เตือนภัย งานสอนพิเศษ

วันนี้ไปที่ใต้ตึกมนุษศาสตร์มา มีเรื่องอยากเตือนครับ
ที่ประกาศรับสมัครงาน มีประกาศรับคนสอนพิเศษทุกวิชาอยู่
ไม่ขอเอ่ยนามนะครับ แต่จะขอบอกว่า ก่อนที่คุณจะเสียเวลาเดินทางเอากระดาษและความตั้งใจไปให้เขานั่งกระดิกเท้า ค่อยๆเลือกคนที่จะมาทำงานให้เขา ถามเขาก่อนนะครับ
"ทดลองงาน คือการสอนฟรีใช่ไหม"

เรื่องนี้เล่นเอาผมหูแดงเลยครับ
คือว่า
ผม "ต้องการสมัครอาจารย์สอนพิเศษวิชาภาษาอังกฤษครับ"
เขา "เข้ามาเลยครับ อย่าลืมเตรียมเอกสาร รูปถ่าย เรซูเม่มาให้พร้อมด้วยนะครับ"

วันนัด
ผม "นี่ครับเอกสาร สัมภาษณ์ได้เลยไหมครับ"
เขา "ยังไม่ได้สัมภาษณ์นะครับ ให้ผมพิจารณาเอกสารก่อน"
ผม "? วันนี้เรียกให้เอาเอกสารมาอย่างเดียวหรือครับ"
เขา "ครับ"

... ได้แต่คิดในใจว่าแค่นี้ทำไมถึงไม่ให้ส่งเมล์มา แต่ก็ปล่อยผ่าน (จริงๆไม่ควรปล่อยเล้ย)

วันสัมภาษณ์
เขา "โอเค สัมภาษณ์ผ่านนะครับ ตอนนี้มีน้องคนนึงสนใจที่จะมาเรียนพอดี เดี๋ยวลองทดลองสอนน้องก่อนนะ ว่าสอนได้ไหม"
ผม "ได้ครับ เอ่อ แล้วค่าสอนนี่เรทอยู่ที่เท่าไหร่ครับ"
เขา "พี่เห็นว่าน้องได้เรทค่าสอนค่อนข้างสูง แต่เราคงให้ได้แค่เท่านี้นะ"
ผม "อืม ตกลงครับ"

วันสอน ผ่านไป เรียบร้อยดี เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้คุยเรื่องระเบียบการจ่ายค่าสอน เลยโทรไป
เขา "อ้าว สวัสดี สอนเป็นไงบ้าง"
ผม "เรียบร้อยดีครับ เอ่อ พี่ครับ ผมลืมถามพี่ไปว่า อันนี้พี่จะชำระเงินยังไงครับ"
เขา "อ๋อ สอนไปก่อนละกัน เรื่องเงินแล้วค่อยคุยกัน"
ผม "???"

สุดท้ายผมต้องยื่นข้อเสนอกับเขาว่า ต้องชำระทุกสิ้นเดือน ถ้าไม่งั้นคงไม่สามารถสอนต่อได้ เขาถึงได้ยอม แต่เรื่องยังไม่จบครับ เพราะเขาบอกว่า
การสอนครั้งนี้ เป็นการทดสอบสอน (กับน้องที่มาเรียนจริงและจ่ายเงินค่าคอร์สเขาไปแล้ว)
ดังนั้นไม่สามารถคิดค่าชั่วโมงได้

มาถึงตอนนี้ เครื่องหมายคำถาม มันเยอะไปหมดแล้วครับ แต่ด้วยช่วงที่ไปสมัคร(ซึ่งเป็นช่วงที่ย้ายบ้าน)เป็นช่วงที่อยู่ระหว่างเทอมพอดี แต่ละสถาบันก็มีอาจารย์ประจำอยู่แล้ว ก็เลยได้แต่ปล่อยไป

และแล้ว ไคลแมกซ์ก็มาถึงครับ วันรุ่งขึ้นเขาโทรมา บอกให้ไปสอนอีกคลาสนึง มีคนต้องการมาเรียนโทอิค

เขา "เวลานี้ว่างไหม ตอนนี้มีคนสนใจเรียนโทอิคนะ"
ผม "ครั้งนี้จะถือเป็นชั่วโมงทดสอบอีกไหมครับ"
เขา "ใช่ๆ หลังจากคลาสนี้แล้ว ถ้าเขาโอเคคุณก็.."
ผม "ในกรณีที่เป็นการสอบสอนครั้งที่สอง ผมคิดครึ่งราคาแล้วกันนะครับ"
เขา "เฮ้ย นี่เป็นการสอบสอนนะ คุณจะมาคิดค่าชั่วโมงได้ไง คุณฟังผมอธิบายนะ สถาบันไหนๆก็มีการสอบสอนด้วยกันทั้งนั้น แล้วถ้าเผื่อคุณไม่ยินดี แล้วผมจะรู้ได้ไงว่าคุณสอนได้หรือไม่ได้"
ผม "จะต้องมีการสอบสอนที่ว่านี้อีกกี่ชั่วโมงครับ"
เขา " (ไม่ตอบ) คุณเข้าใจไหมครับว่า ถ้าผมไม่รู้ว่าคุณสอนดี.."
ผม "ร้องไห้ พี่ครับ ถ้าพี่จะอ้างประเด็นเรื่องสอบสอนเพื่อให้อาจารย์มาสอนฟรีไปเรื่อยๆ วันนี้ประถม วันนี้มัธยม วันนี้โทอิค วันนี้ไอเอลท์ วันนี้สมาร์ทวันแล้วพี่ก็เก็บค่าคอร์สไปเรื่อยๆ ผมบอกเลยว่าคงไม่มีอาจารย์คนไหนที่เขารับเคสนี้ได้หรอกครับ และสิ่งที่พี่บอกว่าสอบสอนน่ะครับ มันไม่ใช่นะครับ อันนี้คือคุณจะให้ผมมาสอนฟรีแล้ว"

หลังจากนั้น เขาจะรีเพลย์ประเด็นเรื่องการสอนฟรีเป็นสิ่งที่ถูกต้องให้ผมฟังอีกรอบ แต่ผมต้องรีบเบรคเขาก่อน แต่ก็ยังไม่จบ (น่ารำคาญจริงวุ้ย) เขายังจะให้ผมมาสอนน้องคนแรกฟรีต่ออีกครั้งหนึ่งอีก จนผมต้องบอกปัดไปอีกครั้ง เขาถึงได้บอกโอเคแล้วค่อยวางหูไป

แต่หลังจากนั้นยังให้ธุรการที่สถาบันโทรมาอีกนะครับ ว่าจะมาสอนเวลากี่โมง
ผมงี้อึ้งไปเลย ว่าจะมีคนที่ด้านได้ขนาดนี้อยู่ด้วย

พอยนท์นะครับ

เฮ่อ ก็ได้แต่บอกให้ระวังตัวนะครับ ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้การเจรจากันทางโทรศัพท์จะต้องถึงขั้นที่ต้องอัดเสียงไว้แล้วหรือยัง แต่ที่แน่ๆ ถ้าใครสนใจงานอะไรโดยเฉพาะงานสอนพิเศษนะครับ
๑.กะอีแค่เอกสาร ส่งเมลไปก็พอครับ ถ้าไม่เอา จบ
๒.คุยกันทางโทรศัพท์ ถามให้สิ้นกระบวนความเลยครับ ถ้าไม่สามารถได้ข้อมูงเรื่องเรท การจ่ายเงิน ให้จบในขั้นโทรศัพท์ได้ ก็พอเหมือนกันครับ ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆก็ตาม
อนึ่ง โดยมากแล้ว เจ้าของมักจะอ้างประมาณว่า ขึ้นอยู่กับการสัมภาษณ์ ถามแรนจ์เรทเลยครับ ชัวร์ ต่ำสุดให้เท่าไหร่ สูงสุดให้เท่าไหร่ การสอบสอนทำกับเด็กหรือกับอาจารย์กี่ครั้ง (หลอนจริงๆ)

จบครับ

อ้อ ผมไม่ชัวร์ว่าเบอร์เขาเบอร์อะไรนะครับ แต่เขาเป็นผู้ชาย และมีสาขาทั้งหมด ๔ สาขา
บิ๊กซ๊นวมินทร์ ลาดพร้าว(ยังไม่เปิด) และอีกสองสาขาที่ผมไม่รู้จัก ถ้าใครโดนเรียกไปที่บิ๊กซ๊นวมินทร์ก็ระวังไว้นิดนึงนะครับ

ป.ล. ลูกจ้างร้านอาหารหายาก แต่ดูท่าทางอาจารย์สอนพิเศษจะล้นนะครับ เลยทำกันแบบนี้ซะแล้ว ๕๕๕

not my id
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่