หน้ากากสิง (สิงห์ผยอง) ตอน เพื่อนรักที่แสนดี

กระทู้สนทนา
คำโปรย
"เอ่อ..คือว่า มันไม่ใช่แค่อุ่นนะดรีม แต่ตัวเธอมันร้อนเหมือนเตาผิงเลยค่ะ และแถมยังมีกลิ่นสาปแปลกๆด้วย" กวางพูดพร้อมจามแรงๆ เธอบอกว่าตัวผมมีกลิ่นฉุนตลอดเวลาที่นั่งรถมาด้วยกัน




เมื่อเด็กหนุ่มที่มีความเพ้อฝัน รวมทั้งอ่อนไหว และเปราะบางทางอารมณ์สูง มาเจอกับเพื่อนสาวที่แสนน่ารัก นุ่มนวล อ่อนโยน มันก็เลยเหมือนสายน้ำ 2 สายที่มาบรรจบกันได้ดี แบบไหลตามกัน เรารักชอบในสิ่งเดียวกัน ความคิด ความอ่านก็คล้ายคลึงกันไปหมด ผมเกิดราศีมีน ชอบเรื่องฝันๆ รักๆ จินตนการ ส่วนกวางราศีกันต์ เป็นสาวน้อยแสนซื่อ บริสุทธิ์ ยึดมั่นในความรัก ชอบเรื่องกลอน นิยาย และบทกวี แทบไม่น่าเชื่อ ว่าฟ้าจะให้เพื่อนแท้กับผม เพื่อนที่รู้ใจและเข้าข้างไปเสียทุกเรื่อง อาจจะเป็นบุญของผมที่ทำมาบ้างในชาติก่อน ทำให้ได้เจอกับเธอ

แต่ก็บอกไว้ก่อน "กวางเป็นคนอ่อนหวาน ออนโอนผ่อนตาม จิตใจดี" ก็จริง แต่ถึงคราวที่ต้องตัดสินใจในเรื่องใดเรื่องนึงขึ้นมา เธอจะกลายเป็นคนที่เฉียบขาด มีจิตใจเข้มแข็ง มั่นใจในตัวเองสูง เรียกว่า มีความเด็ดเดี่ยวเป็นเลิศ เหมือนกันล่ะครับ โดยเฉพาะเรื่องความรัก !!


สำหรับกวาง ช่วงกลางวันหลังจากพักเที่ยง เราจะจูงมือกันมาที่ห้องสมุด ที่ประจำของเรา ชอบมานั่งหลบมุม อ่านนิยาย บทกวี เหมือนคนที่มีโลกส่วนตัว ยิ่งถ้าตอนบ่ายหลังพักเป็นคาบว่าง ยิ่งแฮปปี้เลย เพราะมันจะเท่ากับ ว่างติดต่อกันถึงสองชั่วโมง ผมชอบอ่านกลอนของสุนทรภู่ ลิลิตพระลอ ฯลฯ ให้เธอฟัง หานวนิยายรักขลังๆ ดีดีให้เธอยืมจากห้องสมุดไปอ่าน สนิทกันแบบนี้ แล้วจะไม่ถูกเพื่อนๆ ล้อและแอบนินทาได้อย่างไร

"รู้มาตั้งนานแล้ว ว่าดรีมกับยัยกวางเป็นแฟนกัน เรียนจบแล้วคงแต่งงานกันได้ อิอิ..."

การแซวกันแบบนี้ ถือเป็นปกติในหมู่เพื่อนๆ วัยรุ่นตอนปลายเป็นช่วงสนุกสนาน แสวงหาประสบการณ์ชีวิต หากใครคะนองมากไป ก็จะถูกอาจารย์คาดโทษ เรียกไปตักเตือน และ ควบคุมความประพฤติเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ "ไอ้มี่" ไอ้หมอนี่ทำให้ผมต้องแบะปากทุกครั้งที่เจอหน้ามัน ไม่ได้ถือตัว รังเกียจเพื่อนร่วมห้องหรอก แต่เกลียดความทะลึ่ง ตึงตัง คำพูดดิบๆ การแสดงออกที่ดูก้าวร้าว ก๋ากั่น และห้าวจนเกินพอดี ของมันจะพลอยทำให้พวกเพื่อนๆ ในโรงเรียน และอาจารย์มองพวกเราในแง่เดียดฉันท์และอคติ

