ตอนที่ 2
http://ppantip.com/topic/35146042/comment2-1
ตอนที่ 3
http://ppantip.com/topic/35149628/comment1
ตอนที่ 4
http://ppantip.com/topic/35164567/comment3-1
ตอนที่ 5 (ตอนสุดท้าย)
http://ppantip.com/topic/35179616/comment2
ในช่วงเดือน เมษา-พฤษภา คงไม่ต้องพูดถึงอากาศบ้านเรานะครับว่ามันร้อนแค่ไหน
ขนาดผมอยู่เชียงรายอุณหภูมิบางวันแตะ 40 องศา บ้าไปแล้ว! และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้...
ผมเดินทางช่วงหลังสงกรานต์ วันที่ 17-24 เมษา 59 รวมทั้งหมด 8 วัน โดยมีจุดหมายคือเมืองต้าหลี่ มณฑลยูนนาน ประเทศจีน
เอ่อ! ต้องขอบอกก่อนนะครับ ที่ผมเลือกไปมณฑลยูนนานเพราะว่า เป็นมณฑลที่อยู่ใกล้บ้านเรามากที่สุด และสามารถเดินทางโดยรถโดยสารระหว่างประเทศได้ เพราะฉะนั้นทริปนี้ผมจึงเลือกเดินทางโดยรถโดยสารทั้งหมด ไม่ได้นั่งเครื่อง จะสตร๊องนิดนึงสำหรับคนที่ไม่ชอบนั่งรถ พอดีผมเป็นคนง่ายๆ เอาประหยัดไว้ก่อน5555 แต่ทริปนี้ก็มีช๊อปบ้าง กินนอนแบบทั่วไป ไงก็ติดตามดูนะครับ
เชียงของ-บ่อหาร-สิบสองปันนา-คุนหมิง-ต้าหลี่
เส้นทางการเดินทาง ผมเริ่มต้นที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย โดยผ่านด่านพรมแดนไทย-ลาว เชียงของ-ห้วยทราย ด่านเชียงของ-ห้วยทราย จะเปิดให้ข้ามไปฝั่งลาว แปดโมงเช้านะครับ โดยเราจะต้องไปนั้งรถบัสห้วยทราย-คุนหมิง ที่โรงแรมวังทอง ห้วยทราย สปป.ลาว ผมแนะนำให้นอนที่เชียงของก่อนหนึ่งคืนนะครับ แล้ววันรุ่งขึ้นค่อยข้ามไปประเทศลาว จะได้ไม่ต้องรีบร้อนมากด้วย อิอิ
Day 1 : เชียงของ-บ่อหาร-เมืองลา-สิบสอปันนา
เช็คเอาท์จากโรงแรมในเชียงของ แล้วนั่งรถสามล้อรับจ้างที่หน้าตลาดเชียงของ ไปที่ด่านเชียงของ-ห้วยทราย ประมาณ60บาท ถ้าหลายคนก็หารกันถูกหน่อย
Cr. google.com (รูปนี้ถ่ายไม่ทันครับ เลยเซฟมาเพื่อให้เพื่อนๆเห็นภาพเข้าใจง่ายขึ้น)
พอถึงด่านพรมแดนก็ทำเรื่องออกนอกประเทศไทยแปปเดียว แค่กรอกข้อมูลนิดหน่อยแล้วยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ ด่านไทยไม่เสียตังค์นะครับ
พอผ่านด่านเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องนั่งรถบัสโดยสารนี้ จะส่งเราจากด่านไทยไปยังด่านลาวครับ ค่าโดยสารคนละ 25บาท
