วันนี้ เพิ่งได้รับใบคำขอเสนอซื้อหุ้น ปิคนิค จากบริษัท เวิร์ลด์ แก๊ส
ผมเคยเห็นการใช้กลไกทางบัญชี และการเงิน ในการดูดเอาเงินทุนจากผู้ถือหุ้นมาแล้วหลายรูปแบบ ในนามของ "การเพิ่มทุน"
เคยเจ็บกับปิคนิค ประมาณหนึ่งแสน จำไม่ได้แล้วว่าเข้าตอน 30 บาท* หรือต่ำกว่า
วันสุดท้าย ราคามันร่วงลงเหมือนลิฟต์ จนทำอะไรไม่ถูก
มาร์โทรมาบอกว่า ตอนนี้มันเหลือ 6 บาท พี่จะไม่ทำอะไรบ้างหรือครับ?
คือช่วงนั้น ผมไม่ได้ตามข่าว เข้ามาดูพอร์ตตอนมาร์โทร และสภาพที่เห็นมันก็เละ จนทำอะไรไม่ถูก
สุดท้ายมีหุ้นเน่าติดพอร์ตอยู่แบบนั้น 20,000 หุ้น*
วันดี คืนดี ปิคนิค แจ้งว่าได้ทำ "การลดทุน" ทำให้จำนวนหุ้นลดลงเหลือประมาณ 1,300 หุ้น
เราก็ได้แต่ทำตาปริบๆ แบบว่า นี่เราขาดทุนไปเป็นแสนแล้ว เหลือหุ้นไว้เป็นเครื่องตักเตือนสะเทือนใจนิดนึง
มันก็ยังตามมา "ดูด" มา "รีด" เอาทรัพย์สินไปรับประทานได้อีก เฮ้อ...
แต่ตอนนี้ ภาพอะไรๆ มันกลับดูชัดเจนขึ้น
จากการลดทุน ทำให้ บ.เวิร์ลด์ แก๊ส ได้เข้ากลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ร้อยละ 85 (ประมาณ 1700 ล้านหุ้น พาร์ 1) ตอนปลายปี 2556
แล้วตอนนี้ ก็ยื่นทำเรื่องขอเสนอซื้อหุ้นซากเน่าที่เหลืออีก 297 ล้านหุ้น ราคา 1 บาท ค่าธรรมเนียม ร้อยละ 0.25 ให้ผู้ขายเป็นผู้ออกอีก
ระยะเวลาตั้งโต๊ะรับซื้อ 7 มกรา ถึง 10 กุมภา
จากนั้น แจ้งว่า หลังจากซื้อในราคาถูกแล้ว เมื่อยื่นต่อศาลแล้ว จะขอเพิ่มทุนเป็น 1,800 ล้านบาทอีกที
ผมเองไม่ใช่นักการเงิน ไม่ใช่บัญชี ไม่ค่อยจะเข้าใจกลไกพวกนี้หรอกครับ รู้แต่ว่า เขามีวิธีเอาเปรียบเรามากมายทุกด้าน
ตอนเราขาดทุน ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยอะไร แต่อเมื่อำนาจบริหารอยู่ในมือของเขาแล้ว เขาอยู่ กิน เสวยสุขด้วยเงินของเรา เรียกว่าค่าบริหาร มีกลไกไซฟ่อนเงินต่างๆ มากมายทั้งถูกและผิดกฏหมาย
พอทำให้บริษัทขาดทุน ก็มาเรียกเราไปแบกภาระร่วมชดใช้หนี้
เสร็จแล้วก็บีบคอซื้อหรือขายทรัพย์สินของเราไปในราคาถูกกว่าขยะรีไซเคิล
เสร็จแล้วก็เอากลับไปทำวิศวกรรม แปลงเป็นเงิน เป็นทองขึ้นมาอีก
พ่อรวยสอนว่า "ถ้าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องหุ้น ให้อยู่ฝ่ายผู้ออกหุ้น ทำกระดาษธรรมดาให้เป็นสินทรัพย์
ไม่ใช่ฝ่ายผู้ซื้อหุ้น" ...
