้าถามต่อ บอกว่าเราจะนิยามสถานะเรายังไงดี
ฉัน : เป็นชู้มั้ง 5555
เค้า : ไม่ใช่คับ
ฉัน : เอออ งั้นกิ๊กก็ได้
เค้า : ไม่ใช่หรอกคับคุณมีค่ามากกว่าจะอยู่ในสถานะนั้น
ฉัน : เอิ่มมมมมมม ได้แต่ยิ้มๆ แล้วบอกว่า ไม่รู้จะอธิบายยังไง 5555
เค้า : ก็ขำขำ
ฉัน : เอออ ช่างมันเถอะเนาะ ไว้พรุ่งนี้เจอกัน
หลังจากทานข้าวเสร็จ เราก็ขับรถกลับบ้าน ในใจเรารู้สึกมันกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก
คือบอกตรงๆก็รู้สึกดีดีกับเค้านะ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป อีกทั้งงานที่เค้าช่วยเหลืออยู่มันก็ยังค้างคา ถ้าเค้าไม่ช่วยเราก็ต้องหาคนอื่นมาช่วย หรือเราก็ปล่อยไปแบบนี้ (ในใจลึกก็รู้สึกเหมือนโดนหลอกไงไม่รู้) หรือเราอาจใจง่ายไป
คือเราไม่รู้จริงๆเค้ามีแฟนแล้ว เพื่อนๆเค้าก็ไม่ส่งซิก ส่งสายตาบ้างเลย ยังมาพูดแซวเรายังกะเค้าพาเรามาแนะนำคนแรก
ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าเค้ามีแฟนแล้ว
ตอนนี้เลย ทำตัวเงียบๆๆๆ ก็ยังหาทางออกไม่ได้ช่วยแนะนำทีเถอะคะ
ต้องทำงานร่วมกันอีกเป็นเดือนๆๆเลย
กลืนไม่เข้าคายไม่ออกไม่รู้จะทำยังไงดีคะ
ดิฉันได้รู้จักทำงาน(ธุรกิจส่วนตัวนะคะ) และเกิดปัญหาที่ต้องการความช่วยเหลือ ก็ไม่รู้เพราะอะไรก็มีคนยืนมือมาช่วยเหลือจริงๆตามแรงปรานารถนั้นๆ เค้าได้เข้ามาช่วยเหลือ ดูแลเทคแคร์ ร้าวกับเราเป็นหนี้บุญคุณเค้าแต่ชาติปางก่อน 5555
ทั้งๆที่เราไปขอความช่วยเหลือ ทั้งๆที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่เคยเจอหน้ากันด้วยซ้ำ (มีคนแนะนำมาเราก็ไปติดต่อเค้า)
แต่เค้าก็ดิ่งตัวมาช่วยงานเราทันที (ช่วยฟรีๆ) เค้าคงสงสารเราที่ทำแก้ปัญหางานของเราไม่ได้สักที
จากนั้นเค้าก็ค่อยมาช่วยงานเราบ่อยๆ ให้เราไปทำงานที่ทำงานกะเค้าก็ได้ เพราะจะได้ช่วยดูงานให้
แนะนำให้รู้จักกับพี่ๆเพื่อนๆที่ทำงาน พาไปเจอเพื่อนๆของเค้า(เพื่อนสมัยมหาลัย )
ชวนไปทานข้าว ชวนไปโน้นมานี้ ชวนไปเที่ยวตจวแบบไปเช้าเย็นกลับไปเที่ยวๆกันไรงี้
และชอบถามเรื่องส่วนตัว เป็นห่วงเป็นใย ทุกเรื่องราวที่เข้ามาในชิวิตของดิฉัน
ชอบมาอยู่ใกล้ๆตลอดเวลา เวลาเดินก็เดินแทบจะเบียดเราจะตัวแบน 5555
ประมาณว่าคุยไลน์กันทุกวันอย่างต่ำๆก็เที่ยงคืน ตี 1 ทำแบบนี้มาตลอดประมาณ 3 เดือนได้แล้วคะ
มองในมุมกลับกัน ดิฉันไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวเค้าสักนิด เพราะไม่กล้าถาม ส่วนเค้าก็ไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟัง
