ลองคิด เงินเดือน 12 เดือน ดูคร่าวๆนะครับ
ถ้าทำงานได้ เดือนละ 10000 ก็ตกสัปดาห์ละ 25000 ถ้าทำงานวันละ 8 ชม. ก็ตก ชม.ละ 40 กว่าบาท
ทำ 1 ปี ก็ได้ 120000 xโบนัสได้กี่เดือนว่ากันไป
ถ้าได้เดือนละ 20000 ปีก็ได้ 240000
แต่ถ้าได้เงินเดือน 50000 ปีหนึ่งก็ได้ 600000 +โบนัสอีก3 เดือน ก็ได้ 750000
ถ้าได้เงินเดือนสูงมากๆ เช่น 68000 ปีหนึ่งก็ได้ 816000 +โบนัส 3 เดือน ได้ 1020000
จากลองดูคร่าวๆ ถ้านับเดือนต่อเดือน ก็ต่างกันไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าระยะยาวก็ห่างกันมากพอสมควร
แต่ผมว่าเป็นไปได้ยากมากที่จะมีคนจ้างถึง 50000 up ยกเว้นพวกงานกลางทะเล เหมือง โรงงาน ที่มีความเสี่ยง
ผมเห็นเด็กเรียนกลางๆหลายคน ที่จบออกมาไม่ได้เตรียมความพร้อม ไม่เหมือนเด็กที่ได้เกียรตินิยม มีบริษัทชั้นนำมารับเข้าทำงานหน้ามหาลัยเลย
ไปสมัครงานก็ได้ หมื่นต้น - หมื่นปลายๆ บางที่ต้องไปทำงาน ตจว. บ้าง บ้างครั้งก็เป็นงานใช้แรงกาย ตลอดทั้งวัน
ความรู้ที่เรียนมา แทบไม่ได้ใช้เลย ทำงานทุกวัน จันทร์ - เสาร์ แทบไม่ได้พัฒนาอะไรเลย
นานวันเข้าเริ่ม หมดกำลังใจ กลายเป็นคนไม่มีพลัง ทำงานไปวันๆ ไร้เป้าหมายในชีวิต ยอมแพ้ ไม่ชอบแก้ไขปัญหา ไม่กล้าเสี่ยง
ทิ้งความเก่ง ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ ที่เคยมีมาหมดหายเกลี้ยงเลย
ถ้าเราใช้วิธี ประหยัดไปเรี่อยๆ รอจน ฐานเงินเดือนขึ้น คงต้องหลัง 45 up นู้น ไหนจะกู้มาสร้างบ้าน ผ่อนรถ ส่งลูกเรียน(อนาคต) หนี้บานก่อนพอดี
ครั้งจะไปสมัครตำแหน่งผู้จัดการก็ใช่ที่ หรือจะรอเงินเดือนสูงๆ แล้วค่อยกู้มาทำกิจการก็คง ใช้ระยะเวลายาวนาน(เกินไป)
ปัญหาของเด็กใหม่ จบมาแล้ว แบ่งตามนี้ละกัน
ได้เงินเดือนเริ่มต้นขั้นต่ำเกินไป อยากได้ซัก 2 - 3 หมื่น สำหรับเด็กกลางๆ ที่จบมาใหม่ หรือจบมา 5 ปีแล้วก็ตาม ก็หายากอยู่ดี
หรือจะไปทำอาชีพเสริม งานประจำก็เหนื่อยอยู่แล้ว ทำไม่ไหว อันนี้ตัดไป
หรือจะไปตั้งโรงงาน บริษัท ก็คงใช้เงินหลาย 10 ล้าน อันนี้ก็ไม่มีตัดไป
เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะมาบอกนะครับ ว่าทำไมการทำงาน แบบเงินเดือนมีข้อเสียยังไงบ้าง ทำไมถึงได้ค่าจ้างต่ำ และไม่เหมาะในระยะยาว
