เหตุเกิด ณ โรงพยาบาล แชร์ประสบกราณ์คะ

วันนี้ มีเรื่องดีๆและเรื่องแย่ๆมาแชร์ มาเล่าสู่กันฟังคะ

เรื่องทั้งหมดนี้เกิดในโรงพยาบาลแห่งนึง
วันนี้เราไปโรงพยาบาลมา
ก็ไปหาหมอคะ คนเยอะมากกกก
พี่ๆพยาบาลส่วนใหญ่น่ารักคะ พูดจาดีไม่มีอะไร ปกติดี

แต่มีพยาบาลอยู่คนนึง ที่ไม่ปกติ
ระหว่างที่เรานั่งรอเรียกชื่อ มีลุงแก่ๆคนนึง
เดินไปถามอะไรสักอย่างกับพยาบาลคนนี้ ซึ่งเราก็ไม่ได้ยินว่าแกพูดว่าอะไร
แต่สิ่งที่พยาบาลตอบลุงกลับมา
ทุกคนที่นั่งรอตรวจเราเชื่อว่าได้ยินคะ
เพราะเธอ ตะคอก!! ใส่ลุงเสียงดังมากว่า
โอ้ยยย เดี๋ยวพยาบาลเค้าก็เอามาให้เองแหละ!!
แล้วนางก็เดินไป แต่ลุงหน้าเสียเลยคะ
คนทั้งห้องตรวจหันมามอง เพราะนางตะคอกเสียงดังมาก

จนถึงคิวเราเรียกไปตรวจ เราก็ตรวจปกติ
พยาบาลคนนี้ก็อยู่ในห้องนี้ด้วย
แล้วสักพักก็มีป้าคิวต่อจากเรา อายุน่าจะประมาณ 65+ ขาไม่ดีใช้ไม้เท้าพยุงตัวมา เดินมานั่งข้างๆเรา
แล้วถามเราว่า หนูๆต้องเอาใบนี่ไปยื่นให้หมอเลยป่าวจ้ะ หรือถือไว้ก่อน
เรากำลังจะตอบ แต่พยาบาลคนนี้คงได้ยินที่ป้าถามเรา
เธอตะโกน ย้ำว่าตะโกน!! ว่า
มาทางนี้เลยป้า มาหาหมอตรงนี้
เอออ ป้านั้นเเหละ ป้าก็เดินกะเผลกๆไป เพราะแกใช้ไม้เท้าช่วยเดิน
พยาบาลคนนี้ก็ตะโกนใส่ป้าอีกว่า เดินให้มันเร็วๆหน่อยดิป้า ชักช้า คนอื่นเค้ารอคิวเยอะนะ เดินเร็วๆดิ๊

เราแบบบ หืมม หันไปมองเธอแบบ หัวจรดเท้า
เธอ เบะปากใส่เราจ้าาา เราเลยพูดลอยๆออกมาว่า พูดดีๆมันจะตายรึไง? แมนเนอร์อะรู้จักปะ?
ณ จุดๆนั้น ทั้งห้องเงียบ แล้วเธอก็สะบัดหน้าเดินหายไปไหนไม่รู้

จบคะ เรื่องนี้ เราโนคอมเม้นท์จริงๆ
แต่สาบานได้ว่าจริงทุกคำที่พูด อารมณ์นั้นแบบ ทำไมอะ ป้ากะลุงเค้าผิดไรเหรอ?
เค้าเดินช้าเพราะแกขาไม่ดี แก่แล้ว มันร้ายแรงขนาดต้องตะคอกใส่กันเหรอ คนมีอารยะ เค้าทำกันแบบนี้เหรอ รับไม่ได้จริงๆคะ


