ประเด็นที่ผมนำหุ้น TPC : บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) มาแนะนำเนื่องจากผมมองว่า
1. ผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ SCC : บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน)
ซึ่งกิจการแน่นอนว่าน่าจะอยู่ในระดับที่ดี ความมั่นคงน่าจะสูงไม่แพ้กับหุ้นแม่
2. ลักษณะธุรกิจน่าสนใจ เพราะโดยรวมแล้ว Product ที่ TPC ผลิต
เป็นของใช้ทั่วไป ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน + กับการที่มีฐานผลิตอยู่ใน 3 ประเทศ
คือ ไทย เวียดนาม และ อินโดนีเซีย ซึ่งอนาคตคาดว่าน่าจะมีประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย
(จากการเปิด AEC น่าจะได้ประโยชน์ในส่วนนี้)
3. นโยบายการจ่ายเงินปันผล TPC จ่ายปันผลอยู่ที่ 50 - 60 % ของกำไรสุทธิ
ซึ่งผมมองว่าเยอะพอสมควรนะ ถ้าเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นๆ
4. กำไรสะสมของ TPC อยู่ที่ 11,977 ล้านบาท
ถ้าเทียบกับ ส่วนผู้ถือหุ้นทั้งหมดรวม 16,113 ล้านบาท
คิดได้เป็น % อยู่ที่ 11,997/16,116 * 100 = ประมาณ 75%
ถือได้ว่าบริษัทมีกำไรที่มาจากการดำเนินงานเป็นหลัก ถือว่า Performance ได้ดีเลยทีเดียว
5. ยอดขายในปี 2556 เทียบ ปี 2555 (งวด 9 เดือน) เติบโตใช้ได้เลยทีเดียว
แต่ว่าต้นทุนขายก็เพิ่มขึ้นมาพอสมควร ทำให้กำไรดูไม่ดีเท่าปี 2555 ที่ทำกำไรได้ 2500 ล้านบาท
ซึ่งในปี 2556 ทำได้เพียง 2000 ล้านบาท
(หลักๆ ที่ผมติดตาม เค้าบอกว่าส่วนต่างของราคาน้อย ทำให้กำไรลด ผนวกกับความต้องการใช้ชะลอตัวลง
อย่างไรก็ตามน่าจะกระทบเพีบงระยะสั้น เพราะหาก ศก. ฟิ้น ราคาส่วนต่างน่าจะทำให้กำไรเพิ่มมากยิ่งขึ้น)
6. งบกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน เป็น + ผมมองว่าดำเนินงานได้ดี
ส่วนเงินสดสุทธิเป็น - ผมมองว่า กิจการยังมีเงินเพียงพอต่อการดำเนินงาน
ไม่น่าจะกระทบอะไรกับบริษัทในภาพมุมมองระยะยาว
7. Asset And Equity ในปี 2553 เทียบกับในปี 2556
จะเห็นว่าแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ ซึ่งน่าจะเป็นผลดีในระยะยาว
ที่เติบโตแบบค่อยๆเป็น ค่อยๆไป
8. ยอดรายได้รวมในปี 2553 2554 255 2556 จะเห็นว่า
ยอดรายได้รวมทั้งสิ้นมัประมาณ 30000 - 31000 ล้านบาท
ถือว่าบริษัทยังคงรักษายอดขายได้ดีเลยทีเดียว
(อาจจะไม่โตมาก แต่ก็ไม่ลดลง ทรงๆ ผมมองว่าน่าจะดีได้ในอนาคต)
*** ข้อสังเกต ***
การที่รายได้เท่าๆกันแบบนี้ อาจมีมุมมองในเชิงของการทำ
Income Smoothing ได้คือทำให้ยอดขายมันทรงๆ ดูดีเรียบๆ อันนี้ต้องระวังไว้บ้างในบางบริษัท
ซึ่งต้องเจาะรายการต่างๆ ในงบการเงินอย่างละเอียดครับ
อย่างไรก็ตาม TPC ได้ผ่านการตรวจสอบจาก Auditor จากบริษัท Audit ที่มีชื่อเสียงระดับโลก
คือในสายอาชีพผมจะเรียกว่า Big 4 คือมี 4 บริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านนี้ครับได้แก่
1.PwC 2.EY 3.KPMG 4.Deloitte ( Big 4 ด้าน Audit )
ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะมีความน่าเชื่อถือที่สูงในระดับหนึ่ง ซึ่งคิดว่าจะเกิดความผิดพลาดได้น้อยในการ Audit
เพราะถ้ามีอะไรน่าสงสัย ทาง Auditor ก็จะรายการความเห็นแบบมีข้อสังเกต ครับผม
9. กำไรสุทธิ ในปี 2553 2554 2555 2556 จะเห็นได้ว่า
กำไรค่อนข้างดีนะในมุมมองผม คือทรงๆในปี 53 54
แต่ก้าวกระโดดในปี 55 (น่าจะมาจากความต้องการใช้สูงขึ้น เลยขายของได้ราคา ส่วนต่างมาก)
แต่ลดลงในปี 56 แต่คาดว่า กำไรน่าจะสวิงในช่วง 1800 - 3333 ล้านบาทครับผม
10. มุมมองต่อ P/E P/BV
ผมมองว่าตอนนี้ราคาไม่น่าจะแพงนะ ราคาที่เหมาะสมผมมองว่า ถ้าต่ำกว่า 30 บาท
น่าจะเป็นหุ้นที่น่าถือเก็บไว้บ้างใน Port นะครับ (เน้นระยะยาวจริงๆ รับเงินปันผลครับผม)
11. Dividend Yield
ผมมองว่า Dividend Yield ณ ราคา ประมาณ 30 บาท คิดได้เป็น 4.5 - 7.5 %
ผมมองว่าใช้ได้เลยนะครับ เพราะอนาคตผมมองว่าน่าจะทำกำไรได้ดีนะครับ
(ปล. 7.50% มาจากปี 2555 ที่กำไรส่วนต่างเยอะครับ ทำให้ปันผลได้มากครับ)
12. วันจ่ายเงินปันผล (ผมชอบอันนี้มากๆ)
เพราะผมสังเกตมาหลายๆ บริษัทนะครับ ส่วนใหญ่ประกาศจ่ายปันผล ต้นเดือน
แต่กว่าเราจะได้เงินอย่างน้อยยย ต้องรอไป 1 - 2 เดือนครับ
แต่ TPC ดีตรงนี้ครับ คือ ประจ่ายเงินปันผลต้นเดือน แล้วจ่ายปลายเดือน
ซึ่งผมมองว่ามันเยี่ยมมากๆ เลยครับ เพราะยิ่งถ้าเราได้เงินปันผลเร็ว
เราก็มีโอกาสนำเงินนั้นไปลงทุนต่อ หรือไปจับจ่ายใช้สอยได้เลยครับ
ซึ่งผมมองว่ามันมีโอกาสจากเงินปันผลมากมายเลยนะครับ ^o^
13. มุมมองในกราฟ Week
จะเห็นได้ว่ากราฟ Week เคยถูกลากไปที่ราคาประมาณ 40 บาท
แล้วสุดท้ายราคากลับมาทรงๆ ที่เดิมประมาณ 30 บาท
ซึ่งแนวรับที่ผมมอง อยู่ที่ 26.00 บาท แต่คิดว่าไม่น่าจะลงมาถึงได้นะครับ(เว้นแต่จะเกิดวิกฤตแรงๆ)
Volume ตัวนี้น้อยจริงๆ ครับ ไม่เหมาะกับการเก็งกำไรเท่าไหร่
แต่ถ้าจะซื้อลงทุนผมคิดว่า ราคาของหุ้น TPC ตัวนี้ ถ้าต่ำกว่า 30 บาท
ผมมองว่าน่าลงทุนไว้บางส่วนนะครับผม ^o^
14. ในช่วงต้นปี 2555 SCC ทุ่มเงินซื้อสัดส่วน TPC เพิ่มครับ
ผมจึงมมองว่า SCC ปูนใหญ่น่าจะเห็นอะไรดีๆ ใน TPC นี้นะครับ
เลยซื้อสัดส่วนเพิ่มเติม โดยปัจจุบัน สัดส่วน SCC ถือทั้งหมด คือ 90% ครับ
ผมจึงมมองว่าอนาคต SCC น่าจะทำ Tender Offer ซื้อสัดส่วน TPC
คืนทั้งหมด ซึ่งผมมองว่า น่าจะซื้อที่ราคา >= 30 บาทนะครับ
ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้น ผมคิดว่าคงได้เงินปันผลไปหลายสิบบาทแล้วครับ
ขายคืนให่เค้าก็น่าจะได้กำไรอีกต่อหนึ่งนะครับผม
ตัวนี้ตั้งใจวิเคราะห์สุดๆ เลยครับ เพราะคิดว่าน่าจะมีอนาคตและมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆ สินธรครับผม
ไว้จะหาหุ้นที่ผมมองว่าพื้นฐานน่าจะพอได้ และ มี Dividend Yield > 5% + ปันผลสม่ำเสมอ มานำเสนอนะครับ
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรใช้ความรู้และสติในการลงทุนครับ
Date : 25 Jan
2557 2014
Time : 22.32 น.
