คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
ถ้าเราจำไม่ผิดเหมือนจะมี
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 21 บัญญัติว่า ในการคํานวณระยะเวลาจําคุก ให้นับวันเริ่มจําคุกรวมคํานวณเข้าด้วย และให้นับเป็นหนึ่งวันเต็มโดยไม่ต้องคํานึงถึงจํานวนชั่วโมง
.....ถ้าระยะเวลาที่คํานวณน้ันกําหนดเป็นเดือน ให้นับสามสิบวันเป็นหน่ึงเดือน ถ้ากําหนดเป็นปี ให้คํานวณตามปีปฏิทินในราชการ
จากตรงนี้ 12เดือน เท่ากับ 12*30=360 วัน ซึ่งจาก 1 ปี = 365-366 วัน จะเห็นว่ามันไม่เท่ากัน ต่างกันอยู่ 5-6 วันค่ะ
เรียนนานเเล้วลืม ถ้าผิดตรงไหน เสริมเพิ่มเติมได้นะคะ
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 21 บัญญัติว่า ในการคํานวณระยะเวลาจําคุก ให้นับวันเริ่มจําคุกรวมคํานวณเข้าด้วย และให้นับเป็นหนึ่งวันเต็มโดยไม่ต้องคํานึงถึงจํานวนชั่วโมง
.....ถ้าระยะเวลาที่คํานวณน้ันกําหนดเป็นเดือน ให้นับสามสิบวันเป็นหน่ึงเดือน ถ้ากําหนดเป็นปี ให้คํานวณตามปีปฏิทินในราชการ
จากตรงนี้ 12เดือน เท่ากับ 12*30=360 วัน ซึ่งจาก 1 ปี = 365-366 วัน จะเห็นว่ามันไม่เท่ากัน ต่างกันอยู่ 5-6 วันค่ะ
เรียนนานเเล้วลืม ถ้าผิดตรงไหน เสริมเพิ่มเติมได้นะคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 24
ถ้ามีการปฏิรูปเรื่องกฏหมายให้เข้มแข็งกว่านี้ใครสู้จะออกไปช่วยค่ะ ไม่ใช่ปฏิรูปอะไรเรื่อยเปื่อยตามใจคนอยากปฏิรูปแต่สุดท้ายกฏหมายเข้าข้างคนรวย เอาผิดคนจนอย่างเข้มงวด คดีคนรวยขับรถประมาท ไม่มีใบขับขี่ คนตายกี่คน บุคลากรที่ตายระดับหัวกะทิของชาติที่น่าจะพาประเทศพัฒนาได้แต่จนไง นั่งรถตู้ ตอนตายก็มีองค์กรหลายฝ่ายออกมาแสดงท่าทีเรียกร้องความเป็นธรรม แต่คดีการดำเนินการมันต้องใช้เงินไง จะมีใครเป็นตัวแทนสานต่อ คนผิดใช้เงินดำเนินการอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายโทษจำคุกรอลงอาญา สองตายายนี่เหมือนกันค่ะ ถ้ามีเงินคดีไม่มีทางถึงศาลหรอกเคลียร์หน้างานจบไปนานแล้ว ปฏิรูปมาเถอะการเมืองไทยต่อให้ปฏิรูปกันทุกเรื่องแม้กระทั่งเรื่องสินบน คนรวยเขาไม่ได้ใช้คำว่าสินบนค่ะ เขาบอกว่าค่าน้ำร้อน น้ำชา เขายัดสินบนกันที่ไหน ไม่เกี่ยว ไม่ผิด เจ้าพนักงานเขาไม่ได้รับสินบนคนรวยนะคะ แค่คนรวยพาไปพักผ่อนตากอากาศ มีเวลาก็ชวนกันไปออกรอบ พาเจ้าพนักงานไปดูงานต่างประเทศบ้างสัมมนาทริปต่างๆบ้าง มีท่านๆที่เป็นเพื่อนพ้องแนะนำให้ช่วยเรื่องน้นเรื่องนี้ นั่นนี่จะตามมาเป็นขบวน สินน้ำใจก็มีให้บ้างนิดๆหน่อยๆ เป็นค่าน้ำร้อนน้ำชา ไม่ใช่การให้สินบนอะไรหรอกค่ะ แต่คนจนที่เป็นชนส่วนมากของประเทศแค่ค่าวิ่งเต้นหาเงินค่ารถมาโรงพักมาเยี่ยมญาติที่ถูกกล่าวหา ยังต้องหากู้หาหยิบยืมค่ารถมาเลย อย่าพูดถึงเรื่องวิ่งเต้นเลยแค่จะมาฟังคำตัดสินของศาลแต่ละครั้งพวกลูกหลาน ญาติพี่น้องยังไม่มีปัญญาหาค่ารถมารับฟังกันเลย
ความคิดเห็นที่ 35
อายุ 48 กับ 51 เรียกตากับยายคงไม่ได้อายุน้อยกว่าพ่อแม่ผมซะอีกนะเนี่ยคนเราถ้าอยากด่าศาลก็ควรจะหาข้อเท็จจริงให้รอบด้านก่อน
>>>ซึ่งข้อเท็จจริงคือทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซด์ไปเก็บเห็ดระหว่างทางเจอตำรวจมาจับพวกลักลอบตัดไม้ตกใจเลยหนีทิ้งรถมอเตอร์ไซด์ไว้และตำรวจได้ยึดรถไว้จึงไปติดต่อขอรับคืนตำรวจบอกว่าถ้าอยากได้คืนให้ลงชื่อรับสารภาพคดีลักลอบตัดไม้ก็จะได้รถคืนจึงลงชื่อยอมรับผิดต่อมาตำรวจส่งฟ้องกับอัยการอัยการก็ส่งฟ้องต่อศาลในชั้นศาลทั้งสองคนได้รับคำแนะนำจากทนายให้ยอมรับผิดเพราะบอกว่าจะได้ลดโทษก็เชื่อและยอมรับผิดต่อศาลจึงโดนตัดสินจำคุก 15 ปี