จริงๆฉันก็อยากรู้นะสถานะตอนนี้มันคืออะไร??? แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรหรอกนะ
จนมาวันนี้ เค้าก็มาเปิดใจคุยกับดิฉัน
เค้า : ก็ถามตรงๆว่าดิฉันรู้สึกยังไงกับเค้า
ฉัน : ก็ตอบไปว่า อืม…ก็รู้สึกดีดีนะ
เค้า : ก็บอกว่า เค้าก็มีความรู้สึกดีดีกับดิฉันเช่นกัน
ฉัน : ก็ถามติดตลกประมาณว่า แหมๆๆๆ โปรไฟล์ดีขนาดนี้ จะยังโสดอีกหรอ 5555 มาทำเป็นพูดเล่นๆแบบนี้
เค้า : อืมมมม จริงๆเรามีแฟนแล้ว
ฉัน : รู้สึกเงิบบบ คะ จุกจนต้องวางช้อนที่กำลังจะตักเข้าปาก 5555
เค้า : แต่ตอนนี้เราก็ห่างๆกะแฟนหนะ ก็ไม่รู้จะอดทนไปได้อีกนานแค่ไหน เหมือนรอเวลาเลิกกัน นี้ก็ไม่ได้คุยกันมาหลายเดือนแล้ว
ก็ได้แต่ทำหน้าที่แฟน ก็พยายามทำให้ดีที่สุด ก็ไม่รู้ว่าเค้าจะทนเราไปได้นานแค่ไหน หรือ เราที่จะเป็นคนทนไม่ได้เอง
ฉัน : อืมมมม (ในใจรู้สึกอ่อ ที่ผ่านมาเราคงคิดไปเองสินะ และรู้สึกเหมือนโดนหลอกไงไม่รู้ 5555) ก็ได้แต่ยิ้มๆให้เค้า
ฉัน : ถามต่อแหมๆไม่เห็นเคยเล่าเรื่องแฟนให้เราฟังบ้างเลยนะ แอบอุ๊บไว้คนเดียว 5555
เค้า : จริงๆเค้านะเป็นคนตรงไปตรงมานะ เวลาใครถามก็ไม่เคยปิดว่ามีแฟนแล้ว แต่แพรวไม่เคยถาม
ฉัน: ได้แต่ยิ้ม (คิดในใจว่า มันก็จริงๆเพราะเราไม่เคยถามเค้าเลย )
เราก็ตอบไปตามตรงว่า เราไม่ค่อยระราบระล่วงเรื่องส่วนตัวใครนะ นอกจากเค้าจะเล่าให้เราฟังเอง
เค้า : ก็ได้แต่มองหน้าเราแล้วขำ แล้วเค้าถามต่อ บอกว่าเราจะนิยามสถานะเรายังไงดี
ฉัน : เป็นชู้มั้ง 5555
เค้า : ไม่ใช่คับ
ฉัน : เอออ งั้นกิ๊กก็ได้
เค้า : ไม่ใช่หรอกคับคุณมีค่ามากกว่าจะอยู่ในสถานะนั้น
ฉัน : เอิ่มมมมมมม ได้แต่ยิ้มๆ แล้วบอกว่า ไม่รู้จะอธิบายยังไง 5555
เค้า : ก็ขำขำ
ฉัน : เอออ ช่างมันเถอะเนาะ ไว้พรุ่งนี้เจอกัน
หลังจากทานข้าวเสร็จ เราก็ขับรถกลับบ้าน ในใจเรารู้สึกมันกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก
คือบอกตรงๆก็รู้สึกดีดีกับเค้านะ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป อีกทั้งงานที่เค้าช่วยเหลืออยู่มันก็ยังค้างคา ถ้าเค้าไม่ช่วยเราก็ต้องหาคนอื่นมาช่วย หรือเราก็ปล่อยไปแบบนี้ (ในใจลึกก็รู้สึกเหมือนโดนหลอกไงไม่รู้) หรือเราอาจใจง่ายไป
คือเราไม่รู้จริงๆเค้ามีแฟนแล้ว เพื่อนๆเค้าก็ไม่ส่งซิก ส่งสายตาบ้างเลย ยังมาพูดแซวเรายังกะเค้าพาเรามาแนะนำคนแรก
ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าเค้ามีแฟนแล้ว
ตอนนี้เลย ทำตัวเงียบๆๆๆ ก็ยังหาทางออกไม่ได้ช่วยแนะนำทีเถอะคะ
ต้องทำงานร่วมกันอีกเป็นเดือนๆๆเลย