เมื่อเดือนที่แล้วพ่อตาเสียครับ ไม่ขอเอ่ยว่าอยู่ที่ไหนละกัน ต้องกลับไปจัดงานศพ เลยเห็นว่าพระได้ตังค์เยอะแค่ไหน ตอนเช้าแม่ยายให้ไปรับพระครับก็ไปรับปกติ ไปถึงเห็นแต่ละองค์ไม่ธรรมดาเลย ลายเต็มตัว อย่างเก๋าอีกต่างหาก ดูดบุหรีขวันโขมง บางองค์ใส่หูฟังส่ายหัวยิกๆเป็นจังหวะ คิดในใจ คงไม่ได้ฟังเสียงสวดมนต์แน่ๆ  ผมก็เลยรับมาปกติ แต่ผมไม่ไหว้นะเพราะดูพฤติกรรมไม่น่าไหว้เลย มาถึงก็นั่งตามที่จัดไว้ไห้ ระหว่างรอ บางองค์ใส่หูฟัง ส่ายหัวยิกๆ บางองค์เล่นเฟสบ็คเช็ตไลน์แม่เจ้าโว้ย พอสวดเสร็จต้องถวายปัจจัย ตนนำสวดบอกต้องใส่ซองเจ้าอาวาสหนึ่งพันที่เหลือห้าร้อย ผมนี่ของขึ้นเลย ผมเลยถามพระว่าพระที่รับเงินหรือยินดีกับเงินเกินห้ามาศกค์นี่ตามพระธรรมวินัยนี่ต้องอาบัตินิสิคายะปาจิตตรี ไม่ใช่เหรอ ไม่เคยอ่านพระวินัยหรอ แค่นั้นแหละครับเกิดเรื่องขึ้นมากมาย ผมเกิอบโดนทั้งพระทั้งคนแก่กระทืบตายไปอีกตน 555 (เวอร์ไปนิด) ผมโดนแยกออกมาจากงานแล้วก็คุยกับคนนำสวดและคนเฒ่าคนแก่หลายๆคน เหตุผลเดียวที่เขากล่าวอ้างว่ามันเป็นประเพณีท้องถิ่นต้องเข้าใจ แต่เหตุผลที่ผมอธิบายให้เขาฟังคือถ้าเขาเป็นชาวพุทธทำไมไม่เอาตามพระไตรปิดกละ จะมาอ้างว่าเป็นประเพณีทำไม่ ถ้าพระแต่ละองค์ที่มาสำรวมและทำตัวดีกว่านี้ฟังเหตุฟังผลจะไม่ของขึ้นเลย ผมว่าว่าเคยศึกษาไหมพระไตรปิดก หรือเอาแต่ท่องบทสวดมนต์เอาไว้หาเงิน ผมกับพระหนุ่มสองสามองค์นั้นเกือบได้ต่อยกัน ชาวบ้านก็เหลือเกิน รู้ทั้งรูว่าพระเป็นไง มีคนบอกผมว่าทั้งเสพยาเล่นการพนันยังพากันกราบไหว้ให้ตังค์กันอยู่ได้ เหตุผลเขากล่าวอ้างว่ามันเป็นประเพณีท้องถิ่นต้องเข้าใจ ทำไงสังคมเราจึงจะรู้จักคิดบ้างอันไหนถูกไม่ถูก อันไหนควรแก้อันไหนควรรักษาไว้
ปล สรุปสวดสองวันค่าใส่ชองหมดไปเกือบหมื่นห้า แม่เจ้า แม่ยายบอกเงินแม่ยาย อย่าคิดมาก ในใจผมคิดก็ตังผมนั่นแหละก็ผมส่งให้ทุกเดือน เวรกำ ผมจึงไม่แปลกใจว่าพระทำไมถึงรวยกันจัง