>>>ประเด็นคือทำไมถึงรุมด่าศาลเพราะศาลก็ตัดสินตามหลักฐานจากตำรวจและอัยการเพราะตามกฎหมายไทยศาลยุติธรรมตัดสินคดีแบบกล่าวหาคือตัดสินจากพยานหลักฐานที่ได้มาจากสืบสวนของตำรวจและอัยการดังนั้นศาลไม่สามารถเพิ่มประเด็นการสืบสวนข้อเท็จจริงได้เองต้องอาศัยจากพยานโจทย์และจำเลยมาหักล้างกันหากมีประเด็นใดสงสัยและไม่มีหลักฐานชัดเจนก็ให้ยกผลประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลยไปต่างจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ตัดสินคดีแบบการไต่สวนหากศาลสงสัยในประเด็นใดก็สามารถเรียกพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้
>>> และประเด็นของกระทู้นี้คือช้านอยากด่าศาลทั้งๆที่เห็นอยู่คาตาว่าคดีนี้ต้นทางและกลางทางของกระบวนการยุติธรรมหรือคือตำรวจกับอัยการผิดเต็มๆแต่ขอด่าปลายทางซะอย่างงั้นแหละเพราะอคติหรืออย่างไรก็แล้วแต่
ปล. ที่ต่างจังหวัดพ่อแม่ผมอายุ 50 ปลายๆก็ไม่เห็นมีใครเรียกตา เรียกยาย นะมีแต่เรียกลุงกะป้ากัน
*** เพิ่มเติมนะครับจากที่ไปหาอ่านมาคดีบุกรุกตัดไม้ในป่าสงวนศาลจะไม่ลดหย่อนโทษให้เพราะถือว่าเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติของประเทศถือเป็นคดีร้ายแรงและมีฎีกาเก่าอ้างอิงไว้
>>>ซึ่งข้อเท็จจริงคือทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซด์ไปเก็บเห็ดระหว่างทางเจอตำรวจมาจับพวกลักลอบตัดไม้ตกใจเลยหนีทิ้งรถมอเตอร์ไซด์ไว้และตำรวจได้ยึดรถไว้จึงไปติดต่อขอรับคืนตำรวจบอกว่าถ้าอยากได้คืนให้ลงชื่อรับสารภาพคดีลักลอบตัดไม้ก็จะได้รถคืนจึงลงชื่อยอมรับผิดต่อมาตำรวจส่งฟ้องกับอัยการอัยการก็ส่งฟ้องต่อศาลในชั้นศาลทั้งสองคนได้รับคำแนะนำจากทนายให้ยอมรับผิดเพราะบอกว่าจะได้ลดโทษก็เชื่อและยอมรับผิดต่อศาลจึงโดนตัดสินจำคุก 15 ปี
>>>ประเด็นคือทำไมถึงรุมด่าศาลเพราะศาลก็ตัดสินตามหลักฐานจากตำรวจและอัยการเพราะตามกฎหมายไทยศาลยุติธรรมตัดสินคดีแบบกล่าวหาคือตัดสินจากพยานหลักฐานที่ได้มาจากสืบสวนของตำรวจและอัยการดังนั้นศาลไม่สามารถเพิ่มประเด็นการสืบสวนข้อเท็จจริงได้เองต้องอาศัยจากพยานโจทย์และจำเลยมาหักล้างกันหากมีประเด็นใดสงสัยและไม่มีหลักฐานชัดเจนก็ให้ยกผลประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลยไปต่างจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ตัดสินคดีแบบการไต่สวนหากศาลสงสัยในประเด็นใดก็สามารถเรียกพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้
>>> และประเด็นของกระทู้นี้คือช้านอยากด่าศาลทั้งๆที่เห็นอยู่คาตาว่าคดีนี้ต้นทางและกลางทางของกระบวนการยุติธรรมหรือคือตำรวจกับอัยการผิดเต็มๆแต่ขอด่าปลายทางซะอย่างงั้นแหละเพราะอคติหรืออย่างไรก็แล้วแต่
ปล. ที่ต่างจังหวัดพ่อแม่ผมอายุ 50 ปลายๆก็ไม่เห็นมีใครเรียกตา เรียกยาย นะมีแต่เรียกลุงกะป้ากัน
*** เพิ่มเติมนะครับจากที่ไปหาอ่านมาคดีบุกรุกตัดไม้ในป่าสงวนศาลจะไม่ลดหย่อนโทษให้เพราะถือว่าเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติของประเทศถือเป็นคดีร้ายแรงและมีฎีกาเก่าอ้างอิงไว้
แสดงความคิดเห็น
ข่าว 3 มิติ เมื่อกี้ เราฟังไม่ผิดใช่มั้ย
เราได้ยินว่าศาลลดโทษให้ จาก 15 ปี เหลือ 14 ปี กับอีก 12 เดือน
ได้ยินแล้วอึ้งไปพักใหญ่ จะดีใจกับตายายดีมั้ยเนี่ย หรือว่าเราฟังผิด
ใครไ้ด้ยินเหมือนกันบ้างคะ
#เห็นภาพตอนทั้งคู่ออกมาเจอญาติๆ แล้วน้ำตาจะไหล T^T