พอถึงด่านลาว ก็ต้องทำเรื่องขอเข้าประเทศลาวเช่นกันครับ กรอกข้อมูลพร้อมยื่นพาสให้เจ้าที่ ที่นี่เสียค่าผ่านแดน20บาท นะครับ
จากนั้นก็นั่งรถสามล้อรับจ้าง บอกเขาว่าไปขึ้นรถไปคุนหมิงที่โรงแรมวังทอง ค่าเสียหายคนล่ะ 100บาท แต่ถ้าคุณนั่งไปคนเดียวคิด 200-300บาท แพงมาก!! แนะนำให้รอนักท่องเที่ยวคนอื่นดีกว่า จะได้หารๆกัน
ถึงโรงแรมวังทองแล้ว เกือบไม่ทันแหน่ะ แนะนำให้ข้ามด่านตั้งแต่แปดโมงด่านเปิดเลยนะคับ ถ้าคนที่ด่านเยอะอาจเสียเวลาเยอะด้วย เผื่อเวลาหน่อยดีกว่าครับ
ทำการซื้อตั๋วเรียบร้อย นี่เป็นรถที่ไปคุนหมิงนะครับ แต่ผมบอกเขาว่าลงที่ด่านบ่อหาร(磨憨 โม่ฮาน) ราคา100หยวน ถ้าใช้เงินไทย650บาท แล้วแต่สะดวกครับ
รถจะเป็นแบบนี้ครับ
เป็นรถนอนสาทแถว สองชั้น เตียงนุ่มพอใช้ครับ อ่อ! ก่อนขึ้นรถจะมีถุงแจกให้ใส่รองเท้าของเรา เพราะไม่อนุญาตให้ใส่รองเท้าขึ้นบนรถครับ
เริ่มออกเดินทางกันครับ นั่งยาวๆ นั่งบ้างนอนบ้าง ตลอดทางค่อนข้างคดเคี้ยว ส่วนมากจะเป็นภูเขา สำหรับคนที่เมารถแนะนำให้ทานยาแก้เมามาด้วยนะครับ
และแล้วรถก็แวะจอดข้างทางให้ลงไปเข้าห้องน้ำ ใครที่รู้สึกหิวก็ลงไปซื้ออะไรกินรองท้องก่อนนะครับ
รถวิ่งต่อประมาณชั่วโมงครึ่งสองชั่วโมง ก็เดินทางมาถึงด่านบ่อเต้น ประเทศลาว คนขับรถจะเรียกให้เราลงจากรถ เพื่อทำเรื่องออกนอกประเทศลาว ที่นี่ต้องเสียอีก20บาทครับ แหม่! เพื่อนบ้านอาเซียนเราต้องเสียค่าเข้าและออกประเทศทั้งสองด่านนะครับ
เสร็จเรียบร้อยก็เดินเท้าข้ามไปด่านบ่อหาร ประเทศจีน ระยะทางไม่ไกลนะครับ ประมาณ200เมตร
พอเดินมาเรื่อยๆ สิ่งแรกที่จะเห็นก็คือ ความอลังการ และ ทันสมัยของด่านบ่อหาร นี่แหละครับพี่จีน!
ให้ทำเรื่องเข้าประเทศจีน ตรวจวีซ่าให้เรียบร้อย ที่นี่ไฮโซนะครับ ไม่ต้องกรอกข้อมูลเอง เพียงแค่คุณยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ เขาจะเอาไปสแกนที่เครื่องแล้วปริ้นข้อมูลของเราออกมาเลยครับ สะดวกมากกกกก ชอบๆ
จากนั้นก็เดินไปขึ้นรถที่ท่ารถบ่อหาร เพื่อไปสิบสองปันนา (ผมลงจากรถบัสที่นั่งมาจากห้วยทรายที่นี่ครับ ถ้าคุณจะนั่งไปคุนหมิงต่อก็ให้ขึ้นรถคันเดิมที่นี่เช่นกัน รถไปคุนหมิงจะออกประมาณห้าโมงเย็น เวลาจีน)
......ตารางเดินรถของรถจากขนส่งบ่อหารไปที่ต่างๆ......