รู้ แต่มันทำไม่ได้ หุๆ... ขอรวบรวมทุน 50 ล้านก่อนจะไปจดทะเบียนในตลาด MAI
*ตัวเลขคร่าวๆ นะครับ ปิคนิค ลดทุนโดยการลดจำนวนหุ้นจาก ประมาณ 3,000 ล้านหุ้น (พาร์ 1 บาท) เหลือ 200 ล้านหุ้น (พาร์ 1 บาท)
PICNI ฟื้นคืนชีพ? วิศวกรรมการเงิน กับแมงเม่า
ผมเคยเห็นการใช้กลไกทางบัญชี และการเงิน ในการดูดเอาเงินทุนจากผู้ถือหุ้นมาแล้วหลายรูปแบบ ในนามของ "การเพิ่มทุน"
เคยเจ็บกับปิคนิค ประมาณหนึ่งแสน จำไม่ได้แล้วว่าเข้าตอน 30 บาท* หรือต่ำกว่า
วันสุดท้าย ราคามันร่วงลงเหมือนลิฟต์ จนทำอะไรไม่ถูก
มาร์โทรมาบอกว่า ตอนนี้มันเหลือ 6 บาท พี่จะไม่ทำอะไรบ้างหรือครับ?
คือช่วงนั้น ผมไม่ได้ตามข่าว เข้ามาดูพอร์ตตอนมาร์โทร และสภาพที่เห็นมันก็เละ จนทำอะไรไม่ถูก
สุดท้ายมีหุ้นเน่าติดพอร์ตอยู่แบบนั้น 20,000 หุ้น*
วันดี คืนดี ปิคนิค แจ้งว่าได้ทำ "การลดทุน" ทำให้จำนวนหุ้นลดลงเหลือประมาณ 1,300 หุ้น
เราก็ได้แต่ทำตาปริบๆ แบบว่า นี่เราขาดทุนไปเป็นแสนแล้ว เหลือหุ้นไว้เป็นเครื่องตักเตือนสะเทือนใจนิดนึง
มันก็ยังตามมา "ดูด" มา "รีด" เอาทรัพย์สินไปรับประทานได้อีก เฮ้อ...
แต่ตอนนี้ ภาพอะไรๆ มันกลับดูชัดเจนขึ้น
จากการลดทุน ทำให้ บ.เวิร์ลด์ แก๊ส ได้เข้ากลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ร้อยละ 85 (ประมาณ 1700 ล้านหุ้น พาร์ 1) ตอนปลายปี 2556
แล้วตอนนี้ ก็ยื่นทำเรื่องขอเสนอซื้อหุ้นซากเน่าที่เหลืออีก 297 ล้านหุ้น ราคา 1 บาท ค่าธรรมเนียม ร้อยละ 0.25 ให้ผู้ขายเป็นผู้ออกอีก
ระยะเวลาตั้งโต๊ะรับซื้อ 7 มกรา ถึง 10 กุมภา
จากนั้น แจ้งว่า หลังจากซื้อในราคาถูกแล้ว เมื่อยื่นต่อศาลแล้ว จะขอเพิ่มทุนเป็น 1,800 ล้านบาทอีกที
ผมเองไม่ใช่นักการเงิน ไม่ใช่บัญชี ไม่ค่อยจะเข้าใจกลไกพวกนี้หรอกครับ รู้แต่ว่า เขามีวิธีเอาเปรียบเรามากมายทุกด้าน
ตอนเราขาดทุน ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยอะไร แต่อเมื่อำนาจบริหารอยู่ในมือของเขาแล้ว เขาอยู่ กิน เสวยสุขด้วยเงินของเรา เรียกว่าค่าบริหาร มีกลไกไซฟ่อนเงินต่างๆ มากมายทั้งถูกและผิดกฏหมาย
พอทำให้บริษัทขาดทุน ก็มาเรียกเราไปแบกภาระร่วมชดใช้หนี้
เสร็จแล้วก็บีบคอซื้อหรือขายทรัพย์สินของเราไปในราคาถูกกว่าขยะรีไซเคิล
เสร็จแล้วก็เอากลับไปทำวิศวกรรม แปลงเป็นเงิน เป็นทองขึ้นมาอีก
พ่อรวยสอนว่า "ถ้าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องหุ้น ให้อยู่ฝ่ายผู้ออกหุ้น ทำกระดาษธรรมดาให้เป็นสินทรัพย์
ไม่ใช่ฝ่ายผู้ซื้อหุ้น" ...
รู้ แต่มันทำไม่ได้ หุๆ... ขอรวบรวมทุน 50 ล้านก่อนจะไปจดทะเบียนในตลาด MAI
*ตัวเลขคร่าวๆ นะครับ ปิคนิค ลดทุนโดยการลดจำนวนหุ้นจาก ประมาณ 3,000 ล้านหุ้น (พาร์ 1 บาท) เหลือ 200 ล้านหุ้น (พาร์ 1 บาท)