ขอโทดครับ หายไปนาน ไม่ค่อยว่างตามเคย เอาเป็นว่า จะรีบๆเล่าไปเลยละกันนะครับ
ความเดิมตอนที่แล้ว
http://ppantip.com/topic/31408442
ท้าวความถึงก่อนหน้านี้ กายตัดสินใจที่จะไปนอนบ้านผม ซึ่งผมก็อนุญาติ
เมื่อถึงบ้าน ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่เคย อย่างที่มันเคยเกิดขึ้น อย่างที่เพื่อนคนนึงมานอนบ้านเพื่อนอีกคนนึง จนกระทั้งผมก็ลองแกล้งถามมันขึ้นมา จะด้วยฤทธิ์เหล้าหรืออะไรก็ตามที่ทำให้ผมกล้าพูดออกไป...
"กาย" ผมเรียก
"ห๊ะ"
"กุเมิงจริงๆเถอะ คิดไรกับกูป่าววะ"
กายหันมามองผม "กูก้ไม่รู้ว่ะ กูไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้ชาย แต่ทุกครั้งเวลากุอยู่กับเมิง กูก็รู้สึกดี"
"เมิงก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันใช่มั้ย"
กายพยักหน้าตอบรับ แล้วมันก็เข้ามากอดผม
ความรู้สึกของผมตอนนั้น มันแปลกมาก พอมันบอกว่ามันเองก็รู้สึกดีกับผม ผมก็กลับรู้สึกเฉยๆซะงั้น ราวกับว่าภาระกิจของผมมันเสร็จสิ้นลงแล้ว ผมสับสนมาก และคิดอยู่ครู่หนึ่งว่าผมจะเอายังไงต่อไป ผมรู้สึกดีกับมันจริงๆรึเปล่า แต่ด้วยเพราะผมนั้น ยังไม่มีครั้งทั้งสิ้น และมันดูแลผมได้ ทั้งเราก็ยังใกล้ชิดกัน ผมจึงตัดสินใจ "กูรักเมิงนะ"
กายยิ้มให้ "กุก็รักเมิง"
แต่รอยยิ้มของมันดูง้องแง้งยังไงไม่รู้ ตอนนั้น ไม่รู้สึกไม่ค่อยชอบเลย ผมจึงทำเป็นพูดเล่นๆกับมันไป "อย่ายิ้มงี้ดิ รู้สึกแปลกๆ"
"ทำไมอ่ะ" มันพูด
"ไม่รู้ดิ" แต่แล้วผมก็ขึ้นคิด ด้วยเพราะมันเป็นเพื่อน และผมไม่อยากเสียเพื่อนไป ผมคิดจะจริงจังกับมันแล้วกัน "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กูขอร้องนะ ถ้าจะเลิกขอให้เราสองคนจบปี 4 ก่อน โอเคป่าววะ"
กายพยักหน้าให้ผม "ส่วนเมิงมีอะไรก้พูดกันตรงๆนะ"
"อืม" ผมตอบ แต่แน่นอน ผมคงไม่กล้าบอกมันไปตรงๆหรอก ว่า ตอนนี้ผมกำลังสับสน เพราะอย่างที่บอก ผมคงไม่อยากเสียมันไป อยู่กันไปเรื่อยๆ เด่วสักวันก็คงรักได้เต็มที่เองล่ะ
ทุกท่านอย่าเพิ่งคิดไปลึกมากมายนะครับ คืนนั้นน่ะ ยังไม่เกิดอะไรขึ้นทั้งนั้น ต่างคนก้ต่างนอน ไม่มีอะไรเลยจริงๆ และวันรุ่นเช้า ผมกับมันก็ไปเรียนตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คงจะเป็นสีหน้าแววตาของผมที่มันแสดงออกชัดเจนมากว่ามีความสุข จนเพื่อนทัก ผมก้เลยบอกความจริงไปเฉพาะคนที่ผมไว้ใจเท่านั้น ส่วนคนอื่น ผมน่ะยังไม่กล้า
