สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
อ่านที่คุณโพสแล้ว จากประสบการณ์ใช้หลายสายการบินและเคยติดอยู่ที่O’Hare และไม่มีไฟล์ทในอีกสองวันถัดไปมาเหมือนกัน
และเพิ่งเจอยกเลิกเที่ยวบินที่คุนหมิงมาสดๆร้อน ถือว่าขอแชร์ความคิดเห็นก็แล้วกันนะคะ
กรณีจัดหาที่พักและอาหารกรณีเที่ยวบินยกเลิกหรือดีเลย์
ทุกสายการบินเหมือนกันนะคะ ถ้ายกเลิกกระทันหันประมาณว่าไปเช็คอินแล้วดีเลย์ยกเลิก แบบนี้สายการบินต้องรับผิดชอบจัดหาที่พักและอาหารให้ แต่ถ้าสายการบินแจ้งยกเลิกล่วงหน้าแบบนี้ไม่มีสายการบินไหนจัดหาที่พักและอาหารให้ค่ะ
กรณีของลูกคุณมันเป็นการยกเลิกล่วงหน้า และจากวันเวลาที่ระบุ สภาพอากาศเลวร้ายที่เที่ยวบินยกเลิกมามีมาต่อเนื่องก่อนหน้าเที่ยวบินของลูกคุณอีก กรณีนี้สายการบินไหนก็ไม่รับผิดชอบจัดหาที่พักให้ค่ะ
การบริการดูแลเด็กทีไ่ม่มีผู้ปกครองไปด้วย
ก็เห็นมีบริการทุกสายการบินโดยเขาบริการ point to point โดยพนักงานภาคพื้น ส่งต่อให้กับพนักงานบนเครื่องเป็นจุดต่อจุด ไม่ได้มีพนักงานดูแลเด็กไปตลอดทาง ที่สำคัญสายการบินเขาดูแลในเรื่องการเดินทางต่อเครื่องส่วนกรณีมีเที่ยวบินดีเลย์ยกเลิก มันจำเป็นต้องอาศัยการตัดสินใจของตัวผู้โดยสารเองซึ่งกรณีนี้ผู้โดยสารก็ตัดสินใจเองไม่ได้
ดิฉันเข้าไปดูรายละเอียดบริการที่คุณระบุมา
http://www.ana.co.jp/wws/sg/e/asw_common/checkin/rakunori/kids/#anch01
เที่ยวบินที่ NH 7480 ชิคาโก - บอสตัน ออกจากชิคาโกเวลา 10:07 น. ถึงบอสตันเวลา 13:22 น. เที่ยวบินนี้น่าจะเป็น code share flight กับ UA หรือ US airways
ปัญหาคือ sector BKK-NRT-ORD มันไม่ได้มีปัญหาใดๆ และสายการบินเขาก็ดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่าง
แต่ Sector ORD-BOS มันถูกยกเลิกล่วงหน้าแล้ว ในกรณีนี้แม้ว่าผู้โดยสารเป็นผู้ใหญ่ก็จะได้รับการแจ้งข้อมูลให้ทราบตั้งแต่เคาว์เตอร์เชคอินหรือจุดทรานสิทที่นาริตะ เพื่อผู้โดยสารต้องตัดสินใจว่าจะเดินทางต่อหรือไม่
ถ้าเดินทางต่อ ผู้โดยสารได้รับทราบแล้วว่าจะต่อไฟล์ทต่อไปไม่ได้ ต้องจัดการปัญหานี้เอง หรือจะเลื่อนไฟล์ท เปลี่ยนเส้นทาง หรือทำอะไรตามที่ตัดสินใจ โดยเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงตามตั๋วที่ซื้อมา
กรณีนี้ถ้าผู้โดยสารเป็นผู้ใหญ่ก็จะไม่ได้รับการจัดหาที่พักใดๆ่เช่นกัน
คงมีหลายคนถามว่า อ้าวแล้วถ้าเกิดแบบนี้จะให้ทำอย่างไร คำตอบคือ ซื้อประกันการเดินทางค่ะ
แต่สำหรับกรณีเด็กที่ตัดสินใจอะไรเองไม่ได้ แม้ว่าจะซื้อประกันการเดินทาง ซึ่งต้องขอเอกสารจากสายการบินมาเคลมและหาที่พักเอง ก็คงลำบากที่จะทำได้ค่ะ
สายบินจัดการปัญหาเที่ยวบินที่ชิคาโกให้ไม่ได้ค่ะ แม้ว่าจะ code share หรือซื้อรวมในตั๋วเีดียวกันก็ตาม ทำได้มากที่สุดคือหาเที่ยวบินหรือเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินให้เท่าที่จะทำได้
อยากบอกว่าเวลามีไฟล์ทยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงจากสภาพอากาศซึ่งจะไม่ใช่ไฟล์ทเดียวหรือไม่กี่ไฟล์ทนี่ สภาพเคาว์เตอร์สายการบินคือ จะถูกมุงไปด้วยผู้โดยสารที่เดือดร้อนจากการยกเลิกเที่ยวบินเต็มไปหมด
ที่จีนมีทะเลาะกัน เึถียงกัน ด่ากัน แทบจะวางมวยกันด้วยซ้ำไป
มันจึงเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่สายการบินบริการให้คุณได้ทันใจแบบที่คุณคิดไ้ม่ได้
ที่สำคัญการจะได้ย้ายไฟล์ทหรือไม่ไปไฟล์ทไหนได้บ้าง จะเป็นการตัดสินใจจากพนักงานที่ชิคาโก และดูเหมือนว่ายกเลิกหมดและหลายวันด้วย มันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องไปรอต่อไฟล์ทที่สนามบินปลายทางถ้าไม่เปลี่ยนเส้นทาง
เราคิดว่ากรณีนี้มันต้องเป็นการตัดสินใจของผู้โดยสารหรือผู้ปกครองเองไม่ใช่สายการบิน ซึ่งลำบากมากในกรณีลูกคุณ
จากรายละเอียดข้างบน อายุลูกคุณสามารถเดินทางเองได้และมีบริการ on request เท่านั้นไม่ได้ถือว่าจำเป็นต้องมีด้วยซ้ำ และมีเงื่อนไขว่าเด็กต้องดูแลตัวเองได้
หลายๆอย่างที่คุณร้องขอสายการบินทำให้มันเกินขอบเขตของการบริการดูแลเด็กไปแล้วคะ่ และคิดว่าสายการบินไหนก็ทำให้คุณไม่ได้เช่น
ในตอนแรก ข้าพเจ้าตั้งใจหาบัตรโดยสารกลับบอสตันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงเริ่มหาบัตรโดยสารจากอินเตอร์เน็ต และพบเที่ยวบินไปซานฟรานซิสโก จึงมีความคิดที่จะซื้อบัตรโดยสารดังกล่าวก่อน แล้วจึงหาเที่ยวบินต่อไปยังบอสตัน เนื่องจากมีเพื่อนอยู่ที่ซานฟรานซิสโก ข้าพเจ้าพยายามซื้อบัตรโดยสารจากอินเตอร์เน็ตแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงได้บอกให้บุตรชายขอให้เจ้าหน้าที่สายการบิน ANA ช่วยเหลือ แต่ได้รับการปฏิเสธ และบอกให้เราซื้อเองจากอินเตอร์เน็ต ณ ตอนนั้นข้าพเจ้าไม่ทราบว่าสายการบินไม่อนุญาตให้ซื้อบัตรโดยสารทางอินเตอร์เน็ตในวันเดินทาง นอกจากนั้นข้าพเจ้าไม่สามารถซื้อบัตรโดยสารจากตัวแทนสายการบินได้ เนื่องจากทุกที่ปิดทำการในวันอาทิตย์ (5 มกราคม 2557)
ตรงนี้ยิ่งแล้วใหญ่ เจ้าหน้าที่หน้าประตูทางออกขึ้นเครื่องจะทำอะไรให้คุณได้คะ
ในขณะที่ข้าพเจ้าพยายามหาบัตรโดยสาร บุตรชายก็พยายามติดต่อกับเจ้าหน้าของ ANA แต่ไม่ได้รับการใส่ใจแต่อย่างใด เมื่อบุตรชายโทรหาข้าพเจ้าอีกครั้ง ข้าพเจ้าจึงขอคุยกับเจ้าหน้าที่ของ ANA หรือเจ้าหน้าที่ที่เป็นหัวหน้าที่ประจำอยู่ที่ประตูขึ้นเครื่อง เพื่อจะได้ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่โชคไม่ดีที่ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดสนใจให้ความช่วยเหลือเลย เชื่อหรือไม่ว่า ถึงขนาดมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งหัวเราะใส่บุตรชายของเราเมื่อเขาบอกว่าข้าพเจ้าไม่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ เมื่อเที่ยวบินไปชิคาโกใกล้ถึงกำหนดเวลาเดินทางออกจากนาริตะ เจ้าหน้าที่ ANA กระตุ้นให้บุตรชายของเราเดินทางไปกับเที่ยวบินดังกล่าว ทั้งๆที่ทราบดีว่าเขาจะต้องติดอยู่ที่สนามบิน O’ Hare Airport เป็นเวลาถึง 3 วัน ขอย้ำว่าบุตรชายของเราอายุ 14 ปี ไม่มีบัตรเครดิต (อายุยังไม่ถึง 15 ปี ไม่สามารถมีบัตรเครดิตได้) สำหรับจ่ายค่าโรงแรม และตามกฎหมายของสหรัฐแล้ว บุคคลต้องมีอายุอย่างต่ำ 18 ปีก่อน ถึงจะสามารถเช็คอินเข้าพักในโรงแรมได้
