ผมมีความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับพุทธอิสสระ ดังนี้
ตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่มีเอาหลักความถูกใจ มาแทนหลักความถูกต้อง แทนพระธรรมวินัยอย่างแน่นอน ผิดว่าไปตามผิด ถึงแม้จะดูแค่เปลือกภายนอก เอากฎหมายบ้านเมืองมาตัดสินอะไรไม่ได้ก็ตาม แต่หนีกฎแห่งกรรมไม่ได้อย่างแน่นอน ตามหลักศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงแต่งตั้งใครขึ้นมาเป็นศาสดาแทนพระองค์ ดังนั้นในพุทธศาสนาจึงมีพระธรรมและพระวินัยแทนพระพุทธเจ้า เพราะธรรมและพระวินัยก็คือความถูกต้อง คือคำสอน
เหตุที่มหาเถรฯทำอะไรก็ไม่ได้ เพราะมันขึ้นอยู่กับหลายเหตุผล พระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เคยขอบิณฑบาตสุเทพเพื่อเปิดเส้นทาง จัดงานวันพ่อแล้ว แต่โดนม๊อบสวนกลับมา....??? ท่านดำรงตำแหน่งผู้ปฎิบัติงานแทนสมเด็จพระสังฆราช ยังโดนพวกม๊อบสวนกลับมา มหาเถรฯไม่ได้นิ่งเฉย แต่ปัญหาคือคนให้ท้ายม๊อบ จนทำให้ม๊อบกร่างมาก ขนาดถนนราชดำเนิน ปกติต้องจัดงานวันพ่อ ถือว่าเป็นงานประจำ งานเทิดทูนพระเกียรติในหลวง หากพวกนี้ไม่มีคนเปิดไฟเขียวให้ จะต้องไปชุมนุมที่อื่น แต่นี่ไม่....
การมาเดินม๊อบแบบนี้ของพุทธอิสสระ บ่งบอกถึงวุฒิภาวะ ยังอยู่ภายใต้รัก โลภ โกรธ หลงมากกว่าครับ ในประวัติศาสตร์พุทธศาสนา พระพุทธเจ้าแทบจะไม่ยุ่งการเมืองด้วยซ้ำ มีเพียงแค่ไปห้ามพระญาติ ที่จะรบกันเพราะน้ำ และไปห้ามพระเจ้าหลาน วิฑูรภที่จะยกทัพไปฆ่าพวกเจ้าศากยะเท่านั้น ไปเพื่อให้เกิดสันติ ความสงบสุข เพื่อชนเป็นอันมาก ตอนหลวงพ่อธรรมโชติยุ่งกับสงคราม นั่นเป็นเพราะบ้านเมืองรบกับต่างชาติ(พม่า) แต่ไม่ใช่คนในชาติเดียวกัน ตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันหลักนั่นก็คือ ศาสนา ไม่มีเหตุผลใดๆเลย ที่จะมาอ้างความชอบธรรม ทำให้คนในชาติ เกลียดกัน ทำร้ายกัน หากลูบหัว และมองสีจีวร นั่นแหละ คือความเป็นจริง ที่พุทธอิสสระ ต้องรู้หัวโขนตัวเองครับ ว่าตัวเองคือใคร ควรทำอะไร และไม่ควรทำอะไร อย่าให้ความถูกใจ มาแทนความถูกต้อง คือพระธรรมและพระวินัย
เพราะไม่ว่าจะฝ่ายไหน เชียร์ฝ่ายไหน อย่างน้อยๆ ก็เป็นชาวพุทธเหมือนกัน ไม่ว่าจะสีเสื้อไหน เขาก็เคยใส่บาตให้พุทธอิสสระ ต้องสอนให้เขารักกัน สามัคคีกัน นี่คือสิ่งที่พระ ควรจะทำ มากกว่าความถูกใจ ความพอใจ แล้วเอาอคติเป็นที่ตั้ง เพราะพระคือบุคคลสาธารณะ สอนให้คนละชั่ว กลัวบาป ทำความดี นั่นแหละ คือหน้าที่ของพระ
