ออกตัวก่อนนะครับว่าผมไม่มีสี แต่อยากแสดงความเห็นบ้าง จากที่ติดตามข่าวมาบ้าง ผมรู้สึกว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ ปฏิรูปก่อนหรือเลือกตั้งก่อน แต่มันอยู่ที่ฝ่ายไหนเป็นคนปฏิรูปและร่างกติกา ไม่ว่าด้วยสาเหตุไม่ไว้ใจกันหรือแก่งแย่งอำนาจกันก็ตามแต่ ผมมองไม่เห็นว่าสิ่งที่ กปปส. ทำจะชนะได้ยังไงถ้าไม่เกิดความรุนแรงจนบีบให้ทหารต้องออกมาปฏิวัติยึดอำนาจ เพราะดูยังไงอีกฝ่ายเข้าก็ไม่ยอมถอยแน่ๆ ผมไม่เคยได้ยินทางฝ่าย กปปส. ออกมาพูดว่าไม่เอาปฏิวัติเลยสักครั้ง และสมมติถ้า กปปส. เกิดชนะจริงได้ปฏิรูปแก้รัฐธรรมนูญตามที่ต้องการ ไม่นานอีกฝ่ายก็ต้องออกมาต่อต้านว่ารัฐธรรมนูญฉบับนั้นมันไม่ชอบธรรมเพื่อที่จะฉีกรัฐธรรมนูญฉบับนั้นทิ้ง แต่ทางฝ่าย กปปส. ก็ไม่ไว้ใจที่จะให้พรรค เพื่อไทย เป็นฝ่ายปฏิรูป เพราะกลัวจะผูกขาดอำนาจ ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าการซื้อเสียงยังมีอยู่จริงในต่างจังหวัด แต่เป็นการซื้อที่ตัวหัวคะแนน เช่นถ้า กำนัน อบต. อบจ. เป็นฐานคะแนนให้พรรคไหนส่วนใหญ่พรรคนั้นก็จะได้ ส่วนการแจกเงินก็ยังมีอยู่แต่เขาถือเป็นสินน้ำใจในการไปเลือกพวกเขา ความจริงการที่ข้าราชการท้องถิ่นกับ ส.ส. เป็นกลุ่มเดียวกันมันทำให้การประสานงานกันง่าย แต่มันก็กินกันง่ายเหมือนกัน การที่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคกลุ่มทุนขนาดใหญ่ ฐานคะแนนเสียงเยอะยังไงก็ชนะเลือกตั้ง จริงๆแล้ว ปชป.ก็ใช้วิธีเดียวกันแต่ฐานคะแนนน้อยกว่า ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมในเมื่อปัญหาอยู่ที่ความไม่ไว้ใจกันในการเป็นเจ้าภาพในปฏิรูปการเมืองของทั้งสองขั้วการเมืองใหญ่ ไหนๆปชป.ไม่ลงเลือกตั้งถ้าพรรคเพื่อไทยยอมถอยอีกสักก้าวหนึ่งโดยการไม่ลงเลือกตั้ง เหลือแค่พรรคขนาดกลางและเล็กแข่งขันกัน และตั้งรัฐบาลเพื่อปฏิรูปการเมืองร่างรัฐธรรมนูญใหม่และทำประชามติภายใน 1-2ปี แล้วเลือกตั้งโดยใช้กติกาใหม่ที่ประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับ ถอยหลังกันคนละก้าวเพื่อประเทศชาติจะได้เดินไปข้างหน้า ถ้ามัวแต่จะเอาชนะแบ่งฝักแบ่งฝ่ายก็ไม่ไปไหนสักที
ถอยคนละก้าวดีไหม?