กาชาดต้องไม่เลือกปฏิบัติ



นาย อุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการองค์กรอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ในฐานะกรรมการสภา กาชาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีบุคลากรทางการแพทย์ถือธงสัญลักษณ์กาชาดร่วมชุมนุมทาง การเมืองกับกลุ่มกปปส. เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ว่า กาชาดเป็นสถาบันสากล เกิดขึ้นมาเป็นร้อยปี ไทยก็รับมาเป็นสภากาชาดไทย โดยหลักการสำคัญคือ ต้องไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งสัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนา หรือความคิดเห็นทางการเมือง พยายามอย่างเดียวคือบรรเทาความทุกข์ทรมาน ความทุกข์ยากเป็นลำดับแรกและเร่งด่วนที่สุด กาชาดจะได้รับความไว้วางใจจากทุกฝ่ายได้ ต้องเป็นอิสระจากทุกฝ่าย แม้แต่รัฐบาลไทยก็บังคับไม่ได้ เวลามีความขัดแย้งทางการเมือง ถ้ากาชาดเข้าไปเลือกข้างเพื่อเป้าหมายทางการเมือง คิดเอาเองว่าเหมาะสมหรือไม่



ขัดมนุษยธรรม-เสื่อมเกียรติ



นาย อุกฤษกล่าวต่อว่า ตนเป็นกรรมการมาเกือบ 30 ปี อยากให้สมาชิกสภากาชาดไทยและผู้เกี่ยวข้องทุกคนทราบว่า สภากาชาดไทยมีชื่อเสียงในระดับโลก เพราะเป็นกลางมาตลอด มีสภานายิกา คือ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และมีอุปนายิกา ผู้อำนวยการ คือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมัยชาวเขมรอพยพหนีสงครามในประเทศตัวเองเข้ามาทางชายแดนไทย พระราชินีท่านยังเสด็จฯ ลงไปให้ความช่วยเหลือด้วยพระองค์เอง องค์กรเอกชนหรือภาครัฐไม่สามารถนำกาชาดไปใช้ในทางประโยชน์ส่วนบุคคลโดยไม่ขอ อนุญาตไม่ได้ และถือว่าผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยสภากาชาดไทย พ.ศ.2550



"ไม่ สบายใจที่เห็นบุคลากรทางการแพทย์หลายคนทำเช่นนั้น ถือว่าขัดหลักมนุษยธรรม และจะทำให้เกียรติของพวกคุณเสื่อมเสียไปเอง ถ้าพวกคุณรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือไม่เจตนาก็เลิกทำเสีย อย่าให้ทั่วโลกเขาประณามได้ ที่ผ่านมาก็ถูกประณามหลายเรื่องแล้ว" นาย อุกฤษกล่าว



ชี้ทางออกต้องเลือกตั้ง



นาย อุกฤษกล่าวว่า หวังว่าความขัดแย้งทาง การเมืองไทยที่เกิดขึ้นขณะนี้ ทุกฝ่ายจะเจรจากันได้ ไม่อยากให้คิดแต่จะเอาชนะ ที่พูดว่าไม่มีวิน-วิน คงไม่เป็นผลดีนัก อยากให้ตระหนักถึงหลักการประชาธิปไตยให้มากที่สุด อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ถ้าไม่ยึดหลักการนี้ ประเทศก็เป็นเผด็จการ ซึ่งไม่มีที่ยืนในโลกสมัยใหม่แล้ว การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.นี้เป็นทางออกจากวิกฤตขั้นพื้นฐานที่สุด ด้วยการเคารพ 1 สิทธิ์ 1 เสียง ในหลวงก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ลงพระปรมา ภิไธยมาเป็นพระราชกฤษฎีกายุบสภาและเลือกตั้งชัดเจน ถ้าไม่มีเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.นี้ หากเหตุรุนแรงบานปลาย ใครจะกล้ารับผิดชอบ