ความสัมพันธ์เราพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ในลักษณะแบบหลบซ่อนเพราะกายมันขอผมไว้ไม่ให้บอกใคร แต่คนมันก็เริ่มสงสัยกันเรื่อยๆ และเริ่มรู้ความจริง กันไปคนสองคน มันก้แอบรู้สึกอึดอัดนะครับกับความสัมพันธ์แบบนี้ ก็บางครั้งเขาก็ทำเหมือนไม่สนใจผม จนผมก็แอบคิดอยู่บ่อยๆว่า หรือมันจะไม่ใช่ แต่ไม่รู้สิครับ ยิ่งนับวัน ผมก้ยิ่งรักมันมากขึ้นทุกทีๆ จนกระทั้ง ผม มัน และเพื่อนๆ ต้องไปทำงานกันที่เชียงใหม่ ในตอนนั้น แม้เราจะได้อยู่กัน 24 ชม. แต่ผมกลับรู้สึกนอยบ่อยเหมือนกัน เพราะการแสดงออกของมันที่ทำเหมือนไม่ใส่ใจ เพราะมันไม่ได้มีแค่เพื่อนๆ แต่มีรุ่นพี่ด้วย ซึ่งมันเคยขอไว้ว่าไม่ให้บอกรุ่นพี่ ซึ่งมันอ้างว่าเหตุผล คือ มันไม่อยากให้พวกพี่ๆที่เป็นตุ๊ดรู้ มันรำคาญ ผมก็ทำตามนั้น ช่วงที่อยู่ที่นั่น เราสองคนจึงมีปัญหากันบ่อยเพราะผมอึดอัด
จนกระทั้งกลับมากรุงเทพ ซึ่งวันนั้นเป็นวันเดียวกับวันเกิดของรุ่นพี่คนนึง ซึ่งเขาก็เลี้ยงฉลองกันตามปกติ อบายมุขต่างๆก้ต้องมีพอสังสรรค์ และ ความเมา ขาดสติก็ตามมา และด้วยเหตุนี้เอง เพื่อนผมคนนึงที่มาร่วมงานนี้ด้วย จึงหลุดพุดออกมาว่า "นายกับกายคบกัน" ลำพังผมน่ะไม่เป็นไรเลย เพราะผมก็ไม่ได้อยากปิดบังอยู่แล้ว แต่กายกลับหน้าซีดและแสดงอาการไม่พอใจมาก
ครู่หนึ่ง... "กูไปห้องน้ำก่อนนะ" กายพูด
"ไปเป็นเพื่อนป่ะ" ผมถาม
"ไม่เป็นไร" แล้วกายก้เดินออกไป
แต่ที่แปลกคือ กายหายไปนานมาก จนผิดปกติ ผมเลยตามไปดูที่ห้องน้ำ และที่แปลกขึ้นอีกคือ ที่ห้องน้ำไม่มี ผมเริ่มรู้สึกสงสัยในการกระทำของคนๆนี้ขึ้นมาอย่างสังหรณ์ชอบกล และเหมือนมีเซ้นบางอย่างบอกผมให้ผมออกไปนอกร้าน และแล้วภาพที่ผมเห็นมันทำให้ผมแทบช็อค
พี่ที่เป็นเจ้าของวันเกิด(ซึ่งเป็นผู้ชาย)กำลังร้องไห้ โดยที่กายกำลังเข้าไปกอดอยู่พอดี มันเกิดอะไรขึ้นกับผม ผมคิด ผมตกใจมาก จนไม่รู้ว่าอะไรคืออะไร และความสนุกในคืนนั้นสำหรับผมก้จบลง ผมกลับบ้านเลยทันที
ไม่มีเสียงโทรศัพท์ใด โทรเข้ามาทั้นสิ้น ทุกอย่างเงียบไร้วี้แววคำแก้ตัวใดๆ ผมต้องทนอยู่กับภาพที่ผมไม่ทันรับมือ อยู่ประมาณ 3 วัน จนผมรู้แล้วว่าผมกำลังทนไม่ไหว ผมเลยตัดสินใจ โทรไปหากายเพื่อคุยให้รู้เรื่อง ... ไม่รับ กายไม่รับโทรศัพท์ผมทั้งหมดเกือบ 20 สาย จนในที่สุด ผมก็บุกไปที่บ้านเพื่อคุยกับมัน
เมื่อถึงบ้านมัน ผมกดออด แล้วมันก็เดินออกมา
"มันเกิดอะไรขึ้น" ผมถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ
"เมิงอ่ะ เป็นอะไร อยู่ๆก็ออกไปเฉยเลย" มันย้อน
"แล้วที่เมิงกอดพี่ปอคือ?"
