ฮือฮา ! ญี่ปุ่นจ้างไทยสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล นับเป็นโรงงานไทยแห่งแรกบนแผ่นดินญี่ปุ่น เชื่อว่าญี่ปุ่นหวั่นเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด
ญี่ปุ่นจ้างไทยสร้างโรงงานพลังงานทดแทน ที่ผลิตไฟฟ้า จากชีวมวล มูลค่า100 ล้านบาท กำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ ไปตั้งที่เซ็นไดพื้นที่เกิดสึนามิ เพื่อใช้ทดแทนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เตรียมแถลงข่าวใหญ่พร้อมลงมือก่อสร้างปลายเดือน ก.พ.นี้ ที่ญี่ปุ่น ผอ. เผยเป็นโรงงานไทยโรงงานแรกในแดนปลาดิบ
โรงงานพลังงานทดแทนผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลของไทยผงาด ประเทศญี่ปุ่นขอไปตั้งเป็นโรงงานต้นแบบ เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 12 ม.ค. โดยนายศุภชัย หล่อโลหการ ผอ.สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(สนช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่าขณะนี้ รัฐบาลประเทศญี่ปุ่นได้ลงนามความร่วมมือกับสำนักงานนวัตกรรมฯ เพื่อให้สำนักงานนวัตกรรมฯไปสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล โดยเทคโนโลยีแก๊สซิฟิเคชั่นซึ่งเป็นการแปรรูปชีวมวลให้เป็นพลังงานในรูปก๊าซเชื้อเพลิง โดยอาศัยกระบวนการทางเคมี และความร้อนจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงในสภาวะจํากัดปริมาณอากาศ ณ จังหวัดเซ็นได ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดสึนามิเมื่อวันที่ 11 มี.ค.2554 ที่ผ่านมา ถือเป็นโรงงานไทยโรงงานแรกในประเทศญี่ปุ่น ที่มีการใช้เทคโนโลยีแก๊สซิฟิเคชั่นจากประเทศไทย
นายศุภชัยกล่าวว่า โดยต้นแบบมาจากบริษัท สลักเพชร รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์ยี่จำกัด จ.ร้อยเอ็ดที่สำนักงานนวัตกรรมฯให้การสนับสนุน โดยโรงงานดังกล่าวจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 1 เมกะวัตต์ เท่ากับประมาณการใช้ไฟฟ้าได้ 1,000-2,000 หลังคาเรือน มูลค่าการก่อสร้างโรงงาน และการถ่ายทอดเทคโนโลยี จำนวน 320 ล้านเยน หรือ 100 ล้านบาท สำหรับชีวมวลที่จะนำมาผลิตไฟฟ้า จะนำมาจากเศษวัสดุที่เสียหายจากการเกิดสึนามิ และผลิตผลทางการเกษตรซึ่งมีจำนวนมาก นอกจากนั้นจะให้ทำพลังงานจากลมและแสงอาทิตย์ด้วย
นายศุภชัยกล่าวต่อว่า สาเหตุที่รัฐบาลญี่ปุ่น ให้ความสนใจสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบายให้ชะลอ และยกเลิกการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ภายใน 10 ปีจากนี้ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดโศกนาฏกรรมเหมือนที่ผ่านมาประกอบกับคนในประเทศไม่ไว้ใจ จึงมาขอดูโรงงานผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลของประเทศไทย จำนวน12 โรง ที่สำนักงานนวัตกรรมฯให้การสนับสนุนทั่วประเทศ เมื่อเดือน ธ.ค.2556 ที่ผ่านมา และให้ความสนใจขอซื้อเทคโนโลยีจากประเทศไทยเพื่อไปตั้งโรงงานผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลต้นแบบ โดยในอนาคตประเทศญี่ปุ่นมีแผนที่จะขยายโรงงานต้นแบบให้ครอบคลุมทั่วประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างพลังงานทดแทนนิวเคลียร์ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศญี่ปุ่นไม่เคยให้ความสำคัญกับโรงงานผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล เพราะมองว่าทำแล้วไม่คุ้มค่าเหมือนกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ทั้งนี้ประมาณปลายเดือน ก.พ.นี้ จะมีการแถลงข่าวใหญ่ที่จังหวัดเซ็นได ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างสำนักงานนวัตกรรมฯกับรัฐบาลญี่ปุ่น จากนั้นจะเริ่มก่อสร้างใช้เวลาประมาณ6 เดือน
“ถือเป็นความภูมิใจที่สุดของคนไทย เพราะเป็นโรงงานผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลโรงงานแรกของโลกที่ไปตั้งที่ประเทศญี่ปุ่น ทุกอย่างเป็นของคนไทยทั้งหมดทั้งบุคลากร เทคโนโลยี ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะประเทศญี่ปุ่นมีความทะนงตัว และไม่ยอมให้ใครมาตั้งโรงงานในประเทศตัวเองง่ายๆ มีแต่บริษัทญี่ปุ่นไปตั้งโรงงานที่ประเทศอื่น” ผอ.สำนักงานนวัตกรรมฯ กล่าวและว่า สำหรับโรงงานพลังงานทดแทนผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลได้รับการยอมรับว่ามีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในโลก
อาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อม
https://www.facebook.com/EPV.or.th