วันนี้พักก่อน
เงินเดือนนั้นสำคัญไฉน
ถ้าทำงานได้ เดือนละ 10000 ก็ตกสัปดาห์ละ 25000 ถ้าทำงานวันละ 8 ชม. ก็ตก ชม.ละ 40 กว่าบาท
ทำ 1 ปี ก็ได้ 120000 xโบนัสได้กี่เดือนว่ากันไป
ถ้าได้เดือนละ 20000 ปีก็ได้ 240000
แต่ถ้าได้เงินเดือน 50000 ปีหนึ่งก็ได้ 600000 +โบนัสอีก3 เดือน ก็ได้ 750000
ถ้าได้เงินเดือนสูงมากๆ เช่น 68000 ปีหนึ่งก็ได้ 816000 +โบนัส 3 เดือน ได้ 1020000
จากลองดูคร่าวๆ ถ้านับเดือนต่อเดือน ก็ต่างกันไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าระยะยาวก็ห่างกันมากพอสมควร
แต่ผมว่าเป็นไปได้ยากมากที่จะมีคนจ้างถึง 50000 up ยกเว้นพวกงานกลางทะเล เหมือง โรงงาน ที่มีความเสี่ยง
ผมเห็นเด็กเรียนกลางๆหลายคน ที่จบออกมาไม่ได้เตรียมความพร้อม ไม่เหมือนเด็กที่ได้เกียรตินิยม มีบริษัทชั้นนำมารับเข้าทำงานหน้ามหาลัยเลย
ไปสมัครงานก็ได้ หมื่นต้น - หมื่นปลายๆ บางที่ต้องไปทำงาน ตจว. บ้าง บ้างครั้งก็เป็นงานใช้แรงกาย ตลอดทั้งวัน
ความรู้ที่เรียนมา แทบไม่ได้ใช้เลย ทำงานทุกวัน จันทร์ - เสาร์ แทบไม่ได้พัฒนาอะไรเลย
นานวันเข้าเริ่ม หมดกำลังใจ กลายเป็นคนไม่มีพลัง ทำงานไปวันๆ ไร้เป้าหมายในชีวิต ยอมแพ้ ไม่ชอบแก้ไขปัญหา ไม่กล้าเสี่ยง
ทิ้งความเก่ง ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ ที่เคยมีมาหมดหายเกลี้ยงเลย
ถ้าเราใช้วิธี ประหยัดไปเรี่อยๆ รอจน ฐานเงินเดือนขึ้น คงต้องหลัง 45 up นู้น ไหนจะกู้มาสร้างบ้าน ผ่อนรถ ส่งลูกเรียน(อนาคต) หนี้บานก่อนพอดี
ครั้งจะไปสมัครตำแหน่งผู้จัดการก็ใช่ที่ หรือจะรอเงินเดือนสูงๆ แล้วค่อยกู้มาทำกิจการก็คง ใช้ระยะเวลายาวนาน(เกินไป)
ปัญหาของเด็กใหม่ จบมาแล้ว แบ่งตามนี้ละกัน
ได้เงินเดือนเริ่มต้นขั้นต่ำเกินไป อยากได้ซัก 2 - 3 หมื่น สำหรับเด็กกลางๆ ที่จบมาใหม่ หรือจบมา 5 ปีแล้วก็ตาม ก็หายากอยู่ดี
หรือจะไปทำอาชีพเสริม งานประจำก็เหนื่อยอยู่แล้ว ทำไม่ไหว อันนี้ตัดไป
หรือจะไปตั้งโรงงาน บริษัท ก็คงใช้เงินหลาย 10 ล้าน อันนี้ก็ไม่มีตัดไป
เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะมาบอกนะครับ ว่าทำไมการทำงาน แบบเงินเดือนมีข้อเสียยังไงบ้าง ทำไมถึงได้ค่าจ้างต่ำ และไม่เหมาะในระยะยาว
วันนี้พักก่อน