เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กระทรวงต่างประเทศรัสเซียออกคำแถลงในวันอังคาร (7) โดยยืนยันรัฐบาลมอสโกพร้อมให้การสนับสนุนทางการอิรักในการต่อต้าน-กวาดล้างกลุ่มหัวรุนแรงที่มีแนวคิดสุดโต่งและมีความเชื่อมโยงกับ “การก่อการร้าย” ขณะที่สหรัฐฯ ส่ง “โดรน” ช่วยรัฐบาลแบกแดดกวาดล้างนักรบอิสลามิสต์ในจังหวัดอันบาร์
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของกระทรวงการต่างประเทศแดนหมีขาวมีขึ้นหลังจากตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดการโจมตีในหลายจุดทั่วอิรัก รวมถึงในจังหวัดอันบาร์ที่มีพรมแดนติดต่อกับซีเรีย จากฝีมือของกลุ่มติดอาวุธของพวกมุสลิมสุหนี่หัวรุนแรงหลายกลุ่มที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายก่อการร้าย “อัลกออิดะห์” โดยข้อมูลของทางการอิรักระบุว่า เฉพาะในวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมาเพียงวันเดียว ได้เกิดการโจมตีด้วยระเบิดคาร์บอมบ์ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คนและได้รับบาดเจ็บมากกว่า 40 ราย
ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ด้านความมั่นคงในอิรักยังเลวร้ายลงถึงขีดสุด หลังจากที่กลุ่มนักรบอิสลามิสต์ Islamic State of Iraq and the Levant (ISIL) ที่มีสายสัมพันธ์กับอัลกออิดะห์ และกำลังทำสงครามโค่นล้มรัฐบาลบาชาร์ อัล-อัสซาดอยู่ในซีเรียเวลานี้ ยังได้ก่อเหตุบุกเข้ายึดเมืองฟัลลูจาห์ และรามาดี จากรัฐบาลแบกแดดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ และประกาศจะสถาปนาการปกครองในรูปแบบรัฐอิสลามเต็มขั้น
“มอสโกขอประณามการกระทำเพื่อสร้างความหวาดกลัว ความตึงเครียด และความรุนแรงของผู้ก่อการร้ายในอิรักในทุกรูปแบบ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนโดยเฉพาะพลเรือนเป็นรายวัน และเรารู้สึกกังวลอย่างถึงที่สุดถึงการแพร่กระจายแบบไร้ขอบเขตพรมแดนของลัทธิก่อการร้ายซึ่งกำลังเฟื่องฟูในอิรักและซีเรีย” คำแถลงส่วนหนึ่งของกระทรวงต่างประเทศรัสเซียระบุ
ด้านเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย วัย 63 ปี ซึ่งอยู่ในตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2004 เผยกับสำนักข่าวอิตาร์-ทาสส์ โดยย้ำจุดยืนของรัฐบาลมอสโกว่า พร้อมให้การสนับสนุนรัฐบาลอิรักอย่างเต็มที่ ในการต่อสู้กับภัยคุกคามของพวกสุดโต่งและผู้ก่อการร้าย โดยลาฟรอฟระบุ รัสเซียพร้อมมอบ “ความช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม” ต่อแบกแดด แต่ปฏิเสธการส่งกำลังทหารจากแดนหมีขาวเข้าสู่แผ่นดินอิรัก
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกคำแถลงประณามการก่อการร้ายในอิรัก และประกาศพร้อมช่วยเหลือรัฐบาลแบกแดดนั้น ได้เกิดการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างกลุ่มติดอาวุธสุหนี่หัวรุนแรงกับกองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลอิรักในหลายพื้นที่ของจังหวัดอันบาร์ตลอดทั้งวันอังคาร (7) จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 56 ราย
ขณะที่ความพยายามของรัฐบาลแบกแดดในการยึดคืนเมืองฟัลลูจาห์ และรามาดี จากพวกอิสลามิสต์ยังคงประสบความล้มเหลว ส่งผลให้เมืองสำคัญทั้งสองแห่งซึ่งอยู่ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางตะวันตกยังคงตกอยู่ใต้การยึดครองของกลุ่มหัวรุนแรงที่เชื่อมโยงกับอัลกออิดะห์ที่เริ่มเปิดศึกชิงเมืองดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม
ด้าน พ.อ.สตีเวน วอร์เรน โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ออกมาแถลงว่า สหรัฐฯได้จัดส่งอากาศยานรบไร้นักบิน (โดรน) แบบ “สแกนอีเกิล” สำหรับตรวจการณ์จำนวน 10 ลำเข้ามาในอิรัก เพื่อช่วยรัฐบาลแบกแดดในการกวาดล้างพวกนักรบอิสลามิสต์ในพื้นที่จังหวัดอันบาร์
รัสเซียประกาศพร้อมช่วยอิรักปราบอิสลามิสต์สุดโต่ง มะกันส่ง “โดรน” ช่วยแบกแดดยึดคืน “ฟัลลูจาห์”
เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กระทรวงต่างประเทศรัสเซียออกคำแถลงในวันอังคาร (7) โดยยืนยันรัฐบาลมอสโกพร้อมให้การสนับสนุนทางการอิรักในการต่อต้าน-กวาดล้างกลุ่มหัวรุนแรงที่มีแนวคิดสุดโต่งและมีความเชื่อมโยงกับ “การก่อการร้าย” ขณะที่สหรัฐฯ ส่ง “โดรน” ช่วยรัฐบาลแบกแดดกวาดล้างนักรบอิสลามิสต์ในจังหวัดอันบาร์
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของกระทรวงการต่างประเทศแดนหมีขาวมีขึ้นหลังจากตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดการโจมตีในหลายจุดทั่วอิรัก รวมถึงในจังหวัดอันบาร์ที่มีพรมแดนติดต่อกับซีเรีย จากฝีมือของกลุ่มติดอาวุธของพวกมุสลิมสุหนี่หัวรุนแรงหลายกลุ่มที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายก่อการร้าย “อัลกออิดะห์” โดยข้อมูลของทางการอิรักระบุว่า เฉพาะในวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมาเพียงวันเดียว ได้เกิดการโจมตีด้วยระเบิดคาร์บอมบ์ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คนและได้รับบาดเจ็บมากกว่า 40 ราย
ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ด้านความมั่นคงในอิรักยังเลวร้ายลงถึงขีดสุด หลังจากที่กลุ่มนักรบอิสลามิสต์ Islamic State of Iraq and the Levant (ISIL) ที่มีสายสัมพันธ์กับอัลกออิดะห์ และกำลังทำสงครามโค่นล้มรัฐบาลบาชาร์ อัล-อัสซาดอยู่ในซีเรียเวลานี้ ยังได้ก่อเหตุบุกเข้ายึดเมืองฟัลลูจาห์ และรามาดี จากรัฐบาลแบกแดดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ และประกาศจะสถาปนาการปกครองในรูปแบบรัฐอิสลามเต็มขั้น
“มอสโกขอประณามการกระทำเพื่อสร้างความหวาดกลัว ความตึงเครียด และความรุนแรงของผู้ก่อการร้ายในอิรักในทุกรูปแบบ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนโดยเฉพาะพลเรือนเป็นรายวัน และเรารู้สึกกังวลอย่างถึงที่สุดถึงการแพร่กระจายแบบไร้ขอบเขตพรมแดนของลัทธิก่อการร้ายซึ่งกำลังเฟื่องฟูในอิรักและซีเรีย” คำแถลงส่วนหนึ่งของกระทรวงต่างประเทศรัสเซียระบุ
ด้านเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย วัย 63 ปี ซึ่งอยู่ในตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2004 เผยกับสำนักข่าวอิตาร์-ทาสส์ โดยย้ำจุดยืนของรัฐบาลมอสโกว่า พร้อมให้การสนับสนุนรัฐบาลอิรักอย่างเต็มที่ ในการต่อสู้กับภัยคุกคามของพวกสุดโต่งและผู้ก่อการร้าย โดยลาฟรอฟระบุ รัสเซียพร้อมมอบ “ความช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม” ต่อแบกแดด แต่ปฏิเสธการส่งกำลังทหารจากแดนหมีขาวเข้าสู่แผ่นดินอิรัก
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกคำแถลงประณามการก่อการร้ายในอิรัก และประกาศพร้อมช่วยเหลือรัฐบาลแบกแดดนั้น ได้เกิดการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างกลุ่มติดอาวุธสุหนี่หัวรุนแรงกับกองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลอิรักในหลายพื้นที่ของจังหวัดอันบาร์ตลอดทั้งวันอังคาร (7) จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 56 ราย
ขณะที่ความพยายามของรัฐบาลแบกแดดในการยึดคืนเมืองฟัลลูจาห์ และรามาดี จากพวกอิสลามิสต์ยังคงประสบความล้มเหลว ส่งผลให้เมืองสำคัญทั้งสองแห่งซึ่งอยู่ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางตะวันตกยังคงตกอยู่ใต้การยึดครองของกลุ่มหัวรุนแรงที่เชื่อมโยงกับอัลกออิดะห์ที่เริ่มเปิดศึกชิงเมืองดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม
ด้าน พ.อ.สตีเวน วอร์เรน โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ออกมาแถลงว่า สหรัฐฯได้จัดส่งอากาศยานรบไร้นักบิน (โดรน) แบบ “สแกนอีเกิล” สำหรับตรวจการณ์จำนวน 10 ลำเข้ามาในอิรัก เพื่อช่วยรัฐบาลแบกแดดในการกวาดล้างพวกนักรบอิสลามิสต์ในพื้นที่จังหวัดอันบาร์
เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย