นี่เป็นกระทู้แรกที่มีโอกาสได้ตั้งในพันทิป อาจจะผิดพลาดไปบ้างนะคะ
ก่อนอื่นเลย จขกท. เป็นนักศึกษาสถาปัตย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีโอกาสได้เรียนกับ อ.จุลพร นันทพานิช และได้มีโอกาสได้ไปทริปต่างประเทศที่คณะจัดโดยที่คณะมีการจัดให้ไป สิงคโปร์ หลวงพระบาง เชียงตุง บาหลี และสิบสองปันนา จขกท. เลือกที่จะไปสิบสองปันนากับอ.จุลพรค่ะ
เราเริ่มจากการทำวีซ่าจีน โดยหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ต่างๆ เป็นการทำวีซ่าครั้งแรกที่ต้องเตรียมเอกสารเอง ทำให้ยุ่งยากมากแต่ก็ผ่านไปได้ค่ะ เราเดินทางโดยการนั่งรถไปค่ะ ต้องเขียนจดหมายว่าเราเดินทางกี่วัน เดินทางกันกี่คนและเดินทางยังไง เราขอข้ามขั้นตอนการทำวีซ่าไปนะเพราะตอนที่ทำวีซ่าไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้
แผนที่เดินทางจากไทยสู่จีน อันนี้ จขกท. ยืมรูปจากเว็บไซต์
http://www.photoontour.com/outbound/sipsongpanna/01_chiang_khong.htm
วันแรก พวกเราออกเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ไปที่จังหวัดเชียงราย โดยรถเมล์เขียว ค่ารถเมล์ 185 บาท
อันนี้เป็นรูปที่ถ่ายที่สถานีขนส่งเชียงใหม่ค่ะ เป็นรูปก่อนเดินทาง สภาพทุกคนยังดูดีอยู่ เราเดินทางถึงจังหวัดเชียงรายและเข้าพักที่เชียงรายเตรียมตัวเดินทางต่อในตอนเช้าค่ะ
วันที่สอง
พวกเราออกเดินทางจากเชียงรายแต่เช้าเพื่อนั่งรถต่อไปที่ อ. เชียงของค่ะ ค่ารถเชียงราย - เชียงของ 65 บาทค่ะ
อันนี้คือรถที่พวกเราจะนั่งไป เราออกเดินทางกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึงเชียงของประมาณ 8 โมงกว่าๆ แล้วพวกเราก็นั่งรถตุ๊กๆ อาจารย์บอกว่าเป็นรถ sky lap มาที่ด่าน (ข้าวมันไก่ไหหลำที่เชียงของอร่อยมากๆๆๆๆๆๆ)
อันนี้คือรถที่นั่งไปที่ด่าน แว๊นมาก
แอบแปะป้ายร้านข้าวมันไก่ เด็ดมากจริงๆร้านนี้
จากนั้นพวกเราก็มาขึ้นเรือข้ามฟากไปที่บ้านห้วยทราย ประเทศลาว (ค่าเรือข้ามฟาก 40 บาท)
พอมาถึงลาวพวกเราก็เหมารถตู้ ด้วยราคา 7000 บาท ไปที่บ่อเต็น ซึ่งก็คือด่านออกประเทศลาวเพื่อเข้าประเทศจีน ระหว่างทาง อาจารย์ให้รถตู้จอดแวะดูบ้านชาวบ้าน เป็นชาวแลนแตน สภาพบ้านเค้าจะอยู่กับพื้นดิน ตัวบ้านทำจากหญ้าคา
