ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะโอกาสที่มาถึงนี้ บางที “เซี่ยเหล่ย” อดีตนักตบหัวเสาของสโมสรชานตง อาจจะเลือกการเลิกเล่นวอลเล่ย์ก็เป็นได้
หรือไม่ก็อาจจะยอมเป็นตัวสำรองให้สโมสรชานตงไปอีกสักหนึ่งฤดูกาล เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะได้ออกไปเล่นวอลเล่ย์ต่างแดนที่ฟิลิปปินส์เป็นเวลาเดือนกว่าๆ แม้ว่ามาตรฐานลีกฟิลิปปินส์จะไม่ได้สูง แต่ที่นี่ทำให้เธอได้สัมผัสถึงความสุขสนุกสนามอย่างแท้จริงของกีฬาวอลเล่ย์บอล "ถ้ามีโอกาสอีกฉันก็ยังอยากจะไปลองเล่นที่ลีกประเทศอื่นดูบ้าง การได้ออกไปเล่นต่างแดนก็ถือเป็นการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองวิธีหนึ่ง ทำให้ฉันเข้าใจวอลเล่ย์บอลได้ดีมากยิ่งขึ้น"
เซี่ยเหล่ย ลงเล่นให้สโมสรชานตงในการแข่งขันรอบคัดเลือกกีฬาแห่งชาติจีน แต่ผลปรากฏว่าสโมสรของเธอไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่น รอบสุดท้ายกีฬาแห่งชาติจีนได้ แตกต่างจากชุดเยาวชนของสโมสรชานตงที่สามารถไปคว้าแชมป์กีฬาแห่งชาติจีนในประเภทเยาวชนมาได้ จากนั้นสโมสรชานตงเกิดการผลัดเปลี่ยนทีมครั้งใหญ่ ผู้เล่นชุดเยาวชนต่างก็พาเหรดขึ้นสู่ชุดใหญ่ของสโมสร ทำให้ผู้เล่นเก่าจำนวนหนึ่งต้องเริ่มมองหาเส้นทางเดินใหม่ของตัวเอง หวางหนานกับโจวชานชานย้ายไปเล่นให้กับสโมสรกว่างตงของโค้ชหลางผิง
เดือนกันยายนปีที่แล้ว มีพี่ในวงการวอลเล่ย์มาเลียบเคียงถามเธอว่าสนใจไปเล่นวอลเล่ย์ในประเทศแถบอาเซียนบ้างหรือเปล่า?
เซี่ยเหล่ยลังเลไตร่ตรองอยู่นาน “ใจฉันคิดอยากออกไปดูโลกภายนอก อยากไปดูว่าคนอื่นเขาฝึกซ้อมแข่งขันกันยังไง? แต่ก็กังวลว่าตัวเราไม่ได้ฝึกซ้อมมาเป็นเวลานาน เกรงว่าสภาพร่างกายจะไม่พร้อม ” แต่สุดท้ายเซี่ยเหล่ยก็ตัดสินใจออกไปเล่นดู ได้สมาคมวอลเล่ย์จีน เฝิงคุนให้ความช่วยเหลือในการย้าย เซี่ยเหล่ยจึงได้ย้ายไปเล่นสโมสร Cignal ของฟิลิปปินส์
5 พ.ย. คือวันออกเดินทาง เป็นครั้งแรกของเซี่ยเหล่ยที่ออกไปต่างประเทศตัวคนเดียว ตลอดชีวิตการเป็นนักกีฬาของเธอยังไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน จึงรู้สึกกังวลใจอยู่บ้าง
“ตอนนั้นฉันคิดแต่ว่าอย่าทำให้ตัวเองต้องขายหน้าก็พอ ! ” เซี่ยเหล่ยหัวเราะ
แต่ที่ทำให้เธอคาดคิดไม่ถึงก็คือ โค้ช ผู้ช่วยโค้ช กัปตันทีม รองกัปตันทีมของสโมสร Cignal ถือป้ายยินดีต้อนรับพร้อมกับช่อดอกไม้
มารอต้อนรับเธอถึงที่สนามบินมนิลา เซี่ยเหล่ยซึ่งพูดภาษาอังกฤษได้แต่ “Hello” กับ “Bye-Bye” ไม่รู้จะพูดสื่อสารแสดงความรู้สึกของตนออกมาได้ยังไง? จึงได้แต่ยิ้มหัวเราะ
“บนรถพวกเราสื่อสารกันโดยอาศัยการแปลจากโทรศัพท์มือถือ รถติดมาก จากสนามบินไปยังที่พักใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่า ฉันจำได้เพียงว่ารองกัปตันทีมชื่อ Raprap แม้ว่าจะไม่เคยรู้จักกับพวกเขามาก่อน แต่ได้เจอหน้าครั้งแรกก็รู้สึกเหมือนคนที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไม่รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวเลย พวกเขาดูแลฉันดีมาก”
[บทความ] นักวอลเล่ย์หญิงจีนเล่าประะสบการณ์เล่นวอลเล่ย์บอลในฟิลิปปินส์
หรือไม่ก็อาจจะยอมเป็นตัวสำรองให้สโมสรชานตงไปอีกสักหนึ่งฤดูกาล เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะได้ออกไปเล่นวอลเล่ย์ต่างแดนที่ฟิลิปปินส์เป็นเวลาเดือนกว่าๆ แม้ว่ามาตรฐานลีกฟิลิปปินส์จะไม่ได้สูง แต่ที่นี่ทำให้เธอได้สัมผัสถึงความสุขสนุกสนามอย่างแท้จริงของกีฬาวอลเล่ย์บอล "ถ้ามีโอกาสอีกฉันก็ยังอยากจะไปลองเล่นที่ลีกประเทศอื่นดูบ้าง การได้ออกไปเล่นต่างแดนก็ถือเป็นการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองวิธีหนึ่ง ทำให้ฉันเข้าใจวอลเล่ย์บอลได้ดีมากยิ่งขึ้น"
เซี่ยเหล่ยลังเลไตร่ตรองอยู่นาน “ใจฉันคิดอยากออกไปดูโลกภายนอก อยากไปดูว่าคนอื่นเขาฝึกซ้อมแข่งขันกันยังไง? แต่ก็กังวลว่าตัวเราไม่ได้ฝึกซ้อมมาเป็นเวลานาน เกรงว่าสภาพร่างกายจะไม่พร้อม ” แต่สุดท้ายเซี่ยเหล่ยก็ตัดสินใจออกไปเล่นดู ได้สมาคมวอลเล่ย์จีน เฝิงคุนให้ความช่วยเหลือในการย้าย เซี่ยเหล่ยจึงได้ย้ายไปเล่นสโมสร Cignal ของฟิลิปปินส์
มารอต้อนรับเธอถึงที่สนามบินมนิลา เซี่ยเหล่ยซึ่งพูดภาษาอังกฤษได้แต่ “Hello” กับ “Bye-Bye” ไม่รู้จะพูดสื่อสารแสดงความรู้สึกของตนออกมาได้ยังไง? จึงได้แต่ยิ้มหัวเราะ