ผมมาไม่ทันรถที่ไปสิบสองปันนาครับ ถึงนี่ก็สี่โมงเย็นกว่าๆแล้ว ก็เลยต้องนั่งรถจากบ่อหารไปเมืองลาก่อน รถไปเมืองลามีทุกๆยี่สิบนาที ไปถึงเมืองลามีรถที่ไปสิบสองปันนาเยอะครับ
ระหว่างทางจะเห็นได้ว่า ที่นี่เริ่มก่อสร้างอะไรเยอะแยะไปหมด ทางการจีนน่าจะกำลังเข้ามาพัฒนาบริเวณชายแดนมากขึ้นครับ
ถึงแล้วครับ ขนส่งเมืองลา จัดการซื้อตั๋วให้เรียบร้อย(ราคา 47หยวน)แล้วขึ้นรถซะ ไม่อยากไปถึงสิบสองปันนาดึกเกินไปอ่ะคับ
ผมชอบรถโดยสารที่จีนอย่างนึงคือ เวลาก่อนที่รถจะออก จะมีเจ้าหน้าที่ขึ้นมาบอกให้ผู้โดยสารรัดเข็มขัดนิรภัยและเช็คความเรียบร้อยแจ้งรายละเอียดต่างๆ ดูเขาใส่ใจดีครับ
ในที่สุดก็มาถึงสิบสองปันนาแล้วครับ นั่งรถทั้งวันน้ำตาแทบจะไหล
กว่าจะถึงก็ดึกแล้วครับ ประมาณสี่ทุ่ม หาที่พักเข้าพักให้เรียบร้อย ที่พักในสิบสองปันนาจะแพงหน่อยนะครับ ประมาณ150-200หยวน แต่ถือว่าดีครับ ภายในห้องสะดวกดี มีwifi เครื่องซักผ้าด้วย
พักผ่อนสักแปปนึง รู้สึกท้องร้องก็เลยออกไปหาไรกินสักหน่อย(นี่ดึกแล้วนะ5555) พอดีหน้าโรงแรมเป็นเหมือนกับถนนคนเดิน ก็เลยมีของซื้อของกินพอสมควรครับ
สินค้าส่วนมากก็เป็นพวกเครื่องดนตรี งานฝีมือ แล้วบางอย่างก็เหมือนของบ้านเรา เห็นขายอยู่แถวๆไนท์บราซ่าที่เชียงราย เชียงใหม่
แต่เราจะมาโฟกัสที่ของกินเป็นหลัก555 นี่มีทั้งปิ้งย่าง หรือที่เรียกกันว่า เซาค่าว แต่ปิ้งย่างที่นี่จะเป็นรสชาติแบบสิบสองปันนา ไม่ค่อยเผ็ดและไม่ชาลิ้น แต่จะหอมเครื่องเทศมาก และอีกอย่างก็คือเกี๊ยวซ่าทอด เอาไปคลุกกับเครื่องปรุงอย่างที่เห็น ผมชอบนะ อร่อยดี
และนี่คือ ถังหูลู่ มันเป็นผลไม้อะไรสักอย่าง เอาให้เชื่อมกับน้ำตาล รสชาติก็โอเคนะ แต่คงสู้ของปักกิ่งไม่ได้ แบบอริจินอลเป็นของฝั่งทางเหนือ นี่มันสิบสองปันนา ก็เป็นรสชาติแบบสิบสองปันนาอ่ะนะ
ต่อไปก็ลงรูปปิ้งย่างรัวๆ ของโปรด อยู่เชียงรายก็มีนะ กินบ่อย เรื่องนี้เซียน
พอจัดการเรียบร้อย หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน เลยขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะครับ วันนี้เดินทางทั้งวันเลย เหนื่อยฝุดๆ ลาไปด้วยบรรยากาศยามค่ำคืนของสิบสองปันนา ยังไงก็ขอบคุณสำหรับการติดตาม 晚安(หวั่นอัน)ราตรีสวัสดิ์เป็นภาษาจีน...
ฝากติดตามต่อ ตอนนที่2 ด้วยนะครับ http://ppantip.com/topic/35146042/comment2-1
สิบสองปันนา-คุนหมิง-ต้าลี่ หนีร้อน...เที่ยวเมืองจีน
ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/35146042/comment2-1
ตอนที่ 3 http://ppantip.com/topic/35149628/comment1
ตอนที่ 4 http://ppantip.com/topic/35164567/comment3-1
ตอนที่ 5 (ตอนสุดท้าย) http://ppantip.com/topic/35179616/comment2
ในช่วงเดือน เมษา-พฤษภา คงไม่ต้องพูดถึงอากาศบ้านเรานะครับว่ามันร้อนแค่ไหนขนาดผมอยู่เชียงรายอุณหภูมิบางวันแตะ 40 องศา บ้าไปแล้ว! และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้...
ผมเดินทางช่วงหลังสงกรานต์ วันที่ 17-24 เมษา 59 รวมทั้งหมด 8 วัน โดยมีจุดหมายคือเมืองต้าหลี่ มณฑลยูนนาน ประเทศจีน
เอ่อ! ต้องขอบอกก่อนนะครับ ที่ผมเลือกไปมณฑลยูนนานเพราะว่า เป็นมณฑลที่อยู่ใกล้บ้านเรามากที่สุด และสามารถเดินทางโดยรถโดยสารระหว่างประเทศได้ เพราะฉะนั้นทริปนี้ผมจึงเลือกเดินทางโดยรถโดยสารทั้งหมด ไม่ได้นั่งเครื่อง จะสตร๊องนิดนึงสำหรับคนที่ไม่ชอบนั่งรถ พอดีผมเป็นคนง่ายๆ เอาประหยัดไว้ก่อน5555 แต่ทริปนี้ก็มีช๊อปบ้าง กินนอนแบบทั่วไป ไงก็ติดตามดูนะครับ
เชียงของ-บ่อหาร-สิบสองปันนา-คุนหมิง-ต้าหลี่
เส้นทางการเดินทาง ผมเริ่มต้นที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย โดยผ่านด่านพรมแดนไทย-ลาว เชียงของ-ห้วยทราย ด่านเชียงของ-ห้วยทราย จะเปิดให้ข้ามไปฝั่งลาว แปดโมงเช้านะครับ โดยเราจะต้องไปนั้งรถบัสห้วยทราย-คุนหมิง ที่โรงแรมวังทอง ห้วยทราย สปป.ลาว ผมแนะนำให้นอนที่เชียงของก่อนหนึ่งคืนนะครับ แล้ววันรุ่งขึ้นค่อยข้ามไปประเทศลาว จะได้ไม่ต้องรีบร้อนมากด้วย อิอิ
Day 1 : เชียงของ-บ่อหาร-เมืองลา-สิบสอปันนา
เช็คเอาท์จากโรงแรมในเชียงของ แล้วนั่งรถสามล้อรับจ้างที่หน้าตลาดเชียงของ ไปที่ด่านเชียงของ-ห้วยทราย ประมาณ60บาท ถ้าหลายคนก็หารกันถูกหน่อย
Cr. google.com (รูปนี้ถ่ายไม่ทันครับ เลยเซฟมาเพื่อให้เพื่อนๆเห็นภาพเข้าใจง่ายขึ้น)
พอถึงด่านพรมแดนก็ทำเรื่องออกนอกประเทศไทยแปปเดียว แค่กรอกข้อมูลนิดหน่อยแล้วยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ ด่านไทยไม่เสียตังค์นะครับ
พอผ่านด่านเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องนั่งรถบัสโดยสารนี้ จะส่งเราจากด่านไทยไปยังด่านลาวครับ ค่าโดยสารคนละ 25บาท
