นโยบายการแก้ปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งมี พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. รับผิดชอบอยู่ ได้มีแนวคิดเสนอให้มีการจัดตั้ง "ศาลจราจร" ขึ้นมาพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับจราจรเป็นการเฉพาะ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างวินัยจราจรในหมู่ผู้ใช้รถใช้ถนน และที่สำคัญจะสามารถบังคับให้ผู้กระทำผิดกฎจราจรไปเสียค่าปรับตามใบสั่ง หากฝ่าฝืนตำรวจจะส่งเรื่องไปยังศาลจราจรเพื่อเรียกตัวมาปรับในอัตราที่หนักกว่าเดิม
"ทุกวันนี้ผู้ขับขี่ไม่กลัวตำรวจ แต่กลัวศาลมากกว่า เมื่อคนไม่กลัวผู้บังคับใช้กฎหมายทุกอย่างก็ไร้วินัย อีกอย่างโทษของ พ.ร.บ.จราจรทางบกน้อย คนไม่กลัว หากมีศาลจราจร เมื่อมีการออกใบสั่ง ก็จะเปิดช่องทางให้ไปชำระค่าปรับได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสแห่งต่างๆ ทั้งไปรษณีย์หรือร้านสะดวกซื้อ ภายในเวลา 7 วัน หากเกินกำหนด ตำรวจจะส่งเรื่องไปศาลจราจรเพื่อเรียกตัวมาปรับให้หนักกว่าเดิม รวมถึงต้องบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคมด้วย" พล.ต.ต.อดุลย์ ให้ข้อมูล
สำหรับกฎจราจรที่มีสถิติการฝ่าฝืนมากที่สุด คือ 1.จอดรถในที่ห้ามจอด 2.จอดรถซ้อนคัน 3.จอดรถบนทางเท้า 4.ขับรถบนทางเท้า 5.แซงรถในที่สาธารณะ 6.ขับรถย้อนศร 7.ขับรถฝ่าฝืนสัญญานไฟแดง 8.เมาแล้วขับ 9.ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย และไม่สวมหมวกกันน็อก 10.ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ 11.แซงรถในที่คับขัน 12.ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ 13.ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
ขณะนี้ข้อเสนอในการจัดตั้ง "ศาลจราจร" ผ่านความเห็นชอบในระดับกองบัญชาการตำรวจนครบาลเรียบร้อยแล้ว เรื่องถูกส่งต่อไปยังกองกฎหมายและคดี สำนักงานกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจากได้รับความเห็นชอบแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะส่งเรื่องไปยังสำนักงานเลขานุการศาลยุติธรรม และหากผ่านความเห็นชอบ ก็น่าจะจัดตั้ง "ศาลจราจร" ได้ไม่เกินเดือนเมษายนปีนี้
คมชัดลึก
"ศาลจราจร" คาดตั้งได้เมษานี้
"ทุกวันนี้ผู้ขับขี่ไม่กลัวตำรวจ แต่กลัวศาลมากกว่า เมื่อคนไม่กลัวผู้บังคับใช้กฎหมายทุกอย่างก็ไร้วินัย อีกอย่างโทษของ พ.ร.บ.จราจรทางบกน้อย คนไม่กลัว หากมีศาลจราจร เมื่อมีการออกใบสั่ง ก็จะเปิดช่องทางให้ไปชำระค่าปรับได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสแห่งต่างๆ ทั้งไปรษณีย์หรือร้านสะดวกซื้อ ภายในเวลา 7 วัน หากเกินกำหนด ตำรวจจะส่งเรื่องไปศาลจราจรเพื่อเรียกตัวมาปรับให้หนักกว่าเดิม รวมถึงต้องบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคมด้วย" พล.ต.ต.อดุลย์ ให้ข้อมูล
สำหรับกฎจราจรที่มีสถิติการฝ่าฝืนมากที่สุด คือ 1.จอดรถในที่ห้ามจอด 2.จอดรถซ้อนคัน 3.จอดรถบนทางเท้า 4.ขับรถบนทางเท้า 5.แซงรถในที่สาธารณะ 6.ขับรถย้อนศร 7.ขับรถฝ่าฝืนสัญญานไฟแดง 8.เมาแล้วขับ 9.ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย และไม่สวมหมวกกันน็อก 10.ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ 11.แซงรถในที่คับขัน 12.ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ 13.ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
ขณะนี้ข้อเสนอในการจัดตั้ง "ศาลจราจร" ผ่านความเห็นชอบในระดับกองบัญชาการตำรวจนครบาลเรียบร้อยแล้ว เรื่องถูกส่งต่อไปยังกองกฎหมายและคดี สำนักงานกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจากได้รับความเห็นชอบแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะส่งเรื่องไปยังสำนักงานเลขานุการศาลยุติธรรม และหากผ่านความเห็นชอบ ก็น่าจะจัดตั้ง "ศาลจราจร" ได้ไม่เกินเดือนเมษายนปีนี้
คมชัดลึก