บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความประหยัดของระบบฟูลไฮบริด e:HEV ผ่านทริปสุดพิเศษ ‘Honda e:HEV Challenge ประหยัด… ไปถึงไหนนน!’ แท็กทีมลูกค้ารถยนต์ Honda e:HEV ทั้ง 6 รุ่น จำนวน 30 คัน รวมผู้ขับขี่พร้อมผู้โดยสารทั้ง 60 คน และคณะสื่อมวลชนสายยานยนต์ ร่วมพิสูจน์ความประหยัดน้ำมัน และสมรรถนะการขับขี่ของระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV กับน้ำมัน 1 ถัง บนเส้นทางการขับขี่จริงจากกรุงเทพฯ – พิษณุโลก – เชียงใหม่ รวมระยะทางกว่า 900 กิโลเมตร โดยผลลัพธ์จากกิจกรรมพบว่ารถยนต์ Honda e:HEV ทุกรุ่น สามารถขับขี่ได้ไกลเกินกว่า 900 กิโลเมตร ด้วยน้ำมันเพียงถังเดียว* โดยไม่มีการแวะเติมน้ำมัน คอนเฟิร์มความประหยัดจากลูกค้าผู้ใช้งานจริง กับสถิติตัวเลขอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมเกินกว่าป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล หรือ ECO Sticker* อีกทั้งลูกค้ายังได้ร่วมแลกเปลี่ยนเคล็ดลับการขับขี่ที่ตอกย้ำความประหยัดอีกขั้น พร้อมเชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมสัมผัสและพิสูจน์ความประหยัดของ Honda e:HEV ทุกรุ่นด้วยตัวคุณเอง และให้ทุกท่านสามารถเป็นเจ้าของได้ด้วยข้อเสนอพิเศษ ณ โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
โดยลูกค้าผู้ใช้จริงรถยนต์ Honda e:HEV ที่เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 30 คัน จากทั้ง 6 รุ่น ได้แก่
ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี 4 คัน
ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี 6 คัน
ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี 6 คัน
ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี 2 คัน
ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี 6 คัน
ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี 6 คัน
ตลอดเส้นทางการขับขี่สุดท้าทายเพื่อพิสูจน์ความประหยัดของน้ำมัน 1 ถัง ลูกค้าต่างขับขี่กันอย่างมุ่งมั่น ผสานการใช้เทคนิคสไตล์ตนเองในการขับขี่รถยนต์ Honda e:HEV คู่ใจ สู่ประสบการณ์ที่สนุกสนานตลอดทริป โดยได้พิสูจน์บนเส้นทางการใช้งานจริงหลากหลายรูปแบบ ทั้งในเมือง และทางขึ้น-ลงเขา รวมถึงทางโค้ง และได้พิสูจน์ถึงการทำงานของระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด โดยระบบจะเลือกโหมดการขับขี่ที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับระดับของแบตเตอรี่ สภาพถนน และพฤติกรรมในการขับขี่ ประกอบด้วยการทำงานของโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) ระบบจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขณะออกตัว เหมาะกับการขับขี่ในเมือง
โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) มอบอัตราเร่งทรงพลังและนุ่มนวล โดยระบบจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ในขณะที่เครื่องยนต์จะทำหน้าที่ปั่นไฟส่งเข้าสู่มอเตอร์ เพื่อขับเคลื่อนล้อ หรือเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่
โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) โดยจุดเด่นอยู่ที่ชุดล็อกอัพคลัตช์ที่อยู่ในเกียร์ E-CVT จะเชื่อมต่อเครื่องยนต์และส่งกำลังไปยังล้อโดยตรง เหมาะกับการขับขี่โดยใช้ความเร็วสูงคงที่
รถยนต์ e:HEV ทุกรุ่นของฮอนด้า ยังมาพร้อมกับระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) เป็นระบบที่ช่วยชะลอความเร็วรถ และสามารถชาร์จไฟกลับไปที่แบตเตอรี่ไฮบริด ช่วยให้รักษาระยะห่างจากรถคันหน้า ชะลอความเร็วเมื่อเข้าโค้ง หรือขับรถลงทางลาดชันได้โดยไม่ต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย ลดการเหยียบเบรกโดยไม่จำเป็นและยังได้พลังงานไฟฟ้าชาร์จกลับไปที่แบตเตอรี่ ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน ให้ทั้งความสนุกสนานในการขับขี่ควบคู่ไปกับความประหยัดน้ำมันและความปลอดภัย และทุกรุ่นยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง** (Honda SENSING) มอบความมั่นใจยิ่งขึ้นในทุกการเดินทาง
