“หมอพรทิพย์” ขึ้นเวทีหนุนปฏิรูป ซัด “ยิ่งลักษณ์” ถ้าใช้เงินตัวเอง 3 พันล้านเลือกตั้งยังจะเอาไหม

กระทู้ข่าว

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

“หมอพรทิพย์” โดดขึ้นเวทีหนุนปฏิรูป ซัด “ยิ่งลักษณ์” ถ้าใช้เงินตัวเอง 3 พันล้านเลือกตั้ง ยังจะเอาไหม ด้าน “ป๋าต๊อบ-ปีใหม่” เผยทนไม่ได้ที่เห็นสถาบันพระมหากษัตริย์กำลังจะถูกดึงลงต่ำ รับเมื่อก่อนเป็นไทยเฉยแล้วรู้สึกมองหน้าตัวเองไม่ติด ชี้ถ้าไม่ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เดี๋ยวก็ได้คนเดิมๆ กลับมา จวกเอาเงินภาษีไปถลุงหมด แล้วตัวเองก็ไปกู้เงินมาซื้อชาวนา สุดท้ายทุกอย่างก็เหมือนเดิม       
                
        ออกมาร่วมชุมนุมกับมวลมหาประชาชนแล้วหลายครั้ง ในส่วนของ “หมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์” เช่นเดียวกับการชุมนุมปิดกรุงเทพฯในวันนี้ โดยคุณหมอคนดังได้เดินทางมาร่วมสมทบกับผู้ชุมนุมที่แยกอโศก พร้อมกับขึ้นเวทีปราศรัย ก่อนเปิดเผยถึงสาเหตุของการมาแสดงพลังในครั้งนี้ว่า ตนมาในนามศิษย์เก่าของโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ที่ตระหนักว่าตอนนี้ปัญหาสังคมมีอยู่ 2 เรื่อง คือเรื่องของความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบ ซึ่งตนเป็นผู้หญิงจึงไม่อยากให้นายกฯที่เป็นผู้หญิงทำให้สังคมมาดูถูกผู้หญิงด้วยกัน
       
        “ที่มาขึ้นเวทีวันนี้ หมอมาในนามศิษย์เก่าของโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ปัญหาสังคมตอนนี้มีอยู่ 2 เรื่อง ก็คือเรื่องของความซื่อสัตย์ และความรับผิดชอบ เราเองก็เป็นผู้หญิง เราไม่อยากให้นายกฯที่เป็นผู้หญิง ทำให้สังคมมาดูถูกผู้หญิงในเรื่องความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นศิษย์เก่าโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยเลยมารวมตัวกัน”
       
        เรื่องแถลงไม่รับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน?
        “เราคิดว่าการเมืองเป็นเช่นนี้ อะไรที่เป็นประโยชน์กับตัวเองก็เลือกเอา อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์กับตัวเองก็ไปใส่ความไม่นับถือ ซึ่งมันทำให้ระบบเสียหมด”
       
        เผยส่วนตัวไม่ได้ให้ความสำคัญกับคนเสื้อขาวที่ออกมาจุดเทียนเรียกสันติ บอกใครก็แล้วแต่ถ้าทำอะไรไม่จริงใจจะแพ้ภัยตัวเอง
       “เรื่องนั้นไม่ต้องสนใจ ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำอะไรที่ไม่จริงใจ ก็จะได้รับผลของการกระทำเช่นนั้น หากเรามาและทำด้วยความจริงใจ ด้วยความซื่อสัตย์เราอย่าไปว่าใครเลย พลังที่ดีในความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบจะไปสู่เป้าหมายได้ดี สีอะไรก็ช่างถ้าไม่จริงใจจะจบ เขาจะพ่ายแพ้ไป”
       
        แสดงจุดยืนชัดเจนว่าสนับสนุนการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
       “แน่นอน ถามคำเดียวว่าเงิน 3 พันล้าน ถ้าเป็นเงินส่วนตัวของนายกฯ ยังจะยืนยันที่จะจัดการเลือกตั้งอีกไหม เอาเงินเขามาแลกกับเงินงบประมาณที่จะต้องเสียไปไหมเพื่อเป็นการตอบแทนแผ่นดิน”
       