เป็นชาวพื้นเมืองเก่าในลาวที่อยู่อาศัยเหมือนๆกับชาวกะเหรี่ยงบ้านเรา เนื่องจาก จขกท. เรียนสถาปัตย์ อาจจะมีแต่ภาพบ้านชาวบ้านเยอะไปหน่อยนะค่ะ
ต่อมาหมู่บ้านที่อาจารย์ให้รถตู้จอดให้อีกหมู่บ้านนึงก็คือหมู่บ้านของชาวละเม็ดค่ะ
บ้านจะต่างกับชาวแลนแตนที่ตัวบ้านยกพื้นสูง หมู่บ้านนี้อยู่ติดกับถนนใหญ่เลย
แล้วพวกเราก็นั่งรถตู้ตียาวไปจนถึงบ่อเต็นเลยค่ะ เราข้ามชายแดนมาที่บ่อหารคือฝั่งของจีนตอนสี่โมงเย็นค่ะ จากนั้นก็นั่งรถตู้ต่อมาที่เมืองพงค่ะ ใครที่เคยไปสิบสองปันนาน่าจะพอทราบว่าคนที่นั้นอ่อนภาษาอังกฤษค่ะ เรียกว่าพูดไม่เป็น ฟังไม่ได้เลยทีเดียว พวกเราที่ไปไม่มีไกด์ ไม่มีใครพูดภาษาจีนเป็น มีแค่นับเลขได้ พอบอกจำนวนของคนที่จะไปได้นับว่าสุดยอดแล้วค่ะ เราไปกัน 14 คน การติดต่อรถนั้นยากมาก โชคดีที่แถวๆนั้นมีคนไทยที่มาเปิดร้านขายของอยู่เค้าเลยช่วยคุยให้พวกเรา ทำให้พวกเราได้นั่งรถมาจนถึงเมืองพงค่ะ
เมืองพงยามค่ำคืน ระหว่างทางที่นั่งรถตู้มา บอกเค้าว่าเหมารถนะ แต่เค้าดันแวะรับผู้โดยสารเพิ่มมาอีกสองคน เรางงเลยค่ะ นี่คือเหมารถหรอ??? ขำๆค่ะ ถือว่าโชคดีมากที่เค้าแวะรับผู้โดยสารเพิ่มเพราะผู้โดยสารที่มาเพิ่มเป็นสองสาวชาวลาวที่เค้าจะมาเที่ยว (ตอนถามบอกมาดิ้น) เค้าฟังภาษาไทยได้ พูดจีนได้ เพื่อนที่ไปกะเรามีคนอีสานด้วย เลยติดต่อเค้าขอให้บอกรถตู้ไปส่งโรงแรมที่ราคาถูกๆให้หน่อย เค้าก็ช่วยหาค่ะ เราเลยได้ห้องพักที่ราคา 80 หยวนต่อห้อง นอนได้ 2 คนค่ะ จากนั้นพวกเราก็ออกมาหาอาหารมื้อดึกทาน เป็นร้านอาหารที่สองสาวแนะนำก่อนที่สองสาวจะขอตัวไปเที่ยวกันต่อค่ะ
อันนี้แก๊งค์สาวๆค่ะ
นี่แก๊งค์บ่าวๆ ในทริป
อาหารร้านนี้อร่อยมาก พวกเรากินข้าวกันแบบไม่ยั้งเลยค่ะเนื่องจากความเหนื่อยสะสมที่เดินทางข้ามถึง 3 ประเทศในวันเดียว ทำให้มื้อนี้หมดค่าอาหารไป 500 หยวน ประมาณ 2500 บาทค่ะ O_O
ยังไม่หมดกับการกินนะค่ะ อาจารย์จุลพรแนะนำให้พวกเราไปกินของปิ้งย่างต้นตำรับไทลื้อค่ะ เป็นปิ้งย่างที่เด็ดมาก มีรสเผ็ด ชา อร่อยมากเลยค่ะราคาขายก็เท่ากับบ้านเรา ไม้ละ 5 บาท หรือ 1 หยวน
เป็นร้านรถเข็นเล็กๆค่ะ เรียงขายกันแล้วก็มีโต๊ะให้นั่งกินด้านหลังรถเข็น แต่รสชาติเยี่ยมมากค่ะ มองข้ามเรื่องสถานที่ไปได้เลย หลังจากนั้นพวกเราก็กลับโรงแรมนอนค่ะ เตรียมตัวเดินทางไปเมืองล่ากันค่ะ