สำหรับกิจกรรม ‘Honda e:HEV Challenge ประหยัด… ไปถึงไหนนน!’ ได้พิสูจน์ผลลัพธ์แล้วว่า รถยนต์ Honda e:HEV ทุกรุ่น ทั้ง 30 คัน สามารถขับขี่ได้ไกลเกินกว่า 900 กิโลเมตร ด้วยน้ำมัน 1 ถัง โดยที่น้ำมันยังเหลือ จากการทดสอบบนเส้นทางจากกรุงเทพฯ – พิษณุโลก – เชียงใหม่ ซึ่งผู้ชนะทั้ง 6 รุ่น สามารถขับขี่ด้วยน้ำมัน 1 ถัง โดยมีรายละเอียดระยะทางรวม ดังนี้ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 934.7 กิโลเมตร
ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 929.5 กิโลเมตร
ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 933.9 กิโลเมตร
ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 926.4 กิโลเมตร
ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 945.4 กิโลเมตร
ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 930.8 กิโลเมตร
นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ Honda e:HEV ที่เข้าร่วมกิจกรรมฯ ยังร่วมแบ่งปันเคล็ดลับการขับประหยัดน้ำมันมาฝาก เพื่อให้สามารถขับขี่ได้อย่างประหยัดยิ่งขึ้นในชีวิตประจำวัน และเชิญชวนลูกค้าที่สนใจให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Honda e:HEV ไปด้วยกัน
คุณชัยชนะ พูลพิพัฒน์ ลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี กล่าวว่า “เคล็ดลับของผม คือ เน้นการขับขี่ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก โดยใช้ความเร็วที่ประมาณ 60 ถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ได้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดี ในทางเรียบอาจจะไม่ได้มีความแตกต่างกันมาก แต่ในช่วงเวลาที่ขึ้นหรือลงเนินเขา จะต้องจับจังหวะการหน่วงให้ดี โดยช่วงขึ้นเขาอาจจะใช้โหมด ECON รวมถึงให้รถขยับช้า ๆ เพื่อให้เป็นไฟฟ้า และในจังหวะที่ลงเขาก็จะให้รถชาร์จไฟกลับ น่าจะเป็นระยะทางประมาณ 10 กว่ากิโลฯ ที่ผมแทบจะไม่ได้ใช้น้ำมันเลย ทำให้ได้ตัวเลขอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีมาก”
ด้านลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี คุณครรชิต จุดประสงค์ กล่าวว่า “ในระหว่างการแข่งขัน ผมได้ใช้ความสามารถทั้งของรถ และความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อจะทําให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีขึ้น จากตอนแรกอยู่ที่ 26 กิโลเมตรต่อลิตร ก็ค่อย ๆ ไต่ขึ้นไปที่ 26.4 และจบที่ 27 กิโลเมตรต่อลิตร สูงสุดเท่าที่เคยทําได้เลยครับ ประทับใจมาก ๆ ตอนซื้อรถมา คิดไว้แล้วว่าถ้าซื้อรถใหญ่ อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันก็จะต้องมากขึ้นแน่นอน แต่พอมีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ก็พิสูจน์ได้จริง ๆ ว่าแม้รถจะใหญ่ แต่ก็ยังประหยัดน้ำมันมาก ๆ ปกติแล้วผมจะขับในกรุงเทพฯ หลังจากนี้ก็จะนำวิธีการที่ใช้ในการแข่ง ไปใช้ตอนขับในชีวิตประจําวันด้วยครับ”
คุณเอกพจน์ บุญหนู แชร์ถึงเทคนิคและความประทับใจต่อ ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี ของตนเองว่า “เทคนิคของผม คือ ในช่วงการขับขี่ขึ้นเขา ผมจะเร่งความเร็วส่งขึ้นไป พอถึงช่วงประมาณ 3/4 ของเนิน ผมจะยกคันเร่งออก ให้ความเร็วค่อย ๆ ลด แล้วค่อย ๆ เติมคันเร่งไปทีละนิดเพื่อให้ไปถึงยอดเขา พอถึงยอดเขาก็จะปล่อยให้รถไหลลง และค่อยเติมคันเร่งให้มีแรงส่งออกไปครับ โดยรวมความประทับใจต่อรถคันนี้ คือ ให้ทั้งความประหยัด สะดวกสบาย และการขับขี่ที่มั่นคง ผมตัดสินใจไม่ผิดเลยที่มาเป็นครอบครัว Honda e:HEV ขอขอบคุณฮอนด้ามากครับที่จัดกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ ให้ลูกค้าได้ร่วมสนุกกันครับ”
Honda จัดทริป e:HEV 30 คัน พิสูจน์ น้ำมัน 1 ถัง ทั้ง 5 รุ่น ไปได้ไกลกว่า 900 กม.