        ด้านไฮโซตระกูลดัง “ป๋าต๊อบ ปฏิญญา ควรตระกูล” และแฟนสาว “ปีใหม่ สุมนต์รัตน์ วัฒนาเศลารัตน์” ที่ขนปาท่องโก๋มาแจกจ่ายผู้ชุมนุมที่แยกราชประสงค์ และเป็นอีกหนึ่งคู่ของวงการบันเทิงที่เลือกข้างอย่างชัดเจนในการต่อสู้ครั้งนี้ โดยป๋าต๊อบเผยตนทนไม่ได้ที่เห็นสถาบันพระมหากษัตริย์โดนจวบจ้วงและกำลังจะถูกดึงลงต่ำ ลั่นเห็นด้วยกับการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
       ป๋าต๊อบ : “วันนี้ก็มาช่วยแรงครับ เขามีอะไรให้ช่วยก็มาช่วย ก็มาช่วยเต็มที่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราก็มีแค่นี้ วันนี้ตั้งใจจะเอาปาท่องโก๋มาแจก แต่ตอนนี้ยังหาโต๊ะตั้งไม่ได้ เลยมาช่วยเขาขายเสื้อก่อน”
       
        ปีใหม่ : “เรามาร่วมชุมนุมตั้งแต่เขาประกาศคัดค้านนิรโทษกรรมวันแรกเลย เราไม่ได้มีพรรคพวกหรือไปชวนใครมา หรือว่าใครมาชวนเรา เรามาด้วยความสมัครใจ เราบอกนะว่าเราจะมา ใครจะมากับเราก็มานะ”
       
        บอกที่ออกมาเพราะรับไม่ได้ที่สถาบันพระมหากษัตริย์กำลังจะโดนดึงลงต่ำ ซัดหลักฐานอยู่ตรงหน้ายังบอกไม่ได้ทำ ลั่นตอนนี้เลือกข้างแล้ว 100%
        ป๋าต๊อบ : “เรื่องการเมืองเราไม่รู้ แต่เหตุผลที่เรามามีอย่างเดียวคือเรารู้สึกไม่ชอบใจที่สถาบันพระมหากษัตริย์กำลังจะโดนดึงลงมา ถามว่ามันเป็นเรื่องจริงไหม เราเองก็ไม่รู้หรอก แต่เรารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรแตะต้อง เราพิสูจน์ไม่ได้หรอกว่าใครพูดไม่พูด แต่ก็มีคลิปออกให้เห็นชัดเจน หลักฐานวางอยู่ตรงหน้ามันยังบอกว่ามันไม่ได้ทำเลย”
       
        ปีใหม่ : “เรารู้สึกว่าคนไทยเฉยกับการคอร์รัปชันมานานมากแล้ว จนมันมาถึงจุดสูงสุดในการคอร์รัปชันแล้ว ถ้ายังปล่อยให้เกิดการคอร์รัปชันไปมากกว่านี้ประเทศไทยคงจะไม่เหลืออะไร ถ้าเราไม่ออกเราอาจจะมีวันที่เราได้เห็นประเทศไทยตายไปกับตาเราเห็นๆ โดยที่เราไม่ทำอะไรเลย ซึ่งเราไม่อยากปล่อยไปให้มันถึงจุดๆ นั้น แล้วเราทำอะไรไม่ได้เลยเราคงเสียใจมาก ตอนนี้เราก็ทำเท่าที่เราทำได้คือการออกมาแสดงพลัง ว่าเรามีความตั้งใจที่จะต่อต้านคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ ตั้งแต่จุดสูงจุดยันรากหญ้า ก่อนหน้านี้ก็มีคลิปต่างๆ ออกมาให้เห็นมากมาย เราค่อนข้างชัวร์นะว่าเราเลือกข้าง ก็เลือกข้างมาเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว”
       
        ป๋าต๊อบ : “กูไม่เป็นกลาง ไม่ใช่เราแล้ว ต้องใช้คำว่ากู กูอยู่ข้างในหลวง”
       
        ปีใหม่ : “ไม่ใช่แค่ในหลวงคนเดียว กว่าพระมหากษัตริย์จะรวมประเทศกันมาได้ กี่รัชกาลมาแล้ว กว่าจะรวมผืนแผ่นดินไทยเป็นรูปขวานทองนี้ได้”
       