"ก็พี่ป่าววะ กุก้ไม่ได้คิดอะไร กุกะเค้าสนิทกันนานแล้ว"
"หรอ" ผมก็รู้อยู่ในตอนนั้น ว่าเขาโกหก แต่ผมก็อดคิดไม่ได้ว่า ผมอาจจะเข้าใจผิด "แล้วทำไมเมิงไม่รับสายกุ"
"กุเอามือถือไปซ่อม"
"หรอ?"
" เมิงไม่เชื่อใจกุเลย" คำพูดนี้ยิ่งทำให้ผมสับสนหนักเข้าไปอีก
"กุขอโทด ต่อไปนี้กุจะพยายามเชื่อใจเมิง"
"พยายาม? ภ้าเมิงไม่เชื่อใจกุ แล้วเมิงจะคบกับกุทำไม"
"เมิงรู้สึกกับกูไม่เหมือนเดิมแล้วใช่มั้ย"
"มั้ง"
"ตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ตั้งแต่ที่เมิงชอบนอยใส่กุ"
"งั้นเราควรเลิกกันใช่มั้ย"
"กุมีความสุขกว่าเวลาเราเป็นเพื่อนกัน เมิงกลับมาเป็นเพื่อนกับกุได้มั้ย"
ผมพยักหน้า ทั้งน้ำตา แล้วผมก็ขอตัวกลับบ้าน
แต่ตลกดีมั้ยล่ะ หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน ผมก้ได้รู้ความจริงจากเพื่อนนึง ที่มันชอบพูดจนไม่มีหูรูดว่า กายคบซ้อน
และเมื่อผมถามกาย เค้าก็มีแต่ปฏิเสธและโกหกไปเรื่อยๆ
จนกระทั้งวันหนึ่ง ผมก็แอบไปดักเจอเขาที่บ้าน ซึ่งผมรู้ว่าคืนนี้ เขาไปเที่ยว และแล้วความจริงก็เปิดเผย เมื่อ พี่ปอ เจ้าของวันเกิดในวันนั้น ขับรถมาส่งกายที่บ้าน และยังมีฉากที่ทั้งคู่จับมือกัน และนั่นทำจึงทำให้เขาทั้งสองเพิ่งยอมรับ
ยังไงดีล่ะ มันเป็นเรื่องตลกที่สุดแสนจะเจ็บปวดเสียจริงในชีวิตผม คนที่ผมให้ใจ และไว้ใจมาก กลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด ตลอดเวลาเขาโกหกผมมาตลอด เขาเป็นเกย์ และเขาก็มีคนของเขาอยู่แล้ว แต่เขากลับปิดบังผม ปิดบังทุกคน แล้วทำไมผมต้องมารับกรรมตรงนี้ด้วย เฮ้อ เขาไม่จำเป็นต้องบอกผมว่าเขาเป็นอะไรก้ได้ แต่ถ้ามีใครอยู่แล้ว ก้แค่บอกกันตรงๆว่า มีแล้ว คบกับผมไม่ได้ เรื่องอย่างนี้คงจะไม่เกิด ทุกวันนี้ เรายังต้องเจอกันอยุ่ทุกวัน และเราสองคนมองหน้ากันไม่ติดอีกแล้ว และบาดแผลครั้งนี้ มันก็กลายเป็นรอยแผลเป็นที่มันทำให้ผมทรมทานมาก ผมยังอยากมีใครสักคนนึง แต่เพราะเหตุการณ์นี้ มันทำให้ผมกลัวความรักไปเลย กลัวที่จะเจ็บเพราะความรัก ไม่รู้ว่ามันจะอีกนานแค่ไหน แต่ที่ผมรู้ตอนนี้ ผมกำลังใช้ชีวิตอย่างว่างเปล่า และทรมานเหลือเกิน
ระหว่างเราคืออะไร (ตอน 3-จบ)
ความเดิมตอนที่แล้ว http://ppantip.com/topic/31408442
ท้าวความถึงก่อนหน้านี้ กายตัดสินใจที่จะไปนอนบ้านผม ซึ่งผมก็อนุญาติ
เมื่อถึงบ้าน ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่เคย อย่างที่มันเคยเกิดขึ้น อย่างที่เพื่อนคนนึงมานอนบ้านเพื่อนอีกคนนึง จนกระทั้งผมก็ลองแกล้งถามมันขึ้นมา จะด้วยฤทธิ์เหล้าหรืออะไรก็ตามที่ทำให้ผมกล้าพูดออกไป...
