เรื่องนี้ เป็นหลักพื้นฐานที่สำคัญอย่างหนึ่งซึ่ง ผู้ประกอบการหลายคนอาจจะลืมละเลย เวลาเราผ่านช่วงเวลาประสบความสำเร็จทางธุรกิจ หรือว่าเราอยู่ในตลาดมานานระดับหนึ่ง มีส่วนแบ่งการตลาดที่มากพอสมควร อาจจะลืมอัพเดท เทรนด์ หรือว่า รสนิยมที่เปลี่ยนไปของลูกค้า เพราะอย่าลืมว่า ลูกค้าของคุณในวันนี้ อีก 3 ปี , 6 ปีข้างหน้า พฤติกรรมเปลี่ยน แต่ยังคงทำการตลาดแบบเดิม หรือว่า ไม่พัฒนาสินค้าหรือบริการให้สอดคล้องความต้องการของผู้บริโภค " มีปัญหาแน่ " ครับ แต่เราจะทำอย่างไรละ ทางที่ดีอย่างหนึ่งที่เราอาจจะ คาดไม่ถึงก็คือ การฟังเสียงสะท้อนของผู้บริโภค อย่างจริงใจ และนำมาปรับใช้กับการพัฒนาสินค้าหรือบริการนั้นเองครับ .... ซึ่งการฟังเสียงอาจจะทำได้โดยวิธีง่าย ๆ แบบนี้ครับ
1. การทำแบบสำรวจ ทำวิจัย ผ่านทาง บริษัagency ที่รับทำ หรือว่า ทำเองก็ได้ หลากหลายแบบ ทั้งแบบสัมภาษณ์กลุ่ม เดี่ยว ทำแบบสำรวจ แอบซุ่มดูพฤติกรรมในห้าง หรือร้านค้า แอบส่องดูหน้าร้านของจริงแบบไม่ต้อง ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลมากเกินไป หรือแม้แต่ บันทึกเสียงสนทนาของ Call Center เพื่อดูว่า ลูกค้าต้องการอะไร กันแน่ ....
2.
ทำกล่องรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้าที่มาใช้บริการ หลายคนคงเคยคุ้นชินกับ กล่องรับฟังความเห็นที่วางอยู่ในร้านค้ามากมาย เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนจากลูกค้า เป็นวิธีที่ง่ายดายที่สุด แต่ก็มีข้อเสียว่า บางทีลูกค้าก็ไม่ค่อยจะเขียนหย่อนลงมาซะเท่าไหร่ ต้องเอารางวัลมาล่อ หรือโปรโมชั่นมาจูงใจบ้างในบางครั้ง
3.
ทำการโหวตผ่านระบบ ออนไลน์ต่าง ๆ ทาง Forum Board อย่างเช่น ppantip.com , หรือ ใช้ระบบการรับฟังโหวตที่มีให้ใช้ได้หลายรูปแบบ เพื่อฟังเสียงสะท้อนได้อย่างดี ตัวอย่างเช่น www.surveycan.com หรือ จะใช้ Google doc เพื่อสร้างแบบสำรวจได้อย่างง่ายดาย ทรงพลังก็ทำได้ หากอยากทราบข้อมูล ลองหาการใช้งานได้ฟรี บน Youtube ครับ มีคนเอามาปล่อยสอนแบบ step by step ง่ายดาย และฟรีด้วย !
4. ใช้ระบบ Social Content Provider ที่กำลังเป็นที่นิยม เพราะ คนส่วนใหญ่ตอนนี้ อาศัย social network เพื่อบ่น ระบาย เล่าให้เพื่อนในสังคมชุมชนตัวเองว่า เป็นยังไง ชอบไม่ชอบอะไร ทุกคนมีสังคมของตัวเองในเรื่องที่ชอบ เช่น Group ใน Facebook คนรักภาษาอังกฤษ คนที่ชอบทำอาหาร หรือกลุ่มคนที่ชอบการเลี้ยงสุนัขก็ จะมีสังคมที่จะแบ่งปันและแชร์เรื่องราวต่าง ๆ ของสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ในสมาชิกกันเอง ตรงส่วนนี้เราสามารถเข้าไปเติมเต็มได้ เข้าไปรับฟังและสังเกตปัญหา ให้ข้อมูล แชร์เรื่องที่ประโยชน์ แต่อย่าเน้นขายของแบบ ฮาร์ดเซลล์ ก็แล้วกัน ไม่เวิร์คแน่นอนครับ
5. Social Rank หรือ การจัดอันดับต่าง ๆ เพื่อฟังเสียงหรือ ดูอันดับต่าง ๆที่น่าสนใจของ Keyword ในระบบของ Google ที่จะช่วยให้มองเห็นว่า ผู้บริโภคตอนนี้สนใจอะไร อยากได้อะ เทรนด์ไหนก็กำลังมา ซึ่งอันที่จริงแล้วบริการดี ๆ แบบนี้ ทำให้นักการตลาดง่ายในการทำงานมากขึ้น รวมไปถึง ดูระบบ Google treands เพื่อดูเทรนด์กระแสต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ของการค้นหาคำว่า ตอนนี้
"มวลมหาประชาชน" กำลังสนใจเรื่องไหน เป็นพิเศษบ้าง .