        รับไม่กลัวที่ออกมาเปิดหน้าเปิดตัวแบบนี้ เพราะถ้ามัวแต่กลัวประเทศชาติคงเดินต่อไม่ได้ บอกคนที่เสียสละมากกว่าตนมีเยอะมาก
       ป๋าต๊อบ : “ถามว่ากลัวไหม ถ้าทุกคนกลัวหมด ก็คงไม่มีอะไรก้าวไปข้างหน้า ทุกวันนี้มีคนที่เขาเสียสละมากกว่าเราอีกเยอะ ที่เราทำแค่จุดเล็กๆ เท่านั้นเอง คนเหล่านั้นเขายังไม่กลัวกันเลย เราเอาหน้าอะไรที่ไหนไปกลัว ผลกระทบของเรามีอย่างเดียวคือหาห้องน้ำเข้าลำบากมากเวลาไปชุมนุมแต่ละครั้ง สำหรับธุรกิจเราก็ไม่มีผลกระทบอะไรนะ มันเหมือนเป็นการคัดลูกค้าไปโดยปริยาย ช่วงคริสต์มาส ต้นคริสต์มาสเราก็เป็นสีธงชาติ ลูกน้องเราก็ให้ห้อยนกหวีด เขาก็จะได้รู้กันไปเลยว่าถ้าเขาไม่ชอบใจ เขาก็ไม่ต้องมา ถ้าคนไหนถูกใจกันแล้วมาก็แฮปปี้ แต่ถ้าเขาไม่ชอบใจเรา แล้วรู้จักสงบปากสงบคำเราก็ยินดี เพราะเราเป็นคนที่ไม่เกเร”
       
        ปีใหม่ : “ถามว่าตอนแรกกลัวไหมกลัวมากเหมือนกัน กลัวว่ามันจะมีผลกระทบ แต่ด้วยคนรอบข้างเราเขาก็ชัดเจนกันหมด เราเองก็รู้สึกไม่ดี แต่เราไม่กล้าออกมา แต่พี่ต๊อบบอกอยากจะออกจะแย่แล้ว เผอิญวันนั้นเห็นหัวหน้าเรา (บอย ถกลเกียรติ) ก็มา เราก็เลยสบายใจที่เราจะออกแสดงจุดยืนเหมือนกัน”
       
        คิดว่าถ้าไม่รวมตัวกันแสดงพลังในวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
        ป๋าต๊อบ : “ถ้าเรายังเป็นไทยเฉยไม่ออกมารวมกันเขาก็สบายกันเลย เขาก็เลือกตั้ง คนเดิมๆ ก็ออกมาเหมือนเดิม เอาเงินเราไปถลุงหมด แล้วเขาก็ไปกู้เงินมาจ่ายชาวนาไว้ก่อน แต่สุดท้ายทุกอย่างก็เหมือนเดิม เรารู้แต่ว่าถ้าตราบใดที่เลือกตั้งแล้วยังเป็นคนกลุ่มเดิมๆ ไม่มีการปฎิรูปอะไรใหม่ๆ มันเสียเวลา เสียเวลาของชาติบ้านเมือง เสียเวลาของคนทุกคน มีแต่เสีย เสียเวลากูออกจากบ้านด้วย แล้วกูก็จะไม่ไป เราไปไม่ไปเขาก็ไม่สน เพราะเขาถือว่าเขาซื้อได้ เขาถึงไม่สนไง ดูสิเราออกมากี่ล้านคนเขาแคร์ไหม แล้วคนพวกนี้กูน่ะโหวตให้นะ แล้วพอกูไม่โหวตยังบอกว่าไม่สน ไม่เอาโหวตกูเลย แล้วจะไปเอาโหวตมาจากไหนล่ะ”
       
        ยอมรับว่าตนเองเคยเป็นไทยเฉย บอกระอายใจที่มองตัวเองในกระจกไม่ติดจึงต้องออกมา
       ป๋าต๊อบ : “เรายอมรับนะว่าเราเคยเป็นไทยเฉย ยอมรับความจริงว่ามองหน้าตัวเองในกระจกไม่ติด มองไปแล้วเรามีความรู้สึกว่าเอ๊ะทำไมเราถึงไม่รู้จักทำอะไรบ้างนะ เราก็ขอให้คนเหล่านั้นกรุณากลับไปที่ห้องน้ำ เปิดไฟสว่างๆ สักนิดเพื่อมองตัวเอง ถ้าคุณรับตัวคุณเองได้แล้วแต่แค่คุณ แต่สำหรับเรา เรารับตัวเราเองไม่ได้ เราจึงต้องออกมา”
       
