มีวันนึงพ่อผมบอกว่าเพื่อนของเค้าได้ลองเอาเหล้าขาวผสมน้ำแล้วจะเห็นเส้นบนพลอยโมลดาไวท์อีกแบบนึง
ผมก็ลองดูผมเอาโมลดาไวท์ 5 เม็ดใส่ไปในเหล้าขาวผสมน้ำอย่างละครึ่งแล้วก็รอดูความเปลี่ยนแปลง
นั่งเฝ้าจ้องประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ไม่เห็นจะมีเส้นแสงอะไรโผล่ออกมา ก็เลยเทเหล้าขาวผสมน้ำทิ้ง
จากนั้นเทเหล้าขาวเพียวๆใส่โมลดาไวท์ 5 เม็ดเหมือนเิดิม รออีกประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก
ผมก็เอาโมลดาไวท์ออกแล้วกะจะเทเหล้าที่แช่ไว้ทิ้งเพราะไม่ใช่คนดื่มเหล้าอยู่แล้ว
แต่ก็ลองยกดื่มดูจึงได้พบความผิดปกติที่เปลี่ยนไป เหล้าขาวที่ร้อนกลับกลายเป็นว่าความร้อนเหมือนจะลดลง
ผมก็ลองไปดื่มในขวดลิโพผมก็ดื่มได้ไม่เกินสองอึกเพราะมันแรง แต่ในแก้วที่เคยแช่โมลดาไวท์ไว้กลับกลายเป็นว่าดื่มได้จนหมดเลย
ผมก็สงสัยมานึกขึ้นได้อีกว่าเคยเปิดเจอผ่านๆเกี่ยวกับความเชื่อของโมลดาไวท์ในเวบต่างประเทศที่อ่านมาประมาณว่าคนโบราณจะนำโมลดาไวท์มาทำเป็นภาชนะใส่เหล้าเพราะจะทำให้ดื่มแล้วไม่เมา
แต่วันนั้นเท่าที่ลองไม่ใช่ไม่เมา เมาแอ๋เหมือนเดิม แค่รู้สึกว่าความร้อนดีกรีเหล้าลดลงและก็ดื่มง่ายขึ้น
แล้วผมก็เก็บความสงสัยไว้เรื่อยมาว่าเราคิดไปเองคนเดียวหรือเปล่าแต่ก็ได้มีเล่าให้พ่อผมฟังบ้าง
แล้วไม่กี่วันมานี้พ่อผมก็ได้ลองกับตัวและคนแถวบ้านที่จันทบุรี
คนที่ลองให้เค้าลองดื่มดูเป็นคนเก็บของเก่าขายดื่มเหล้าเป็นประจำอยู่แล้ว
พ่อผมเทเหล้าขาวแบ่ง 2 แก้ว แต่มีแก้วนึงแช่โมลดาไวท์ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที อีกแก้วไม่ทำอะไร
พอคนเก็บของเก่าดื่มไปก็สอบถามความรู้สึกของเค้า ซึ่งเค้าก็ทายถูกว่ามีแก้วผิดปกติ
อีกทั้งยังบอกอีกว่าแก้วที่ผิดปกติเหมือนกับเหล้ามันระเหย
ปัญหาของผมก็คือ
-มีหลักทางวิทยาศาสตร์แบบไหนที่พอจะอธิบายการเปลี่ยนแปลงหรือปรากฎการณ์นี้ได้บ้าง
-ถ้าจะวัดค่าแอลกอฮอร์ในเหล้าควรใช้วิธีอะไรที่แปลงค่าออกมาเป็นตัวเลข ไม่เอาวิธีดื่มและเป่า
-ถ้าใช้วิธีทดลองกับคนหลายๆคนโดยเพิ่มปริมาณแก้ว แต่จำกัดปริมาณ แล้วให้ผู้รับการทดลองลองดื่มดู ค่าที่บันทึกได้ทางสถิติพอจะใช้อ้างอิงได้และจะมีความน่าเชื่อถือพอมั้ย
สำหรับผมแล้วการได้เจออะไรแบบนี้ก็เหมือนกับพบตำนานที่เป็นความจริง ก็เลยอยากรู้ว่าทำไมเพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้นได้ครับ
