สวัสดีครับ  ผมเป็นหนึ่งในมนุษน์ทำงานคนหนึ่งที่ต้องใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะในการเดินทางไปกลับที่ทำงาน  รถคันที่ใช้อยู่ก่อนเป็นมาสด้ารุ่นหนึ่ง  ใช้เป็นรถคู่ใจมานานถึง 15 ปี  ไม่ผิดหวังเลยครับ  จุดที่อยากเปลี่ยนคืออยากเปลี่ยนไปขับเกียร์ออโต้เพราะกลัวจราจรในกทม.จะทำให้หัวเข่าพังซะก่อน คือผมมีปัญหาที่หัวเข่าตั้งแต่ช่วงเป็นนักฟุตบอลตอนอยู่มัธยมน่ะครับ  และที่สำคัญก็คืออยากได้รถใหม่ อย่างไรก็ดีที่ใช้มาแฮปปี้มากครับ ไม่จุกจิกไว้ใจได้เลยทีเดียว ขายรถต่อให้กับคนที่ชื่นชอบรถรุ่นนี้ไป ผ่านไปเกือบปีไม่มีเสียงบ่นกลับมาก็แสดงว่าน่าจะพอใจนะ  เพราะบอกผู้ซื้อไปหมดว่าซ่อมอะไรไปบ้าง  อะไรที่ยังไม่ได้ซ่อม และอะไรที่ต้องซ่อมเร็วๆนี้  วันที่ไปส่งมอบรถเดินหันหลังกลับมาแทบน้ำตาซึม

เอาล่ะครับ กลับเข้าเรื่องกันดีกว่า  จากมอร์เตอร์โชว์ปลายปี 2012 พิจารณาอยู่หลายยี่ห้อและหลายรุ่น  ความสนใจแรกอยู่ที่ Honda Civic 2.0 เพราะราคาน่าสนใจและใช้น้ำมัน E85 ได้ซึ่งน่าจะทำให้ประหยัดค่าน้ำมันได้พอดูเมื่อเทียบกับรถคันเก่าซึ่งต้องใช้ E10 หรือ แกสโซฮอลเท่านั้น  แต่พอไปที่งานความสนใจก็เปลี่ยนมาเป็น CRV ตัว 2013 ซึ่งสามารถใช้น้ำมัน E85 ได้เหมือนกัน  ยี่ห้ออื่นในตลาดส่วนใหญ่ที่ใช้ได้แค่ถึง E20 และ E10 เท่านั้น นอกจากนี้ด้วยอรรถประโยชน์และความกว้างขวางของห้องโดยสารซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นหลักที่อยากเปลี่ยนรถแต่แรกและไม่ได้ดูมาสด้าต่อเพราะระแวกบ้านที่ย้ายมาอยู่ได้สักพักไม่มีศูนย์มาสด้าที่เดินทางสะดวกไม่งั้นอาจได้ถอยมาสด้า 3 มาก็ได้  อีกใจนึงก็อยากลองยี่ห้ออื่นอยู่บ้าง  และมาสด้าไม่มีรุ่นใหญ่ขนาด Full Size ในไทย  จองรถไปเดือนธันวาคม 2512 เซลล์บอกต้องรอรถประมาณสามถึงสี่เดือนและจะแจ้งล่วงหน้าประมาณหนึ่งเดือนเพื่อจะได้เตรียมเงินดาวน์  เดือนมีนาคม เซลล์โทรมาาบอกว่าได้รถแล้วให้รับรถสัปดาห์หน้า  งานเข้าสิครับ  เตรียมเงินไม่ทันเลยบอกเซลล์ไปว่าขอรอบหน้าละกัน  ประมารเมื่อไหร่ เซลล์แจ้งว่าอีกประมาณหนึ่งเดือน ก็โอเค  พอใกล้เวลารับรถในช่วงเมษายนก็โทรไปคอนเฟิร์มว่าได้แน่นะ  ปรากฏว่ายังไม่มีรายการรถที่จองที่จะส่งมาจากโรงงานเพราะได้รับคำตอบว่าโรงงานกำลังเร่งผลิตรถคันเล็กตามนโยบายรถคันแรกอยู่  รอบส่ง CRV เลยยังไม่มีกำหนด  ผมเริ่มรูสึกกระสับกระส่ายกับการรอคอยมากพอสมควร (เพราะขายรถคันเก่าไปแล้วและเดินทางด้วยแท็กซี่และรถไฟฟ้าเป็นหลัก) ประกอบกับระหว่างที่รอไปรอมา Accord 2013 ออกมาพอดีและมีโอกาสไปดูรถที่ศูนย์ พอดูแล้วก็ชอบเพราะออพชั่นหลายๆอย่างมีเยอะกว่า CRV เช่นระบบคีย์เลสและม่านบังแดด เป็นต้น  ประกอบกับดีไซน์ที่สวยแตกต่างจากรุ่นก่อน ดูแล้วถูกใจเลยบอกเซลล์ไปว่าถ้าไม่รู้จะได้ CRV เมื่อไหร่จะไม่รอแล้ว....แต่ถ้าได้ Accord เร็วกว่าก็โอเค  อิอิ  นั่นคือจุดสิ้นสุดของการรอคอยและเป็นจุดเริ่มต้นของประสบการณ์ใหม่กับ Honda