ทัวร์สิบสองปันนา Backpack แบบประหยัด
ก่อนอื่นเลย จขกท. เป็นนักศึกษาสถาปัตย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีโอกาสได้เรียนกับ อ.จุลพร นันทพานิช และได้มีโอกาสได้ไปทริปต่างประเทศที่คณะจัดโดยที่คณะมีการจัดให้ไป สิงคโปร์ หลวงพระบาง เชียงตุง บาหลี และสิบสองปันนา จขกท. เลือกที่จะไปสิบสองปันนากับอ.จุลพรค่ะ
เราเริ่มจากการทำวีซ่าจีน โดยหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ต่างๆ เป็นการทำวีซ่าครั้งแรกที่ต้องเตรียมเอกสารเอง ทำให้ยุ่งยากมากแต่ก็ผ่านไปได้ค่ะ เราเดินทางโดยการนั่งรถไปค่ะ ต้องเขียนจดหมายว่าเราเดินทางกี่วัน เดินทางกันกี่คนและเดินทางยังไง เราขอข้ามขั้นตอนการทำวีซ่าไปนะเพราะตอนที่ทำวีซ่าไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้
แผนที่เดินทางจากไทยสู่จีน อันนี้ จขกท. ยืมรูปจากเว็บไซต์ http://www.photoontour.com/outbound/sipsongpanna/01_chiang_khong.htm
วันแรก พวกเราออกเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ไปที่จังหวัดเชียงราย โดยรถเมล์เขียว ค่ารถเมล์ 185 บาท
อันนี้เป็นรูปที่ถ่ายที่สถานีขนส่งเชียงใหม่ค่ะ เป็นรูปก่อนเดินทาง สภาพทุกคนยังดูดีอยู่ เราเดินทางถึงจังหวัดเชียงรายและเข้าพักที่เชียงรายเตรียมตัวเดินทางต่อในตอนเช้าค่ะ
วันที่สอง
พวกเราออกเดินทางจากเชียงรายแต่เช้าเพื่อนั่งรถต่อไปที่ อ. เชียงของค่ะ ค่ารถเชียงราย - เชียงของ 65 บาทค่ะ
อันนี้คือรถที่พวกเราจะนั่งไป เราออกเดินทางกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึงเชียงของประมาณ 8 โมงกว่าๆ แล้วพวกเราก็นั่งรถตุ๊กๆ อาจารย์บอกว่าเป็นรถ sky lap มาที่ด่าน (ข้าวมันไก่ไหหลำที่เชียงของอร่อยมากๆๆๆๆๆๆ)
อันนี้คือรถที่นั่งไปที่ด่าน แว๊นมาก
แอบแปะป้ายร้านข้าวมันไก่ เด็ดมากจริงๆร้านนี้
จากนั้นพวกเราก็มาขึ้นเรือข้ามฟากไปที่บ้านห้วยทราย ประเทศลาว (ค่าเรือข้ามฟาก 40 บาท)
พอมาถึงลาวพวกเราก็เหมารถตู้ ด้วยราคา 7000 บาท ไปที่บ่อเต็น ซึ่งก็คือด่านออกประเทศลาวเพื่อเข้าประเทศจีน ระหว่างทาง อาจารย์ให้รถตู้จอดแวะดูบ้านชาวบ้าน เป็นชาวแลนแตน สภาพบ้านเค้าจะอยู่กับพื้นดิน ตัวบ้านทำจากหญ้าคา