แกเชื่อว่า รัฐบาลนี้โกง แต่พระพุทธเจ้าก็ทรงสอนแล้วนะครับ กาลมสูตร หลักของเหตุผล
อย่าเพิ่งเชื่อ เพียงเพราะตรงกับใจเรา
อย่าเพิ่งเชื่อ เพราะเขาเล่าๆต่อๆกันมา
อย่าเพิ่งเชื่อ เพราะคนพูด น่าเชื่อถือ
อย่าเพิ่งเชื่อ เพราะตรงตามตำรา
อย่าเพิ่งเชื่อ เพราะตรงกับตรรกะ
ดังนั้น พุทธอิสระ หากแกเดินตามพระพุทธเจ้า มันจะดีกว่าที่แกเดินนำหน้าม๊อบ แกจะรู้ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร แล้วแกควรนำเอาคำสอนอะไรของพระพุทธเจ้า มาสอนคนไทยให้รักกัน ไม่ใช่กระโดดมาเป็นส่วนหนึ่งของม๊อบเสียเอง
การเมืองไม่ใช่ความจริงอันประเสริฐ เหมือนคำสอนของพระพุทธเจ้า การเมืองมันเป็นแค่ความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่ข้อเท็จจริง วันนี้คนที่คุณด่าว่าโกง วันข้างหน้า เขาอาจจะเป็นคนดีก็ได้ คนที่คุณคิดว่าเขาเป็นคนดี วันข้างหน้าเขาอาจจะโกงก็ได้ หากเรื่องแค่นี้พุทธอิสสระ ยังคิดไม่ได้ ผมว่า สึกเถอะครับ ตัวเองเข้ามาอาศัยร่มเงาแห่งพระศาสนา แต่กลับทำให้พระศาสนามัวหมอง
พุทธอิสสระ สึกเถอะครับ คุณมาไกลเกินคำว่า พระแล้ว
ตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่มีเอาหลักความถูกใจ มาแทนหลักความถูกต้อง แทนพระธรรมวินัยอย่างแน่นอน ผิดว่าไปตามผิด ถึงแม้จะดูแค่เปลือกภายนอก เอากฎหมายบ้านเมืองมาตัดสินอะไรไม่ได้ก็ตาม แต่หนีกฎแห่งกรรมไม่ได้อย่างแน่นอน ตามหลักศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงแต่งตั้งใครขึ้นมาเป็นศาสดาแทนพระองค์ ดังนั้นในพุทธศาสนาจึงมีพระธรรมและพระวินัยแทนพระพุทธเจ้า เพราะธรรมและพระวินัยก็คือความถูกต้อง คือคำสอน
เหตุที่มหาเถรฯทำอะไรก็ไม่ได้ เพราะมันขึ้นอยู่กับหลายเหตุผล พระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เคยขอบิณฑบาตสุเทพเพื่อเปิดเส้นทาง จัดงานวันพ่อแล้ว แต่โดนม๊อบสวนกลับมา....??? ท่านดำรงตำแหน่งผู้ปฎิบัติงานแทนสมเด็จพระสังฆราช ยังโดนพวกม๊อบสวนกลับมา มหาเถรฯไม่ได้นิ่งเฉย แต่ปัญหาคือคนให้ท้ายม๊อบ จนทำให้ม๊อบกร่างมาก ขนาดถนนราชดำเนิน ปกติต้องจัดงานวันพ่อ ถือว่าเป็นงานประจำ งานเทิดทูนพระเกียรติในหลวง หากพวกนี้ไม่มีคนเปิดไฟเขียวให้ จะต้องไปชุมนุมที่อื่น แต่นี่ไม่....