กรณีที่เกิดกับลูกคุณนี่ ต่อให้ผู้โดยสารเป็นผู้ใหญ่เดินทาง ก็ต้องแก้ปัญหากันหัวหมุนอยู่แล้ว นี่เป็นเด็กที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ด้วย น่าสงสารเด็กมากเลยคะ่
เรื่องการซื้อตั๋ว ราคาตั๋ว มันต้องซื้อในจุดขายตั๋วอยู่แล้วค่ะไม่ใช่ีว่าจะซื้อตรงไหนก็ได้
จากที่คุณเล่ามาสายการบินผิดตรงที่ เมื่อผู้โดยสารไม่ได้ขึ้นเครื่องไปแล้ว ทำไมไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลเด็กหรือนำเด็กไปส่งต่อให้พนักงานภาคพื้นที่จะต้องดูแลเด็กต่อ ปล่อยใ้ห้เด็กอยู่คนเดียวได้อย่างไร แต่ก็อีกแหละ กฏของสายการบินเขาอายูเท่าลูกคุณสามารถเดินทางคนเดียวได้
จากกรณีนี้มันต้องมาดูตั้งแต่
การตัดสินใจให้เด็กเดินทางคนเดียวว่า เส้นทางเป็นอย่างไร ต่อเครื่องกี่ต่อ เด็กช่วยเหลือตัวเองได้แค่ไหน ถ้าเกิดเที่ยวบินดีเลย์ยกเลิกจะทำอย่างไร เด็กสามารถตัดสินใจหรือแก้ปัญหาได้ไหม ก่อนจะตัดสินใจให้เด็กเดินทางคนเดียว
ศึกษาบริการของสายการบินด้วยว่า มันครอบคลุมแค่ไหน มีเงื่อนไขอะไรบ้าง สิ่งที่คุณคาดหวังให้สายการบินดำเนินการดูแลลูกคุณนั้นไม่ใช่แค่ดูแลระหว่างเดินทาง แต่ต้องขนาดให้พนักงานสายการบินเป็นเสมือนผู้ปกครองของเด็กเลยที่เดียว
ส่วนเรื่องตั๋วกลับราคาแพงนั้น การซื้อตั่วเที่ยวเดียวหรือซื้อในวันเดินทางราคาแพงอยู่แล้ว และตั๋วเครื่องบินแต่ละเส้นทางมันเอามาใช้แทนกันไม่ได้ ที่คุณถามว่ามีตั๋วไปชิคาโก บอสตันยังไม่ได้ใช้ทำไมต้องเสียค่าตั๋วกลับถึงแปดหมื่น ก็เพราะมันคนละตั๋วกันไงคะ ตั๋วเครื่องบินไม่ใช่ธนบัตรจะได้เอามาใช้ซื้อตั๋วใหม่ได้ ถ้าซื้อไม่ได้ใช้ก็รีฟันด์คืนตามเงื่อนไขตั๋ว ต้องแยกแยะออกจากกันค่ะ
ที่มาแสดงความเห็นนี้ไม่ได้เป็นพนักงานสายการบิน ขึ้น ANA ครั้งสุดท้าย 2010 แต่ไม่อยากให้มีการด่าตามน้ำโดยที่คนด่าก็ไม่รู้ว่า้ข้อเืท็จจริงคืออะไร
จะใช้บริการอะไรควรศึกษาเงื่อนไขและขอบเขตของบริการด้วยค่ะ ไม่ใช่ว่าซื้อแล้วจะได้ดั่งใจทุกอย่างค่ะ
และเพิ่งเจอยกเลิกเที่ยวบินที่คุนหมิงมาสดๆร้อน ถือว่าขอแชร์ความคิดเห็นก็แล้วกันนะคะ
กรณีจัดหาที่พักและอาหารกรณีเที่ยวบินยกเลิกหรือดีเลย์
ทุกสายการบินเหมือนกันนะคะ ถ้ายกเลิกกระทันหันประมาณว่าไปเช็คอินแล้วดีเลย์ยกเลิก แบบนี้สายการบินต้องรับผิดชอบจัดหาที่พักและอาหารให้ แต่ถ้าสายการบินแจ้งยกเลิกล่วงหน้าแบบนี้ไม่มีสายการบินไหนจัดหาที่พักและอาหารให้ค่ะ
กรณีของลูกคุณมันเป็นการยกเลิกล่วงหน้า และจากวันเวลาที่ระบุ สภาพอากาศเลวร้ายที่เที่ยวบินยกเลิกมามีมาต่อเนื่องก่อนหน้าเที่ยวบินของลูกคุณอีก กรณีนี้สายการบินไหนก็ไม่รับผิดชอบจัดหาที่พักให้ค่ะ
การบริการดูแลเด็กทีไ่ม่มีผู้ปกครองไปด้วย
ก็เห็นมีบริการทุกสายการบินโดยเขาบริการ point to point โดยพนักงานภาคพื้น ส่งต่อให้กับพนักงานบนเครื่องเป็นจุดต่อจุด ไม่ได้มีพนักงานดูแลเด็กไปตลอดทาง ที่สำคัญสายการบินเขาดูแลในเรื่องการเดินทางต่อเครื่องส่วนกรณีมีเที่ยวบินดีเลย์ยกเลิก มันจำเป็นต้องอาศัยการตัดสินใจของตัวผู้โดยสารเองซึ่งกรณีนี้ผู้โดยสารก็ตัดสินใจเองไม่ได้
ดิฉันเข้าไปดูรายละเอียดบริการที่คุณระบุมา
http://www.ana.co.jp/wws/sg/e/asw_common/checkin/rakunori/kids/#anch01
เที่ยวบินที่ NH 7480 ชิคาโก - บอสตัน ออกจากชิคาโกเวลา 10:07 น. ถึงบอสตันเวลา 13:22 น. เที่ยวบินนี้น่าจะเป็น code share flight กับ UA หรือ US airways
ปัญหาคือ sector BKK-NRT-ORD มันไม่ได้มีปัญหาใดๆ และสายการบินเขาก็ดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่าง
แต่ Sector ORD-BOS มันถูกยกเลิกล่วงหน้าแล้ว ในกรณีนี้แม้ว่าผู้โดยสารเป็นผู้ใหญ่ก็จะได้รับการแจ้งข้อมูลให้ทราบตั้งแต่เคาว์เตอร์เชคอินหรือจุดทรานสิทที่นาริตะ เพื่อผู้โดยสารต้องตัดสินใจว่าจะเดินทางต่อหรือไม่
ถ้าเดินทางต่อ ผู้โดยสารได้รับทราบแล้วว่าจะต่อไฟล์ทต่อไปไม่ได้ ต้องจัดการปัญหานี้เอง หรือจะเลื่อนไฟล์ท เปลี่ยนเส้นทาง หรือทำอะไรตามที่ตัดสินใจ โดยเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงตามตั๋วที่ซื้อมา
กรณีนี้ถ้าผู้โดยสารเป็นผู้ใหญ่ก็จะไม่ได้รับการจัดหาที่พักใดๆ่เช่นกัน
คงมีหลายคนถามว่า อ้าวแล้วถ้าเกิดแบบนี้จะให้ทำอย่างไร คำตอบคือ ซื้อประกันการเดินทางค่ะ
แต่สำหรับกรณีเด็กที่ตัดสินใจอะไรเองไม่ได้ แม้ว่าจะซื้อประกันการเดินทาง ซึ่งต้องขอเอกสารจากสายการบินมาเคลมและหาที่พักเอง ก็คงลำบากที่จะทำได้ค่ะ
สายบินจัดการปัญหาเที่ยวบินที่ชิคาโกให้ไม่ได้ค่ะ แม้ว่าจะ code share หรือซื้อรวมในตั๋วเีดียวกันก็ตาม ทำได้มากที่สุดคือหาเที่ยวบินหรือเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินให้เท่าที่จะทำได้
อยากบอกว่าเวลามีไฟล์ทยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงจากสภาพอากาศซึ่งจะไม่ใช่ไฟล์ทเดียวหรือไม่กี่ไฟล์ทนี่ สภาพเคาว์เตอร์สายการบินคือ จะถูกมุงไปด้วยผู้โดยสารที่เดือดร้อนจากการยกเลิกเที่ยวบินเต็มไปหมด
ที่จีนมีทะเลาะกัน เึถียงกัน ด่ากัน แทบจะวางมวยกันด้วยซ้ำไป
มันจึงเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่สายการบินบริการให้คุณได้ทันใจแบบที่คุณคิดไ้ม่ได้
ที่สำคัญการจะได้ย้ายไฟล์ทหรือไม่ไปไฟล์ทไหนได้บ้าง จะเป็นการตัดสินใจจากพนักงานที่ชิคาโก และดูเหมือนว่ายกเลิกหมดและหลายวันด้วย มันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องไปรอต่อไฟล์ทที่สนามบินปลายทางถ้าไม่เปลี่ยนเส้นทาง
เราคิดว่ากรณีนี้มันต้องเป็นการตัดสินใจของผู้โดยสารหรือผู้ปกครองเองไม่ใช่สายการบิน ซึ่งลำบากมากในกรณีลูกคุณ
จากรายละเอียดข้างบน อายุลูกคุณสามารถเดินทางเองได้และมีบริการ on request เท่านั้นไม่ได้ถือว่าจำเป็นต้องมีด้วยซ้ำ และมีเงื่อนไขว่าเด็กต้องดูแลตัวเองได้
หลายๆอย่างที่คุณร้องขอสายการบินทำให้มันเกินขอบเขตของการบริการดูแลเด็กไปแล้วคะ่ และคิดว่าสายการบินไหนก็ทำให้คุณไม่ได้เช่น
ในตอนแรก ข้าพเจ้าตั้งใจหาบัตรโดยสารกลับบอสตันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงเริ่มหาบัตรโดยสารจากอินเตอร์เน็ต และพบเที่ยวบินไปซานฟรานซิสโก จึงมีความคิดที่จะซื้อบัตรโดยสารดังกล่าวก่อน แล้วจึงหาเที่ยวบินต่อไปยังบอสตัน เนื่องจากมีเพื่อนอยู่ที่ซานฟรานซิสโก ข้าพเจ้าพยายามซื้อบัตรโดยสารจากอินเตอร์เน็ตแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงได้บอกให้บุตรชายขอให้เจ้าหน้าที่สายการบิน ANA ช่วยเหลือ แต่ได้รับการปฏิเสธ และบอกให้เราซื้อเองจากอินเตอร์เน็ต ณ ตอนนั้นข้าพเจ้าไม่ทราบว่าสายการบินไม่อนุญาตให้ซื้อบัตรโดยสารทางอินเตอร์เน็ตในวันเดินทาง นอกจากนั้นข้าพเจ้าไม่สามารถซื้อบัตรโดยสารจากตัวแทนสายการบินได้ เนื่องจากทุกที่ปิดทำการในวันอาทิตย์ (5 มกราคม 2557)
ตรงนี้ยิ่งแล้วใหญ่ เจ้าหน้าที่หน้าประตูทางออกขึ้นเครื่องจะทำอะไรให้คุณได้คะ
ในขณะที่ข้าพเจ้าพยายามหาบัตรโดยสาร บุตรชายก็พยายามติดต่อกับเจ้าหน้าของ ANA แต่ไม่ได้รับการใส่ใจแต่อย่างใด เมื่อบุตรชายโทรหาข้าพเจ้าอีกครั้ง ข้าพเจ้าจึงขอคุยกับเจ้าหน้าที่ของ ANA หรือเจ้าหน้าที่ที่เป็นหัวหน้าที่ประจำอยู่ที่ประตูขึ้นเครื่อง เพื่อจะได้ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่โชคไม่ดีที่ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดสนใจให้ความช่วยเหลือเลย เชื่อหรือไม่ว่า ถึงขนาดมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งหัวเราะใส่บุตรชายของเราเมื่อเขาบอกว่าข้าพเจ้าไม่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ เมื่อเที่ยวบินไปชิคาโกใกล้ถึงกำหนดเวลาเดินทางออกจากนาริตะ เจ้าหน้าที่ ANA กระตุ้นให้บุตรชายของเราเดินทางไปกับเที่ยวบินดังกล่าว ทั้งๆที่ทราบดีว่าเขาจะต้องติดอยู่ที่สนามบิน O’ Hare Airport เป็นเวลาถึง 3 วัน ขอย้ำว่าบุตรชายของเราอายุ 14 ปี ไม่มีบัตรเครดิต (อายุยังไม่ถึง 15 ปี ไม่สามารถมีบัตรเครดิตได้) สำหรับจ่ายค่าโรงแรม และตามกฎหมายของสหรัฐแล้ว บุคคลต้องมีอายุอย่างต่ำ 18 ปีก่อน ถึงจะสามารถเช็คอินเข้าพักในโรงแรมได้
กรณีที่เกิดกับลูกคุณนี่ ต่อให้ผู้โดยสารเป็นผู้ใหญ่เดินทาง ก็ต้องแก้ปัญหากันหัวหมุนอยู่แล้ว นี่เป็นเด็กที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ด้วย น่าสงสารเด็กมากเลยคะ่
เรื่องการซื้อตั๋ว ราคาตั๋ว มันต้องซื้อในจุดขายตั๋วอยู่แล้วค่ะไม่ใช่ีว่าจะซื้อตรงไหนก็ได้
จากที่คุณเล่ามาสายการบินผิดตรงที่ เมื่อผู้โดยสารไม่ได้ขึ้นเครื่องไปแล้ว ทำไมไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลเด็กหรือนำเด็กไปส่งต่อให้พนักงานภาคพื้นที่จะต้องดูแลเด็กต่อ ปล่อยใ้ห้เด็กอยู่คนเดียวได้อย่างไร แต่ก็อีกแหละ กฏของสายการบินเขาอายูเท่าลูกคุณสามารถเดินทางคนเดียวได้
จากกรณีนี้มันต้องมาดูตั้งแต่
การตัดสินใจให้เด็กเดินทางคนเดียวว่า เส้นทางเป็นอย่างไร ต่อเครื่องกี่ต่อ เด็กช่วยเหลือตัวเองได้แค่ไหน ถ้าเกิดเที่ยวบินดีเลย์ยกเลิกจะทำอย่างไร เด็กสามารถตัดสินใจหรือแก้ปัญหาได้ไหม ก่อนจะตัดสินใจให้เด็กเดินทางคนเดียว
ศึกษาบริการของสายการบินด้วยว่า มันครอบคลุมแค่ไหน มีเงื่อนไขอะไรบ้าง สิ่งที่คุณคาดหวังให้สายการบินดำเนินการดูแลลูกคุณนั้นไม่ใช่แค่ดูแลระหว่างเดินทาง แต่ต้องขนาดให้พนักงานสายการบินเป็นเสมือนผู้ปกครองของเด็กเลยที่เดียว
ส่วนเรื่องตั๋วกลับราคาแพงนั้น การซื้อตั่วเที่ยวเดียวหรือซื้อในวันเดินทางราคาแพงอยู่แล้ว และตั๋วเครื่องบินแต่ละเส้นทางมันเอามาใช้แทนกันไม่ได้ ที่คุณถามว่ามีตั๋วไปชิคาโก บอสตันยังไม่ได้ใช้ทำไมต้องเสียค่าตั๋วกลับถึงแปดหมื่น ก็เพราะมันคนละตั๋วกันไงคะ ตั๋วเครื่องบินไม่ใช่ธนบัตรจะได้เอามาใช้ซื้อตั๋วใหม่ได้ ถ้าซื้อไม่ได้ใช้ก็รีฟันด์คืนตามเงื่อนไขตั๋ว ต้องแยกแยะออกจากกันค่ะ
ที่มาแสดงความเห็นนี้ไม่ได้เป็นพนักงานสายการบิน ขึ้น ANA ครั้งสุดท้าย 2010 แต่ไม่อยากให้มีการด่าตามน้ำโดยที่คนด่าก็ไม่รู้ว่า้ข้อเืท็จจริงคืออะไร
จะใช้บริการอะไรควรศึกษาเงื่อนไขและขอบเขตของบริการด้วยค่ะ ไม่ใช่ว่าซื้อแล้วจะได้ดั่งใจทุกอย่างค่ะ
ความคิดเห็นที่ 19
ผมเบื่อเหลือเกินครับกับการยกเงื่อนไขการบริการมาเป็นตั้งๆ ใช่ครับเราว่ากันด้วยเงื่อนไข และยึดถือเงื่อนไขกันเป็นหลัก
แต่ในเมื่อมันมีเหตุที่ไม่คาดคิด แล้วเด็กอยู่ในภาวะอยู่เพียงลำพัง โดยที่วุฒิภาวะน้อยไปจนมิอาจจะตัดสินใจใดๆ ได้นั้น
ต่อให้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่สายการบิน เป็นคนทั่วๆ ไป ก็ควรเข้ามาให้ความช่วยเหลือ มาดูแลเป็นกรณีพิเศษแล้วครับ ไม่ใช่ปล่อยเด็กไว้ตามลำพังแบบนั้น
ยิ่งเป็นพนักงานบริการ ยิ่งเป็นบริการที่ต้องดูแลเด็กด้วยแล้ว จิตสำนึกของการบริการ ก็ต้องทราบดีว่าควรดูแลเด็กเป็น priority แรกสุดที่จะให้การช่วยเหลือแล้วล่ะครับ เพราะเขาคือ "เด็ก" นะครับ อย่างน้อยการช่วยเหลือของสายการบิน มันก็ต้องอยู่ในจุดที่พิเศษกว่าปกติอยู่แล้ว แม้ว่าสายการบินจะอ้างได้ว่าเป็นเพราะสภาพอากาศจึงงดไฟลท์บินก็ตาม แต่ใช่ว่าทุกอย่างต้องว่าไปตามนั้น กรณีช่วยเหลือผู้โดยสารเป็นกรณีพิเศษนั้นสายการบินสามารถทำได้ถ้ามีจิตการบริการมากพอ โดยเฉพาะกับเด็ก
เด็ก ไม่ใช่ผู้ใหญ่ และอย่าเอามาตรฐานการดูแลของผู้ใหญ่ มาใช้กับเด็ก
ไม่รู้จะพูดอะไรไปมากกว่านี้ เพราะคำว่า การดูแลเด็ก มันคงอยู่ในจิตสำนึกของทุกคนอยู่แล้ว ว่าต้องทำอย่างไร
แต่ถ้าอธิบายแล้วจิตใจของผู้รับฟังนั้นหยาบกระด้างไป ก็อาจจะไม่เข้าใจ
แต่ในเมื่อมันมีเหตุที่ไม่คาดคิด แล้วเด็กอยู่ในภาวะอยู่เพียงลำพัง โดยที่วุฒิภาวะน้อยไปจนมิอาจจะตัดสินใจใดๆ ได้นั้น
ต่อให้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่สายการบิน เป็นคนทั่วๆ ไป ก็ควรเข้ามาให้ความช่วยเหลือ มาดูแลเป็นกรณีพิเศษแล้วครับ ไม่ใช่ปล่อยเด็กไว้ตามลำพังแบบนั้น
ยิ่งเป็นพนักงานบริการ ยิ่งเป็นบริการที่ต้องดูแลเด็กด้วยแล้ว จิตสำนึกของการบริการ ก็ต้องทราบดีว่าควรดูแลเด็กเป็น priority แรกสุดที่จะให้การช่วยเหลือแล้วล่ะครับ เพราะเขาคือ "เด็ก" นะครับ อย่างน้อยการช่วยเหลือของสายการบิน มันก็ต้องอยู่ในจุดที่พิเศษกว่าปกติอยู่แล้ว แม้ว่าสายการบินจะอ้างได้ว่าเป็นเพราะสภาพอากาศจึงงดไฟลท์บินก็ตาม แต่ใช่ว่าทุกอย่างต้องว่าไปตามนั้น กรณีช่วยเหลือผู้โดยสารเป็นกรณีพิเศษนั้นสายการบินสามารถทำได้ถ้ามีจิตการบริการมากพอ โดยเฉพาะกับเด็ก
เด็ก ไม่ใช่ผู้ใหญ่ และอย่าเอามาตรฐานการดูแลของผู้ใหญ่ มาใช้กับเด็ก
ไม่รู้จะพูดอะไรไปมากกว่านี้ เพราะคำว่า การดูแลเด็ก มันคงอยู่ในจิตสำนึกของทุกคนอยู่แล้ว ว่าต้องทำอย่างไร
แต่ถ้าอธิบายแล้วจิตใจของผู้รับฟังนั้นหยาบกระด้างไป ก็อาจจะไม่เข้าใจ
ความคิดเห็นที่ 22
ฉันก็เบื่อเหลือเกินพวกไม่สนกฏ กติกา แต่สนความต้องการของตัวเอง แทนที่จะรักษาสิทธิ์ด้วยการรู้กฏ กติกา กลับไม่ดูแลรักษาสิทธิและหน้าที่ตัวเอง กลับไม่สนใจ พอปัญหาเกิดกลับเรียกร้องให้สังคมแก้ปัญหาที่ตัวเองก่อ
เอะอะก็จิตสำนึกของการบริการ แต่ไม่เคยเห็นคำนึงถึงจิตสำนึกของผู้รับบริการ จิตสำนึกขั้นพื้นฐานที่จะดูแลตัวเอง
เด็ก ไม่ใช่ผู้ใหญ่ และอย่าเอามาตรฐานการดูแลของผู้ใหญ่ มาใช้กับเด็ก
มันไม่มีมาตรฐานเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่มีมาตรฐานของผู้โดยสาร กลับไปอ่านเงื่อนไขก่อนซื้อตั๋วก่อนดีไหมก่อนจะมาอ้าง
หรือว่าทั้งชีวิตไม่เคยคิดอะไรไกลกว่าปลายหัวแม่เท้าตัวเองเลย รู้แค่นั้นแหละ ทีเ่หลือสังคมต้องรับผิดชอบ
เอะอะก็จิตสำนึกของการบริการ แต่ไม่เคยเห็นคำนึงถึงจิตสำนึกของผู้รับบริการ จิตสำนึกขั้นพื้นฐานที่จะดูแลตัวเอง
เด็ก ไม่ใช่ผู้ใหญ่ และอย่าเอามาตรฐานการดูแลของผู้ใหญ่ มาใช้กับเด็ก
มันไม่มีมาตรฐานเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่มีมาตรฐานของผู้โดยสาร กลับไปอ่านเงื่อนไขก่อนซื้อตั๋วก่อนดีไหมก่อนจะมาอ้าง
หรือว่าทั้งชีวิตไม่เคยคิดอะไรไกลกว่าปลายหัวแม่เท้าตัวเองเลย รู้แค่นั้นแหละ ทีเ่หลือสังคมต้องรับผิดชอบ
ความคิดเห็นที่ 4
เราอยากสรุปเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับลูกเราว่า
มันไม่ใช่ความโชคร้าย : เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม หรือ ความคาดหมาย
มันไม่ใช่ความผิดพลาด (Human Mistake) : เพราะมันไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกินกว่าการไตร่ตรองและระมัดระวัง
แต่เราเชื่อว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น : เพราะ
1. มันเป็นความด้อยมาตรฐานในวิชาชีพการให้บริการทางการบิน ที่ ANA ได้แสดงออกให้เห็นแล้วว่า ไม่ได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยกับผู้โดยสาร แม้แต่ผู้โดยสารที่เป็นผู้เยาว์ ที่ทุกสายการบินต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก
2. มันเป็นความด้อยมาตรฐานในการคัดสรรบุคลากร ให้ได้มาตรฐานในการปฏิบัติงาน ที่ ANA ได้แสดงออกให้เห็นแล้วว่า ไม่สามารถสื่อสารกับผู้โดยสารต่างชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษากลางได้
3. มันเป็นความด้อยมาตรฐานในการอบรมบุคลากร ให้มีจิตสำนึก และจรรยาบรรณ ในวิชาชีพบริการ ที่ ANA ได้แสดงออกให้เห็นแล้วว่า เลือกปฏิบัติกับผู้โดยสารที่ต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา จะให้คำปรึกษาและพูดคุยเฉพาะกับผู้ที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น และได้แสดงมารยาทอันไม่สมควรต่อผู้โดยสารที่เป็นผู้มีอุปการคุณ ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เป็นการกระทำต่อผู้เยาว์ที่เดินทางโดยลำพัง และ ANA ได้แสดงออกให้เห็นแล้วว่า ANA ขาดวุฒิภาวะ โกหก หลอกลวง ซึ่งหน้า ไม่มีความซื่อสัตย์ และ ไร้ความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะบริการ “ Kids Rakunori” เจ้าหน้าที่ ANA ละเลยหน้าที่ทิ้งผู้เยาว์อย่างไร้จิตสำนึก ทำให้สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้
และยังโกหก หลอกลวง ซึ่งหน้าว่าไปรอที่นัดหมายแล้ว หลายกรรมหลายวาระ และเมื่อถูกจับได้ยังไร้ซึ่งความสำนึกผิด
จึงอยากถามทิ้งท้ายว่า ถ้าเด็กคนนั้นเป็นเด็กญี่ปุ่นเดินทางมาสนามบินสุวรรณภูมิ เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ครับ เจ้าหน้าที่ ANA ทุกท่าน
มันไม่ใช่ความโชคร้าย : เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม หรือ ความคาดหมาย
มันไม่ใช่ความผิดพลาด (Human Mistake) : เพราะมันไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกินกว่าการไตร่ตรองและระมัดระวัง
แต่เราเชื่อว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น : เพราะ
1. มันเป็นความด้อยมาตรฐานในวิชาชีพการให้บริการทางการบิน ที่ ANA ได้แสดงออกให้เห็นแล้วว่า ไม่ได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยกับผู้โดยสาร แม้แต่ผู้โดยสารที่เป็นผู้เยาว์ ที่ทุกสายการบินต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก
2. มันเป็นความด้อยมาตรฐานในการคัดสรรบุคลากร ให้ได้มาตรฐานในการปฏิบัติงาน ที่ ANA ได้แสดงออกให้เห็นแล้วว่า ไม่สามารถสื่อสารกับผู้โดยสารต่างชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษากลางได้
3. มันเป็นความด้อยมาตรฐานในการอบรมบุคลากร ให้มีจิตสำนึก และจรรยาบรรณ ในวิชาชีพบริการ ที่ ANA ได้แสดงออกให้เห็นแล้วว่า เลือกปฏิบัติกับผู้โดยสารที่ต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา จะให้คำปรึกษาและพูดคุยเฉพาะกับผู้ที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น และได้แสดงมารยาทอันไม่สมควรต่อผู้โดยสารที่เป็นผู้มีอุปการคุณ ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เป็นการกระทำต่อผู้เยาว์ที่เดินทางโดยลำพัง และ ANA ได้แสดงออกให้เห็นแล้วว่า ANA ขาดวุฒิภาวะ โกหก หลอกลวง ซึ่งหน้า ไม่มีความซื่อสัตย์ และ ไร้ความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะบริการ “ Kids Rakunori” เจ้าหน้าที่ ANA ละเลยหน้าที่ทิ้งผู้เยาว์อย่างไร้จิตสำนึก ทำให้สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้
และยังโกหก หลอกลวง ซึ่งหน้าว่าไปรอที่นัดหมายแล้ว หลายกรรมหลายวาระ และเมื่อถูกจับได้ยังไร้ซึ่งความสำนึกผิด
จึงอยากถามทิ้งท้ายว่า ถ้าเด็กคนนั้นเป็นเด็กญี่ปุ่นเดินทางมาสนามบินสุวรรณภูมิ เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ครับ เจ้าหน้าที่ ANA ทุกท่าน
ความคิดเห็นที่ 116
คาใจกับกรณีนี้มากเลยไปหาข้อมูลมาเพิ่มค่ะ
เพราะเราคิดว่าที่อเมริกามีการยกเลิกเที่ยวบินบ่อยมาก
เลยอยากรู้ว่ามันเคยมีกรณีแบบนี้มั้ย(เด็กต่ำกว่า 18 ต้องค้างคืน)
สรุปที่ไปหาข้อมูลมา
1 . ลูกคุณเจ้าของกระทู้ไม่เข้าข่ายผู้ใช้บริการ Kids Rakunori ค่ะ
เพราะเค้าเขียนไว้ชัดเจนตรง banner รูปเด็กว่าสำหรับอายุ 5-11 ปีเท่านั้น
http://www.ana.co.jp/wws/us/e/asw_common/checkin/rakunori/kids/#anch01
2. จาก banner ในลิงค์ข้างต้น เค้ามีดอกจันเอาไว้ด้วย
ว่าถ้าต้องการให้ดูแลผู้เยาว์อายุ 12 - 16 เค้าจะมี ANA Airport Support แทน
ซึ่งบริการก็จะแตกต่างจาก Kids Rakunori อันนี้คือแค่พาไปเกทเฉยๆ
เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินจึงไม่ได้ติดต่อผู้ปกครองโดยตรง
3. สรุปว่าลูกคุณใช้ ANA Airport Support งั้นเราไปดูเงื่อนไขกันค่ะ
http://www.ana.co.jp/wws/us/e/asw_common/checkin/airport_support/
ตรง Eligible Customers มีตัวแดงเขียนไว้เห็นได้ชัดมาก
ว่าเป็นบริการของไฟลท์ที่ operated by ANA เท่านั้น
ถ้าเป็น codeshare flight ต้องไป check กับสายการบินนั้นๆเอาเอง
4. จากข้อสาม ไฟลท์ที่มีปัญหาคือไฟลท์ที่ operated โดย United Airline
ในส่วนของ ANA เค้ามีหน้าที่รับผิดชอบตามคำร้องขอของคุณแค่พาเด็กไปที่เกทที่นาริตะเท่านั้น
สมมติว่าไฟลท์ไม่ยกเลิก ลูกคุณน่าจะโดนปล่อยเคว้งให้ขึ้นเครื่องเองที่ชิคาโก้อยู่ดี
ถ้าคุณไม่ได้ไปติดต่อขอใช้บริการ Unaccompanied Minor กับ UA ไว้ก่อน
อย่างมากที่ ANA จะทำให้ที่ชิคาโก้(ซึ่งอาจจะไม่ทำก็ได้) คือพาเดินจากเครื่องไป immigration
5. บริการ unaccompanied minor ในอเมริกาต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ไปหาอ่านมาว่าเคยมีกรณีที่ผู้เยาว์ต้องค้างคืนเพราะไฟลท์ดีเลย์แบบนี้มั้ย
ไปเจอมาว่ามีบางสายการบินเคยเจอกรณีแบบนี้ แต่แค่ค้างคืนเดียว
ที่เค้าทำคือให้เลือกว่าจะไปอยู่โรงแรมมั้ย จะมีพนักงานไปนอนด้วย
แต่ถ้าไม่ไป หรือสายการบินไม่มีคนไปอยู่ด้วย ก็จะให้เด็กนอนที่สนามบิน
ซึ่งก็แล้วแต่สายการบิน บางเจ้าก็จะให้นอนใน lounge ของสายการบิน
ซึ่งก็คงมีพนักงานประจำอยู่เป็นเวรอยู่แล้ว
6. กรณีไฟลท์ยกเลิกที่ชิคาโก้ มีผู้โดยสารตกค้างน่าจะหลายพันหรืออาจถึงหมื่น
จำข่าวได้ว่ามีคนนอนค้างที่สนามบินกันเยอะมาก ในนี้ก็น่าจะมีผู้เยาว์อยู่ด้วยแน่ๆ
แต่ยังหาไม่เจอว่าเค้าแก้ปัญหายังไง ให้เดาก็คงให้นอนที่สนามบินกันหมด
7. กรณีที่เกิดขึ้นที่นาริตะ คิดว่าส่วนนึงเพราะไปติดต่อผิดที่และเข้าใจผิดเรื่องบริการ
พนักงานที่เกทไม่น่าจะมีอำนาจตัดสินใจเรื่องซื้อขายตั๋วเที่ยวบินอื่นได้เลยปฏิเสธ
และจากที่เคยเจอ ความสามารถทางภาษาอังกฤษจะน้อยกว่าตรงเคาน์เตอร์จุดอื่น
คงเพราะหน้าที่หลักคือการเช็คความเรียบร้อยก่อนขึ้นเครื่อง ไม่ต้องใช้ทักษะภาษามากนัก
เมื่อไม่มีอำนาจตัดสินใจ ทักษะทางภาษาจำกัด และมีงานตรงหน้ากับผู้โดยสารอื่นอีกหลายร้อย
เลยไม่สามารถช่วยอะไรลูกชายเจ้าของกระทู้มากไปกว่านั้น และจำเป็นต้องตัดบทการสนทนา
เพราะกำลังจะต้องบริการผู้โดยสารอีกหลายร้อยให้เครื่องสามารถออกได้ตรงตามกำหนดเวลา
เท่าที่เจอมา เจ้าหน้าที่ตรง transit center ทั้งของนาริตะและของ ANA เองจะพูดภาษาอังกฤษได้ดีทีเดียว
ถ้าไปติดต่อเรื่องเปลี่ยนเที่ยวบินหรืออะไรกับตรงนั้นแต่แรก น่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ดีกว่านี้
หรือถ้าไปติดต่อกับ UA โดยตรง อาจได้คำตอบเรื่องที่ชิคาโก้ได้ชัดเจนกว่า
8. กรณีนี้เราไม่ได้จะตำหนิอะไรเจ้าของกระทู้นะคะ
แต่เราว่าเป็นบทเรียนที่น่าสนใจสำหรับผู้ปกครองที่จะให้ลูกเดินทางลำพัง
ว่ามีข้อจำกัดอะไรบ้าง และยิ่งถ้าเป็นเที่ยวบิน codeshare ด้วยแล้วต้องเตรียมยังไง
เราว่าลองส่งเรื่องไปที่ ANA ดูก็ดีค่ะ เค้าอาจจะไม่ชดใช้อะไรให้เรา