เรื่องที่ 2 เรื่องนี้ เป็นเรื่องดีมากๆ

ตอนตรวจเสร็จเรารอรับผลตรวจ ก็รอเรียกชื่อ
ระหว่างรอก็เล่นมือถือไปพลางๆ
จนเค้าประกาศเรียกชื่อ เราก็ไปต่อคิว
ระหว่างยืนรออยู่นั้นอยู่ดี ก็มีคนมาสะกิดเรา
เราหันไปมอง เป็นคุณลุงแก่ๆ นั่งรถเข็น
แกยื่นกระเป๋าตังค์ให้เราคะ เราแบบตกใจมาก
เฮ้ยยยยย ลืมได้ไง คือมัวแต่เล่นมือถือ
จนลืมกระเป๋าตังค์ไว้ที่เก้าอี้
แล้วคือ เพิ่งกดเงินออกมา
แบบว่าโล่งใจมาก รู้สึกขอบคุณลุงแกจริงๆ
แล้วที่สำคัญ คือลุงแก ใช้มือดันล้อรถเข็นเองด้วยตัวเองคือลูกแก ยืนรอจ่ายเงินอยู่ แล้วแกเข็นรถเข็นด้วยตัวเองเพื่อที่จะเอากระเป๋าตังค์มาคืนให้เรา
อารมณ์นั้นทั้งดีใจ ทั้งรู้สึกผิด
เราเลยเดินออกมาจากแถวที่ต่อคิวอยู่
แล้วก็เข็นรถให้ลุง ไปรอลูกที่เดิม

ขอบคุณมากๆคะ ^___^


แล้วจากนั้น พอจัดการธุระที่โรงพยาบาลเสร็จ
เราต้องไปหาเพื่อนต่อที่บ้าน
แล้วเราก็ไม่รู้ทาง รู้แค่ที่หลักๆ
เลยบอกแท็กซี่ว่าไปที่นี่ แท็กซี่ก็ถามไปทางนี้ได้มั้ย อยู่ตรงไหนแน่
เราก็บอกไปตามตรงว่าไม่ทราบคะว่าไปทางไหนได้บ้าง รู้แต่อยู่ใกล้ๆที่นี่
แล้วแท็กซี่ก็ถามว่ารู้มั้ยว่าวนรถตรงนี้ได้ป่าว
เราก็บอกไม่รู้คะ ไม่ได้มานานแล้ว
คิดในใจโดนพาอ้อมแน่กรู
แต่ก็เอาเหอะให้ไปถึงก็พอ ไม่ได้รีบอยู่แล้ว

พอใกล้ถึงบ้านเพื่อน เราก็เริ่มจำทางได้
แล้วก็บอกทางแท็กซี่ไป
พี่แท็กซี่ก็บอก อ่อออ ตรงนี้เค้าเรียกว่าแบบนี้นะ
คราวหลังบอกแท็กซี่แบบนี้นะ พอถึงบ้านเพื่อนค่ามิเตอร์ 140กว่าบาท
เราเตรียมจะจ่าย พี่แท็กซี่บอก ผมเอา 100 เดียวครับ เพราะปกติจากโรงบาลมาที่นี่ประมาณ 100 เดียว
แต่คุณบอกไม่ชัดเลยพามาอ้อม

เราแบบอึ้ง!! ไม่คิดว่าจะเจออะไรแบบนี้
เลยลอกพี่เค้าไปว่า ขอบคุณคะ ไม่เปนไร ตามมิเตอร์ดีกว่า เลยให้พี่แกไป 150 ไม่ต้องทอน

ตอนนั้นถ่ายรูปไม่ทันคะ เพราะกำลังจะลง

ขอบคุณ คุณลุง กับพี่แท็กซี่มากคะ ที่ทำให้รู้ว่าเมืองไทยนี้ยังมีคนดีและมีน้ำใจ
เหลืออยู่มาก
ขอบคุณที่ทำให้วันแย่ๆ กลายเป็นวันดีๆได้
ขอบคุณมากคะ ^_^


ป.ล. พิมพ์จากมือถือตกหล่นขออภัยคะ
ถ้าแท็กผิดขออภัยด้วยคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่