ผมจะแชร์ประสบการณ์เรื่องหัวใจให้ลองคิดๆดู
สำหรับท่านที่กำลังอกหักจากความรักมานะครับ
ผมเคยคบกับผญคนนึง และตกลงปลงใจรักกันมาถึง 7 ปี
และในปีที่ 7 นั้นเอง ผมได้เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา
และเกิดติดใจในความจริง จากคำสอนต่างๆในพระพุทธศาสนา
จนผมไม่ลาสิขาออกไป และผมก็บวชต่อจนครบ 1 ปีพอดิบพอดี
แต่ผมก็ไม่ได้ขาดการติดต่อจากเขาไปซะทีเดียว
ก็ยังมีติดต่อกันบ้าง แต่ในระดับที่สมควร ไม่ได้สนธนาเกินเลย
ผมได้บอกเขาเสมอว่า ถ้าจะมีคนใหม่ก็มีได้เลย
แต่อยากให้ดูให้ดี เพราะผชดีๆที่ไม่หวังในตัวผญอย่างเดียว
ในสมัยนี้มันหายากมาก ถ้าจะมีไม่ว่าแต่ขอให้บอกล่วงหน้าก่อน
และก็มีอยู่มาวันนึง เขาโทรมาหาผมว่าจะสึกเมื่อไหร่
ผมก็ให้คำตอบเขาไม่ได้ เขาเลยตอบกลับมาว่า
เขามีคนใหม่แล้ว นอนด้วยกันแล้วด้วย และจะไปอยู่กับคนใหม่
ตอนนั้นยอมรับว่า"ใจเสีย"มากเลย ที่อยู่ดีๆมาบอกกับแบบนี้
แต่ผมก็ไม่อะไรแค่บอก ให้เขาโชคดี และผมก็ขาดการติดต่อไป
จนกระทั่งประมาณ 1เดือนถัดมา เขาติดต่อมาหาผม
และบอกขอโทษผม ที่ทำกับผมแบบนั้น และขอคืนดี
แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรตัดสายทิ้ง แต่เขาก็โทรมาเรื่อยๆ
จนผมใจอ่อนยอมสนธนาด้วย จนยอมให้เขากลับมาเหมือนเมื่อก่อน
ตอนนั้นยอมรับเลยว่ายอมอาบัติสังฆาทิเสส คือคุยกับผญคนนี้
เพราะกลัวจะเสียเขาไปอีก และคิดจะไปปริวาสแล้วลาสิขาเลย
แต่แล้ววันนั้นวันเกิดเขา เขามาขอยืมเงินไปจ่ายค่าห้อง ผมก็ให้เงินเก็บสมัยที่เป็นโยมไป วันถัดมาผมติดต่อเขาไม่ได้เลย
จนวันก็แล้ว สองวันก็แล้ว จนต้องให้เพื่อนไปดูที่ห้องเขา
ปรากฏว่าเขาย้ายของออกไปหมดแล้ว.....
ตอนนั้นยอมรับเลยว่าเสียใจ(มากๆๆ) แต่ไม่ได้ขนาดร้องไห้หรือฟูมฟาย
เพียงแต่ทานอะไรไม่ลง และรู้สึกหมดเรี่ยวแรงจนไม่อยากทำอะไร
แล้วเช้าวันถัดมาผมก็ไปปริวาส สำนึกผิดกับอาบัติที่กระทำไว้
และทำความเพียรต่างๆ เพื่อให้ลืมเรื่องของผญคนนี้ไปซะ
แต่ก็ลืมไม่ได้....
หลังกลับจากปริวาสไม่นานผมก็ลาสิขาออกมา เพราะคิดว่า
ถ้าอยู่ไปแล้วคิดแต่เรื่องผญ แล้วบวชอยู่ด้วย ไม่ใช่เรื่องดีแน่
อายญาติโยมที่เขากราบไหว้
ต่อจากนั้นประมาณ1-2อาทิตย์ ผมก็รับความจริงและทำใจได้
เพียงแค่คิดมาตลอดว่า
" นี่มันเป็นกรรมที่เราต้องชดใช้ ทำได้เพียงแค่ก้มหน้า
รับความจริง และอโหสิกรรมให้เขา "
เพียงเท่านี้ ไม่ได้ใช้กัมมัฏฐานอะไร
นี่ถ้าผมไม่ได้เข้ามาศึกษาพระพุทธศาสนา คงมีฆ่ากันตายบ้างแล้ว
แต่ดีที่ผมมีสติ และได้คำสอนมาช่วยไว้ ไม่งั้นคงได้ทำบาปแน่ๆ
หวังว่าเรื่องของผมคงช่วยใครหลายๆท่าน ที่กำลังอกหักอยู่
ให้มีกำลังใจขึ้น และซ่อมแซมหัวใจให้สมบูรณ์ได้โดยเร็ววันนะครับ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ สาธุ...