แต่อย่างน้อยเค้าก็จะได้รู้ถึงปัญหาว่าเค้าจะเอาไปปรับปรุงตรงไหนได้บ้าง
เช่นถ้าเกททำอะไรไม่ได้ ก็ต้องบอกให้ไปติดต่อตรงเคาน์เตอร์อื่นที่ทำได้
แทนที่จะพยายามแก้ปัญหาทั้งๆที่ทักษะภาษาอังกฤษจำกัด และทางเลือกจำกัด
หรือเจ้าหน้าที่ทางไทยก็ควรจะอธิบายเรื่องความแตกต่างของ Kids Rakunori ตั้งแต่แรก
ว่าแตกต่างกับ ANA Airport Support ยังไง และมันไม่ได้ครอบคลุมไปถึงขาสุดท้ายนะ
เพราะเราคิดว่าที่อเมริกามีการยกเลิกเที่ยวบินบ่อยมาก
เลยอยากรู้ว่ามันเคยมีกรณีแบบนี้มั้ย(เด็กต่ำกว่า 18 ต้องค้างคืน)
สรุปที่ไปหาข้อมูลมา
1 . ลูกคุณเจ้าของกระทู้ไม่เข้าข่ายผู้ใช้บริการ Kids Rakunori ค่ะ
เพราะเค้าเขียนไว้ชัดเจนตรง banner รูปเด็กว่าสำหรับอายุ 5-11 ปีเท่านั้น
http://www.ana.co.jp/wws/us/e/asw_common/checkin/rakunori/kids/#anch01
2. จาก banner ในลิงค์ข้างต้น เค้ามีดอกจันเอาไว้ด้วย
ว่าถ้าต้องการให้ดูแลผู้เยาว์อายุ 12 - 16 เค้าจะมี ANA Airport Support แทน
ซึ่งบริการก็จะแตกต่างจาก Kids Rakunori อันนี้คือแค่พาไปเกทเฉยๆ
เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินจึงไม่ได้ติดต่อผู้ปกครองโดยตรง
3. สรุปว่าลูกคุณใช้ ANA Airport Support งั้นเราไปดูเงื่อนไขกันค่ะ
http://www.ana.co.jp/wws/us/e/asw_common/checkin/airport_support/
ตรง Eligible Customers มีตัวแดงเขียนไว้เห็นได้ชัดมาก
ว่าเป็นบริการของไฟลท์ที่ operated by ANA เท่านั้น
ถ้าเป็น codeshare flight ต้องไป check กับสายการบินนั้นๆเอาเอง
4. จากข้อสาม ไฟลท์ที่มีปัญหาคือไฟลท์ที่ operated โดย United Airline
ในส่วนของ ANA เค้ามีหน้าที่รับผิดชอบตามคำร้องขอของคุณแค่พาเด็กไปที่เกทที่นาริตะเท่านั้น
สมมติว่าไฟลท์ไม่ยกเลิก ลูกคุณน่าจะโดนปล่อยเคว้งให้ขึ้นเครื่องเองที่ชิคาโก้อยู่ดี
ถ้าคุณไม่ได้ไปติดต่อขอใช้บริการ Unaccompanied Minor กับ UA ไว้ก่อน
อย่างมากที่ ANA จะทำให้ที่ชิคาโก้(ซึ่งอาจจะไม่ทำก็ได้) คือพาเดินจากเครื่องไป immigration
5. บริการ unaccompanied minor ในอเมริกาต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ไปหาอ่านมาว่าเคยมีกรณีที่ผู้เยาว์ต้องค้างคืนเพราะไฟลท์ดีเลย์แบบนี้มั้ย
ไปเจอมาว่ามีบางสายการบินเคยเจอกรณีแบบนี้ แต่แค่ค้างคืนเดียว
ที่เค้าทำคือให้เลือกว่าจะไปอยู่โรงแรมมั้ย จะมีพนักงานไปนอนด้วย
แต่ถ้าไม่ไป หรือสายการบินไม่มีคนไปอยู่ด้วย ก็จะให้เด็กนอนที่สนามบิน
ซึ่งก็แล้วแต่สายการบิน บางเจ้าก็จะให้นอนใน lounge ของสายการบิน
ซึ่งก็คงมีพนักงานประจำอยู่เป็นเวรอยู่แล้ว
6. กรณีไฟลท์ยกเลิกที่ชิคาโก้ มีผู้โดยสารตกค้างน่าจะหลายพันหรืออาจถึงหมื่น
จำข่าวได้ว่ามีคนนอนค้างที่สนามบินกันเยอะมาก ในนี้ก็น่าจะมีผู้เยาว์อยู่ด้วยแน่ๆ
แต่ยังหาไม่เจอว่าเค้าแก้ปัญหายังไง ให้เดาก็คงให้นอนที่สนามบินกันหมด
7. กรณีที่เกิดขึ้นที่นาริตะ คิดว่าส่วนนึงเพราะไปติดต่อผิดที่และเข้าใจผิดเรื่องบริการ
พนักงานที่เกทไม่น่าจะมีอำนาจตัดสินใจเรื่องซื้อขายตั๋วเที่ยวบินอื่นได้เลยปฏิเสธ
และจากที่เคยเจอ ความสามารถทางภาษาอังกฤษจะน้อยกว่าตรงเคาน์เตอร์จุดอื่น
คงเพราะหน้าที่หลักคือการเช็คความเรียบร้อยก่อนขึ้นเครื่อง ไม่ต้องใช้ทักษะภาษามากนัก
เมื่อไม่มีอำนาจตัดสินใจ ทักษะทางภาษาจำกัด และมีงานตรงหน้ากับผู้โดยสารอื่นอีกหลายร้อย
เลยไม่สามารถช่วยอะไรลูกชายเจ้าของกระทู้มากไปกว่านั้น และจำเป็นต้องตัดบทการสนทนา
เพราะกำลังจะต้องบริการผู้โดยสารอีกหลายร้อยให้เครื่องสามารถออกได้ตรงตามกำหนดเวลา
เท่าที่เจอมา เจ้าหน้าที่ตรง transit center ทั้งของนาริตะและของ ANA เองจะพูดภาษาอังกฤษได้ดีทีเดียว
ถ้าไปติดต่อเรื่องเปลี่ยนเที่ยวบินหรืออะไรกับตรงนั้นแต่แรก น่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ดีกว่านี้
หรือถ้าไปติดต่อกับ UA โดยตรง อาจได้คำตอบเรื่องที่ชิคาโก้ได้ชัดเจนกว่า
8. กรณีนี้เราไม่ได้จะตำหนิอะไรเจ้าของกระทู้นะคะ
แต่เราว่าเป็นบทเรียนที่น่าสนใจสำหรับผู้ปกครองที่จะให้ลูกเดินทางลำพัง
ว่ามีข้อจำกัดอะไรบ้าง และยิ่งถ้าเป็นเที่ยวบิน codeshare ด้วยแล้วต้องเตรียมยังไง
เราว่าลองส่งเรื่องไปที่ ANA ดูก็ดีค่ะ เค้าอาจจะไม่ชดใช้อะไรให้เรา
แต่อย่างน้อยเค้าก็จะได้รู้ถึงปัญหาว่าเค้าจะเอาไปปรับปรุงตรงไหนได้บ้าง
เช่นถ้าเกททำอะไรไม่ได้ ก็ต้องบอกให้ไปติดต่อตรงเคาน์เตอร์อื่นที่ทำได้
แทนที่จะพยายามแก้ปัญหาทั้งๆที่ทักษะภาษาอังกฤษจำกัด และทางเลือกจำกัด
หรือเจ้าหน้าที่ทางไทยก็ควรจะอธิบายเรื่องความแตกต่างของ Kids Rakunori ตั้งแต่แรก
ว่าแตกต่างกับ ANA Airport Support ยังไง และมันไม่ได้ครอบคลุมไปถึงขาสุดท้ายนะ
แสดงความคิดเห็น
สายการบิน ANA ทิ้งเด็ก 14 ปี ที่สนามบิน นาริตะ(ญี่ปุ่น) ช่วยกันโหวตด้วยครับ
สายการบิน ANA ทิ้งเด็ก 14 ปี ที่สนามบิน นาริตะ(ญี่ปุ่น)
บุตรชายของเราเป็นนักเรียนอายุ 14 ปี กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนใกล้เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากไปเรียนได้เพียง 4 เดือน ได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ ในช่วงวันหยุดคริสมาสต์ และวางแผนเดินทางกลับสหรัฐอเมริกาในวันที่ 5 มกราคม 2557 ซึ่งเป็นการเดินทางโดยลำพังเป็นครั้งแรก เราจึงเลือกสายการบินอย่างรอบคอบ และได้ตัดสินใจเลือกสายการบิน All Nippon Airways (ANA) ด้วยเชื่อมั่นว่าสายการบินจะให้บริการและดูแลบุตรชายของเราอย่างดีที่สุด
เที่ยวบินกลับสหรัฐอเมริกาวันที่ 5 มกราคม 2557 มีรายละเอียดดังนี้
1. เที่ยวบินที่ NH 916 กรุงเทพฯ - นาริตะ (ประเทศญี่ปุ่น) ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 00:25 น. ถึงนาริตะเวลา 08:05 น.