"กาย" ผมเรียก
"ห๊ะ"
"กุเมิงจริงๆเถอะ คิดไรกับกูป่าววะ"
กายหันมามองผม "กูก้ไม่รู้ว่ะ กูไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้ชาย แต่ทุกครั้งเวลากุอยู่กับเมิง กูก็รู้สึกดี"
"เมิงก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันใช่มั้ย"
กายพยักหน้าตอบรับ แล้วมันก็เข้ามากอดผม
ความรู้สึกของผมตอนนั้น มันแปลกมาก พอมันบอกว่ามันเองก็รู้สึกดีกับผม ผมก็กลับรู้สึกเฉยๆซะงั้น ราวกับว่าภาระกิจของผมมันเสร็จสิ้นลงแล้ว ผมสับสนมาก และคิดอยู่ครู่หนึ่งว่าผมจะเอายังไงต่อไป ผมรู้สึกดีกับมันจริงๆรึเปล่า แต่ด้วยเพราะผมนั้น ยังไม่มีครั้งทั้งสิ้น และมันดูแลผมได้ ทั้งเราก็ยังใกล้ชิดกัน ผมจึงตัดสินใจ "กูรักเมิงนะ"
กายยิ้มให้ "กุก็รักเมิง"
แต่รอยยิ้มของมันดูง้องแง้งยังไงไม่รู้ ตอนนั้น ไม่รู้สึกไม่ค่อยชอบเลย ผมจึงทำเป็นพูดเล่นๆกับมันไป "อย่ายิ้มงี้ดิ รู้สึกแปลกๆ"
"ทำไมอ่ะ" มันพูด
"ไม่รู้ดิ" แต่แล้วผมก็ขึ้นคิด ด้วยเพราะมันเป็นเพื่อน และผมไม่อยากเสียเพื่อนไป ผมคิดจะจริงจังกับมันแล้วกัน "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กูขอร้องนะ ถ้าจะเลิกขอให้เราสองคนจบปี 4 ก่อน โอเคป่าววะ"
กายพยักหน้าให้ผม "ส่วนเมิงมีอะไรก้พูดกันตรงๆนะ"
"อืม" ผมตอบ แต่แน่นอน ผมคงไม่กล้าบอกมันไปตรงๆหรอก ว่า ตอนนี้ผมกำลังสับสน เพราะอย่างที่บอก ผมคงไม่อยากเสียมันไป อยู่กันไปเรื่อยๆ เด่วสักวันก็คงรักได้เต็มที่เองล่ะ
ทุกท่านอย่าเพิ่งคิดไปลึกมากมายนะครับ คืนนั้นน่ะ ยังไม่เกิดอะไรขึ้นทั้งนั้น ต่างคนก้ต่างนอน ไม่มีอะไรเลยจริงๆ และวันรุ่นเช้า ผมกับมันก็ไปเรียนตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คงจะเป็นสีหน้าแววตาของผมที่มันแสดงออกชัดเจนมากว่ามีความสุข จนเพื่อนทัก ผมก้เลยบอกความจริงไปเฉพาะคนที่ผมไว้ใจเท่านั้น ส่วนคนอื่น ผมน่ะยังไม่กล้า
ความสัมพันธ์เราพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ในลักษณะแบบหลบซ่อนเพราะกายมันขอผมไว้ไม่ให้บอกใคร แต่คนมันก็เริ่มสงสัยกันเรื่อยๆ และเริ่มรู้ความจริง กันไปคนสองคน มันก้แอบรู้สึกอึดอัดนะครับกับความสัมพันธ์แบบนี้ ก็บางครั้งเขาก็ทำเหมือนไม่สนใจผม จนผมก็แอบคิดอยู่บ่อยๆว่า