ส่วนผมจัดอยู่ในประเภทเรียบร้อย ไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใคร ไว้ใจได้พอสมควร ถ้าผมทำซ่าส์เกิน คุณป่าไม่ไว้ผมแน่ๆ โดนไม้เัรียวแน่เชียว...คุณป้าของผมเป็นคุณครูเก่าที่เจ้าระเบียบพอสมควร ชอบให้หลานอยู่ในโอวาท ไม่เกเีร

ขณะที่ผมกำลังค้นหนังสือให้กวางอยู่ มันก็เข้ามา ไอ้หมอนี่พยายามเข้ามากระแซะ ทำตีซี้ผมหลายครั้งแล้ว คงอยากจะได้ผมเป็นเพื่อนไว้เล่นหัวสนุกด้วย แต่ผมไม่ชอบเสวนาด้วย ออกแนวรำคาญซะมากกว่า เชอะ !!

"กูถามจริงๆ กับกวาง ได้กันรึยังวะ !!" ดูมันถามผม

แรง.... ฟังแล้วฉุนขึ้นมาทันที หยาบคาย ต่ำ ลามกที่สุด ใช้สมองส่วนไหนคิด เราคบกันด้วยใจบริสุทธิ์ ผมไม่เคยถือโอกาสลวนลามกวาง จะมีก็แค่จับมือกันแบบเพื่อนเวลาไปไหนมาไหนแค่นั้นเอง แม้ผมจะไม่มีอะไรดีเลย ทำสิ่งดีดีให้กวาง ได้ไม่เท่าครึ่งที่เธอทำให้ผม แต่สิ่งที่ผมพอจะตอบแทนได้ คือ รักษาชื่อเสียงให้เพื่อนคนนี้ และ ปกป้องเธอให้พ้นจากคนปากทะลึ่งอย่างมัน

"อยากชกคนว่ะ ไอ้ปากเสีย"
ผมกำมือแน่นด้วยโกรธ ถ้าควบคุมไม่ได้วันนั้น มีศึกกลางห้องสมุดแน่
"โอ๋...จริงจังเกินเหตุ อย่าโกรธสิวะ แค่ล้อเล่น"
"ไปไกลๆ ตีนกูเลย ไอ้มี่ ก่อนที่กูจะทนไม่ไหว"

"นี่..อาทิตย์หน้าจะเข้าค่ายลูกเสือ ทำไมไม่ถือโอกาสนี้ จัดการเลยวะ" ผมพอรู้ความหมายของมัน

"กูกับกวาง อยู่คนละหมู่ อย่าสะเออะได้ไหม...ไอ้ลิงทโมน"

ฉายาลิงโมนเหมาะกับคนอย่างมันแล้ว ทะลึ่ง ซุกซน อยู่ไม่เป็นสุข  ผมอยากรู้จริงๆ ว่าในหัวสมองมัน มีแต่เรื่องพรรค์นี้หรือไงวะ เป็นความโชคร้ายจริงๆ ที่ได้เจอเพื่อนร่วมห้องสุดแสบอย่างมัน

"ไอ้มี่..ตั้งใจเรียนเหอะว่ะ อย่ายุ่งเรื่องผู้หญิงนักเลย กูหวังดี อาจารย์เขาเป็นห่วงทุกคน..."
"ไปไหนก็ไปเลยนะ รำคาญ หนวกหู จะอยู่กับกวางสองคน"

" ต๊าย..ตาย เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเป็นไอ้ตุ๊ด ปากแดง คบแต่ผู้หญิง ไม่เล่นกับผู้ชายด้วยกัน"

ไล่แล้วก็ไม่ไป แต่หันหน้ามาแลบลิ้นปลิ้นตา ล้อเลียนผมกับกวางอีก ผมคว้าหนังสือจะเขวี้ยงใส่หัวมัน แต่ดันหลบทันอีก ผมเดินทื่อเข้าไปบิดหูมันด้วยความหมั้นเขี้ยว
"กูไม่ใช่ตุ๊ด เป็นไงล่ะ จะสั่งสอนให้ดู เจ็บไหม เจ็บไหม"
"โอย..ยอมแพ้แล้ว...ไอ้ดรีม" เจ้ามี่ตัวงอ ร้องโอ๊ยๆ