2. เที่ยวบินที่ NH 012 นาริตะ – ชิคาโก ออกจากนาริตะเวลา 11:00 น. ถึงชิคาโก เวลา 07:35 น
3. เที่ยวบินที่ NH 7480 ชิคาโก - บอสตัน ออกจากชิคาโกเวลา 10:07 น. ถึงบอสตันเวลา 13:22 น.
แนวปฏิบัติโดยทั่วไปของสายการบิน ผู้เยาว์ที่เดินทางโดยลำพังจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และถ้าการเดินทางเกิดปัญหาเจ้าหน้าที่ของสายการบินจะติดต่อผู้ปกครองของเด็กโดยทันที และเนื่องจากบุตรชายของเรายังเป็นผู้เยาว์ เราจึงขอให้ฝ่าย ANA Airport Support ให้ความดูแลเป็นพิเศษในระหว่างการเดินทาง โดยได้ระบุความต้องการดังกล่าวตั้งแต่ซื้อบัตรโดยสาร ซึ่ง ANA จะให้บริการเฉพาะเด็กที่เดินทางโดยลำพัง และมีอายุไม่เกิน 16 ปีโดยจะจัดเจ้าหน้าที่มารับเด็กที่จุดเช็คอินไปส่งถึงประตูขึ้นเครื่อง (Gate) และกรณีการเดินทางเกิดปัญหาเจ้าหน้าที่จะติดต่อผู้ปกครองของเด็กโดยทันที ANA เรียกบริการนี้ว่า “ Kids Rakunori” บริการนี้จะให้กับผู้ปกครองที่ร้องขอเท่านั้น ในวันเดินทางบุตรชายของเราได้เช็คอินที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ และได้รับบอร์ดดิ้งพาส 3 ใบ เนื่องจากเราได้ขอให้ฝ่าย ANA Airport Support ดูแลเป็นพิเศษ จึงมีเจ้าหน้าที่คอยรับบุตรชายของเราที่เคาน์เตอร์เช็คอิน และนำทางไปส่งที่ประตูขึ้นเครื่อง หลังจากนั้นจึงได้เดินทางออกจากกรุงเทพฯ และถึงสนามบินนาริตะอย่างปลอดภัยเวลา 08:05 น. ตามเวลาท้องถิ่น
เมื่อถึงสนามบินนาริตะ มีเจ้าหน้าที่สายการบินมาหาบุตรชายของเราและนำทางไปส่งที่ประตูขึ้นเครื่อง (Gate 42) เมื่อมีการประกาศให้ผู้โดยสารขึ้นเครื่อง มีเจ้าหน้าที่ของสายการบิน ANA แจ้งกับบุตรชายของเราว่ามีการยกเลิกเที่ยวบินจากชิคาโกไปบอสตัน(NH7480)จากปัญหาด้านสภาพอากาศ ทำให้ต้องรอที่สนามบิน O’Hare Airport เมืองชิคาโก เป็นเวลา 3 วัน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สายการบินแจ้งว่าทางสายการบินจะไม่จัดหาหรือชดเชยค่าโรงแรมสำหรับระยะเวลา 3 วันดังกล่าว บุตรชายของเราจึงโทรมาแจ้งให้เราทราบถึงสถานการณ์ดังกล่าว ข้าพเจ้าพยายามสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ของ ANA แต่ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวดีนัก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ดังกล่าวยังตัดบทสนทนาอย่างรวดเร็ว แต่ข้าพเจ้ายังไม่ละความพยายาม และได้โทรศัพท์เข้าไปใหม่อีกครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะพูดกับข้าพเจ้า
จากปัญหาการสื่อสารภาษาอังกฤษของเจ้าหน้าที่ ANA ดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าจึงได้ขอให้บุตรสาวของเพื่อนแม่ที่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น ที่สามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ให้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของ ANA ที่นาริตะ ได้ความว่าสายการบินมี 3 ทางเลือกให้กับบุตรชายของเรา ได้แก่
1) เดินทางไปยังชิคาโกตามกำหนดเดิมและรอที่สนามบิน O’Hare Airport เป็นเวลา 3 วัน เพื่อรอเที่ยวบินถัดไปที่จะเดินทางไปบอสตัน โดยที่ทางสายการบินจะไม่จัดหาหรือชดเชยค่าโรงแรมให้
2) รอที่สนามบินจนกว่าผู้ปกครองจะสามารถหาเที่ยวบินไปยังบอสตันให้ได้ โดยสายการบินไม่จัดหาหรือชดเชยค่าโรงแรมให้
3) ซื้อตั๋วโดยสารใหม่ให้บุตรชายของเราเดินทางกลับบ้าน (นาริตะ – กรุงเทพฯ)
ในตอนแรก ข้าพเจ้าตั้งใจหาบัตรโดยสารกลับบอสตันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงเริ่มหาบัตรโดยสารจากอินเตอร์เน็ต และพบเที่ยวบินไปซานฟรานซิสโก จึงมีความคิดที่จะซื้อบัตรโดยสารดังกล่าวก่อน แล้วจึงหาเที่ยวบินต่อไปยังบอสตัน เนื่องจากมีเพื่อนอยู่ที่ซานฟรานซิสโก ข้าพเจ้าพยายามซื้อบัตรโดยสารจากอินเตอร์เน็ตแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงได้บอกให้บุตรชายขอให้เจ้าหน้าที่สายการบิน ANA ช่วยเหลือ แต่ได้รับการปฏิเสธ และบอกให้เราซื้อเองจากอินเตอร์เน็ต ณ ตอนนั้นข้าพเจ้าไม่ทราบว่าสายการบินไม่อนุญาตให้ซื้อบัตรโดยสารทางอินเตอร์เน็ตในวันเดินทาง นอกจากนั้นข้าพเจ้าไม่สามารถซื้อบัตรโดยสารจากตัวแทนสายการบินได้ เนื่องจากทุกที่ปิดทำการในวันอาทิตย์ (5 มกราคม 2557)
ในขณะที่ข้าพเจ้าพยายามหาบัตรโดยสาร บุตรชายก็พยายามติดต่อกับเจ้าหน้าของ ANA แต่ไม่ได้รับการใส่ใจแต่อย่างใด เมื่อบุตรชายโทรหาข้าพเจ้าอีกครั้ง ข้าพเจ้าจึงขอคุยกับเจ้าหน้าที่ของ ANA หรือเจ้าหน้าที่ที่เป็นหัวหน้าที่ประจำอยู่ที่ประตูขึ้นเครื่อง เพื่อจะได้ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่โชคไม่ดีที่ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดสนใจให้ความช่วยเหลือเลย เชื่อหรือไม่ว่า ถึงขนาดมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งหัวเราะใส่บุตรชายของเราเมื่อเขาบอกว่าข้าพเจ้าไม่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ เมื่อเที่ยวบินไปชิคาโกใกล้ถึงกำหนดเวลาเดินทางออกจากนาริตะ เจ้าหน้าที่ ANA กระตุ้นให้บุตรชายของเราเดินทางไปกับเที่ยวบินดังกล่าว ทั้งๆที่ทราบดีว่าเขาจะต้องติดอยู่ที่สนามบิน O’ Hare Airport เป็นเวลาถึง 3 วัน ขอย้ำว่าบุตรชายของเราอายุ 14 ปี ไม่มีบัตรเครดิต (อายุยังไม่ถึง 15 ปี ไม่สามารถมีบัตรเครดิตได้) สำหรับจ่ายค่าโรงแรม และตามกฎหมายของสหรัฐแล้ว บุคคลต้องมีอายุอย่างต่ำ 18 ปีก่อน ถึงจะสามารถเช็คอินเข้าพักในโรงแรมได้