ลิงค์นี้ไปยังหน้าแรกของ Google trends
http://www.google.com/trends/
ส่วนคลิปนี้ เจ็ดนาทีกว่า ๆ ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการใช้งาน แต่เป็นภาษาอังกฤษนะครับไม่ยากเท่าไหร่ ลองดูนะครับ
ในบ้านเรามี
http://zocialrank.com/ ที่จัดอันดับต่าง ๆของโลกออนไลน์ ซึ่งไม่เพียงแต่ประเทศไทย แต่จัดอันดับในระดับ อาเซียน เพื่อเตรียมตัวสำหรับ AEC ด้วยซ้ำไป แต่การใช้งานผมยังไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไหร่ ใครลองแวะไปดูแล้ว ได้ผลอย่างไร บอกกันบ้างก็ดีนะครับ ตัวระบบและการทำงานน่าสนใจสำหรับ SME ครับ
Thanks you for watching and have fun to get knowledge ....
SME ทำธุรกิจต้องหัด " ฟัง " เสียงลูกค้าให้มากเข้าไว้ !
1. การทำแบบสำรวจ ทำวิจัย ผ่านทาง บริษัagency ที่รับทำ หรือว่า ทำเองก็ได้ หลากหลายแบบ ทั้งแบบสัมภาษณ์กลุ่ม เดี่ยว ทำแบบสำรวจ แอบซุ่มดูพฤติกรรมในห้าง หรือร้านค้า แอบส่องดูหน้าร้านของจริงแบบไม่ต้อง ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลมากเกินไป หรือแม้แต่ บันทึกเสียงสนทนาของ Call Center เพื่อดูว่า ลูกค้าต้องการอะไร กันแน่ ....
2. ทำกล่องรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้าที่มาใช้บริการ หลายคนคงเคยคุ้นชินกับ กล่องรับฟังความเห็นที่วางอยู่ในร้านค้ามากมาย เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนจากลูกค้า เป็นวิธีที่ง่ายดายที่สุด แต่ก็มีข้อเสียว่า บางทีลูกค้าก็ไม่ค่อยจะเขียนหย่อนลงมาซะเท่าไหร่ ต้องเอารางวัลมาล่อ หรือโปรโมชั่นมาจูงใจบ้างในบางครั้ง
3. ทำการโหวตผ่านระบบ ออนไลน์ต่าง ๆ ทาง Forum Board อย่างเช่น ppantip.com , หรือ ใช้ระบบการรับฟังโหวตที่มีให้ใช้ได้หลายรูปแบบ เพื่อฟังเสียงสะท้อนได้อย่างดี ตัวอย่างเช่น www.surveycan.com หรือ จะใช้ Google doc เพื่อสร้างแบบสำรวจได้อย่างง่ายดาย ทรงพลังก็ทำได้ หากอยากทราบข้อมูล ลองหาการใช้งานได้ฟรี บน Youtube ครับ มีคนเอามาปล่อยสอนแบบ step by step ง่ายดาย และฟรีด้วย !
4. ใช้ระบบ Social Content Provider ที่กำลังเป็นที่นิยม เพราะ คนส่วนใหญ่ตอนนี้ อาศัย social network เพื่อบ่น ระบาย เล่าให้เพื่อนในสังคมชุมชนตัวเองว่า เป็นยังไง ชอบไม่ชอบอะไร ทุกคนมีสังคมของตัวเองในเรื่องที่ชอบ เช่น Group ใน Facebook คนรักภาษาอังกฤษ คนที่ชอบทำอาหาร หรือกลุ่มคนที่ชอบการเลี้ยงสุนัขก็ จะมีสังคมที่จะแบ่งปันและแชร์เรื่องราวต่าง ๆ ของสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ในสมาชิกกันเอง ตรงส่วนนี้เราสามารถเข้าไปเติมเต็มได้ เข้าไปรับฟังและสังเกตปัญหา ให้ข้อมูล แชร์เรื่องที่ประโยชน์ แต่อย่าเน้นขายของแบบ ฮาร์ดเซลล์ ก็แล้วกัน ไม่เวิร์คแน่นอนครับ
5. Social Rank หรือ การจัดอันดับต่าง ๆ เพื่อฟังเสียงหรือ ดูอันดับต่าง ๆที่น่าสนใจของ Keyword ในระบบของ Google ที่จะช่วยให้มองเห็นว่า ผู้บริโภคตอนนี้สนใจอะไร อยากได้อะ เทรนด์ไหนก็กำลังมา ซึ่งอันที่จริงแล้วบริการดี ๆ แบบนี้ ทำให้นักการตลาดง่ายในการทำงานมากขึ้น รวมไปถึง ดูระบบ Google treands เพื่อดูเทรนด์กระแสต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ของการค้นหาคำว่า ตอนนี้ "มวลมหาประชาชน" กำลังสนใจเรื่องไหน เป็นพิเศษบ้าง .
ลิงค์นี้ไปยังหน้าแรกของ Google trends
http://www.google.com/trends/
ส่วนคลิปนี้ เจ็ดนาทีกว่า ๆ ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการใช้งาน แต่เป็นภาษาอังกฤษนะครับไม่ยากเท่าไหร่ ลองดูนะครับ
ในบ้านเรามี http://zocialrank.com/ ที่จัดอันดับต่าง ๆของโลกออนไลน์ ซึ่งไม่เพียงแต่ประเทศไทย แต่จัดอันดับในระดับ อาเซียน เพื่อเตรียมตัวสำหรับ AEC ด้วยซ้ำไป แต่การใช้งานผมยังไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไหร่ ใครลองแวะไปดูแล้ว ได้ผลอย่างไร บอกกันบ้างก็ดีนะครับ ตัวระบบและการทำงานน่าสนใจสำหรับ SME ครับ
Thanks you for watching and have fun to get knowledge ....