"ดรีม อย่าไปถือสาเขาเลย มี่เขาก็เป็นแบบนี้แหละ.."
"ก็ดูสิ มันกวนตีน"


"สองคนนี้อะไรกันเนี่ย เจอหน้ากันทีไรเป็นงี้ทุกทีเลยนะ" กวางส่ายหน้า หัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นเราทั้งคู่เถียงกัน เขวี้ยงหนังสือใส่กันจนห้องสมุดเริ่มเละเทะ

อาจารย์บรรณารักษ์ผ่านมาเห็นเข้าพอดี แล้วก็โดนทำโทษ คาบไม้บรรทัดหน้าห้องสมุดทั้งคู่....

"มันส์มากใช่ไหม มานี่เลยทั้งสองคน มาให้ครูจดชื่อซะดีดี..."


...................................................................................................................................................

ผ่านมา 15 ปีแล้ว ณ เวลานี้ ยัยกวางน้อยของผม เธอเติบโตเป็นสาวเต็มตัวขึ้นมาก ความคิดความอ่าน บุคลิกก็ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนเลย คือ ความเป็นตัวเองของกวาง แสนดี อ่อนโยน มองโลกในแง่ดี อย่างไร ก็เป็นเช่นนั้น

"กวางจำได้เสมอนะ สิ่งที่ดรีมทำให้กวาง เรื่องต่างๆ ทั้งในห้องเรียนและนอกห้อง กวางประทับใจและขอบคุณนะคะ"

"แล้วตอนนี้ มี่เขาเป็นไงละ ดรีมได้ข่าวบ้างรึเปล่า ?"
"วันก่อน ไปเยี่ยมมันในคุกนะ เอาขนมไปฝาก มันก็ยังกวนโอ๊ยเหมือนเดิม.."
"น่าเสียดายนะคะ ถ้าเขาไม่ใจร้อน คงไม่เกิดเรื่อง"
"ออกจากคุกครั้งนี้ มันคงได้บทเรียนบ้างล่ะ เป็นห่วงจริงๆ"

ข่าวชกต่อยกับลูกชายผู้มีอิทธิพลในผับดังที่กรุงเทพ ทำชื่อเสียงไอ้มี่ กึกก้องไปทั่วโรงพักตำรวจนครบาล และขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับด้วย เพราะความเป็นนักเลงบ้าอาคม ไสยศาสตร์ มันบอกว่ามันกลับชาติมาเกิดเป็นตี๋ใหญ่ หรือ เป็นตัวตลกให้คนในสังคมหัวเราะเยาะ หรือ มองดูด้วยความเวทนา กันแน่ ผมเป็นห่วงสถานภาพในคุกของมันจริงๆ ทำตัวกร่างแบบนั้น อาจโดนตำรวจบ้าอำนาจบางคน หรือ นักโทษชายที่ห้าวและดุดันกว่ามัน หมั้นไส้ เล่นงานเอาปางตาย อยู่ในคุกไม่เป็นสุขแน่ๆ

ผมกับกวาง เรานั่งคุยกันเพลิน ถึงเรื่องอดีต คุยเรื่องเพื่อนเก่าในห้อง สั่งอาหารว่าง มาทานด้วยก็กินเวลาไป 3 ทุ่มกว่าแล้ว


"ให้ดรีมไปส่งเอาไหมล่ะ... ดึกแล้ว คนที่บ้านจะเป็นห่วง...."
"ไม่ต้องก็ได้ เกรงใจ กวางว่าจะนั่งรอที่ร้านก่อน แล้วจะโทรให้พี่อาร์ทมารับน่ะคะ"
"กวาง..กวางบอกพี่อาร์ทเหรอ ว่าออกมาข้างนอกกับดรีม"
"เปล่าค่ะ แต่บอกว่า ออกมาซื้อใช้ของในห้างนิดหน่อย แล้วก็แวะมานั่งดื่มกับเพื่อนเก่า"
"ไม่ได้บอกใช่ไหม ว่ามากับดรีม.."
"ค่ะ...ไม่บอก รำคาญพี่อาร์ทเหมือนกัน ชอบถามนั่นนี่..."
"ว่าแต่ดรีมนี่ยังเหมือนเดิมเลยนะ กลัวพี่กวางทำไม ไม่หายกลัวซะที..."