ในที่สุด ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจไม่ให้บุตรชายบินไปชิคาโก แต่ให้รออยู่ที่สนามบินนาริตะแทน ซึ่งหลังจากเที่ยวบินดังกล่าวออกจากสนามบินนาริตะไป บุตรชายของเราก็พยายามติดต่อกับเจ้าหน้าที่อีกครั้งแต่ดูเหมือนเจ้าหน้าที่จะยุ่งจนไม่อาจพูดคุยกับเขาได้ หลังจากมีโอกาสพูดคุยกับเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง บุตรชายของเราจึงถามหาเที่ยวบินอื่นๆเพื่อเดินทางไปยังบอสตัน แต่เจ้าหน้าแจ้งว่าเต็มทุกเที่ยวบิน หลังจากรอเป็นเวลา 3 ชั่วโมง มีเจ้าหน้าที่แจ้งกับบุตรชายของเราว่าสามารถหาบัตรโดยสารเดินทางกลับกรุงเทพฯ ให้ได้ในเย็นวันนั้น โดยบัตรโดยสารดังกล่าวมีราคา 80,000 บาท เมื่อบุตรชายของเราถามว่าจะสามารถซื้อบัตรโดยสารดังกล่าวได้อย่างไร เจ้าหน้าที่ท่านนั้นบอกว่าสามารถซื้อให้ได้โดยใช้บัตรเครดิตของข้าพเจ้า เราไม่แน่ใจว่าเหตุใดก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถซื้อตั๋วไปซานฟรานซิสโกให้ได้ แต่ในเวลาต่อมากลับมีเจ้าหน้าที่สามารถซื้อตั๋วกลับกรุงเทพฯโดยช้บัตรเครดิตของเราได้
ในที่สุด เจ้าหน้าที่ของ ANA ปล่อยให้บุตรชายของเราอยู่ที่ประตูขึ้นเครื่องบินเพียงลำพัง โดยไม่มีเจ้าหน้าที่มาให้ความช่วยเหลือแต่อย่างใด บุตรชายของเราไปติดต่อที่เคาน์เตอร์ Narita Airport Connecting Flight เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่หาบัตรโดยสารไปยังบอสตัน และมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งบอกให้บุตรชายของเราไปติดต่อเคาน์เตอร์สายการบิน United Airlines หรือ เคาน์เตอร์ ANA ซึ่งเปิดให้บริการในเวลา 14:30 น. (ขณะนั้นเป็นเวลา 13:30 น.) และให้เบอร์โทรศัพท์ของสายการบิน Japan Airlines (ซึ่งมีบริการเที่ยวบินตรงไปยังบอสตัน) รวมทั้งเบอร์โทรศัพท์ของตัวแทน ANA
ในขณะเดียวกัน สามีของข้าพเจ้าได้ติดต่อกับสำนักงาน ANA ประจำสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ และได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำแหน่ง duty manager คือคุณ ธนเศรษฐ์ ภิญโญธนุพงศ์ หลังจากที่เราเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในประเด็นที่บุตรชายของเราต้องติดอยู่ที่สนามบินเพียงลำพังให้กับคุณธนเศรษฐ์ทราบ คุณธนเศรษฐ์ แจ้งว่าจะขอให้เจ้าหน้าที่ ANA ที่นาริตะเข้าไปให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังบอกให้ลูกชายของเราไปติดต่อที่เคาน์เตอร์ ANA Transit (ใกล้กับประตูขึ้นเครื่อง Gate 52)
ในระหว่างที่เราพยายามติดต่อสำนักงาน ANA ที่ประจำสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ณ สนามบินนาริตะ บุตรชายของเราเดินไปติดต่อเคาน์เตอร์สายการบิน United Airlines ซึ่งอยู่ไกลออกไปค่อนข้างมาก เพื่อหาบัตรโดยสารไปบอสตัน และพบว่าเที่ยวบินไปบอสตันเต็มทุกเที่ยว ดังนั้นจึงเดินกลับมาที่เคาน์เตอร์ใกล้ๆกับ Gate 42 อีกครั้ง และโทรหาสายการบิน Japan Airlines เพื่อหาเที่ยวบินไปบอสตัน และพบว่ามีที่นั่งว่างในเที่ยวบินที่จะออกในวันรุ่งขึ้น ข้าพเจ้าบอกให้บุตรชายรอ เนื่องจากต้องสอบถามถึงเรื่องที่พัก ก่อนจะเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้น บุตรชายของเราต้องรอ 20 นาที กว่าจะได้สอบถามเจ้าหน้าที่ที่เป็นตัวแทนของ ANA เกี่ยวกับบัตรโดยสาร และเช่นเดียวกันกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ตัวแทนดังกล่าวแทบจะไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เลย ดังนั้นบุตรชายของเราจึงได้เดินทางกลับไปที่เคาน์เตอร์ Narita Connecting Flight เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยแปลให้ ในที่สุดตัวแทน ANA ดังกล่าวจึงตกลงที่จะช่วยหาบัตรโดยสารให้ และสัญญาว่าจะติดต่อกลับ แต่ท้ายสุดแล้วก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาแต่อย่างใด
ข้าพเจ้าจึงบอกให้บุตรชายรีบไปพบกับเจ้าหน้าที่ ANA ที่อาจกำลังรออยู่ตามที่คุณธนเศรษฐ์(เจ้าหน้าที่ตำแหน่ง duty manager สำนักงาน ANA ประจำสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ)แจ้ง บุตรชายของเราจึงรีบไปติดต่อที่เคาน์เตอร์ ANA Transit แต่ก็ไม่พบผู้ใดรออยู่ จึงรอต่ออีกประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งๆที่คุณธนเศรษฐ์ ยืนยันว่าจะมีเจ้าหน้าที่ ANA มาพบเพื่อให้ความช่วยเหลือ แต่กลับไม่มีใครมา ต่อมาคุณธนเศรษฐ์แจ้งว่าเจ้าหน้าที่ ANA ยังไม่ได้ออกจากสำนักงาน จึงจะต้องใช้เวลาอีก 20 นาทีกว่าจะมาถึงจุดนัดพบ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงบอกให้บุตรชายหาอาหารรับประทานก่อน เพราะยังไม่ได้รับประทานอะไรตั้งแต่เช้า ไม่ถึง10นาทีต่อมา คุณธนเศรษฐ์แจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่ไปถึงที่จุดนัดพบแล้ว ข้าพเจ้าจึงรีบโทรบอกบุตรชายและบอกให้เลิกรออาหาร แต่ให้รีบกลับไปยังจุดนัดพบแทน แต่เมื่อไปถึงกลับไม่พบผู้ใดรออยู่ ข้าพเจ้าจึงโทรหาคุณธนเศรษฐ์ อีกครั้งและถามว่าเหตุใดจึงไม่มีเจ้าหน้าที่มารอที่จุดนัดพบตามแจ้ง และได้รับคำอธิบายว่า ถึงมีเจ้าหน้าที่ไปพบก็ไม่มีประโยชน์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำอะไรได้
ในขณะที่รอให้บุตรชายได้พบกับเจ้าหน้าที่ของ ANA คุณธนเศรษฐ์ และข้าพเจ้าได้หารือเพื่อหาทางออกอื่นๆ อาทิ หาบัตรโดยสารไปบอสตัน หรือ กลับกรุงเทพฯ ข้าพเจ้าแจ้งกับคุณธนเศรษฐ์ ว่าอยากหาบัตรโดยสารไปบอสตันตามความประสงค์ของบุตรชายมากกว่า อันที่จริงแล้วบุตรชายของเราสามารถหาที่นั่งว่างของสายการบิน Japan Airlines แต่ต้องเดินทางในวันรุ่งขึ้น (6 มกราคม 2557) ซึ่งหมายความว่าจะต้องพักค้างคืนในโรงแรมใกล้เคียงสนามบินนาริตะ 1 คืน ข้าพเจ้าจึงหาโรงแรมให้กับบุตรชาย และขอให้คุณธนเศรษฐ์ ถามเจ้าหน้าที่ ANA ที่นาริตะว่าจะสามารถไปส่งบุตรชายของเราที่โรงแรมและรับกลับมาที่สนามบินในวันรุ่งขึ้นได้หรือไม่ และได้รับคำตอบว่าเจ้าหน้าที่ทำได้เพียงไปส่งที่สถานีรถโดยสาร และให้บุตรชายของเราหาทางไปโรงแรมและกลับไปยังสนามบินด้วยตนเองในวันรุ่งขึ้น
ในที่สุด ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจให้บุตรชายเดินทางกลับกรุงเทพ และถามคุณธนเศรษฐ์ เรื่องการชำระค่าโดยสาร คุณธนเศรษฐ์แจ้งว่าไม่จำเป็นต้องชำระค่าโดยสารแต่อย่างใด เนื่องจากมีบัตรโดยสารไปกลับ กรุงเทพ – บอสตัน อยู่แล้ว ซึ่งสวนทางกับสิ่งที่เจ้าหน้าที่ ANA สนามบินนาริตะแจ้งก่อนหน้านี้ว่า จะต้องชำระค่าโดยสารสำหรับนาริตะ – กรุงเทพฯ จำนวน 80,000 บาท