        ปีใหม่ : “ใครมองว่าเราเกิดบนแผ่นดินที่เราอยู่ หาเงินอยู่กับแผ่นดินไทยของเรา ถ้าเราไม่รู้จักทำอะไรเพื่อบ้านเมืองบ้าง ไม่อยากเลือกฝ่ายไหน ช่วยกลับไปอ่านข้อมูลของทั้งสองฝ่ายดู แล้วก็เลือกวิเคราะห์ดูเอาก็ได้นะคะ เราไม่ได้บอกว่าให้มาอยู่ฝ่ายเรา แต่ช่วยทำอะไรสักอย่างนึงที่ไม่ใช่ว่ามันไม่เกี่ยวกับเรา หรือมองแค่ผลประโยชน์ของตัวเอง แค่หันมามองข้างๆ บ้างว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง หาอ่านข้อมูลแล้วก็เลือกเถอะค่ะ”
       
        ขณะที่นักแสดงหนุ่ม “ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” ที่ก็ได้ออกมาแสดงจุดยืน พร้อมกับมารดา ที่แยกราชประสงค์ โดย ณัฏฐ์ ได้เผยว่าการออกมาครั้งนี้นับเป็นการออกมาโดยที่ทุกคนไม่กลัวอำนาจมืดใดๆ บอกตนไม่อยากเห็นนักการเมืองทำร้ายประชาชนอีก ซึ่งไม่ว่าจะมีการชุมนุมยืดเยื้อไปนานแค่ไหน ตนก็จะยังมาร่วมชุมนุมจนกว่าทุกอย่างจะดีขึ้น

       “ผมคิดว่า คนที่ออกมาทุกคนตั้งใจกันมา บางคนถึงกับหยุดทำงานเพื่อมาร่วมชุมนุม ผมในฐานะประชาชนคนหนึ่ง อยากร่วมแสดงความคิดเห็น อยากแสดงจุดยืน ซึ่งการที่ผมได้เข้ามาร่วมชุมนุมอยู่บ่อยครั้ง ผมสังเกตได้ว่า ม็อบครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งอื่น เพราะเป็นพลังทางบวก ไม่มีความติดลบ ไม่มีความรุนแรง เรียกว่าเป็นการรวมใจของทุกคนเกือบจะทั้งประเทศ โดยประชาชนที่ออกมา ผมคิดว่าพวกเขาคงทนไม่ไหวกับหลายสิ่งหลายอย่างที่ผ่านมา มันมาจากจิตสำนึกของทุกคน โดยเริ่มต้นมาจากการที่มีคนทำผิดแล้วไม่เป็นอะไร ซึ่งมันไม่ใช่”
       
        “รวมถึงในโซเชียลมีเดียต่างๆ ผมในฐานะนักแสดงคนหนึ่ง ผมรู้ว่าทำอะไรคงเป็นที่จับตามอง ซึ่งการที่เราออกมาครั้งนี้ ถือว่าเป็นการออกมาโดยไม่ต้องกลัวอำนาจมืดใดๆ ผมเชื่อว่าคนไทยอยากเห็นประเทศชาติสันติ แล้วอยากให้สิ่งที่ไม่ถูกต้อง มีการทำให้ถูกต้องสักที ผมเชื่อว่าต่อจากไปทุกอย่างจะดีขึ้น จะไม่มีการคอร์รัปชัน ไม่ว่าพรรคการเมืองไหนจะขึ้นมาบริหารประเทศ ทุกคนต้องทำงานเพื่อประเทศชาติ จะไม่มีการขึ้นมาเพื่อหาประโยชน์ให้พวกพ้องเดียวกัน ผมไม่อยากเห็นนักการเมืองขึ้นมาทำร้ายประชาชนอีก ซึ่งผมไม่รู้เหมือนกัน การชุมนุมว่าจะยืดเยื้อไปนานแค่ไหน แต่คงจะชุมนุมไปจนกว่าทุกอย่างจะดีขึ้น และไม่ว่าจะลงเอยเช่นไร ทุกอย่างต้องดีขึ้นโดยไม่มีความรุนแรง”

ข่าวจาก  :  ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9570000004605
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่