วิเคราะห์หุ้น TPC : บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน)
ประเด็นที่ผมนำหุ้น TPC : บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) มาแนะนำเนื่องจากผมมองว่า
1. ผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ SCC : บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน)
ซึ่งกิจการแน่นอนว่าน่าจะอยู่ในระดับที่ดี ความมั่นคงน่าจะสูงไม่แพ้กับหุ้นแม่
2. ลักษณะธุรกิจน่าสนใจ เพราะโดยรวมแล้ว Product ที่ TPC ผลิต
เป็นของใช้ทั่วไป ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน + กับการที่มีฐานผลิตอยู่ใน 3 ประเทศ
คือ ไทย เวียดนาม และ อินโดนีเซีย ซึ่งอนาคตคาดว่าน่าจะมีประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย
(จากการเปิด AEC น่าจะได้ประโยชน์ในส่วนนี้)
3. นโยบายการจ่ายเงินปันผล TPC จ่ายปันผลอยู่ที่ 50 - 60 % ของกำไรสุทธิ
ซึ่งผมมองว่าเยอะพอสมควรนะ ถ้าเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นๆ
4. กำไรสะสมของ TPC อยู่ที่ 11,977 ล้านบาท
ถ้าเทียบกับ ส่วนผู้ถือหุ้นทั้งหมดรวม 16,113 ล้านบาท
คิดได้เป็น % อยู่ที่ 11,997/16,116 * 100 = ประมาณ 75%
ถือได้ว่าบริษัทมีกำไรที่มาจากการดำเนินงานเป็นหลัก ถือว่า Performance ได้ดีเลยทีเดียว
5. ยอดขายในปี 2556 เทียบ ปี 2555 (งวด 9 เดือน) เติบโตใช้ได้เลยทีเดียว
แต่ว่าต้นทุนขายก็เพิ่มขึ้นมาพอสมควร ทำให้กำไรดูไม่ดีเท่าปี 2555 ที่ทำกำไรได้ 2500 ล้านบาท
ซึ่งในปี 2556 ทำได้เพียง 2000 ล้านบาท
(หลักๆ ที่ผมติดตาม เค้าบอกว่าส่วนต่างของราคาน้อย ทำให้กำไรลด ผนวกกับความต้องการใช้ชะลอตัวลง
อย่างไรก็ตามน่าจะกระทบเพีบงระยะสั้น เพราะหาก ศก. ฟิ้น ราคาส่วนต่างน่าจะทำให้กำไรเพิ่มมากยิ่งขึ้น)
6. งบกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน เป็น + ผมมองว่าดำเนินงานได้ดี
ส่วนเงินสดสุทธิเป็น - ผมมองว่า กิจการยังมีเงินเพียงพอต่อการดำเนินงาน
ไม่น่าจะกระทบอะไรกับบริษัทในภาพมุมมองระยะยาว
7. Asset And Equity ในปี 2553 เทียบกับในปี 2556
จะเห็นว่าแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ ซึ่งน่าจะเป็นผลดีในระยะยาว
ที่เติบโตแบบค่อยๆเป็น ค่อยๆไป
8. ยอดรายได้รวมในปี 2553 2554 255 2556 จะเห็นว่า
ยอดรายได้รวมทั้งสิ้นมัประมาณ 30000 - 31000 ล้านบาท
ถือว่าบริษัทยังคงรักษายอดขายได้ดีเลยทีเดียว
(อาจจะไม่โตมาก แต่ก็ไม่ลดลง ทรงๆ ผมมองว่าน่าจะดีได้ในอนาคต)
*** ข้อสังเกต ***
การที่รายได้เท่าๆกันแบบนี้ อาจมีมุมมองในเชิงของการทำ
Income Smoothing ได้คือทำให้ยอดขายมันทรงๆ ดูดีเรียบๆ อันนี้ต้องระวังไว้บ้างในบางบริษัท
ซึ่งต้องเจาะรายการต่างๆ ในงบการเงินอย่างละเอียดครับ
อย่างไรก็ตาม TPC ได้ผ่านการตรวจสอบจาก Auditor จากบริษัท Audit ที่มีชื่อเสียงระดับโลก