ขออย่านำเครื่องหมายไปใช้



วัน เดียวกันเว็บไซต์ของสภากาชาดไทยและเฟซบุ๊กสภากาชาดไทย (The Thai Red Cross Society) โพสต์ข้อความระบุว่า การเดินขบวนดังกล่าวเป็นสิทธิส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม ผู้เดินขบวนไม่สามารถนำธงกาชาดไปใช้ได้ และถือว่ามีความผิดตามพ.ร.บ.กาชาดอีกด้วย ทุกท่าน ทุกสายอาชีพ มีสิทธิ์ส่วนบุคคลในการเลือกฝักฝ่ายใดก็ได้ แต่ไม่ควรนำเครื่องหมายกาชาดไปเกี่ยวข้องที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด กาชาดไม่ฝักฝ่ายใด มีความเป็นกลาง ตามหลักการกาชาด 7 ประการ ขอวอนทุกท่านอย่านำเครื่องหมายกาชาดไปใช้ในทางที่ผิดอีกเลย



แอบอ้างใช้มีโทษปรับ-จำคุก



ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า สภากาชาดไทย ประกาศแจ้งการใช้เครื่องหมายกาชาดที่ถูกต้อง โดยระบุว่า การใช้เครื่องหมายกาชาดที่เป็นรูปกากบาทสีแดงบนพื้นสีขาว เป็นไปตามข้อตกลงอนุสัญญาเจนีวาฉบับแรก กำหนดให้เป็นเครื่องหมายประจำตัวบุคคล สถานที่ และเครื่องใช้ต่างๆในการรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บในสนามรบ โดยการใช้เครื่องหมายในทางที่ผิด คือ นำไปลอกเลียนใช้เครื่องหมายที่มีสี หรือรูปร่างที่สร้างความสับสน รวมไปถึงการใช้ที่ไม่เหมาะสม ใช้ในลักษณะที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ การใช้โดยองค์กรหรือหน่วยงานที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือใช้เพื่อจุดมุ่งหมายที่ไม่สอดคล้อง กับหลักการพื้นฐานขององค์กรกาชาดฯ รวมไปถึงการใช้เพื่อเป็นกลลวงคู่ต่อสู้ ทั้งนี้พ.ร.บ.กาชาด พ.ศ.2499 มาตรา 9 ระบุไว้ชัดเจนว่าผู้ใดใช้เครื่องหมายกาชาดโดยไม่มีสิทธิตามอนุสัญญา หรือตามพระราชบัญญัตินี้ มีความผิดต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

http://www.icrc.or.th/blogs/635

เจอโวย-ไม่บริจาคโลหิต



แหล่ง ข่าวจากสภากาชาดไทย กล่าวถึงกรณีเครือข่ายอาสาสมัครทางการแพทย์ ชมรม แพทย์ชนบท บุคลากรทางการแพทย์ 9 สถาบัน ออกมาเดินรณรงค์ให้ปฏิรูปประเทศ ไทยก่อนการเลือกตั้ง และขับไล่นายกรัฐ มนตรี และใช้ธงสีขาวที่มีเครื่องหมายกาชาดออกมาใช้ในการรณรงค์ทางการเมือง ว่า แม้จะมีบุคลากรจากสภากาชาดไปร่วมเดินด้วยก็จริง แต่การออกมาเดินในครั้งนี้ไม่ใช่ในนามสภากาชาดไทย แต่เป็นกลุ่มคนจากหลายวิชาชีพด้านสุขภาพ ซึ่งเรื่องนี้ผู้บริหารของสภากาชาดไทยกำลังหารือกันอยู่ ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเป็นการใช้โดยไม่รอบคอบ เพราะอยากจะแสดงให้เห็นว่ากลุ่มที่ออกมาเรียกร้องคือกลุ่มบุคลากรทางการ แพทย์



"การนำสัญลักษณ์กาชาดไปใช้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ล่าสุดมีคนโทรศัพท์เข้ามาที่สภากาชาดไทย ระบุว่า ต่อไปจะไม่มาบริจาคเลือดให้อีกแล้ว ซึ่งเราเข้าใจว่าอาจเป็นฝ่ายตรงข้ามที่คิดว่าสภากาชาดไทยมีส่วนไปร่วมเดิน รณรงค์"

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU1ETTFOREkyTWc9PQ==&sectionid=