ตั้งแต่ใช้มาบอกได้เลยว่าถูกใจและรู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิดเพราะขับได้นิ่มนวลและเครื่องยนต์ตอบสนองดีมาก  น้ำมันถังแรกใช้ E20 ถังที่สองเริ่มเปลี่ยนมาใช้ E85 จะสังเกตุได้ว่าสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นซึ่งเป็นเรื่องปกติตามสเปครถ  โดยรวมก็ประหยัดเงินมากกว่าแต่ความปราดเปรียวของรถก็ลดลงเป็นธรรมดาพอรับได้  แต่ขอแนะนำสำหรับคนที่จะใช้น้ำมันทั้ง E20 และ E85 ว่า ผมใช้น้ำมัน ปตท. แล้วรู้สึกดีสุดในแง่ของอัตราเร่งเมื่อเที่ยบกับ บางจากและคาลเท็กซ์ (E20 เท่านั้น) ขอเพิ่มเติมว่า E20 ของคาลเท็กซ์ให้ความรู้สึกเหมือน E85 ของบางจากอย่างน่าประหลาดใจ  เลยเติมคาลเท็กซ์แค่ครั้งเดียว  ใช้รถมาประมาณ 5 เดือน เริ่มได้ยินเสียง กุบกับๆๆ เวลาขึ้นหลังเต่าประกอบกับแก้มบังโคลนตัวถังด้านซ้ายเผยอ (ตัวถังที่อยู่เหนือซุ้มล้อ)  เอาเข้าศูนย์พร้อมเช็คระยะ  ช่างแก้ไขแก้มบังโคลนเรียบร้อยโดยแจ้งว่าตัวยึดหลุด และแจ้งว่าแก้ไขทั้งสองจุดเรียบร้อยแล้วโดยเสียงช่วงล่างมาจากด้านซ้ายหน้าเหมือนกัน แก้ไขเสียงดังโดยการอัดจารบีเพิ่ม ฟังดูก็โอเค  พอเอากลับมาขับ พบว่าเสียงช่วงล่างที่ดัง ยังไม่หาย    เลยเอาเข้าศูนย์อีกรอบ  คราวนี้เหมือนตัวช่างเองก็หมดปัญญา  เพราะเช็คแล้วทุกอย่างก็ปกติแต่เสียงยังอยู่  เลยให้เอารถกลับมาก่อนโดยจะหารือภายในและจะแจ้งให้ทราบ  ผ่านไปประมาณอีกหนึ่งเดือนเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน ทางศูนย์ก็นัดหมายเข้าไปเพื่อเปลี่ยนโช็คหน้าซ้ายให้  ฟังดูดีทีเดียว  พอเปลี่ยนเสร็จ  ยังไม่หายครับ  คราวนี้กลับไปพร้อมกับข้อสงสัยอีกสองเรื่องคือ เวลาจะออกรถในบางครั้ง (ย้ำว่าบางครั้งนะครับ) เข้าเกียร์ D โดยลากจาะ P ผ่าน R และ N  ในจังหวะที่เข้า R รถจะมีการกระตุกดึงถอยหลังทันที  ไม่ได้แรงมากแต่ผมคิดว่าแรงผิดปกติ  และยังมีเสียงคล้ายๆ เวลามอร์เตอร์ฝึดๆ เริ่มทำงานดัง อื้ดๆ โชคดีที่ช่างที่ไปทดลองรถด้วยเป็นหัวหน้าช่าง  และโชคดีที่พบอาการที่เกียร์กระตุกและเสียงดังที่ว่าด้วยในช่วงที่ทดลอง  แต่สุดท้ายเรื่องช่วงล่างเสียงดังยังแก้ไม่ได้  ส่วนเรื่องเกียร์และเสียงคล้ายมอร์เตอร์ฝืด  ก็ยังคงเป็นปริศนา  อย่างไรก็ดีทางหัวหน้าช่างและทางศูนย์แจ้งว่าจะติดต่อไปทางส่วนกลางของ Honda เพื่อส่งผู้เชี่ยวชาญมาดูให้  ผ่านมาถึงเดือนธันวาคมผมโทรไปติดตามที่ศูนย์อีกครั้งเพื่อเช็คความคืบหน้าของการนัดหมาย  ทางศูนย์แจ้งว่าช่วงนี้ทางส่วนกลางกำลังยุ่งอยู่กับมอร์เตอร์โชว์ที่กำลังจัดอยู่น่าจะเป็นช่วง มกราคม 2557 ตอนนี้ก็ยังรออยู่อย่างใจจดใจจ่อว่าจะได้นัดหมายเมื่อไหร่  

ระหว่างที่รอเลยอยากแชร์ประสบการณ์ครับเผื่อใครจะมีประสบการณ์คล้ายๆกับผม  บางคนอาจยังไม่เคยสังเกตุ  เพราะผมเป็นคนที่คอยสังเกตุเรื่องนี้เป็นพิเศษ  ความกังวลจะอยู่ที่เสียงช่วงล่างเป็นส่วนใหญ่เพราะมันเกิดใกล้ๆกับจุดที่แก้มบังโคลนเผยอ  เลยไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า  รวมถึงความรู้สึกที่ว่าความบกพร่องที่พบควรจะถูกแก้ไขโดยเร็วเพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามใหญ่โต  หากปล่อยไว้แล้วหมดอายุรับประกัน 3 ปีแล้วปัญหารุนแรงขึ้น คงไม่ใช่เรื่องดีแน่

โดยสรุป รถคนนี้ซื้อแล้วไม่ผิดหวังครับกับดิไซน์ที่สวยสมรรถนะดีและประหยัดน้ำมัน ผมประทับใจกับการให้บริการของที่ศูนย์  และหวังว่าคงจะได้รับการติดต่อกลับเพื่อแก้ไขต่อไปโดยเร็วนะครับ  ใครมีประสบการณ์คล้ายๆกันก็มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ  ขอบคุณครับ