พอถึงด่านลาว ก็ต้องทำเรื่องขอเข้าประเทศลาวเช่นกันครับ กรอกข้อมูลพร้อมยื่นพาสให้เจ้าที่ ที่นี่เสียค่าผ่านแดน20บาท นะครับ
จากนั้นก็นั่งรถสามล้อรับจ้าง บอกเขาว่าไปขึ้นรถไปคุนหมิงที่โรงแรมวังทอง ค่าเสียหายคนล่ะ 100บาท แต่ถ้าคุณนั่งไปคนเดียวคิด 200-300บาท แพงมาก!! แนะนำให้รอนักท่องเที่ยวคนอื่นดีกว่า จะได้หารๆกัน
ถึงโรงแรมวังทองแล้ว เกือบไม่ทันแหน่ะ แนะนำให้ข้ามด่านตั้งแต่แปดโมงด่านเปิดเลยนะคับ ถ้าคนที่ด่านเยอะอาจเสียเวลาเยอะด้วย เผื่อเวลาหน่อยดีกว่าครับ
ทำการซื้อตั๋วเรียบร้อย นี่เป็นรถที่ไปคุนหมิงนะครับ แต่ผมบอกเขาว่าลงที่ด่านบ่อหาร(磨憨 โม่ฮาน) ราคา100หยวน ถ้าใช้เงินไทย650บาท แล้วแต่สะดวกครับ
รถจะเป็นแบบนี้ครับ
เป็นรถนอนสาทแถว สองชั้น เตียงนุ่มพอใช้ครับ อ่อ! ก่อนขึ้นรถจะมีถุงแจกให้ใส่รองเท้าของเรา เพราะไม่อนุญาตให้ใส่รองเท้าขึ้นบนรถครับ
เริ่มออกเดินทางกันครับ นั่งยาวๆ นั่งบ้างนอนบ้าง ตลอดทางค่อนข้างคดเคี้ยว ส่วนมากจะเป็นภูเขา สำหรับคนที่เมารถแนะนำให้ทานยาแก้เมามาด้วยนะครับ
และแล้วรถก็แวะจอดข้างทางให้ลงไปเข้าห้องน้ำ ใครที่รู้สึกหิวก็ลงไปซื้ออะไรกินรองท้องก่อนนะครับ
รถวิ่งต่อประมาณชั่วโมงครึ่งสองชั่วโมง ก็เดินทางมาถึงด่านบ่อเต้น ประเทศลาว คนขับรถจะเรียกให้เราลงจากรถ เพื่อทำเรื่องออกนอกประเทศลาว ที่นี่ต้องเสียอีก20บาทครับ แหม่! เพื่อนบ้านอาเซียนเราต้องเสียค่าเข้าและออกประเทศทั้งสองด่านนะครับ
เสร็จเรียบร้อยก็เดินเท้าข้ามไปด่านบ่อหาร ประเทศจีน ระยะทางไม่ไกลนะครับ ประมาณ200เมตร
พอเดินมาเรื่อยๆ สิ่งแรกที่จะเห็นก็คือ ความอลังการ และ ทันสมัยของด่านบ่อหาร นี่แหละครับพี่จีน!
ให้ทำเรื่องเข้าประเทศจีน ตรวจวีซ่าให้เรียบร้อย ที่นี่ไฮโซนะครับ ไม่ต้องกรอกข้อมูลเอง เพียงแค่คุณยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ เขาจะเอาไปสแกนที่เครื่องแล้วปริ้นข้อมูลของเราออกมาเลยครับ สะดวกมากกกกก ชอบๆ
จากนั้นก็เดินไปขึ้นรถที่ท่ารถบ่อหาร เพื่อไปสิบสองปันนา (ผมลงจากรถบัสที่นั่งมาจากห้วยทรายที่นี่ครับ ถ้าคุณจะนั่งไปคุนหมิงต่อก็ให้ขึ้นรถคันเดิมที่นี่เช่นกัน รถไปคุนหมิงจะออกประมาณห้าโมงเย็น เวลาจีน)
......ตารางเดินรถของรถจากขนส่งบ่อหารไปที่ต่างๆ......