หรือมันจะไม่ใช่ แต่ไม่รู้สิครับ ยิ่งนับวัน ผมก้ยิ่งรักมันมากขึ้นทุกทีๆ จนกระทั้ง ผม มัน และเพื่อนๆ ต้องไปทำงานกันที่เชียงใหม่ ในตอนนั้น แม้เราจะได้อยู่กัน 24 ชม. แต่ผมกลับรู้สึกนอยบ่อยเหมือนกัน เพราะการแสดงออกของมันที่ทำเหมือนไม่ใส่ใจ เพราะมันไม่ได้มีแค่เพื่อนๆ แต่มีรุ่นพี่ด้วย ซึ่งมันเคยขอไว้ว่าไม่ให้บอกรุ่นพี่ ซึ่งมันอ้างว่าเหตุผล คือ มันไม่อยากให้พวกพี่ๆที่เป็นตุ๊ดรู้ มันรำคาญ ผมก็ทำตามนั้น ช่วงที่อยู่ที่นั่น เราสองคนจึงมีปัญหากันบ่อยเพราะผมอึดอัด
จนกระทั้งกลับมากรุงเทพ ซึ่งวันนั้นเป็นวันเดียวกับวันเกิดของรุ่นพี่คนนึง ซึ่งเขาก็เลี้ยงฉลองกันตามปกติ อบายมุขต่างๆก้ต้องมีพอสังสรรค์ และ ความเมา ขาดสติก็ตามมา และด้วยเหตุนี้เอง เพื่อนผมคนนึงที่มาร่วมงานนี้ด้วย จึงหลุดพุดออกมาว่า "นายกับกายคบกัน" ลำพังผมน่ะไม่เป็นไรเลย เพราะผมก็ไม่ได้อยากปิดบังอยู่แล้ว แต่กายกลับหน้าซีดและแสดงอาการไม่พอใจมาก
ครู่หนึ่ง... "กูไปห้องน้ำก่อนนะ" กายพูด
"ไปเป็นเพื่อนป่ะ" ผมถาม
"ไม่เป็นไร" แล้วกายก้เดินออกไป
แต่ที่แปลกคือ กายหายไปนานมาก จนผิดปกติ ผมเลยตามไปดูที่ห้องน้ำ และที่แปลกขึ้นอีกคือ ที่ห้องน้ำไม่มี ผมเริ่มรู้สึกสงสัยในการกระทำของคนๆนี้ขึ้นมาอย่างสังหรณ์ชอบกล และเหมือนมีเซ้นบางอย่างบอกผมให้ผมออกไปนอกร้าน และแล้วภาพที่ผมเห็นมันทำให้ผมแทบช็อค
พี่ที่เป็นเจ้าของวันเกิด(ซึ่งเป็นผู้ชาย)กำลังร้องไห้ โดยที่กายกำลังเข้าไปกอดอยู่พอดี มันเกิดอะไรขึ้นกับผม ผมคิด ผมตกใจมาก จนไม่รู้ว่าอะไรคืออะไร และความสนุกในคืนนั้นสำหรับผมก้จบลง ผมกลับบ้านเลยทันที
ไม่มีเสียงโทรศัพท์ใด โทรเข้ามาทั้นสิ้น ทุกอย่างเงียบไร้วี้แววคำแก้ตัวใดๆ ผมต้องทนอยู่กับภาพที่ผมไม่ทันรับมือ อยู่ประมาณ 3 วัน จนผมรู้แล้วว่าผมกำลังทนไม่ไหว ผมเลยตัดสินใจ โทรไปหากายเพื่อคุยให้รู้เรื่อง ... ไม่รับ กายไม่รับโทรศัพท์ผมทั้งหมดเกือบ 20 สาย จนในที่สุด ผมก็บุกไปที่บ้านเพื่อคุยกับมัน
เมื่อถึงบ้านมัน ผมกดออด แล้วมันก็เดินออกมา
"มันเกิดอะไรขึ้น" ผมถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ
"เมิงอ่ะ เป็นอะไร อยู่ๆก็ออกไปเฉยเลย" มันย้อน
"แล้วที่เมิงกอดพี่ปอคือ?"