"อืม...แต่พี่อาร์ท เขาก็อยากเจอดรีมนะคะ หลังงานเลี้ยงรุ่นแล้ว พี่อาร์ทฟ้องกวางว่า ดรีมพยายามหลบหน้าพี่เขาน่ะคะ มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่าคะ " กวางถามซื่อๆ ตรงๆ

จริงอยู่ผมกับพี่อาร์ท พี่ของกวาง เคยมีเรื่องบาดหมางกันสมัยเรียน แต่มันก็นานมาแล้ว การกลับมาของน้องกวางครั้งนี้ ทำให้ผมนึกกลัวใจตัวเองและใจอีกฝ่าย กลัวประวัติศาสตร์มันจะซ้ำรอยเดิม !!

เมื่ออาทิตย์ก่อน ตอนที่กวางตอนยังอยู่กรุงเทพ ก่อนลงมาที่ต่างจังหวัด....พี่อาร์ท พยายามต่อสาย คุยโทรศัพท์กับผมหลายครั้ง แต่ผมไม่กล้าบอกความจริงกับกวางเรื่องนี้ กลัวเธอเองไม่สบายใจ


เมื่ออาทิตย์ก่อน...

" ไอ้ดรีม ยอมรับสายกูซะทีสิวะ" เสียงตะโกนอย่างหงุดหงิด หัวเสียจากปลายสายดังแว่วมา ผมทำใจดีสู้เสือ เดินไปรับสาย ทั้งที่ใจจริง ผมกลัวเพื่อนรุ่นพี่คนนี้มากที่สุดเลย

ใจความในโทรศัพท์ คือ พี่อาร์ทแกไม่อยากให้เขามาวุ่นวายกับกวาง โดยอ้างว่า ที่กวางกลับมาครั้งนี้เพราะคิดถึงผมเป็นหลัก แล้วถ้ามีผมเข้ามาเกี่ยวข้องกับเธอเมื่อไหร่ มันอาจเหมือนเป็นถ่านไฟเก่า ที่รอวันคุโชนขึ้นใหม่อีกครั้ง ...อาจทำให้กวางเกิดความลังเลในการแต่งงานครั้งนี้ก็เป็นได้ คนอะไรทั้งรัก ทั้งห่วงน้องซะจริงเชียว...แน่ะ !!

"เจ้าบ่าวของกวางเป็นคนดีมาก พี่ไม่อยากให้เขาผิดหวัง..."
"งานแต่งงานก็มีการเตรียมการหมดแล้ว..อย่าให้ต้องพังเพราะคนอย่างแก"
"ถ้าแกไม่โง่เกินไปนัก คงมองออกนะ กวางยังรักหลงแกอยู่มาก...คงเข้าใจ"

ผมได้แต่ฟังพี่อาร์ทพูด ไม่ตอบโต้หรือเถียง ค่อนข้างรู้นิสัยพี่แกมาแต่เรียนมัธยม แต่ไหนแต่ไร ว่าเป็นคนตรง พูดจาโผงผาง ใจนักเลง ขวานผ่าซากแบบนี้ และรักน้องสาวเป็นที่สุด ใครแตะก็ไม่ได้ ใครมาแกล้งหรือรังแกกวางเพียงน้อยนิด ก็มีอันเป็นศัตรูกับพี่อาร์ทไปหมด เป็นที่รู้กันเรื่องนี้

"แกมันไอ้ตัวมารชัดๆ..."

"ดรีมไม่ยุ่งกับน้องกวางแน่ๆ พี่วางใจได้"
"ใช่... ที่สำคัญคือฉันรู้ข่าวมาว่าแกมีเมียแล้ว อย่าทำตัวลอยไปลอยมา..."
"ฉันไม่อยากเป็นพี่เขย คนโลเลอย่างแก เข้าใจมั้ย" พูดจบ พี่อาร์ทก็กระแทกหูโทรศัพท์ใส่ผมทันที

หลังจากวันนั้น วันที่พี่อาร์ทยื่นคำขาดให้ผมเลิกติดต่อ หรือ แม้กระทั่งนัดพบกับกวางน้องสาว ผมเองก็รับปาก แต่วันนี้ด้วยความคิดถึงเพื่อนเก่า ผมก็ได้ทำผิดสัจจะไปแล้ว ผมนัดกวางไปเจอกันที่ร้านกาแฟ ถ้าเรื่องนี้รู้เข้าหูพี่อาร์ท ผมต้องแย่แน่ๆ คิดแล้วหวาดๆ