ผมมาไม่ทันรถที่ไปสิบสองปันนาครับ ถึงนี่ก็สี่โมงเย็นกว่าๆแล้ว ก็เลยต้องนั่งรถจากบ่อหารไปเมืองลาก่อน รถไปเมืองลามีทุกๆยี่สิบนาที ไปถึงเมืองลามีรถที่ไปสิบสองปันนาเยอะครับ
ระหว่างทางจะเห็นได้ว่า ที่นี่เริ่มก่อสร้างอะไรเยอะแยะไปหมด ทางการจีนน่าจะกำลังเข้ามาพัฒนาบริเวณชายแดนมากขึ้นครับ
ถึงแล้วครับ ขนส่งเมืองลา จัดการซื้อตั๋วให้เรียบร้อย(ราคา 47หยวน)แล้วขึ้นรถซะ ไม่อยากไปถึงสิบสองปันนาดึกเกินไปอ่ะคับ
ผมชอบรถโดยสารที่จีนอย่างนึงคือ เวลาก่อนที่รถจะออก จะมีเจ้าหน้าที่ขึ้นมาบอกให้ผู้โดยสารรัดเข็มขัดนิรภัยและเช็คความเรียบร้อยแจ้งรายละเอียดต่างๆ ดูเขาใส่ใจดีครับ
ในที่สุดก็มาถึงสิบสองปันนาแล้วครับ นั่งรถทั้งวันน้ำตาแทบจะไหล กว่าจะถึงก็ดึกแล้วครับ ประมาณสี่ทุ่ม หาที่พักเข้าพักให้เรียบร้อย ที่พักในสิบสองปันนาจะแพงหน่อยนะครับ ประมาณ150-200หยวน แต่ถือว่าดีครับ ภายในห้องสะดวกดี มีwifi เครื่องซักผ้าด้วย
พักผ่อนสักแปปนึง รู้สึกท้องร้องก็เลยออกไปหาไรกินสักหน่อย(นี่ดึกแล้วนะ5555) พอดีหน้าโรงแรมเป็นเหมือนกับถนนคนเดิน ก็เลยมีของซื้อของกินพอสมควรครับ
สินค้าส่วนมากก็เป็นพวกเครื่องดนตรี งานฝีมือ แล้วบางอย่างก็เหมือนของบ้านเรา เห็นขายอยู่แถวๆไนท์บราซ่าที่เชียงราย เชียงใหม่
แต่เราจะมาโฟกัสที่ของกินเป็นหลัก555 นี่มีทั้งปิ้งย่าง หรือที่เรียกกันว่า เซาค่าว แต่ปิ้งย่างที่นี่จะเป็นรสชาติแบบสิบสองปันนา ไม่ค่อยเผ็ดและไม่ชาลิ้น แต่จะหอมเครื่องเทศมาก และอีกอย่างก็คือเกี๊ยวซ่าทอด เอาไปคลุกกับเครื่องปรุงอย่างที่เห็น ผมชอบนะ อร่อยดี
และนี่คือ ถังหูลู่ มันเป็นผลไม้อะไรสักอย่าง เอาให้เชื่อมกับน้ำตาล รสชาติก็โอเคนะ แต่คงสู้ของปักกิ่งไม่ได้ แบบอริจินอลเป็นของฝั่งทางเหนือ นี่มันสิบสองปันนา ก็เป็นรสชาติแบบสิบสองปันนาอ่ะนะ
ต่อไปก็ลงรูปปิ้งย่างรัวๆ ของโปรด อยู่เชียงรายก็มีนะ กินบ่อย เรื่องนี้เซียน
พอจัดการเรียบร้อย หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน เลยขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะครับ วันนี้เดินทางทั้งวันเลย เหนื่อยฝุดๆ ลาไปด้วยบรรยากาศยามค่ำคืนของสิบสองปันนา ยังไงก็ขอบคุณสำหรับการติดตาม 晚安(หวั่นอัน)ราตรีสวัสดิ์เป็นภาษาจีน...
ฝากติดตามต่อ ตอนนที่2 ด้วยนะครับ http://ppantip.com/topic/35146042/comment2-1