ฮือฮา ! ญี่ปุ่นจ้างไทยสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล
ฮือฮา ! ญี่ปุ่นจ้างไทยสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล นับเป็นโรงงานไทยแห่งแรกบนแผ่นดินญี่ปุ่น เชื่อว่าญี่ปุ่นหวั่นเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด
ญี่ปุ่นจ้างไทยสร้างโรงงานพลังงานทดแทน ที่ผลิตไฟฟ้า จากชีวมวล มูลค่า100 ล้านบาท กำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ ไปตั้งที่เซ็นไดพื้นที่เกิดสึนามิ เพื่อใช้ทดแทนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เตรียมแถลงข่าวใหญ่พร้อมลงมือก่อสร้างปลายเดือน ก.พ.นี้ ที่ญี่ปุ่น ผอ. เผยเป็นโรงงานไทยโรงงานแรกในแดนปลาดิบ
โรงงานพลังงานทดแทนผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลของไทยผงาด ประเทศญี่ปุ่นขอไปตั้งเป็นโรงงานต้นแบบ เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 12 ม.ค. โดยนายศุภชัย หล่อโลหการ ผอ.สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(สนช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่าขณะนี้ รัฐบาลประเทศญี่ปุ่นได้ลงนามความร่วมมือกับสำนักงานนวัตกรรมฯ เพื่อให้สำนักงานนวัตกรรมฯไปสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล โดยเทคโนโลยีแก๊สซิฟิเคชั่นซึ่งเป็นการแปรรูปชีวมวลให้เป็นพลังงานในรูปก๊าซเชื้อเพลิง โดยอาศัยกระบวนการทางเคมี และความร้อนจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงในสภาวะจํากัดปริมาณอากาศ ณ จังหวัดเซ็นได ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดสึนามิเมื่อวันที่ 11 มี.ค.2554 ที่ผ่านมา ถือเป็นโรงงานไทยโรงงานแรกในประเทศญี่ปุ่น ที่มีการใช้เทคโนโลยีแก๊สซิฟิเคชั่นจากประเทศไทย
นายศุภชัยกล่าวว่า โดยต้นแบบมาจากบริษัท สลักเพชร รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์ยี่จำกัด จ.ร้อยเอ็ดที่สำนักงานนวัตกรรมฯให้การสนับสนุน โดยโรงงานดังกล่าวจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 1 เมกะวัตต์ เท่ากับประมาณการใช้ไฟฟ้าได้ 1,000-2,000 หลังคาเรือน มูลค่าการก่อสร้างโรงงาน และการถ่ายทอดเทคโนโลยี จำนวน 320 ล้านเยน หรือ 100 ล้านบาท สำหรับชีวมวลที่จะนำมาผลิตไฟฟ้า จะนำมาจากเศษวัสดุที่เสียหายจากการเกิดสึนามิ และผลิตผลทางการเกษตรซึ่งมีจำนวนมาก นอกจากนั้นจะให้ทำพลังงานจากลมและแสงอาทิตย์ด้วย
นายศุภชัยกล่าวต่อว่า สาเหตุที่รัฐบาลญี่ปุ่น ให้ความสนใจสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบายให้ชะลอ และยกเลิกการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ภายใน 10 ปีจากนี้ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดโศกนาฏกรรมเหมือนที่ผ่านมาประกอบกับคนในประเทศไม่ไว้ใจ จึงมาขอดูโรงงานผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลของประเทศไทย จำนวน12 โรง ที่สำนักงานนวัตกรรมฯให้การสนับสนุนทั่วประเทศ เมื่อเดือน ธ.ค.2556 ที่ผ่านมา และให้ความสนใจขอซื้อเทคโนโลยีจากประเทศไทยเพื่อไปตั้งโรงงานผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลต้นแบบ โดยในอนาคตประเทศญี่ปุ่นมีแผนที่จะขยายโรงงานต้นแบบให้ครอบคลุมทั่วประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างพลังงานทดแทนนิวเคลียร์ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศญี่ปุ่นไม่เคยให้ความสำคัญกับโรงงานผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล เพราะมองว่าทำแล้วไม่คุ้มค่าเหมือนกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ทั้งนี้ประมาณปลายเดือน ก.พ.นี้ จะมีการแถลงข่าวใหญ่ที่จังหวัดเซ็นได ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างสำนักงานนวัตกรรมฯกับรัฐบาลญี่ปุ่น จากนั้นจะเริ่มก่อสร้างใช้เวลาประมาณ6 เดือน
“ถือเป็นความภูมิใจที่สุดของคนไทย เพราะเป็นโรงงานผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลโรงงานแรกของโลกที่ไปตั้งที่ประเทศญี่ปุ่น ทุกอย่างเป็นของคนไทยทั้งหมดทั้งบุคลากร เทคโนโลยี ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะประเทศญี่ปุ่นมีความทะนงตัว และไม่ยอมให้ใครมาตั้งโรงงานในประเทศตัวเองง่ายๆ มีแต่บริษัทญี่ปุ่นไปตั้งโรงงานที่ประเทศอื่น” ผอ.สำนักงานนวัตกรรมฯ กล่าวและว่า สำหรับโรงงานพลังงานทดแทนผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลได้รับการยอมรับว่ามีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในโลก
อาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อม https://www.facebook.com/EPV.or.th