"ก็พี่ป่าววะ กุก้ไม่ได้คิดอะไร กุกะเค้าสนิทกันนานแล้ว"
"หรอ" ผมก็รู้อยู่ในตอนนั้น ว่าเขาโกหก แต่ผมก็อดคิดไม่ได้ว่า ผมอาจจะเข้าใจผิด "แล้วทำไมเมิงไม่รับสายกุ"
"กุเอามือถือไปซ่อม"
"หรอ?"
" เมิงไม่เชื่อใจกุเลย" คำพูดนี้ยิ่งทำให้ผมสับสนหนักเข้าไปอีก
"กุขอโทด ต่อไปนี้กุจะพยายามเชื่อใจเมิง"
"พยายาม? ภ้าเมิงไม่เชื่อใจกุ แล้วเมิงจะคบกับกุทำไม"
"เมิงรู้สึกกับกูไม่เหมือนเดิมแล้วใช่มั้ย"
"มั้ง"
"ตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ตั้งแต่ที่เมิงชอบนอยใส่กุ"
"งั้นเราควรเลิกกันใช่มั้ย"
"กุมีความสุขกว่าเวลาเราเป็นเพื่อนกัน เมิงกลับมาเป็นเพื่อนกับกุได้มั้ย"
ผมพยักหน้า ทั้งน้ำตา แล้วผมก็ขอตัวกลับบ้าน
แต่ตลกดีมั้ยล่ะ หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน ผมก้ได้รู้ความจริงจากเพื่อนนึง ที่มันชอบพูดจนไม่มีหูรูดว่า กายคบซ้อน
และเมื่อผมถามกาย เค้าก็มีแต่ปฏิเสธและโกหกไปเรื่อยๆ
จนกระทั้งวันหนึ่ง ผมก็แอบไปดักเจอเขาที่บ้าน ซึ่งผมรู้ว่าคืนนี้ เขาไปเที่ยว และแล้วความจริงก็เปิดเผย เมื่อ พี่ปอ เจ้าของวันเกิดในวันนั้น ขับรถมาส่งกายที่บ้าน และยังมีฉากที่ทั้งคู่จับมือกัน และนั่นทำจึงทำให้เขาทั้งสองเพิ่งยอมรับ
ยังไงดีล่ะ มันเป็นเรื่องตลกที่สุดแสนจะเจ็บปวดเสียจริงในชีวิตผม คนที่ผมให้ใจ และไว้ใจมาก กลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด ตลอดเวลาเขาโกหกผมมาตลอด เขาเป็นเกย์ และเขาก็มีคนของเขาอยู่แล้ว แต่เขากลับปิดบังผม ปิดบังทุกคน แล้วทำไมผมต้องมารับกรรมตรงนี้ด้วย เฮ้อ เขาไม่จำเป็นต้องบอกผมว่าเขาเป็นอะไรก้ได้ แต่ถ้ามีใครอยู่แล้ว ก้แค่บอกกันตรงๆว่า มีแล้ว คบกับผมไม่ได้ เรื่องอย่างนี้คงจะไม่เกิด ทุกวันนี้ เรายังต้องเจอกันอยุ่ทุกวัน และเราสองคนมองหน้ากันไม่ติดอีกแล้ว และบาดแผลครั้งนี้ มันก็กลายเป็นรอยแผลเป็นที่มันทำให้ผมทรมทานมาก ผมยังอยากมีใครสักคนนึง แต่เพราะเหตุการณ์นี้ มันทำให้ผมกลัวความรักไปเลย กลัวที่จะเจ็บเพราะความรัก ไม่รู้ว่ามันจะอีกนานแค่ไหน แต่ที่ผมรู้ตอนนี้ ผมกำลังใช้ชีวิตอย่างว่างเปล่า และทรมานเหลือเกิน