"ดรีมเป็นอะไรอ่ะ ใจลอยจัง เอาไงละคะ จะไปส่งหรือให้กวางกลับเองล่ะ"
กวางเดินเข้ามาคล้องแขนผมไว้ แล้วเปิดประตูร้านอาหารออกไป
"ไปส่งก็ได้ แต่ดรีมไม่เข้าไปในบ้านกวางนะ อย่าโกรธนะ"
"ไม่เป็นไร เข้าใจค่ะ" หญิงสาวพนักหน้ารับ

ผมกะว่าผมจะพยายามหลบหน้าพี่ของเธอให้มากที่สุด เพราะไม่อยากเจอสายตาเย็นชา ที่มองอย่างไม่ไว้ใจของพี่อาร์ท ไปส่งเพื่อแค่จะมองดูกวางว่าถึงประตูบ้าน โดยปลอดภัย แล้วจะรีบสตาร์ทรถเครื่องกลับบ้านตัวเองทันที ...

คืนนี้อากาศหนาวเย็นมาก กวางนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์คันสีน้ำเงิน คู่ใจของผม ระหว่างทางเธอกอดเอวผมไว้แน่น ลมพัดกรรโชกแรง เธอแนบหน้าซบลงที่แผ่นหลังผม เหมือนหาที่พึ่งพิงอันอบอุ่น

"ดรึม...กวางหนาวมากเลยนะค่ะ"

เสื้อแจ็คเกตหนาตัวนั้นของผมที่สวมให้กวาง อาจไม่ทำให้เธออุ่น ผมแวะจอดลงข้างทาง เพื่อแวะซื้อรังนกร้อนๆ ฝากให้กวางไปดื่มก่อนนอน

"ซื้อ 3 ถุงนะ ให้กวางถุงนึง ส่วนอีก 2 ถุงฝากให้คุณแม่กับพี่อาร์ทนะครับ"
"แล้วอย่าลืมที่บอก ห้ามบอกพี่อาร์ท ว่าออกมาข้างนอกกับดรีม..."
"ดรีม... รู้มั้ยวันนี้...กวางมีความสุขมากเลย...."
กวางรำพึงรำพันแผ่วเบาเหมือนเพ้อ ความหนาวทำให้เธอกอดผมแน่นขึ้นอีก .........

หลังมอเตอร์ไซด์ที่ว่างมานาน มีสาวน้อยมานั่งเคียงข้าง มันก็เป็นความรู้สึกที่ดีนะครับ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นฮีโร่ ที่ปกป้องเธอได้ ทั้งที่โลกความจริงไม่ใช่ งั้นก็ขอเป็นพี่ชายหรือเป็นเพื่อนชายที่เป็นองครักษ์ให้เจ้าหญิงน้อยแสนใส บอบบาง น่าทะนุถนอม คนนี้ละกัน

และแล้วกวางก็เอ่ยทักผมขึ้นท่ามกลางความเงียบ...

"ดรีม...ทำไมกวางรู้สึกว่าตัวคุณร้อนจังเลย...ไม่สบายหรือเปล่า" เธอถามด้วยเป็นห่วง
"เปล่านี่...ดรีมไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย" ผมพูดพลางหันไปมองกระจกหลัง เห็นเธอที่เกาะเอวผมอยู่ รถเมอร์ไซด์ก็แล่นไปเรื่อยๆ พร้อมกับลมหนาวเย็นที่ปะทะร่างของเราทั้งคู่ แปลกที่ผมไม่รู้สึกหนาวเลย อากาศแบบนี้ ร่างกายผมกลับรู้สึกแค่อุ่นสบายเท่านั้น แต่กวางนั้นหนาวจนสะท้าน รถผ่านสถานที่เก่าตรงนั้นตรงนี้ ที่เราเคยมาเที่ยวด้วยกันในวัยเด็ก ผมก็ชี้ชวนกวางคุยเป็นเพื่อนและพูดเรื่องความหลังไปอย่างเพลิดเพลิน มีความสุข
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่