ขอบคุณมากครับ
ช่วยหน่อยครับใครพอจะอธิบายปรากฎการณ์แบบนี้ของพลอยโมลดาไวท์ได้บ้าง
ผมก็ลองดูผมเอาโมลดาไวท์ 5 เม็ดใส่ไปในเหล้าขาวผสมน้ำอย่างละครึ่งแล้วก็รอดูความเปลี่ยนแปลง
นั่งเฝ้าจ้องประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ไม่เห็นจะมีเส้นแสงอะไรโผล่ออกมา ก็เลยเทเหล้าขาวผสมน้ำทิ้ง
จากนั้นเทเหล้าขาวเพียวๆใส่โมลดาไวท์ 5 เม็ดเหมือนเิดิม รออีกประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก
ผมก็เอาโมลดาไวท์ออกแล้วกะจะเทเหล้าที่แช่ไว้ทิ้งเพราะไม่ใช่คนดื่มเหล้าอยู่แล้ว
แต่ก็ลองยกดื่มดูจึงได้พบความผิดปกติที่เปลี่ยนไป เหล้าขาวที่ร้อนกลับกลายเป็นว่าความร้อนเหมือนจะลดลง
ผมก็ลองไปดื่มในขวดลิโพผมก็ดื่มได้ไม่เกินสองอึกเพราะมันแรง แต่ในแก้วที่เคยแช่โมลดาไวท์ไว้กลับกลายเป็นว่าดื่มได้จนหมดเลย
ผมก็สงสัยมานึกขึ้นได้อีกว่าเคยเปิดเจอผ่านๆเกี่ยวกับความเชื่อของโมลดาไวท์ในเวบต่างประเทศที่อ่านมาประมาณว่าคนโบราณจะนำโมลดาไวท์มาทำเป็นภาชนะใส่เหล้าเพราะจะทำให้ดื่มแล้วไม่เมา
แต่วันนั้นเท่าที่ลองไม่ใช่ไม่เมา เมาแอ๋เหมือนเดิม แค่รู้สึกว่าความร้อนดีกรีเหล้าลดลงและก็ดื่มง่ายขึ้น
แล้วผมก็เก็บความสงสัยไว้เรื่อยมาว่าเราคิดไปเองคนเดียวหรือเปล่าแต่ก็ได้มีเล่าให้พ่อผมฟังบ้าง
แล้วไม่กี่วันมานี้พ่อผมก็ได้ลองกับตัวและคนแถวบ้านที่จันทบุรี
คนที่ลองให้เค้าลองดื่มดูเป็นคนเก็บของเก่าขายดื่มเหล้าเป็นประจำอยู่แล้ว
พ่อผมเทเหล้าขาวแบ่ง 2 แก้ว แต่มีแก้วนึงแช่โมลดาไวท์ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที อีกแก้วไม่ทำอะไร
พอคนเก็บของเก่าดื่มไปก็สอบถามความรู้สึกของเค้า ซึ่งเค้าก็ทายถูกว่ามีแก้วผิดปกติ
อีกทั้งยังบอกอีกว่าแก้วที่ผิดปกติเหมือนกับเหล้ามันระเหย
ปัญหาของผมก็คือ
-มีหลักทางวิทยาศาสตร์แบบไหนที่พอจะอธิบายการเปลี่ยนแปลงหรือปรากฎการณ์นี้ได้บ้าง
-ถ้าจะวัดค่าแอลกอฮอร์ในเหล้าควรใช้วิธีอะไรที่แปลงค่าออกมาเป็นตัวเลข ไม่เอาวิธีดื่มและเป่า
-ถ้าใช้วิธีทดลองกับคนหลายๆคนโดยเพิ่มปริมาณแก้ว แต่จำกัดปริมาณ แล้วให้ผู้รับการทดลองลองดื่มดู ค่าที่บันทึกได้ทางสถิติพอจะใช้อ้างอิงได้และจะมีความน่าเชื่อถือพอมั้ย
สำหรับผมแล้วการได้เจออะไรแบบนี้ก็เหมือนกับพบตำนานที่เป็นความจริง ก็เลยอยากรู้ว่าทำไมเพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้นได้ครับ
ขอบคุณมากครับ