คือในสายอาชีพผมจะเรียกว่า Big 4 คือมี 4 บริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านนี้ครับได้แก่
1.PwC 2.EY 3.KPMG 4.Deloitte ( Big 4 ด้าน Audit )
ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะมีความน่าเชื่อถือที่สูงในระดับหนึ่ง ซึ่งคิดว่าจะเกิดความผิดพลาดได้น้อยในการ Audit
เพราะถ้ามีอะไรน่าสงสัย ทาง Auditor ก็จะรายการความเห็นแบบมีข้อสังเกต ครับผม
9. กำไรสุทธิ ในปี 2553 2554 2555 2556 จะเห็นได้ว่า
กำไรค่อนข้างดีนะในมุมมองผม คือทรงๆในปี 53 54
แต่ก้าวกระโดดในปี 55 (น่าจะมาจากความต้องการใช้สูงขึ้น เลยขายของได้ราคา ส่วนต่างมาก)
แต่ลดลงในปี 56 แต่คาดว่า กำไรน่าจะสวิงในช่วง 1800 - 3333 ล้านบาทครับผม
10. มุมมองต่อ P/E P/BV
ผมมองว่าตอนนี้ราคาไม่น่าจะแพงนะ ราคาที่เหมาะสมผมมองว่า ถ้าต่ำกว่า 30 บาท
น่าจะเป็นหุ้นที่น่าถือเก็บไว้บ้างใน Port นะครับ (เน้นระยะยาวจริงๆ รับเงินปันผลครับผม)
11. Dividend Yield
ผมมองว่า Dividend Yield ณ ราคา ประมาณ 30 บาท คิดได้เป็น 4.5 - 7.5 %
ผมมองว่าใช้ได้เลยนะครับ เพราะอนาคตผมมองว่าน่าจะทำกำไรได้ดีนะครับ
(ปล. 7.50% มาจากปี 2555 ที่กำไรส่วนต่างเยอะครับ ทำให้ปันผลได้มากครับ)
12. วันจ่ายเงินปันผล (ผมชอบอันนี้มากๆ)
เพราะผมสังเกตมาหลายๆ บริษัทนะครับ ส่วนใหญ่ประกาศจ่ายปันผล ต้นเดือน
แต่กว่าเราจะได้เงินอย่างน้อยยย ต้องรอไป 1 - 2 เดือนครับ
แต่ TPC ดีตรงนี้ครับ คือ ประจ่ายเงินปันผลต้นเดือน แล้วจ่ายปลายเดือน
ซึ่งผมมองว่ามันเยี่ยมมากๆ เลยครับ เพราะยิ่งถ้าเราได้เงินปันผลเร็ว
เราก็มีโอกาสนำเงินนั้นไปลงทุนต่อ หรือไปจับจ่ายใช้สอยได้เลยครับ
ซึ่งผมมองว่ามันมีโอกาสจากเงินปันผลมากมายเลยนะครับ ^o^
13. มุมมองในกราฟ Week
จะเห็นได้ว่ากราฟ Week เคยถูกลากไปที่ราคาประมาณ 40 บาท
แล้วสุดท้ายราคากลับมาทรงๆ ที่เดิมประมาณ 30 บาท
ซึ่งแนวรับที่ผมมอง อยู่ที่ 26.00 บาท แต่คิดว่าไม่น่าจะลงมาถึงได้นะครับ(เว้นแต่จะเกิดวิกฤตแรงๆ)
Volume ตัวนี้น้อยจริงๆ ครับ ไม่เหมาะกับการเก็งกำไรเท่าไหร่
แต่ถ้าจะซื้อลงทุนผมคิดว่า ราคาของหุ้น TPC ตัวนี้ ถ้าต่ำกว่า 30 บาท
ผมมองว่าน่าลงทุนไว้บางส่วนนะครับผม ^o^
14. ในช่วงต้นปี 2555 SCC ทุ่มเงินซื้อสัดส่วน TPC เพิ่มครับ
ผมจึงมมองว่า SCC ปูนใหญ่น่าจะเห็นอะไรดีๆ ใน TPC นี้นะครับ
เลยซื้อสัดส่วนเพิ่มเติม โดยปัจจุบัน สัดส่วน SCC ถือทั้งหมด คือ 90% ครับ
ผมจึงมมองว่าอนาคต SCC น่าจะทำ Tender Offer ซื้อสัดส่วน TPC
คืนทั้งหมด ซึ่งผมมองว่า น่าจะซื้อที่ราคา >= 30 บาทนะครับ
ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้น ผมคิดว่าคงได้เงินปันผลไปหลายสิบบาทแล้วครับ
ขายคืนให่เค้าก็น่าจะได้กำไรอีกต่อหนึ่งนะครับผม
ไว้จะหาหุ้นที่ผมมองว่าพื้นฐานน่าจะพอได้ และ มี Dividend Yield > 5% + ปันผลสม่ำเสมอ มานำเสนอนะครับ
Date : 25 Jan
25572014Time : 22.32 น.