การมาเดินม๊อบแบบนี้ของพุทธอิสสระ บ่งบอกถึงวุฒิภาวะ ยังอยู่ภายใต้รัก โลภ โกรธ หลงมากกว่าครับ ในประวัติศาสตร์พุทธศาสนา พระพุทธเจ้าแทบจะไม่ยุ่งการเมืองด้วยซ้ำ มีเพียงแค่ไปห้ามพระญาติ ที่จะรบกันเพราะน้ำ และไปห้ามพระเจ้าหลาน วิฑูรภที่จะยกทัพไปฆ่าพวกเจ้าศากยะเท่านั้น ไปเพื่อให้เกิดสันติ ความสงบสุข เพื่อชนเป็นอันมาก ตอนหลวงพ่อธรรมโชติยุ่งกับสงคราม นั่นเป็นเพราะบ้านเมืองรบกับต่างชาติ(พม่า) แต่ไม่ใช่คนในชาติเดียวกัน ตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันหลักนั่นก็คือ ศาสนา ไม่มีเหตุผลใดๆเลย ที่จะมาอ้างความชอบธรรม ทำให้คนในชาติ เกลียดกัน ทำร้ายกัน หากลูบหัว และมองสีจีวร นั่นแหละ คือความเป็นจริง ที่พุทธอิสสระ ต้องรู้หัวโขนตัวเองครับ ว่าตัวเองคือใคร ควรทำอะไร และไม่ควรทำอะไร อย่าให้ความถูกใจ มาแทนความถูกต้อง คือพระธรรมและพระวินัย
เพราะไม่ว่าจะฝ่ายไหน เชียร์ฝ่ายไหน อย่างน้อยๆ ก็เป็นชาวพุทธเหมือนกัน ไม่ว่าจะสีเสื้อไหน เขาก็เคยใส่บาตให้พุทธอิสสระ ต้องสอนให้เขารักกัน สามัคคีกัน นี่คือสิ่งที่พระ ควรจะทำ มากกว่าความถูกใจ ความพอใจ แล้วเอาอคติเป็นที่ตั้ง เพราะพระคือบุคคลสาธารณะ สอนให้คนละชั่ว กลัวบาป ทำความดี นั่นแหละ คือหน้าที่ของพระ
แกเชื่อว่า รัฐบาลนี้โกง แต่พระพุทธเจ้าก็ทรงสอนแล้วนะครับ กาลมสูตร หลักของเหตุผล
อย่าเพิ่งเชื่อ เพียงเพราะตรงกับใจเรา
อย่าเพิ่งเชื่อ เพราะเขาเล่าๆต่อๆกันมา
อย่าเพิ่งเชื่อ เพราะคนพูด น่าเชื่อถือ
อย่าเพิ่งเชื่อ เพราะตรงตามตำรา
อย่าเพิ่งเชื่อ เพราะตรงกับตรรกะ
ดังนั้น พุทธอิสระ หากแกเดินตามพระพุทธเจ้า มันจะดีกว่าที่แกเดินนำหน้าม๊อบ แกจะรู้ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร แล้วแกควรนำเอาคำสอนอะไรของพระพุทธเจ้า มาสอนคนไทยให้รักกัน ไม่ใช่กระโดดมาเป็นส่วนหนึ่งของม๊อบเสียเอง
การเมืองไม่ใช่ความจริงอันประเสริฐ เหมือนคำสอนของพระพุทธเจ้า การเมืองมันเป็นแค่ความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่ข้อเท็จจริง วันนี้คนที่คุณด่าว่าโกง วันข้างหน้า เขาอาจจะเป็นคนดีก็ได้ คนที่คุณคิดว่าเขาเป็นคนดี วันข้างหน้าเขาอาจจะโกงก็ได้ หากเรื่องแค่นี้พุทธอิสสระ ยังคิดไม่ได้ ผมว่า สึกเถอะครับ ตัวเองเข้ามาอาศัยร่มเงาแห่งพระศาสนา แต่กลับทำให้พระศาสนามัวหมอง