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความประหยัดของระบบฟูลไฮบริด e:HEV ผ่านทริปสุดพิเศษ ‘Honda e:HEV Challenge ประหยัด… ไปถึงไหนนน!’ แท็กทีมลูกค้ารถยนต์ Honda e:HEV ทั้ง 6 รุ่น จำนวน 30 คัน รวมผู้ขับขี่พร้อมผู้โดยสารทั้ง 60 คน และคณะสื่อมวลชนสายยานยนต์ ร่วมพิสูจน์ความประหยัดน้ำมัน และสมรรถนะการขับขี่ของระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV กับน้ำมัน 1 ถัง บนเส้นทางการขับขี่จริงจากกรุงเทพฯ – พิษณุโลก – เชียงใหม่ รวมระยะทางกว่า 900 กิโลเมตร โดยผลลัพธ์จากกิจกรรมพบว่ารถยนต์ Honda e:HEV ทุกรุ่น สามารถขับขี่ได้ไกลเกินกว่า 900 กิโลเมตร ด้วยน้ำมันเพียงถังเดียว* โดยไม่มีการแวะเติมน้ำมัน คอนเฟิร์มความประหยัดจากลูกค้าผู้ใช้งานจริง กับสถิติตัวเลขอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมเกินกว่าป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล หรือ ECO Sticker* อีกทั้งลูกค้ายังได้ร่วมแลกเปลี่ยนเคล็ดลับการขับขี่ที่ตอกย้ำความประหยัดอีกขั้น พร้อมเชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมสัมผัสและพิสูจน์ความประหยัดของ Honda e:HEV ทุกรุ่นด้วยตัวคุณเอง และให้ทุกท่านสามารถเป็นเจ้าของได้ด้วยข้อเสนอพิเศษ ณ โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
โดยลูกค้าผู้ใช้จริงรถยนต์ Honda e:HEV ที่เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 30 คัน จากทั้ง 6 รุ่น ได้แก่
ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี 4 คัน
ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี 6 คัน
ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี 6 คัน
ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี 2 คัน
ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี 6 คัน
ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี 6 คัน
ตลอดเส้นทางการขับขี่สุดท้าทายเพื่อพิสูจน์ความประหยัดของน้ำมัน 1 ถัง ลูกค้าต่างขับขี่กันอย่างมุ่งมั่น ผสานการใช้เทคนิคสไตล์ตนเองในการขับขี่รถยนต์ Honda e:HEV คู่ใจ สู่ประสบการณ์ที่สนุกสนานตลอดทริป โดยได้พิสูจน์บนเส้นทางการใช้งานจริงหลากหลายรูปแบบ ทั้งในเมือง และทางขึ้น-ลงเขา รวมถึงทางโค้ง และได้พิสูจน์ถึงการทำงานของระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด โดยระบบจะเลือกโหมดการขับขี่ที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับระดับของแบตเตอรี่ สภาพถนน และพฤติกรรมในการขับขี่ ประกอบด้วยการทำงานของโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) ระบบจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขณะออกตัว เหมาะกับการขับขี่ในเมือง
โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) มอบอัตราเร่งทรงพลังและนุ่มนวล โดยระบบจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ในขณะที่เครื่องยนต์จะทำหน้าที่ปั่นไฟส่งเข้าสู่มอเตอร์ เพื่อขับเคลื่อนล้อ หรือเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่
โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) โดยจุดเด่นอยู่ที่ชุดล็อกอัพคลัตช์ที่อยู่ในเกียร์ E-CVT จะเชื่อมต่อเครื่องยนต์และส่งกำลังไปยังล้อโดยตรง เหมาะกับการขับขี่โดยใช้ความเร็วสูงคงที่
รถยนต์ e:HEV ทุกรุ่นของฮอนด้า ยังมาพร้อมกับระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) เป็นระบบที่ช่วยชะลอความเร็วรถ และสามารถชาร์จไฟกลับไปที่แบตเตอรี่ไฮบริด ช่วยให้รักษาระยะห่างจากรถคันหน้า ชะลอความเร็วเมื่อเข้าโค้ง หรือขับรถลงทางลาดชันได้โดยไม่ต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย ลดการเหยียบเบรกโดยไม่จำเป็นและยังได้พลังงานไฟฟ้าชาร์จกลับไปที่แบตเตอรี่ ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน ให้ทั้งความสนุกสนานในการขับขี่ควบคู่ไปกับความประหยัดน้ำมันและความปลอดภัย และทุกรุ่นยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง** (Honda SENSING) มอบความมั่นใจยิ่งขึ้นในทุกการเดินทาง
สำหรับกิจกรรม ‘Honda e:HEV Challenge ประหยัด… ไปถึงไหนนน!’ ได้พิสูจน์ผลลัพธ์แล้วว่า รถยนต์ Honda e:HEV ทุกรุ่น ทั้ง 30 คัน สามารถขับขี่ได้ไกลเกินกว่า 900 กิโลเมตร ด้วยน้ำมัน 1 ถัง โดยที่น้ำมันยังเหลือ จากการทดสอบบนเส้นทางจากกรุงเทพฯ – พิษณุโลก – เชียงใหม่ ซึ่งผู้ชนะทั้ง 6 รุ่น สามารถขับขี่ด้วยน้ำมัน 1 ถัง โดยมีรายละเอียดระยะทางรวม ดังนี้ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 934.7 กิโลเมตร
ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 929.5 กิโลเมตร
ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 933.9 กิโลเมตร
ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 926.4 กิโลเมตร
ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 945.4 กิโลเมตร
ลูกค้าผู้ชนะ รุ่น ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี น้ำมัน 1 ถัง ขับได้ระยะทางรวมกว่า 930.8 กิโลเมตร
นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ Honda e:HEV ที่เข้าร่วมกิจกรรมฯ ยังร่วมแบ่งปันเคล็ดลับการขับประหยัดน้ำมันมาฝาก เพื่อให้สามารถขับขี่ได้อย่างประหยัดยิ่งขึ้นในชีวิตประจำวัน และเชิญชวนลูกค้าที่สนใจให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Honda e:HEV ไปด้วยกัน
คุณชัยชนะ พูลพิพัฒน์ ลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี กล่าวว่า “เคล็ดลับของผม คือ เน้นการขับขี่ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก โดยใช้ความเร็วที่ประมาณ 60 ถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ได้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดี ในทางเรียบอาจจะไม่ได้มีความแตกต่างกันมาก แต่ในช่วงเวลาที่ขึ้นหรือลงเนินเขา จะต้องจับจังหวะการหน่วงให้ดี โดยช่วงขึ้นเขาอาจจะใช้โหมด ECON รวมถึงให้รถขยับช้า ๆ เพื่อให้เป็นไฟฟ้า และในจังหวะที่ลงเขาก็จะให้รถชาร์จไฟกลับ น่าจะเป็นระยะทางประมาณ 10 กว่ากิโลฯ ที่ผมแทบจะไม่ได้ใช้น้ำมันเลย ทำให้ได้ตัวเลขอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีมาก”
ด้านลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี คุณครรชิต จุดประสงค์ กล่าวว่า “ในระหว่างการแข่งขัน ผมได้ใช้ความสามารถทั้งของรถ และความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อจะทําให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีขึ้น จากตอนแรกอยู่ที่ 26 กิโลเมตรต่อลิตร ก็ค่อย ๆ ไต่ขึ้นไปที่ 26.4 และจบที่ 27 กิโลเมตรต่อลิตร สูงสุดเท่าที่เคยทําได้เลยครับ ประทับใจมาก ๆ ตอนซื้อรถมา คิดไว้แล้วว่าถ้าซื้อรถใหญ่ อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันก็จะต้องมากขึ้นแน่นอน แต่พอมีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ก็พิสูจน์ได้จริง ๆ ว่าแม้รถจะใหญ่ แต่ก็ยังประหยัดน้ำมันมาก ๆ ปกติแล้วผมจะขับในกรุงเทพฯ หลังจากนี้ก็จะนำวิธีการที่ใช้ในการแข่ง ไปใช้ตอนขับในชีวิตประจําวันด้วยครับ”
คุณเอกพจน์ บุญหนู แชร์ถึงเทคนิคและความประทับใจต่อ ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี ของตนเองว่า “เทคนิคของผม คือ ในช่วงการขับขี่ขึ้นเขา ผมจะเร่งความเร็วส่งขึ้นไป พอถึงช่วงประมาณ 3/4 ของเนิน ผมจะยกคันเร่งออก ให้ความเร็วค่อย ๆ ลด แล้วค่อย ๆ เติมคันเร่งไปทีละนิดเพื่อให้ไปถึงยอดเขา พอถึงยอดเขาก็จะปล่อยให้รถไหลลง และค่อยเติมคันเร่งให้มีแรงส่งออกไปครับ โดยรวมความประทับใจต่อรถคันนี้ คือ ให้ทั้งความประหยัด สะดวกสบาย และการขับขี่ที่มั่นคง ผมตัดสินใจไม่ผิดเลยที่มาเป็นครอบครัว Honda e:HEV ขอขอบคุณฮอนด้ามากครับที่จัดกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ ให้ลูกค้าได้ร่วมสนุกกันครับ”