เป็นชาวพื้นเมืองเก่าในลาวที่อยู่อาศัยเหมือนๆกับชาวกะเหรี่ยงบ้านเรา เนื่องจาก จขกท. เรียนสถาปัตย์ อาจจะมีแต่ภาพบ้านชาวบ้านเยอะไปหน่อยนะค่ะ
ต่อมาหมู่บ้านที่อาจารย์ให้รถตู้จอดให้อีกหมู่บ้านนึงก็คือหมู่บ้านของชาวละเม็ดค่ะ
บ้านจะต่างกับชาวแลนแตนที่ตัวบ้านยกพื้นสูง หมู่บ้านนี้อยู่ติดกับถนนใหญ่เลย
แล้วพวกเราก็นั่งรถตู้ตียาวไปจนถึงบ่อเต็นเลยค่ะ เราข้ามชายแดนมาที่บ่อหารคือฝั่งของจีนตอนสี่โมงเย็นค่ะ จากนั้นก็นั่งรถตู้ต่อมาที่เมืองพงค่ะ ใครที่เคยไปสิบสองปันนาน่าจะพอทราบว่าคนที่นั้นอ่อนภาษาอังกฤษค่ะ เรียกว่าพูดไม่เป็น ฟังไม่ได้เลยทีเดียว พวกเราที่ไปไม่มีไกด์ ไม่มีใครพูดภาษาจีนเป็น มีแค่นับเลขได้ พอบอกจำนวนของคนที่จะไปได้นับว่าสุดยอดแล้วค่ะ เราไปกัน 14 คน การติดต่อรถนั้นยากมาก โชคดีที่แถวๆนั้นมีคนไทยที่มาเปิดร้านขายของอยู่เค้าเลยช่วยคุยให้พวกเรา ทำให้พวกเราได้นั่งรถมาจนถึงเมืองพงค่ะ
เมืองพงยามค่ำคืน ระหว่างทางที่นั่งรถตู้มา บอกเค้าว่าเหมารถนะ แต่เค้าดันแวะรับผู้โดยสารเพิ่มมาอีกสองคน เรางงเลยค่ะ นี่คือเหมารถหรอ??? ขำๆค่ะ ถือว่าโชคดีมากที่เค้าแวะรับผู้โดยสารเพิ่มเพราะผู้โดยสารที่มาเพิ่มเป็นสองสาวชาวลาวที่เค้าจะมาเที่ยว (ตอนถามบอกมาดิ้น) เค้าฟังภาษาไทยได้ พูดจีนได้ เพื่อนที่ไปกะเรามีคนอีสานด้วย เลยติดต่อเค้าขอให้บอกรถตู้ไปส่งโรงแรมที่ราคาถูกๆให้หน่อย เค้าก็ช่วยหาค่ะ เราเลยได้ห้องพักที่ราคา 80 หยวนต่อห้อง นอนได้ 2 คนค่ะ จากนั้นพวกเราก็ออกมาหาอาหารมื้อดึกทาน เป็นร้านอาหารที่สองสาวแนะนำก่อนที่สองสาวจะขอตัวไปเที่ยวกันต่อค่ะ
อันนี้แก๊งค์สาวๆค่ะ
นี่แก๊งค์บ่าวๆ ในทริป
อาหารร้านนี้อร่อยมาก พวกเรากินข้าวกันแบบไม่ยั้งเลยค่ะเนื่องจากความเหนื่อยสะสมที่เดินทางข้ามถึง 3 ประเทศในวันเดียว ทำให้มื้อนี้หมดค่าอาหารไป 500 หยวน ประมาณ 2500 บาทค่ะ O_O
ยังไม่หมดกับการกินนะค่ะ อาจารย์จุลพรแนะนำให้พวกเราไปกินของปิ้งย่างต้นตำรับไทลื้อค่ะ เป็นปิ้งย่างที่เด็ดมาก มีรสเผ็ด ชา อร่อยมากเลยค่ะราคาขายก็เท่ากับบ้านเรา ไม้ละ 5 บาท หรือ 1 หยวน
เป็นร้านรถเข็นเล็กๆค่ะ เรียงขายกันแล้วก็มีโต๊ะให้นั่งกินด้านหลังรถเข็น แต่รสชาติเยี่ยมมากค่ะ มองข้ามเรื่องสถานที่ไปได้เลย หลังจากนั้นพวกเราก็กลับโรงแรมนอนค่ะ เตรียมตัวเดินทางไปเมืองล่ากันค่ะ