แชร์ประสบการณ์ความผิดหวังเรื่องหัวใจ สำหรับท่านที่กำลังอกหัก
สำหรับท่านที่กำลังอกหักจากความรักมานะครับ
ผมเคยคบกับผญคนนึง และตกลงปลงใจรักกันมาถึง 7 ปี
และในปีที่ 7 นั้นเอง ผมได้เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา
และเกิดติดใจในความจริง จากคำสอนต่างๆในพระพุทธศาสนา
จนผมไม่ลาสิขาออกไป และผมก็บวชต่อจนครบ 1 ปีพอดิบพอดี
แต่ผมก็ไม่ได้ขาดการติดต่อจากเขาไปซะทีเดียว
ก็ยังมีติดต่อกันบ้าง แต่ในระดับที่สมควร ไม่ได้สนธนาเกินเลย
ผมได้บอกเขาเสมอว่า ถ้าจะมีคนใหม่ก็มีได้เลย
แต่อยากให้ดูให้ดี เพราะผชดีๆที่ไม่หวังในตัวผญอย่างเดียว
ในสมัยนี้มันหายากมาก ถ้าจะมีไม่ว่าแต่ขอให้บอกล่วงหน้าก่อน
และก็มีอยู่มาวันนึง เขาโทรมาหาผมว่าจะสึกเมื่อไหร่
ผมก็ให้คำตอบเขาไม่ได้ เขาเลยตอบกลับมาว่า
เขามีคนใหม่แล้ว นอนด้วยกันแล้วด้วย และจะไปอยู่กับคนใหม่
ตอนนั้นยอมรับว่า"ใจเสีย"มากเลย ที่อยู่ดีๆมาบอกกับแบบนี้
แต่ผมก็ไม่อะไรแค่บอก ให้เขาโชคดี และผมก็ขาดการติดต่อไป
จนกระทั่งประมาณ 1เดือนถัดมา เขาติดต่อมาหาผม
และบอกขอโทษผม ที่ทำกับผมแบบนั้น และขอคืนดี
แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรตัดสายทิ้ง แต่เขาก็โทรมาเรื่อยๆ
จนผมใจอ่อนยอมสนธนาด้วย จนยอมให้เขากลับมาเหมือนเมื่อก่อน
ตอนนั้นยอมรับเลยว่ายอมอาบัติสังฆาทิเสส คือคุยกับผญคนนี้
เพราะกลัวจะเสียเขาไปอีก และคิดจะไปปริวาสแล้วลาสิขาเลย
แต่แล้ววันนั้นวันเกิดเขา เขามาขอยืมเงินไปจ่ายค่าห้อง ผมก็ให้เงินเก็บสมัยที่เป็นโยมไป วันถัดมาผมติดต่อเขาไม่ได้เลย
จนวันก็แล้ว สองวันก็แล้ว จนต้องให้เพื่อนไปดูที่ห้องเขา
ปรากฏว่าเขาย้ายของออกไปหมดแล้ว.....
ตอนนั้นยอมรับเลยว่าเสียใจ(มากๆๆ) แต่ไม่ได้ขนาดร้องไห้หรือฟูมฟาย
เพียงแต่ทานอะไรไม่ลง และรู้สึกหมดเรี่ยวแรงจนไม่อยากทำอะไร
แล้วเช้าวันถัดมาผมก็ไปปริวาส สำนึกผิดกับอาบัติที่กระทำไว้
และทำความเพียรต่างๆ เพื่อให้ลืมเรื่องของผญคนนี้ไปซะ
แต่ก็ลืมไม่ได้....
หลังกลับจากปริวาสไม่นานผมก็ลาสิขาออกมา เพราะคิดว่า
ถ้าอยู่ไปแล้วคิดแต่เรื่องผญ แล้วบวชอยู่ด้วย ไม่ใช่เรื่องดีแน่
อายญาติโยมที่เขากราบไหว้
ต่อจากนั้นประมาณ1-2อาทิตย์ ผมก็รับความจริงและทำใจได้
เพียงแค่คิดมาตลอดว่า
" นี่มันเป็นกรรมที่เราต้องชดใช้ ทำได้เพียงแค่ก้มหน้า
รับความจริง และอโหสิกรรมให้เขา "
เพียงเท่านี้ ไม่ได้ใช้กัมมัฏฐานอะไร
นี่ถ้าผมไม่ได้เข้ามาศึกษาพระพุทธศาสนา คงมีฆ่ากันตายบ้างแล้ว
แต่ดีที่ผมมีสติ และได้คำสอนมาช่วยไว้ ไม่งั้นคงได้ทำบาปแน่ๆ
หวังว่าเรื่องของผมคงช่วยใครหลายๆท่าน ที่กำลังอกหักอยู่
ให้มีกำลังใจขึ้น และซ่อมแซมหัวใจให้สมบูรณ์ได้โดยเร็ววันนะครับ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ สาธุ...